ละคร คมแฝก

ดู 10,039 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันจันทร์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 30 มิถุนายน 2551
เวลาออกอากาศ 20:30 - 22:30 น.
  
กำกับโดย นนทนันท์ สังข์สวัสดิ์
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ เสนีย์ บุษปะเกศ, บทโทรทัศน์ คฑาหัสต์ บุษปะเกศ
นำแสดงโดย
ณัฐวุฒิ สกิดใจ ... กัลป์ เกรียงไกร
วรนุช วงษ์สวรรค์ ... อัญชัญ ราชสีห์
ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ ... เพลิง กัมปนาท
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ... ตะเภา
อนุชิต สพันธุ์พงษ์ ... องอาจ ชาตินักสู้
ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ ... กระรอก
เคลลี่ ธนะพัฒน์ ... แสน ราชสีห์
ผู้สร้าง บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ คมแฝก

การปรากฏตัวของชายหนุ่มนิรนามร่างกายกำยำ นัยน์ตาซื่อ หน้าดุ ณ เมืองพล ตำบลใหญ่ ใกล้เคียงเมืองขอนแก่น สถานที่ไม่เจริญแต่ไม่เงียบเหงา สร้างความแตกตื่นให้กับ จงอาง หนุ่มน้อยในพื้นที่อย่างมาก เมื่อเขาบังเอิญพบชายหนุ่มผู้นั้นนั่งร่ำไห้อยู่หน้าหลุมศพ พ่อก้อน ผู้เป็นบิดา หลังจากที่เขาคนนั้นหายสาบสูญไปนานนับ 10 ปี!

จงอางรีบกลับไปเล่าสิ่งที่ตนเห็นให้ พ่อปาน แม่แจ้ บุพการีผู้เป็นเจ้าของ "ร้านค้าเมืองพลการค้า" ที่เปิดขายเหล้า กาแฟ ข้าวแกง รวมทั้งของเบ็ดเตล็ดต่างๆ ฟัง แต่ยังไม่ทันที่จงอางจะพูดพร่ำทำเพลง ชายหนุ่มผู้นั้นก็ปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางความพิศวงของทุกคน

เขาเรียกสั่งน้ำหวาน และถามหาแม่ของตน นักเลง โขน และ สิงห์โต ลูกค้าในร้านได้ยินแล้วขำกลิ้ง เพราะคิดว่าเขาเป็นลูกแหง่พลัดถิ่นมาตามหาแม่ ทั้งสองวางกล้ามอวดเบ่งอิทธิพลเต็มที่ แต่ชายหนุ่มผู้นั้นก็มิได้ตอบโต้ เขาเพียงแค่ปลีกตัวออกจากร้านไปอย่างเศร้าซึม

แท้จริงแล้ว ชายนิรนามผู้นี้คือ กัลป์ เกรียงไกร อดีตนายสิบตำรวจเอกที่ถูกจำคุกข้อหาฆ่าคนตาย บัดนี้เขาได้รับอิสรภาพจึงเดินทางกลับสู่บ้านเกิด แต่สิ่งที่เขาต้องพบเจอสร้างความผิดหวังเสียใจแก่เขาอย่างมาก เมื่อพบว่าครอบครัวของเขาแตกกระเซ็นสาย พ่อของเขาถูกยิงตาย แม่ เมีย และน้องสาวหายตัวไปอย่างลึกลับ ส่วนบ้านของเขาก็ถูกยึดและแปรเปลี่ยนเป็น "โรงปอราชสีห์" ซึ่งเขาถูกคนงานจากโรงปอนั้นขับไล่อย่างไม่ใยดี

กัลป์หมดอาลัยตายอยากในชีวิต แต่เมื่อเขาได้พูดคุยกับ ตะเภา ลูกสาวคนสวยของพ่อปาน แม่แจ้ ที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรแท้คนเดียวของเขาในยามนี้ ความเศร้าของเขากลับกลายเป็นความแค้นขึ้นมาทันทีเมื่อได้รู้ว่าเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเขา เกิดจากน้ำมือของ แสน ราชสีห์ อดีตเพื่อนรักของเขานั่นเอง

