ละคร เพลงรักผาปืนแตก

ดู 4,882 ครั้ง / แชร์
ละครออกอากาศ วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ ละครช่อง 7
เริ่มออกอากาศ 4 กรกฎาคม 2557
เวลาออกอากาศ 20:20 - 22:30 น.
  
กำกับโดย ธงชัย ประสงค์สันติ
ประพันธ์โดย บทประพันธ์ วาเจณ, บทโทรทัศน์ แพรพริมา
นำแสดงโดย
ศรัณย์ ศิริลักษณ์ ... เชน พนัญเชิง
ปัณฑิตา เคาวเวลล์ ... วัลภา
รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง ... เพลิง พญาไฟ
กวินตรา โพธิจักร ... เอื้อมเดือน
อธิชนัน ศรีเสวก ... เนื้อทอง
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ ... ชาติ
พูลภัทร อัตถปัญญาพล ... ฟ้าลั่น คำรามศึก
สิริลภัส กองตระการ ... น้ำค้าง ยามราตรี
กรรณาภรณ์ พวงทอง ... ฟ้างาม
ชาติชาย งามสรรพ์ ... ผู้กองสมาน
สุรวุฑ ไหมกัน ... กำนันปราบ
พาเมล่า เบาว์เด้น ... ลำดวน
เจจินตัย อันติมานนท์ ... ยอด ดีเซล
วาทิต โสภา ... ทองสุก
พิพัฒน์พล โกมารทัต ... ลายเสือ คำลือ
อติรุจ สิงหอำพล ... เชิด
เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ ... ครูประสิทธิ์
เจเน็ต เขียว ... น้อย ชะชาช่า
กรุง ศรีวิไล ... หลวงพ่อสิน
ผู้สร้าง บริษัท พอดีคำ จำกัด

ภาพนิ่งจากละคร

เรื่องย่อ เพลงรักผาปืนแตก

ปี พ.ศ. 2514 ท่ามกลางสมรภูมิรบอันดุเดือดตามแนวตะเข็บชายแดน เชน พนัญเชิง (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) ตำรวจชายแดนหนุ่มเลือดร้อน ฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้ากองร้อยบุกเดี่ยวตลุยเข้าไปดงข้าศึกของพวกกองกำลังค้าอาวุธสงครามเถื่อน หลังจากที่กองร้อยตัวเองถูกซุ่มโจมตีเพื่อนร่วมกองร้อยบาดเจ็บ และติดกับดักจนมุมยากจะรอดไปได้ เหตุที่เชนตัดสินใจบุกเข้าไปอย่างไม่คิดชีวิตเพราะหวังสละชีวิตในสนามรบหลังจากได้อ่านจดหมายของคนรักที่ส่งมาถึง ใจความนั้นสร้างความเจ็บปวด รวดร้าวแสนสาหัส เพราะเนื้อทอง (อธิชนัน ศรีเสวก) หญิงอันเป็นที่รักนั้นกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับศัตรูผู้เป็นต้นเหตุทำให้เชนต้องหนีจากบ้านเกิดเมืองนอนมาเป็นตำรวจชายแดนเสี่ยงชีวิตอยู่ที่ชายแดน เชนเดินหน้าลุยเดี่ยวพร้อมเอ็ม 16 และน้ำตาอันเจ็บปวดพร้อมคำกล่าวลาหัวหน้ากองร้อยว่า "ขอไปตายเยี่ยงวีรบุรุษในสนามรบ ดีกว่าต้องกลับไปตายอย่างผู้แพ้ที่บ้านเกิด"

แต่ความตายที่เชนพยายามวิ่งเข้าหา กลับวิ่งหนีห่างจากเชนเหมือนไม่ต้องการให้เขามาจบชีวิตในสนามรบ เมื่อเชนบุกตะลุยเข้าไปถึงค่ายของ ฟ้าลั่น คำรามศึก (พูลภัทร อัตถปัญญาพล) หัวหน้ากองกำลังค้าอาวุธสงครามเถื่อน ลูกชายวัยหนุ่มของ ลายเสือ คำลือ (พิพัฒน์พล โกมารทัต) ราชาค้ายาเสพติดผู้โหดเหี้ยม เชนสู้ตัวต่อตัวกับฟ้าลั่นแต่พลาดท่าเสียทีถูกปืนจ่อยิง แต่กระสุนปืนขัดลำกล้องทำให้ยิงไม่ออก จนกระทั่งกำลังเสริมยกพลมาช่วยเหลือ ฟ้าลั่นจึงถูกเชนจับกุมเอาไว้ได้ส่วนกองกำลังก็ถูกตีแตกจนพ่ายยับ ที่รอดตายก็หนีข้ามชายแดนกลับไปสมทบกับลายเสือ คำลือ เชนได้รับความดีความชอบจากต้นสังกัด หัวหน้ากองร้อยที่เชนเคารพนับถือที่บาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย กล่าวคำสุดท้ายกับเชนขณะที่ช่วยติดเหรียญกล้าหาญให้กับเขา "เมื่อเป็นวีรบุรุษในสนามรบแล้ว ก็จงกลับไปเป็นวีรบุรุษที่บ้านเกิด"

