ทำไมต้องระวังทั้งตาแห้งและต้อเนื้อ สองปัญหาที่เชื่อมโยงกัน
6 ต.ค. 68 13:46 น. /
ดู 1,275 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
ตาแห้ง ถือเป็น ปัจจัยเสี่ยง ที่ส่งเสริมให้เกิด ต้อเนื้อ ได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อดวงตาขาดน้ำตามาหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ พื้นผิวตาจะเกิดการอักเสบและระคายเคืองอย่างต่อเนื่อง ความไม่สมบูรณ์ของชั้นน้ำตาทำให้ดวงตาอ่อนแอต่อปัจจัยภายนอก เช่น ลมและแสงแดด ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เยื่อบุตาเสื่อมสภาพและเกิดการงอกของต้อเนื้อในที่สุด
ตาแห้ง (Dry Eye Syndrome) คือภาวะที่ปริมาณหรือคุณภาพของน้ำตาที่หล่อเลี้ยงดวงตามีไม่เพียงพอ ทำให้ผิวดวงตาขาดความชุ่มชื้นและเกิดการอักเสบ
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของตาแห้ง
การจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน: เมื่อคุณจ้องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ จะ กะพริบตาน้อยลง (จากปกติ 20-22 ครั้ง/นาที เหลือเพียง 8-10 ครั้ง/นาที) ทำให้น้ำตาระเหยเร็ว
สิ่งแวดล้อม: ลมแรง ฝุ่นควัน มลภาวะ และความแห้งจากเครื่องปรับอากาศ
อายุที่มากขึ้น: โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน การผลิตน้ำตาจะลดลง
การใช้ยาบางชนิด: เช่น ยาแก้แพ้ หรือยาต้านซึมเศร้า

ต้อเนื้อ (Pterygium) คือเนื้อเยื่อที่งอกมาจากเยื่อบุตาขาว และลุกลามเข้าไปในบริเวณกระจกตา (ตาดำ) โดยมักมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมสีแดงอมชมพู หากปล่อยทิ้งไว้ ต้อเนื้อจะขยายใหญ่ขึ้นจนอาจบดบังการมองเห็นได้
สาเหตุหลักของต้อเนื้อ
สาเหตุที่ชัดเจนที่สุดของต้อเนื้อคือ การระคายเคืองเรื้อรังที่เยื่อบุตาขาว โดยมีปัจจัยกระตุ้นหลักคือ:
รังสีอัลตราไวโอเลต (UV): การสัมผัสแสงแดดโดยตรงและสะสมเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกัน
ลม ฝุ่น และควัน: การทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญกับสิ่งระคายเคืองเหล่านี้
ภาวะตาแห้งเรื้อรัง: เมื่อตาขาดความชุ่มชื้น เยื่อบุตาจะถูกกระตุ้นและอักเสบง่ายขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การหนาตัวของเนื้อเยื่อจนกลายเป็นต้อเนื้อได้
วิธีป้องกันและชะลอการลุกลาม
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการลดพฤติกรรมเสี่ยงและดูแลดวงตาให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ
สวมแว่นกันแดด (UV Protection) เสมอ: นี่คือการป้องกัน ต้อเนื้อ ที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง เพื่อลดการสัมผัสรังสี UV โดยตรง
ใช้น้ำตาเทียมเป็นประจำ: หากมีอาการ ตาแห้ง ควรใช้น้ำตาเทียมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และชะลอการลุกลามของต้อเนื้อ
พักสายตาและเพิ่มการกะพริบตา: ใช้กฎ 20-20-20 (พักสายตาทุก 20 นาที มองไกล 20 ฟุต นาน 20 วินาที) เมื่อต้องจ้องจอเป็นเวลานาน
หลีกเลี่ยงสิ่งระคายเคือง: ใส่แว่นป้องกันตาเมื่อต้องเผชิญกับฝุ่น ควัน หรือลมแรง