ดังนั้น เมื่อกัลป์ถูก โขน และสิงห์โต ลูกน้องของ แสน ตามราวีอีกครั้ง เพราะต้องการรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นใคร กัลป์จึงใช้ "คมแฝก" อาวุธคู่กายเล่นงานทั้งคู่เสียน่วม ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อ แสน ราชสีห์ เจ้าพ่อแห่งเมืองพลรู้ข่าวบุคคลลึกลับผู้วาดลวดลายคมแฝกเหนือชั้นนี้ เขารู้ทันทีว่าเพื่อนรักที่เขารอคอยมานานแสนนาน บัดนี้ได้กลับมาแล้ว ถึงเวลาที่เขาจะคิดบัญชีความแค้นกับกัลป์เสียที

แสนสั่งลูกน้องให้กระจายกำลังออกค้นหาตัวกัลป์ทั่วเมืองพล ไม่ว่าจะเป็นร้านพ่อปาน วัดเก่าเมืองพล รวมถึงบ้าน ตะโพน สัปเหร่อแก่ประจำวัดที่ไม่มีใครอยากย่างกรายเข้าไป แต่คนของแสนก็ต้องคว้าน้ำเหลว ไม่มีผู้ใดหาตัวกัลป์พบ

เมื่อจับตัวกัลป์มาแก้แค้นให้สมอยากไม่ได้ แสนจึงหันไปทรมาน ดอกไม้ อดีตเมียรักของกัลป์ที่เขาฉุดคร่ามาบำเรอความใคร่แทน ดอกไม้จวนเจียนจะถูกแสนย่ำยีอย่างทารุณ แต่แล้วกัลป์ก็ปรากฏตัวขึ้นช่วยเธอไว้ได้ทัน โดยที่แสนไม่กล้าใช้อาวุธปืนต่อสู้คมแฝกของกัลป์แม้แต่น้อย

แทนที่เขาจะใช้คมแฝกฆ่าแสนให้ตาย กัลป์เลือกที่จะใช้กฎหมายลากตัวแสนเข้าตะรางให้จบสิ้นความแค้น เขารู้ดีว่าแสนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตายของนายทองหลางที่ทำให้เขาต้องติดคุก ดังนั้นกัลป์จึงบังคับให้แสนเขียนจดหมายสารภาพความจริงทั้งหมดว่าเป็นผู้จัดฉากเรื่องราวทั้งหมด แสนได้ทีจึงยั่วว่าจะสารภาพแถมให้ด้วยว่าเป็นผู้ฉุดคร่าดอกไม้ไปข่มขืน คำพูดนี้ทำให้กัลป์โกรธจัด แสนอาศัยจังหวะนี้เข้าเล่นงานกัลป์จนเสียหลัก เขาถูกแสนทำร้ายได้รับบาดเจ็บแต่ก็สามารถกระโดดหน้าต่างหนีตายไปได้

แสนสั่งการให้ลูกน้องทั้งหมดพลิกแผ่นดินหาตัวกัลป์ เหล่าคนงานออกค้นหาตัวกัลป์เกือบทุกตารางนิ้วของที่ดินแสง เว้นไว้เพียงแต่เรือนหลังงามชั้นครึ่งที่เป็นที่อยู่ของ อัญชัญ น้องสาวต่างมารดาของเจ้าพ่อเมืองพลที่มีดีกรีเป็นถึงนักเรียนนอกจากออสเตรเลีย เธอประกอบอาชีพสุจริต ไม่เกี่ยวข้องกับการค้าของเถื่อนของแสนแต่ประการใด

อัญชัญสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดังโหวกเหวก แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจมากขึ้นที่จู่ๆ ชายร่างกายบอบช้ำนายหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในห้องนอนของเธอ เมื่อทั้งสองเห็นหน้ากันถนัด อัญชัญจำได้ทันทีว่าเขาคือกัลป์ อดีตคนรักเก่าที่หนีเธอไปแต่งงานกับดอกไม้ ความเสียใจ เจ็บแค้น และอับอายคุกรุ่นอยู่ในอกของหญิงสาว แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังให้ความช่วยเหลือกัลป์อย่างเพื่อนคนหนึ่ง

อัญชัญออกอุบายร้องให้แสนมาจับตัวกัลป์ไป เพราะเธอรู้ดีว่าไม่มีทางที่กัลป์จะหนีรอดออกไปได้ง่ายๆ เขาถูกแสนเฆี่ยนด้วยหวายจนเนื้อแตกยับ นางมาลัย กระรอก ผู้เป็นแม่และน้องสาวของเขาที่แสนนำมาเลี้ยงดูไว้ ต่างพากันวิงวอนขอให้แสนไว้ชีวิตกัลป์ แต่ก็ไม่เป็นผล