ในเวลาเดียวกันขณะที่ฟ้าลั่นถูกนำตัวส่งเข้าเรือนจำ ลายเสือ คำลือได้วางแผนช่วยเหลือลูกชาย ขณะที่กำลังมีการขนย้ายนักโทษโดยได้สั่งให้ ไอ้ก้าน พาดกลอน สมุนมือขวา ที่ไว้ใจได้ให้ไปติดต่อขอความร่วมมือจาก เพลิง พญาไฟ (รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง) ไอ้หนุ่มสิงห์รถบรรทุกพูดน้อยต่อยหนัก อดีตเคยเป็นนักร้องหนุ่มในไนท์คลับอนาคตกำลังรุ่ง แต่กลับต้องโทษติดคุก 10 ปีด้วยข้อหาฆ่านักร้องสาวคนรักตาย ด้วยมือตัวเอง จนเมื่อพ้นโทษเขาก็หันมาขับรถบรรทุกเลี้ยงชีพและใช้เวลาสืบเสาะตามล่าหาตัวไอ้โม่งที่ยัดเยียดหาข้อฆาตกรให้เขาต้องรับผิดอย่างอยุติธรรม

ลายเสือเจ็บใจที่เพลิงไม่ยอมร่วมมือจึงสั่งให้ไอ้ก้านปิดปากเพลิงเพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวรั่วถึงหูตำรวจ แต่การพบกันของเพลิงกับไอ้ก้านก็เล็ดรอดไปถึงหูของผู้กองสมาน แสนธรรม (ชาติชาย งามสรรพ์) เจ้าของฉายาเพชรฆาต ศาลเตี้ยของพวกอาชญากร เขาเป็นผู้จับกุมเพลิงได้ในคดีฆาตกรรมและไม่เคยเชื่อว่าเพลิงจะเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาคิดว่าเพลิงเป็นพวกอาชญากรที่ต้องเฝ้าจับตาดูเป็นพิเศษและต้องลากคอเข้าคุกให้ไปตายในคุก ผู้กองสมานจึงเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่คอยตามรังควาญชีวิตของเพลิงอยู่ตลอดเวลาและแม้ว่าเพลิงจะรอดตายจากการถูกไอ้ก้านลอบฆ่าปิดปาก แต่ผู้กองก็ยังไม่เชื่อคำให้การของเพลิงว่าไม่รู้เห็นกับการช่วยเหลือฟ้าลั่น จนเจ้าหน้าที่เรือนจำต้องถูกฆ่าตายไปหลายคน และยิ่งมั่นใจว่าเพลิงต้องเป็นพวกเดียวกับฟ้าลั่น แม้จะไม่มีหลักฐานที่ใช้มัดตัวแต่ผู้กองก็ยังพยายามจะยัดเยียดข้อหาอื่นเพื่อจะเอาตัวเพลิงเข้าคุกอีกครั้งให้ได้

เมื่อความยุติธรรมที่เพลิงพยายามเรียกหามาตลอดก็ไม่เคยเดินเข้ามาหาตัวเองเลย ตรงกันข้ามกลับยิ่งถูกยัดเยียดความอยุติธรรมให้เสมอ เลยทำให้เพลิงเกือบหลงผิดคิดสั้นเมื่อเป็นคนดีไม่ได้ก็ขอเป็นอาชญากรให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่เพราะฉุกคิดได้ถึงคำสอนของ หลวงพ่อสิน (กรุง ศรีวิไล) พระอาจารย์ที่เคารพของเพลิงตั้งแต่เด็กที่สอนให้ยึดมั่นในคุณธรรมความดีที่จะเป็นเกราะคุ้มภัย เพลิงจึงไม่หลงไปกับความคิดชั่ววูบ แต่เปลี่ยนใจหาทางหนีเพื่อหันหน้าเข้าสู่พระธรรมโดยได้รับความช่วยเหลือจากพรรคพวกสิงห์รถบรรทุกจนสามารถหนีจากผู้กองสมานได้สำเร็จ แล้วมุ่งหน้าสู่วัดหน้าผาที่หมู่บ้านผาปืนแตก เพื่อขอให้หลวงพ่อสินอุปสมบทให้ หนึ่งสุภาพบุรุษมุ่งหน้ากอบกู้รัก อีกหนึ่งสุภาพบุรุษมุ่งหน้ากอบกู้ความยุติธรรม ณ จุดหมายปลายทางเดียวกันบ้านผาปืนแตก