ข้อควรจำ: ต้อเนื้อ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาหยอดตา การใช้ยาทำได้เพียงลดอาการอักเสบเท่านั้น หากต้อเนื้อลุกลามเข้าตาดำจนส่งผลต่อการมองเห็น จักษุแพทย์จะแนะนำให้ทำการ ผ่าตัดลอกต้อเนื้อ ออก
หากมีอาการระคายเคืองตาเรื้อรัง หรือสังเกตเห็นเนื้อเยื่อสีชมพูยื่นเข้าไปในตาดำ ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม ก่อนที่ต้อเนื้อจะลุกลามจนส่งผลกระทบต่อสายตาอย่างถาวร
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของตาแห้ง
การจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน: เมื่อคุณจ้องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ จะ กะพริบตาน้อยลง (จากปกติ 20-22 ครั้ง/นาที เหลือเพียง 8-10 ครั้ง/นาที) ทำให้น้ำตาระเหยเร็ว
สิ่งแวดล้อม: ลมแรง ฝุ่นควัน มลภาวะ และความแห้งจากเครื่องปรับอากาศ
อายุที่มากขึ้น: โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน การผลิตน้ำตาจะลดลง
การใช้ยาบางชนิด: เช่น ยาแก้แพ้ หรือยาต้านซึมเศร้า

ต้อเนื้อ (Pterygium) คือเนื้อเยื่อที่งอกมาจากเยื่อบุตาขาว และลุกลามเข้าไปในบริเวณกระจกตา (ตาดำ) โดยมักมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมสีแดงอมชมพู หากปล่อยทิ้งไว้ ต้อเนื้อจะขยายใหญ่ขึ้นจนอาจบดบังการมองเห็นได้
สาเหตุหลักของต้อเนื้อ
สาเหตุที่ชัดเจนที่สุดของต้อเนื้อคือ การระคายเคืองเรื้อรังที่เยื่อบุตาขาว โดยมีปัจจัยกระตุ้นหลักคือ:
รังสีอัลตราไวโอเลต (UV): การสัมผัสแสงแดดโดยตรงและสะสมเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกัน
ลม ฝุ่น และควัน: การทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญกับสิ่งระคายเคืองเหล่านี้
ภาวะตาแห้งเรื้อรัง: เมื่อตาขาดความชุ่มชื้น เยื่อบุตาจะถูกกระตุ้นและอักเสบง่ายขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การหนาตัวของเนื้อเยื่อจนกลายเป็นต้อเนื้อได้
วิธีป้องกันและชะลอการลุกลาม
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการลดพฤติกรรมเสี่ยงและดูแลดวงตาให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ
สวมแว่นกันแดด (UV Protection) เสมอ: นี่คือการป้องกัน ต้อเนื้อ ที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง เพื่อลดการสัมผัสรังสี UV โดยตรง
ใช้น้ำตาเทียมเป็นประจำ: หากมีอาการ ตาแห้ง ควรใช้น้ำตาเทียมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และชะลอการลุกลามของต้อเนื้อ
พักสายตาและเพิ่มการกะพริบตา: ใช้กฎ 20-20-20 (พักสายตาทุก 20 นาที มองไกล 20 ฟุต นาน 20 วินาที) เมื่อต้องจ้องจอเป็นเวลานาน
หลีกเลี่ยงสิ่งระคายเคือง: ใส่แว่นป้องกันตาเมื่อต้องเผชิญกับฝุ่น ควัน หรือลมแรง
ข้อควรจำ: ต้อเนื้อ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาหยอดตา การใช้ยาทำได้เพียงลดอาการอักเสบเท่านั้น หากต้อเนื้อลุกลามเข้าตาดำจนส่งผลต่อการมองเห็น จักษุแพทย์จะแนะนำให้ทำการ ผ่าตัดลอกต้อเนื้อ ออก
หากมีอาการระคายเคืองตาเรื้อรัง หรือสังเกตเห็นเนื้อเยื่อสีชมพูยื่นเข้าไปในตาดำ ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม ก่อนที่ต้อเนื้อจะลุกลามจนส่งผลกระทบต่อสายตาอย่างถาวร
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google