อัญชัญทนเห็นแสนเล่นงานกัลป์ คนที่ไม่มีทางสู้ไม่ไหว เธอขอร้องให้พี่ชายนำกัลป์ไปจัดการให้ไกลตา แสนจึงนำตัวเขาไปที่โรงปอโดยหมายจะเผาให้เขาตายทั้งเป็น แต่แล้วแผนการอันแสนจะเหี้ยมโหดของแสนก็ถูกขัดจังหวะขึ้นโดย ร้อยตำรวจโทเพชร ไพบูลย์ หรือ รองเพชร นายตำรวจใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำการมาขอพบ แสนจำต้องออกไปต้อนรับ อัญชัญอาศัยช่วงเวลานี้แอบปล่อยตัวกัลป์ให้หนีรอดไปได้

แสนโกรธจัดเมื่อรู้ข่าวนี้ เขาระดมกำลังคนออกตามหาตัวกัลป์อีกครั้ง แต่ก็คว้าน้ำเหลว ซึ่งแท้จริงแล้วกัลป์ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในโลงผีที่บ้านตะโพน สัปเหร่อนั่นเอง

วันเวลาผ่านไป อาการบาดเจ็บของกัลป์ดีขึ้นมากจนเกือบจะหายดี ตะเภามาเยี่ยมเยียนเขาที่บ้านตะโพน พลางเล่าให้ฟังถึงชายหนุ่มต่างถิ่นที่มีเรื่องกับ ไอ้เข้ม ไอ้ขวาน ลูกน้องของแสนว่าเป็นคนจริงใจกล้า กัลป์เกิดความรู้สึกสนใจตัวบุรุษนิรนามผู้นั้นทันที แต่ยังไม่ทันที่เขาจะซักไซร้รายละเอียดชายผู้นั้น กัลป์ก็จำต้องให้ตะเภารีบกลับไปเพราะอัญชัญมาเลี้ยงเพลที่วัด เขาเกรงว่าลูกน้องของแสนจะเห็นตะเภา และรู้ว่าเขาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่

แท้จริงแล้วชายหนุ่มนิรนามที่ตะเภาพูดถึง ชื่อว่า เพลิง กัมปนาท เขาถูกฝากฝังจากอาจารย์ทวีศักดิ์ที่อัญชัญนับถือให้มาทำงานในไร่แสงดาว อัญชัญให้เขาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าคนงานแทนเข้ม เธอให้เขาไปนอนในที่พักเดียวกับคนงานของแสน ซึ่งแน่นอนว่านิสัยไม่ได้เลวผิดแผกจากเจ้านายเท่าไรนัก

เพลิงถูกรับน้องใหม่จากพวกคนงานเหล่านั้นที่รุมเข้ามาอย่างหมาหมู่ เพลิงสู้สุดใจไม่มีถอยจนแสนลงมาจัดการด้วยตนเอง อัญชัญเป็นคนห้ามทัพระหว่างคนทั้งสอง แสนเห็นว่าเพลิงเป็นคนกล้าจึงเชิญไปพบเป็นการส่วนตัวที่บ้าน ซึ่งเพลิงก็สัญญาว่าจะไปพบเขาโดยไม่ฟังคำทัดทานของอัญชัญแม้แต่น้อย เพลิงออกจากไร่แสงดาวไปสงบจิตสงบใจที่ร้านเมืองพลการค้า

อัญชัญนึกห่วงเพลิงเป็นอย่างมาก เพราะรู้ดีว่าพี่ชายตนจะลวงเพลิงไปฆ่า ซึ่งระหว่างนี้เองกัลป์ผู้ซึ่งรักษาตัวจนแข็งแรงเป็นปกติแล้วได้ลอบเข้ามาหาอัญชัญ เธอตกใจมากคิดว่าเขาจะมาย่ำยีทำลายเธอแทนพี่ชาย กัลป์ปฏิเสธและสารภาพว่ายังรักอัญชัญอยู่ ที่เคยทิ้งเธอไปเพราะหน้าที่ขัดกับหัวใจ เขาเป็นตำรวจไม่สามารถเป็นพวกเดียวกับคนที่ค้าของเถื่อนขายชาติได้