หมู่บ้านผาปืนแตกเป็นหมู่บ้านใกล้เขตชายแดนเต็มไปด้วยป่าและหน้าผาสูงชัน ในอดีตคือสนามรบของกองทัพไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ต่อเนื่องมาจนถึงยุคสงครามโลกก็ยังถูกใช้เป็นพื้นที่สู้รบกันอีก พื้นที่แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตรอด ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนก็ไม่เคยว่างเว้นจากเสียงปืน จึงเป็นที่มาของคำว่าบ้านผาปืนแตก แม้แต่ในยุคนี้ถึงจะไม่มีสงคราม แต่พื้นที่ทั้งหมดก็ถูกอิทธิพลของ กำนันปราบ ทองปั้น (สุรวุฑ ไหมกัน) ที่หน้าฉากคือเศรษฐีใจบุญเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน แต่เบื้องหลังทำธุรกิจผิดกฏหมายทุกรูปแบบ ค้าเฮโรอีน วัตถุโบราณ ไม้เถื่อน อาวุธสงคราม บ่อนพนันและค้าผู้หญิง โดยให้ ชาติ ตะลุมพุก (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคอยทำหน้าที่ดูแลธุรกิจนอกกฏหมายให้ และเพราะชาติตะลุมพุกนี่เองที่เป็นต้นเหตุทำให้เชนต้องหนีออกจากบ้านผาปืนแตกไปเป็นตำรวจชายแดน เพราะเชนไปมีเรื่องชกต่อยกับชาติในงานวัดประจำปี ตอนนั้นเชนเป็นนักร้องนำประจำวงพราวฟ้า วงดนตรีเชียร์รำวงเพียงวงเดียวของหมู่บ้านที่มี ครูประสิทธิ์ (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) ครูใหญ่ของโรงเรียนผาปืนแตกเป็นหัวหน้าวงและยังเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเชน แม้ว่าครูประสิทธิ์จะพยายามห้ามไม่ให้เชนมีเรื่องกับชาติ แต่เพราะความใจร้อนของเชนที่ไม่ยอมฟังพ่อ ทำให้เรื่องบานปลาย ครูประสิทธิ์กลัวว่าถ้าลูกชายยังอยู่ที่บ้านผาปืนแตกต่อไปก็คงต้องถูกยิงทิ้ง จึงสั่งให้เชนไปเป็นตำรวจชายแดน เพื่อรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ รอให้เรื่องสงบแล้วจึงค่อยกลับมา เนื้อทองซึ่งเป็นสาวสวยประจำหมู่บ้านและเป็นคนรักของเชนเห็นด้วยกับครูประสิทธิ์จึงขอร้องให้เชนจากไป เพื่อวันหนึ่งจะได้กลับมาเจอกันทั้งที่ยังมีลมหายใจ แต่มาวันนี้เนื้อทองกลับแปรเปลี่ยนไปยอมแต่งงานกับชาติทั้งๆ ที่ชาติคือศัตรูที่เขาเกลียดขี้หน้า เนื้อทองไม่ยอมให้คำตอบใดๆ กับเขาเลย เชนจึงวางแผนฉุดเนื้อทองจากงานวิวาห์โดยร่วมมือกับ จิก ทรัมเปต, แสน สัปเหร่อ และน้อย ชะชะช่า (เจเน็ต เขียว) ครูสอนรำวงเมียของแสน ทั้งหมดเป็นสมาชิกอยู่ในวงที่สนิทสนมและเลี้ยงดูเชนมาตั้งแต่เล็กๆ

ขณะเดียวกันเพลิงที่เดินทางมาขอให้หลวงพ่อสินบวชให้เพราะต้องการหนีให้พ้นจากผู้กองสมาน ได้รับคำแนะนำจากหลวงพ่อว่าถ้าอยากบวชจริงก็จะบวชให้ แต่อยากให้มั่นใจว่าสามารถละกิเลสทั้งหมดออกไปจากใจได้ก่อน เพราะรู้ดีว่าเพลิงยังต้องการตามล่าหาตัวไอ้โม่งที่โยนความผิดมาให้เขาอยู่ หลวงพ่อจึงให้เพลิงเข้าป่าไปทำสมาธิสงบจิตตัวเองแล้วค่อยกลับมาให้คำตอบอีกครั้ง แต่ขณะที่อยู่ในป่าเพลิงมีโอกาสได้ช่วยเหลือหมอ เอื้อมเดือน (กวินตรา โพธิจักร) คุณหมอสาวสวยที่เพิ่งย้ายมาประจำที่อนามัยหมู่บ้าน ระหว่างที่เอื้อมเดือนเข้าไปช่วยเหลือควาญช้างที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ในป่าแล้วเกิดหลงทาง เอื้อมเดือนรู้สึกประทับใจเพลิง แต่เขากลับแสดงท่าทีเฉยเมยดูเหมือนคนไร้จิตวิญญาณเมื่อช่วยเธอแล้วเขาก็หายเข้าไปในป่า