อัญชัญฟังแล้วใจละลายเพราะตนเองก็ยังรักเขาอยู่มาก กัลป์ขอให้เธอเป็นฝ่ายเดียวกับเขาที่จะผดุงความดี เรียกร้องเอาสิทธิความชอบธรรมกลับคืนสู่เมืองพล หญิงสาวเริ่มจะคล้อยตาม

กัลป์ออกจากไร่อัญชัญตามเพลิงมาที่ร้านเมืองพลการค้าอย่างเปิดเผย เขาไม่ขอเป็นผู้ถูกตามล่าอีกต่อไป ซึ่งเขาได้พบกับเพลิง กัมปนาทที่เมื่อได้เห็นหน้าแล้วรู้สึกถูกคอขึ้นมาอย่างประหลาด แต่ยังไม่ทันที่คนทั้งคู่จะคุยกันก็มีรถขายยาโฆษณาฉายหนังกลางแปลงขับเข้ามาจอดหน้าร้านเสียก่อน

คนขับรถผอมเกร็ง แต่ทะมัดทะแมงเข้ามาแนะนำตัวกับพ่อปานเจ้าของร้านว่าชื่อ องอาจ ชาตินักสู้ เป็นคนเร่ขายยาที่อยากมาฉายหนังที่เมืองพล เขาขอยืมเงินพ่อปาน และขอเช่าห้องนอนค้างระหว่างที่อยู่ในเมืองพลนี้ ซึ่งยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะตกลงอะไรกัน เสือ ใจสิงห์ ลูกน้องของแสนที่รู้ข่าวว่ากัลป์อยู่ที่นี้ก็พาพวกมาเล่นงาน กัลป์สู้ไม่ถอย ซึ่งเพลิงและองอาจกระโดดเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย เพราะทนเห็นกัลป์ถูกรุมเล่นงานไม่ได้

เหตุการณ์ต่อสู้เป็นไปอย่างชุลมุน รองเพชรเข้ามาควบคุมสถานการณ์ เขาจับกุมตัวเสือ และพรรคพวกไปขังที่โรงพักโทษฐานที่หาเรื่องระรานกัลป์ เพลิง และองอาจก่อน

ตะเภาที่ลอบดูเหตุการณ์ทั้งหมดชื่นชมในความเก่งกล้าของเพลิง สาวน้อยวิงวอนให้เพลิงเป็นผัวตนเพื่อที่จะไม่ต้องเป็นเมียเก็บของแสน เพลิงอึ้งไปพักใหญ่แต่ยังไม่ทันที่จะตอบตกลง กัลป์ก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน เขาเข้ามาขอหลบหน้ากระรอกน้องสาวที่กำลังตรงมาที่ร้านนี้

กระรอกมาซื้อยาให้แม่ องอาจประทับใจในตัวกระรอกตั้งแต่แรกพบ เขาจัดยาของตนให้กระรอกไปรักษาแม่ กระรอกส่งข่าวว่าห้องตะเภาที่แสนจะรับไปเป็นเมียตกแต่งใกล้เสร็จแล้ว นอกจากนี้กระรอกยังแอบเล่าถึงเหตุการณ์เลวของแสนที่เธอรู้มาว่าแสนคิดจะขนอาวุธเถื่อนมาทางศรีเชียงใหม่ ทางหนองสองห้องเข้ามาทางป่าอุดร เพื่อจะครอบครองอีสานให้ได้ภายในปีนี้ ทุกคนฟังแล้วต่างร้อนใจ เพราะแสนทำเหมือนผู้อยู่เหนือกฎหมายขึ้นไปทุกวัน

ชาวบ้านต่างภาวนาให้ผู้กองคนใหม่ และนายอำเภอที่ทางการจะส่งมาสามารถปราบปรามอิทธิพลมืดของแสนได้

คืนนั้น องอาจไปฉายหนังกลางแปลงที่หน้าบ้านแสน แสนอนุญาตให้คนงานออกไปดูหนังได้โดยเหลือลูกน้องเพียง 2 คน ไว้คอยจัดการกับเพลิง กัลป์เตือนเพลิงให้ระวังตัวพร้อมให้คมแฝกเป็นอาวุธ

เพลิงตัดสินใจเข้าไปพบแสนเมื่อหนังเริ่มฉาย องอาจอาศัยจังหวะนี้ลอบตามเพลิงเข้าไปด้วย ทั้งสองหารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของรองเพชรตลอดเวลา

องอาจแอบเข้าไปสำรวจโรงเก็บปอของแสน แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าโรงปอนี้แท้จริงแล้วเป็นคลังแสงขนาดย่อม มีลังกระสุนปืน ปืนสั้น ปืนยาวมากพอที่จะปล้นได้ทั้งเมือง และเมื่อเขาลอบเข้าสู่เรือนหลังใหญ่ ก็ได้พบกับกระรอก ทั้งสองจำกันได้ เขาขอให้กระรอกไว้ใจเขา เพราะเป็นเพื่อนของกัลป์และเขาก็ตกหลุมรักเธอเสียแล้ว แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะพูดคุยอะไรกัน เสียงสัญญาณเตือนเรื่องการฉายหนังขององอาจดังขึ้นเสียก่อนทำให้เขาต้องรีบกลับไปที่รถขายยาอย่างเร่งด่วน

ส่วนเพลิงนั้น เขาเข้าไปพบแสนตามที่ตกลงไว้ทั้งๆ ที่รู้ว่าแสนคิดไม่ซื่อ เขาชิงเล่นงานลูกน้องของแสนเสียก่อนจะถูกเล่นงาน และสามารถหลบหนีออกไปได้อย่างหวุดหวิด

ทั้งกัลป์ เพลิง และองอาจกลับมารวมตัวกันที่ร้านเมืองพลการค้า โดยที่เพลิงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย องอาจเล่าถึงเรื่องพบอาวุธเถื่อนในโรงปอของแสน ซึ่งขณะนี้รองเพชรได้พาลูกน้องไปค้นโรงปอของแสนแล้ว

แสนเต็มใจเปิดโรงปอให้รองเพชรค้นแต่โดยดี เพราะเขาไหวตัวทันสั่งลูกน้องขนย้ายอาวุธไปที่โรงปอราชสีห์บ้านเก่าของกัลป์ ดังนั้นรองเพชรจึงคว้าน้ำเหลวและเมื่อเขากลับไปโรงพักก็ต้องตกตะลึง เมื่อได้รู้ว่าพวกลูกน้องแสนที่เป็นคนร้ายแหกคุกไปได้ และตำรวจทั้งหมดถูกฆ่าตาย

รองเพชรโกรธมาก เขาตัดสินใจได้ว่าเมื่อกฎหมายใช้กับแสนไม่ได้ผล ต่อจากนี้ไปเขาจะใช้วิธีโจรเล่นงานแสนแทน

ส่วนกัลป์ เมื่อได้รู้ข่าวนี้ก็โกรธเป็นไฟ เขาต้องการให้บทเรียนกับแสนว่าไม่มีทางชนะตำรวจไปได้ เขารู้ทันทีว่าแสนขนย้ายอาวุธไปเก็บไว้ที่ใด ดังนั้นกัลป์จึงบุกเดี่ยวไปยังโรงปอราชสีห์ และใช้ระเบิดมือเป็นชนวนระเบิดคลังแสงนั้นเสียเป็นจุล

รองเพชรมาตรวจที่เกิดเหตุและจะเข้าจับกุมตัวแสน แต่เขาก็ต้องผิดหวังเมื่อแสนได้ให้สินบน ไอ้ชิด ให้เป็นผู้รับผิดเรื่องวางเพลิงและเรื่องอาวุธของกลางทั้งหมด ตำรวจจำต้องจับตัวชิดไปด้วยความจนใจ

ความพินาศที่เกิดขึ้นกับแสนในครั้งนี้ทำให้เขาโกรธมาก แสนเชื่อว่าเป็นฝีมือของกัลป์แน่นอน จึงสั่งคนไปปลิดชีวิตกัลป์