นอกจากงานวิวาห์ของชาติกับเนื้อทองจะถูกเตรียมการเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่สมฐานะของลูกชายกำนันผู้มากอิทธิพลแล้ว งานนี้ยังเป็นงานเลี้ยงต้อนรับการมาของ ลำดวน (พาเมล่า เบาว์เด้น) นักร้องสาว สวยหุ่นเซ็กซี่ว่าที่เมียใหม่ของกำนันปราบที่คอยดูแลธุรกิจค้าผู้หญิงคอยหาเด็กสาวหน้าตาดีๆ ส่งไปขายตามซ่องในกรุงเทพฯ โดยลำดวนยังได้พา วัลภา (ปัณฑิตา เคาวเวลล์) เด็กสาวแก่นแก้วดีดกะโหลก ลูกสาวคนสวยของเธอมากราบกำนันในฐานะพ่อเลี้ยงด้วย วัลภาเป็นคนดีผิดกับแม่หน้ามือเป็นหลังมือ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าแม่ตัวเองร่วมมือกับกำนันทำเรื่องผิดกฏหมายอย่างไม่น่าให้อภัย เธอรู้เรื่องราวทั้งหมดเมื่อมาถึงบ้านผาปืนแตกและได้เจอกับกำนันและชาติ เธอทั้งเสียใจและน้อยใจที่ชีวิตที่ถูกแม่ปิดบังความจริงมาตลอด เธอนึกว่าแม่เป็นคนดี เธอรู้สึกท้อใจในชีวิตที่เธอต้องมาทนอยู่ท่ามกลางคนเลว

ในค่ำคืนงานวิวาห์เชนวางแผนบุกฉุดเนื้อทองไว้อย่างดิบดี แต่เชนต้องพบกับความผิดหวัง เพราะแทนที่เนื้อทองจะยอมหนีตามเธอกลับปฏิเสธก้มหน้ายอมเข้าพิธีวิวาห์กับชาติ โดยร่ำไห้น้ำตานองหน้าว่าพ่อแม่ของเธอได้ขายเธอให้กับชาติไปแล้ว ถ้าเธอหนีไปชีวิตของพ่อ แม่ก็ต้องตกอยู่ในอันตราย ส่วนชีวิตของชาติและครูประสิทธิ์รวมถึงทุกคนที่วงดนตรีก็ต้องถูกอิทธิพลของกำนันปราบรังควาญจนอาจจะต้องล้มหายตายจากกันไป เมื่อไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ เธอจึงขอเสียสละตัวเองเพื่อให้ทุกคนได้มีลมหายใจต่อ ได้ร้องเพลงและทำวงดนตรีสืบไป เชนแทบคลั่งที่เนื้อทองไม่ยอมหนีตามเขา เชนยืนยันที่จะพาเนื้อทองไปด้วยกันให้ได้ แต่เขาก็ถูกขัดจังหวะโดยวัลภาที่มาพบเข้าพอดี พวกชาติกับกำนันเองก็รู้ตัว และพยายามจะจัดการกับเชน เมื่อจนตรอกไม่มีทางหนีเชนจำเป็นต้องลักพาตัววัลภาลูกเลี้ยงของกำนันไปเป็นตัวประกันหนีหายเข้าไปในป่าด้วยกัน

กลางป่าที่เชนฉุดกระชากวัลภาหวังใช้เป็นเชลยแลกเปลี่ยนกับเนื้อทอง แต่วัลภาฮึดสู้เพราะพอมีฝีมือป้องกันตัวอยู่บ้างเลยเล่นงานเชนเจ็บตัวไปไม่น้อย แต่สุดท้ายก็โดนเชนสั่งสอนข่มขู่ถ้าไม่เลิกพยศ ก็จะยัดเยียดหน้าที่สามีให้ วัลภากราดเกรี้ยวไม่ยอมแพ้ยังดื้อดึงขัดขืน เชนเลยต้องลงมือทำร้ายเธอจนสลบ และเมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบตัวเองถูกจับถอดเสื้อผ้านอนหมดสติอยู่เคียงข้างเชน วัลภาเจ็บใจคิดว่าตัวเองได้เสียความบริสุทธิ์ให้กับเชน จึงเอาไม้ตีหัวเชนแล้วหาทางหนีออกจากป่า เชนไล่ตามเธอจนเกือบจะได้ตัวแต่ก็ถูกขัดขวางจากเพลิงที่มาพบเข้าพอดี เพลิงมีเชิงมวยดีกว่าเลยเล่นงานเชนและช่วยพาวัลภาไปส่งคืนให้กำนันปราบ เพลิงได้เจอกับลำดวนก็จำหน้าค่าตากันได้ เพราะสมัยเพลิงยังเป็นนักร้องในไนท์คลับ ลำดวนก็ร้องเพลงอยู่ที่เดียวกันและเป็นผู้มีพระคุณกับคนรักที่ตายไป ลำดวนชวนให้เพลิงพักอยู่กับกำนันและรับปากจะหางานให้ทำ แต่เพลิงปฏิเสธเพราะมีคำตอบที่ตัวเองต้องกลับไปตอบหลวงพ่อสิน