อัญชัญรับรู้แผนการแก้แค้นครั้งนี้ของพี่ชาย เธอจึงรีบไปเตือนกัลป์ และถ่วงเวลาเขาให้อยู่กับเธอ เมื่อคนรักเก่าใกล้ชิดกัน บรรยากาศเป็นใจและหัวใจรักเรียกร้อง ทั้งสองจึงตกเป็นของกันและกันอย่างเต็มใจ กัลป์สัญญากับหญิงสาวว่าจะปกป้องดูแลเธอไม่ให้แสนทำอะไรอัญชัญได้ และเขาก็สามารถจัดการกับคนที่แสนส่งมาได้อย่างราบคาบ

เมื่อแสนทำอะไรกัลป์ไม่ได้ จึงคิดที่จะย่ำยีทำลายกระรอกน้องสาวสุดที่รักของกัลป์ให้หายแค้น ซึ่งอัญชัญก็สามารถช่วยกระรอกให้รอดพ้นเงื้อมมือของแสนไปได้ เธอบอกความจริงแก่มาลัยและกระรอกว่าเธอเป็นพวกกัลป์และขอร้องให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

เมื่ออัญชัญสมัครใจเป็นพวกของกัลป์แล้ว เธอจึงแอบสืบแผนการชั่วร้ายของแสนแล้วก็ต้องตกใจเมื่อรับรู้ว่าแสนเรียกประชุมลูกน้องให้ปล้น วางเพลิง และไปรับอาวุธจากศรีเชียงใหม่มาก่อจราจลหวังครอบครองดินแดนอีสาน เธอรีบสั่งให้กระรอกไปแจ้งข่าวกับกัลป์และพรรคพวกทันที

รุ่งเช้า แสนเริ่มปฏิบัติการโจร ข่มขู่ รีดเก็บภาษีกับชาวบ้านร้านรวงต่างๆ และเผาปั้มน้ำมัน ซึ่งตำรวจที่รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วได้ซ้อนแผน จัดการเก็บลูกน้องของแสนอย่างไม่ใยดี เพราะถือว่าถ้าเจ้าพ่อเมืองพลทำอะไรเหมือนกับว่าเมืองพลไม่มีกฎหมาย ไม่มีตำรวจ ฝ่ายตำรวจก็จะทำเป็นว่าไม่ใช่กฎหมาย ไม่ใช่ตำรวจเช่นกัน

ส่วนฝ่ายกัลป์ เพลิง องอาจ อาสาจัดการกับการขนส่งอาวุธเถื่อน ทั้งสามพากำลังไปซุ่มดักโจมตีอยู่ที่ดงชมพูด้วยอาวุธครบมือ กัลป์แคลงใจองอาจเล็กน้อยที่เขามีอาวุธต่อสู้มากมาย เขาคิดว่าองอาจอาจเป็นพวกค้าอาวุธกับแสนแล้วขัดผลประโยชน์กันเองที่จะทรยศเขาภายหลัง แต่องอาจยืนยันว่าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และจะพิสูจน์ให้กัลป์เห็นเอง

เมื่อกลุ่มขนย้ายอาวุธเคลื่อนเข้ามา ทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะกัน การซุ่มโจมตีอย่างรวดเร็วของฝ่ายกัลป์ ทำให้ฝ่ายแสนแพ้ไปอย่างราบคาบ แสนรับฟังความจริงนี้อย่างปวดใจจากปากสิงห์โตลูกน้องคนเดียวที่รอดมาได้ เขารู้ทันทีว่าต้องมีคนทรยศหักหลังเป็นไส้ศึกอย่างแน่นอน

ลูกน้องแสนจับตัว ผาด หนึ่งในพลพรรคของกัลป์มาได้ ผาดสารภาพสิ้นว่าเพลิง และองอาจมีส่วนร่วมในการกระทำครั้งนี้ด้วย แสนจึงสั่งลูกน้องให้จับตัวกระรอกน้องรักกัลป์ และตะเภาคนรักเพลิงมาทันที

แสนคาดคั้นความจริงจากเด็กสาวทั้งสอง แต่ไม่มีใครยอมบอกอะไรกับแสนทั้งสิ้น แสนขู่ว่าจะให้คนงานรุมโทรม ดอกไม้เข้ามาปกป้องก็ถูกทำร้าย นางมาลัยเข้าช่วยลูกจนตัวตาย อัญชัญทนเห็นการกระทำที่ป่าเถื่อนนี้ไม่ไหว จึงยอมรับกับแสนว่าตัวเป็นไส้ศึก และที่ทำไปเพราะทนเห็นพี่ขายชาติ และทำลายแผ่นดินไทยไม่ได้

แสนเสียใจมากที่ถูกคนที่เขารักที่สุดหักหลัง และต้องการแก้แค้นกัลป์ เพลิง และองอาจที่ทำแผนการเขาป่นปี้ จึงจับอัญชัญ ตะเภา และกระรอกไปเป็นตัวประกันต่อรอง แสนพาทั้งหมดหนีการจับกุมไปอยู่ที่ห้วยน้ำตื้นเขิน

ไอ้โดดที่หนีรอดมาได้รีบไปรายงานกัลป์เรื่องหญิงสาวทั้งสามที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเรื่องที่นางมาลัยถูกแสนฆ่าตายอย่างทารุณ กัลป์โกรธจัด เขาบุกเดี่ยวเข้าไปชิงศพแม่ ทำลายบ้านแสนเสียวอดวายและช่วยดอกไม้ออกมาได้

กัลป์ต้องการจะฆ่าแสนให้หายแค้น ทุกคนพยายามขอร้องให้เขาใจเย็นเพราะเกรงว่าแสนจะทำร้ายตะเภา กระรอก และอัญชัญ แต่กัลป์ยังดื้อดึง เขาจึงถูกต่อยสลบและพาไปขังตะรางเพื่อสงบจิตสงบใจ

ทุกคนช่วยกันวางแผนชิงตัวคนรักกลับคืน แล้วแสนก็ปรากฏตัวขึ้นในคืนนั้นเพื่อจัดการกับกัลป์ เพลิง และองอาจให้หายแค้น ตำรวจระดมกำลังมาล้อมแสนไว้ แต่แสนขู่ถึงตัวประกันทั้งสามว่า ถ้าเขาเป็นอะไรไป หรือไม่กลับไปภายในครึ่งชั่วโมง ลูกน้องของเขาจะฆ่าตัวประกันทิ้งเสีย จึงไม่มีใครกล้าทำอะไร

แสนเล็งปืนไปที่กัลป์หมายสังหาร แต่ดอกไม้ถลามาบังกระสุนไว้จึงตายแทนกัลป์ ทุกคนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง พ่อปานทนดูไม่ไหว คว้าคมแฝกส่งให้กัลป์เข้าเล่นงานแสนจนปางตาย แต่เขาจำต้องปล่อยแสนกลับไปเพื่อช่วยชีวิตตัวประกันไว้

แสนยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามหนุ่มไปหาเขาที่ห้วยน้ำตื้นเขินตอนรุ่งเช้าเพื่อแลกกับชีวิตหญิงคนรักโดยห้ามพกอาวุธหรือคิดตุกติกทั้งสิ้น ซึ่งกัลป์ เพลิง และองอาจตกลงใจที่จะทำตามข้อเสนอของแสนทุกอย่าง

พิธีรดน้ำศพของดอกไม้ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ที่ที่ว่าการอำเภอ ชาวเมืองพลทุกคนโศกเศร้ากับการจากไปของเธอ รองเพชรประกาศว่าวันนี้นายอำเภอ และผู้กองเมืองพลจะให้เกียรติมารดน้ำศพแก่ดอกไม้ด้วย ชาวเมืองรอคอยกันอย่างใจจดจ่อ แล้วทุกคนก็ได้รู้ความจริงว่าองอาจ ชาตินักสู้ คือ นายอำเภอของเมืองพล ส่วนเพลิง กัมปนาทคือผู้กองนั่นเอง

วันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มทั้งสามเดินทางไปหาแสนที่ห้วยน้ำตื้นเขินตรงเวลานัดหมาย แสนบอกแผนการสุดท้ายของตนที่จะทำการยึดบ้านสีดา พุ่งเข้าโคราช ขอนแก่น โดยจะมีกลุ่มชนต่างชาติให้การสนับสนุน แสนวาดหวังว่าตนจะกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่ตอนนี้เขาขาดแคลนเสบียงอาหาร ลูกน้องกำลังหิวโหย แสนบังคับให้เพลิงเขียนจดหมายลงไปสั่งการรองเพชรให้นำเสบียงพร้อมโลงศพ 3 โลงขึ้นมา โดยใช้หญิงสาวตัวประกันเป็นข้อต่อรองตามเคย