คำตอบที่เพลิงมีให้กับหลวงพ่อสินก็คือตัดสินใจจะไม่บวช เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในป่า เขาไม่สามารถลดละตัดกิเลสหรือลืมเหตุการณ์ในวันที่พบคนรักถูกฆ่าตายและโดนยัดเยียดข้อหาฆาตกรได้เลย เขายังคงต้องการตามล่าหาตัวไอ้ฆาตกรคนนั้นเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง หลวงพ่อสินเข้าใจลูกศิษย์คนนี้ดีจึงขอให้เพลิงพักอยู่ที่หมู่บ้านผาปืนแตกไปก่อน โดยแนะนำให้เพลิงไปทำงานที่วงดนตรีพราวฟ้า ครูประสิทธิ์ถูกชะตาและชื่นชอบลูกคอของเพลิงเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่เชนออกจากวงไปเป็นตำรวจชายแดน วงพราวฟ้าก็ขาดนักร้องนำฝีมือดีๆ และพอเชนกลับมาก็เอาแต่คิดเรื่องเนื้อทองจนไม่ยอมกลับมาร้องเพลงอีก แต่เชนกับเพลิงเคยปะทะฝีมือกันมาจากในป่า พอเจอหน้ากันอีกครั้งเชนก็เขม่นไม่ชอบขี้หน้าเพลิง จนครูประสิทธิ์ต้องใช้ไม้แข็งบังคับให้เชนยอมรับเพลิงเข้าร่วมวง เพราะสิ่งที่เชนบุ่มบ่ามทำลงไปกับวัลภาลูกเลี้ยงของกำนันปราบกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ให้ต้องตามแก้

วัลภาตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเรื่องที่ถูกฉุดหายเข้าไปในป่าและเสียตัวให้เชน สร้างความไม่พอใจให้กำนันปราบและชาติจนคิดจะไปลากคอเชนมาสั่งสอน แต่เพราะเนื้อทองร้องขอชีวิตเชนเอาไว้กับชาติและเสนอให้หาทางออกเรื่องนี้ด้วยการประนีประนอม เพื่อไม่ให้วัลภาต้องเสื่อมเสียมากไปกว่านี้เห็นควรให้เชนมาสู่ขอวัลภาให้ถูกต้องตามประเพณี ตอนแรกกำนันปราบไม่เห็นด้วยแต่เมื่อมาคิดดูแล้ววัลภาก็เป็นแค่ลูกเลี้ยง เป็นลูกติดของลำดวนที่ชอบแสดงท่าทีไม่อยากอยู่ร่วมชายคาเดียวกับตนอยู่แล้ว วันข้างหน้าอาจจะสร้างปัญหาให้กำนันปวดหัวได้ ชาติก็เห็นด้วยเพราะถ้าเชนแต่งงานมีเมียไปเชนก็จะได้เลิกตอแยเนื้อทองอีก ครูประสิทธิ์เองก็ยอมรับข้อเสนอนี้กับทางกำนันปราบ เพราะเห็นว่าเป็นทางออกเดียวที่จะยุติความขัดแย้งไม่ให้เชนต้องมีเรื่องมีราวอีก แม้ว่าเชนจะมาสารภาพกับครูประสิทธิ์ว่าตอนที่อยู่ในป่าเขาไม่ได้ล่วงเกินวัลภาเลยแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่จัดฉากหลอกให้วัลภาเข้าใจผิดเพื่อหวังแก้แค้นบ้านกำนันปราบให้ได้อับอาย แต่เชนก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเพราะครูประสิทธิ์สั่งให้ เชนต้องแต่งงานกับวัลภาเท่านั้น ซ้ำเมื่อรู้ว่าเนื้อทองเป็นคนเสนอให้เขาอยู่กินกับวัลภา เชนก็ยิ่งเจ็บปวดรวดร้าว น้อยใจเนื้อทองจึงตกลงแต่งงานกับวัลภาเพื่อประชด

เพียงแค่คืนแรกของพิธีวิวาห์เชนก็บอกความจริงให้วัลภารู้ว่าเธอยังบริสุทธิ์ไม่ได้ถูกเขาชิงเอาความสาวไปแม้แต่น้อย วัลภาโกรธจัดที่โดนเชนหลอกเลยลงมือทุบตี แต่ก็ถูกเชนใช้กำลังกอดรัดขู่ว่า จะปล้ำจริงเพราะตอนนี้เป็นผัวเมียกันอย่างถูกต้องแล้ว วัลภาเจ็บปวดได้แต่ร้องไห้เสียใจ น้อยใจชีวิตตัวเองที่อยู่กับแม่ก็ต้องอยู่ท่ามกลางคนเลว พอแต่งงานออกมาได้ก็ต้องมาเจอสามีที่ดีแต่ข่มเหงรังแก เธออยากจะหนีไปให้พ้นจากบ้านผาปืนแตกให้รู้แล้วรู้รอด เชนอดสงสารวัลภาไม่ได้เลยยื่นข้อเสนอว่าจะปล่อยวัลภาให้เป็นอิสระ ถ้าวัลภาช่วยทำให้เนื้อทองกับชาติเลิกกัน และช่วยขัดขวางหยุดยั้งอิทธิพลของกำนันทำให้หมู่บ้านผาปืนแตกกลับมามีแต่ความสงบสุข วัลภายอมรับข้อเสนอของเชนเพราะอยากช่วยเหลือแม่ ให้พ้นจากอิทธิพลของกำนัน เผื่อว่าวันข้างหน้าแม่จะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีได้