เพลิงจำใจเขียนจดหมายสั่งการลงไป ระหว่างรอเสบียง แสนให้ชายหนุ่มทั้งสามฆ่าเวลาโดยการขุดหลุมเพื่อฝังศพตัวเอง ซึ่งทั้งสามคนก็ตั้งใจขุดกันอย่างขยันขันแข็งท่ามกลางความโศกเศร้าของหญิงสาวทั้งสาม

เวลาผ่านไป เกวียนลากสิ่งของที่แสนต้องการก็มาถึง โดยมีตะโพนสัปเหร่อนั่งคุมโลงศพมาด้วย และด้วยความเร็วที่นายแสนก็ตั้งตัวไม่ติด ปลัดปราบปรามดีดตัวลอยออกมาจากโลงศพอย่างรวดเร็ว เขาส่งระเบิดมือให้องอาจเป็นอาวุธ ชายหนุ่มทั้งสามยึดหลุมที่ขุดไว้เป็นเกราะป้องกันตัว ฝ่ายแสนและตำรวจต่อสู้กันพักใหญ่ และในที่สุดแสนก็พ่ายแพ้หนีไป โดยมีกัลป์ที่ถือคมแฝกคู่ใจตามติดประชิดไป

อัญชัญ ตะเภา กระรอก ได้รับการช่วยเหลือเป็นอิสระ เพลิงสั่งการให้รองเพชรเคลียร์พื้นที่ รวมทั้งติดต่อหน่วยปราบปรามพิเศษเพื่อสกัดกั้นแผนการชั่วร้ายที่แสนบอก ก่อนจะตามไปช่วยเหลือกัลป์

กัลป์ตามติดไปเล่นงานแสนที่หนีกระเซอะกระเซิงไปที่คลังแสงเถื่อนท้ายไร่อัญชัญ ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด ข้าวของแตกหัก ถุงดินปืนหกเกลื่อนกลาด แต่ในที่สุดกัลป์ก็พลาดท่าเสียทีถูกแสนเล่นงานปางตาย แสนจุดบุหรี่สูบ มองผลงานของตัวเองที่สามารถจัดการกัลป์อย่างสบายใจ

แต่แล้วองอาจก็พากำลังที่เหลือตามมาช่วยกัลป์ เขาขู่จะระเบิดคลังแสงนี้ถ้าแสนไม่ยอมปล่อยกัลป์ แสนหงุดหงิด จับกัลป์ยัดใส่ถังน้ำมันกลิ้งออกไป พลางจุดไดนาไมต์จะเขวี้ยงตามออกไปหมายจัดการคนกลุ่มนี้ให้สิ้นซาก แต่ด้วยความลืมตัว แสนเผลอขว้างบุหรี่ม้วนนั้นลงดิน สะเก็ดบุหรี่ และเปลวไฟแตกกระจาย ดินปืนทั้งหมดลุกพรึ่บในพริบตาเดียว

แสนผงะด้วยความตกใจสุดขีด และก่อนที่เขาจะขว้างไดนาไมต์ออกไป ระเบิดแรงสูงที่อยู่ในลังใกล้ตัวเขาก็กัมปนาทขึ้น วินาทีนั้น วิญญาณของแสนปลิดปลิวไปสู่ยมโลกทันที

เมื่ออิทธิพลมืดหมดไป เมืองพลกลับเข้าสู่ความผาสุขดังเดิมอีกครั้ง ผู้คนอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข เพลิง กัมปนาท กลายเป็นผู้กองยอดรักของตะเภา กระรอกมีความสุขกับนายอำเภอหนุ่มองอาจ ชาตินักสู้

ส่วนกัลป์ เกรียงไกร หลังจากรักษาตัวจนหายดีแล้ว กรมตำรวจพิจารณาปูนบำเหน็จความดีความชอบให้เขากลับเข้ารับราชการใหม่อีกครั้ง เขาได้เลื่อนยศเป็นถึงผู้บังคับหมวดเมืองพล และแน่นอนว่าความรักของเขากับอัญชัญเจริญงอกงามอยู่ในใจของทั้งสอง เขาและเธอสัญญาว่าจะไม่มีวันพรากจากกันอีกจนกว่าโลกจะยุบ ดาวจะดับ...คู่รักทั้งสามของเมืองพลครองรักกันอย่างมีความสุขสืบไป