เชนเอาความคิดที่จะใช้แผนไอ้โม่งคอยซุ่มโจมตีเล่นงานธุรกิจผิดกฏหมายของกำนัน เหมือนหมาลอบกัดคอยไล่งับคนเลวไปปรึกษากับพรรคพวกในวง ทั้งจิก แสนและน้อยต่างเห็นด้วยพร้อมช่วยเต็มที่ เพราะอยากหยุดยั้งอิทธิพลของกำนันไม่ให้แผ่ขยายไปมากกว่านี้เช่นกัน วัลภาไปชักชวนเพลิงให้มาร่วมขบวนการด้วย แต่เพลิงปฏิเสธเพราะไม่อยากยุ่งกับเรื่องแบบนี้อีก เขาเพียงแค่อยากใช้ชีวิตสงบๆ ไม่อยากตายก่อนที่จะตามล่าเจอตัวไอ้โม่งที่ยัดเยียดความอยุติธรรมให้ เชนเลยอดหมั่นไส้เพลิงไม่ได้ด่าว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัว สองคนเลยกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันบ่อยๆ ทั้งบนเวทีเวลาวงพราวฟ้าออกแสดง และนอกเวทีที่ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน โดยมีวัลภาที่กลายเป็นคนเติมเชื้อไฟให้เชนกับเพลิงแตกคอกันมากขึ้น เพราะความใกล้ชิดที่ต้องอยู่กินกันอย่างสามีภรรยาปลอมๆ ของเชนกับวัลภา ทำให้เชนรู้สึกหลงรักวัลภาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีก็หลุดอารมณ์หึงหวงใส่เพลิง เมื่อเห็นวัลภาให้ความสนิทสนมกับเพลิงโดยไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเพลิงเองก็กำลังมีใจให้คุณหมอเอื้อมเดือน แต่ไม่กล้าแสดงความรักออกมาเพราะปมเรื่องคนรักเก่าที่ยังฝังใจ วัลภาแอบเห็นน้ำตาของคุณหมอที่หลงรักเพลิงก็คิดอยากช่วย เลยทำตัวเป็นแม่สื่อกามเทพช่วยให้เพลิงได้ใกล้ชิดกับคุณหมอ แต่ทำไปทำมาวัลภายิ่งใกล้ชิดกับเพลิง จนเชนอดไม่ได้ต้องลงไม้ลงมือกับเพลิงหาว่าเพลิงคิดจะตีท้ายครัว

แผนการไอ้โม่งซุ่มโจมตีเล่นงานธุรกิจผิดกฏหมายของเชนสร้างความปั่นป่วนให้กำนันจนเริ่มหงุดหงิด ทนไม่ไหวคิดหาทางกระชากหน้ากากพวกมัน ชาติวางแผนล่อให้พวกของเชนมาติดกับจนเกือบจะถูกฆ่าตายหมด งานนี้เพลิงเลยทนนิ่งเฉยไม่ได้ต้องตามไปช่วยเหลือ ครั้งนี้เชนติดหนี้ชีวิตเพลิง และเริ่มที่จะมองเพลิงในแง่มุมที่ดีขึ้น ส่วนความล้มเหลวที่กำนันต้องเพลี่ยงพล้ำให้พวกไอ้โม่งบ่อยๆ ก็ทำให้ธุรกิจนอกกฏหมายต้องเสียหายไปมาก จนกระทบไปถึงลายเสือ คำลือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังกำนันปราบมาตลอด งานนี้ลายเสือกับฟ้าลั่นจึงต้องเดินทางมาที่ผาปืนแตกด้วยตัวเอง เพื่อจัดการกับศัตรูที่มองไม่เห็นตัวให้สิ้นซาก

เมื่อเชนและเพลิงรู้เห็นถึงการมาของลายเสือกับฟ้าลั่นทั้งคู่ก็รู้ดีว่าความโหดเหี้ยมของพวกมันกำลังจะทำให้บ้านผาปืนแตกต้องกลายเป็นทะเลเพลิง และครูประสิทธิ์ก็ได้กลายเป็นเหยื่อคนแรก จากฝีมือของฟ้าลั่นที่วางแผนตามล่าแก๊งค์ไอ้โม่ง ครูประสิทธิ์ถูกฆ่าตายประจานกลางหมู่บ้านเพื่อกระตุ้นความโกรธแค้นให้พวกไอ้โม่งเผยตัว เชนโกรธแค้นแสนสาหัสที่พ่อต้องตายเลยคิดไปแก้แค้น แต่กลับถูกเพลิงกับหลวงพ่อสินห้ามปรามเอาไว้ เพราะถ้าเชนลงมือตอบโต้ก็เท่ากับตกหลุมพรางของพวกมัน เชนเลยต้องเผาพ่อทั้งน้ำตาและสาบานว่าจะกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก ต้องเอาดินในหมู่บ้านผาปืนแตกกลบหน้าพวกมันให้ได้ โดยที่เพลิงยอมหันมาร่วมมือกับเชนอย่างเต็มที่เพราะครูประสิทธิ์ก็เหมือนญาติผู้ใหญ่ที่เพลิง ให้ความเคารพ เชนกับเพลิงชวนพรรคพวกไปถล่มไร่ฝิ่นแหล่งทำเงินของพวกกำนันจนราบเป็นหน้ากลอง

วีรกรรมเผาไร่ฝิ่นของพวกไอ้โม่งโด่งดังไปทั่วพร้อมกับการมาของผู้กองสมานที่ปรากฏตัวขึ้นที่หมู่บ้านผาปืนแตก เพราะผู้กองสมานคือพี่ชายแท้ๆ ของหมอเอื้อมดาวที่มาเยี่ยมน้องสาว ซึ่งได้ข่าวว่ากำลังมีความรักกับไอ้หนุ่มบ้านนอก ยิ่งพอรู้ว่าไอ้หนุ่มคนนั้นคือไอ้เพลิงที่ตัวเองเกลียดขี้หน้าอยู่ก็พร้อมที่จะจัดการกับเพลิงพยายามจะจับตัวกลับไปที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าผู้กองสมานไม่มีอำนาจในการจับกุมอีกแล้ว เพราะถูกปลดจากราชการด้วยข้อหาทำเกินกว่าเหตุ ซ้อมผู้ต้องหาจนถูกฟ้องร้องเป็นคดี เพลิงเลยรอดจากมือผู้กองสมานที่ยังไม่ลดละทิฐิที่มีต่อเพลิง จนเอื้อมเดือนต้องเล่าความจริงให้พี่ชายฟังว่า ตอนนี้ทั้งเพลิงและเชนคือวีรบุรุษที่กำลังช่วยกอบกู้ ความสงบสุข ให้กลับคืนมาสู่หมู่บ้านผาปืนแตก คนเลวตัวจริงที่ควรจะต้องถูกกฏหมายเล่นงาน ก็คือพวกกำนันปราบกับลายเสือ เมื่อผู้กองสมานได้รู้ความจริงจากน้องสาวและได้เห็นกับตาถึงความเลวสุดๆ ของพวกมัน ผู้กองสมานเลยยอมร่วมอุดมการณ์กับเชนและเพลิง พร้อมกวาดล้างพวกอิทธิเถื่อนให้หมดสิ้น

เนื้อทองรับรู้วีรกรรมของเชนกับพรรคพวกในวงพราวฟ้าผ่านทางวัลภาที่ยังเข้านอกออกในบ้านกำนันได้ในฐานะลูกเลี้ยง ฟ้าลั่นได้เจอวัลภาก็รู้สึกถูกอกถูกใจและพยายามหาทางฉุดวัลภาไปทำเมีย แต่เนื้อทองเอาตัวเข้าช่วยวัลภาไว้และบอกความลับให้เธอรู้ว่าเร็วๆ นี้ลำดวนจะพาเด็กสาวที่ถูกล่อลวงมาขังไว้ที่กระท่อมกลางป่าก่อนจะส่งไปขายซ่อง เธออยากให้เชนบุกไปช่วยเหลือ วัลภารับปากเนื้อทองว่าจะช่วยหญิงสาวพวกนั้นให้ได้จึงรีบไปบอกเชน โดยหารู้ไม่ว่านี่คือแผนการค้นหาความจริงของกำนันปราบ ที่สงสัยว่าเนื้อทองจะเป็นคนขายความลับในบ้านให้พวกไอ้โม่งรู้ เมื่อความแตกว่าเนื้อทองสมรู้ร่วมคิด กำนันปราบจึงจับตัวเนื้อทองไปขังรวมกับพวกเด็กสาวในกระท่อมโดยชาติก็ไม่ได้สนใจใยดีแม้ว่าเนื้อทองเป็นเมีย เพราะแค้นที่เนื้อทองยังมีใจให้เชนอยู่ตลอดเวลาที่อยู่กินด้วยกัน

เชนกับเพลิงพาพวกบุกไปที่กระท่อมกลางป่าตามที่วัลภาบอก แต่เมื่อไปถึงกลับตกหลุมพรางของพวกกำนัน เด็กสาวถูกพาตัวออกไปหมดแล้วเหลือแต่เนื้อทองที่ถูกยิงให้นอนหายใจรวยริน และร้องไห้ขอโทษเชนที่ทำให้เชนเสียใจมาตลอด เนื้อทองขอให้เชนลืมเธอแล้วเปิดใจรักวัลภาเพราะชีวิตวัลภานั้นน่าสงสารกว่าเธอและก็ยังเชื่อด้วยว่าวัลภาจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เชนมีความสุขได้ เชนกอดเนื้อทองร้องไห้ เสียใจ เขารับปากจะดูแลและรักวัลภาไม่ให้น้อยไปกว่าเนื้อทองที่จากเขาไปตลอดกาลในอ้อมกอดเขา

เพลิงกับผู้กองสมานไล่ล่าตามแกะรอยพวกกำนันเพื่อช่วยเหลือเด็กสาวให้พ้นจากขุมนรก การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด เชนตามมาเล่นงานพวกของกำนันด้วยกันเป็นสามแรงสู้ ชาติถูกเชนยิงตายเป็นการแก้แค้นให้กับเนื้อทอง ส่วนกำนันปราบก็ถูกเพลิงเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส หนีไปกับพวกลายเสือและฟ้าลั่น และได้ถูกลายเสือฆ่าทิ้งระหว่างทางเพราะกลายเป็นตัวถ่วงระหว่างหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ผู้กองสมานได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากทางราชการ ส่วนลำดวนถูกจับกุมตัวได้และสารภาพความผิดกับเพลิงว่าแท้ที่จริงแล้วเธอเองที่เป็นไอ้โม่งที่ฆ่าคนรักของเพลิงแล้วป้ายความผิดให้เพลิงจนต้องติดคุกแทน สาเหตุเพราะตอนนั้นเธอพยายามจะล่อลวงคนรักของเพลิงให้ไปหลับนอนกับเสี่ย แต่เกิดการต่อสู้ขัดขืน จนพลั้งมือฆ่าคนรักของเพลิงตาย แล้วจึงจัดฉากป้ายความผิดให้เพลิงเป็นฆาตกร ผู้กองสมานได้รู้ความจริงเรื่องนี้ก็มาขอโทษเพลิงที่ไม่เคยเชื่อเลยว่าเพลิงเป็นผู้บริสุทธิ์กลับยัดเยียดให้เพลิงต้องรับโทษที่ไม่ได้ก่ออยู่ในคุกนานถึง 10 ปี เพลิงไม่ถือโกรธผู้กองสมานกลับมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้กองสมานตามไล่ล่าจับกุมพวกลายเสือที่ยังลอยนวลอยู่ เพื่อพิสูจน์อุดมการณ์ของผู้กองสมานว่าโลกนี้จะต้องมีความยุติธรรม คนเลวต้องได้รับโทษไม่สมควรปล่อยให้มันลอยนวล

ศึกครั้งสุดท้ายของเชน เพลิงและผู้กองสมานเดินหน้าเข้าประจัญบานกับกองทัพของลายเสือ ที่พากันยกพลมาถล่มหมู่บ้านผาปืนแตก เลือด ชีวิตและจิตวิญญาณต่างพร้อมยอมพลี เพื่อเป้าหมาย จุดประสงค์เดียว คือการปกป้องแผ่นดินของบ้านผาปืนแตกให้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ผู้กองสมานต่อสู้ จนตัวตายปกป้องชีวิตของเชนและเพลิงเอาไว้ เพื่อให้ทั้งคู่ได้สู้กับกำนันลายเสือและฟ้าลั่น จนพวกของกำนันปราบถูกกวาดล้างสิ้นซาก จบชีวิตอาชญากรผู้เหี้ยมโหดด้วยก้อนดินก้อนกรวดของหมู่บ้านผาปืนแตกที่ฝังกลบให้จมธรณีไปชั่วกัลปาวสาน

และแล้วความสงบสุขก็กลับคืนมาสู่หมู่บ้านผาปืนแตกอีกครั้ง เชนสารภาพรักกับวัลภา และพร้อมทำหน้าที่สามีโดยให้สัญญาว่าจะดูแลวัลภาเป็นอย่างดีถ้าเธอเต็มใจยอมรับเขาเป็นสามี วัลภาเขินอายและกระซิบข้างหูเชนว่าถ้าเชนผิดคำสัญญาเธอจะยิงเชนทิ้ง ส่วนเพลิงหลังจากที่ได้ลบแผลใจในอดีตออกไปจนหมดสิ้น เพลิงก็เปิดใจเข้าหาหมอเอื้อมเดือน เขาคุกเขาร้องเพลงขอความรักจากเธอเพื่อให้เธออยู่คู่กับเขาไปชั่วชีวิต นับแต่นี้ไปบ้านผาปืนแตกจะไม่มีเสียงปืนที่แผดเสียงสร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านอีก แต่จะเหลือเพียงเสียงเพลงแห่งความสุขที่คอยสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนจากเชน พนัญเชิง และเพลิง พญาไฟ พร้อมคณะชาววงพราวฟ้าตลอดไป