อัลบัม Looking 4 Myself - Usher

อัชเชอร์ (Usher) นักร้องโซลและอาร์แอนด์บี ต้องการขยายขอบเขตของดนตรีของเขาไปอีกขั้น ด้วยการผสมผสานดนตรีหลากหลายแนว ตั้งแต่อาร์แอนด์บี ฮิปฮอป ป๊อป โซล อิเล็กทรอนิก ไปจนถึงดับสเต็ป ใน Looking 4 Myself อัลบั้มชุดที่ 7 ของเขา ที่ได้โปรดิวเซอร์มากหน้าหลายตามาร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็น ริโก เลิฟ (Rico Love) จิม จอนซิน (Jim Jonsin) ซาลาม เรมี (Salaam Remi) แฟร์เรลล์ วิลเลียมส์ (Pharrell Williams) แม็กซ์ มาร์ติน (Max Martin) วิล.ไอ.แอม (will.i.am) สวีดิช เฮาส์ มาเฟีย (Swedish House Mafia) และอีกมากมาย

อัชเชอร์ เลือกเปิดตัวด้วยเพลงช้าๆ ที่เจือดนตรีดับสเต็ปจางๆ จากเครื่องสังเคราะห์เสียงที่เล่นซ้ำจังหวะคลอไปตลอดเพลงอย่าง Climax เพลงว่าด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่ดำเนินไปอย่างที่คาดหวัง เป็นขั้วตรงข้ามของ Scream ซิงเกิลที่ 2 ที่มาพร้อมจังหวะซินธ์ป๊อปแบบจัดๆ ชวนให้โยกตามชนิดลืมความทุกข์ที่พร่ำบอกจากซิงเกิลแรกได้เลย เช่นเดียวกับซิงเกิล Lemme See เพลงช้าจังหวะปานกลางที่มีดนตรีซินธ์ป๊อปเป็นพระเอก และยังได้แรปเปอร์ผิวสี ริก รอสส์ (Rick Ross) มาร่วมร้องด้วย

เพลงลำดับแรกของอัลบั้ม Can't Stop Won't Stop ออกแนวยูโรแดนซ์ผสมดับสเต็ปที่ใส่บางท่อนจาก Uptown Girl ซิงเกิลปี 1983 ของ บิลลี โจเอล (Billy Joel) เข้าไปในเพลง โดยมี วิล.ไอ.แอม. จากวง แบล็ก อายด์ พีส์ (Black Eyed Peas) ร่วมโปรดิวซ์กับ คีธ แฮร์ริส (Keith Harris) ส่วน Twisted เป็นเพลงโซลยุค 60 ที่สร้างสีสันด้วยเครื่องเพอร์คัสชันและเบสหนักๆ ชวนเต้นตลอดทั้งเพลง ขณะที่เพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม Looking 4 Myself ได้ ลุก สตีล (Luke Steele) จาก เอ็มไพร์ ออฟ เดอะ ซัน (Empire of the Sun) มาช่วยเติมกลิ่นอายซอฟต์ร็อกและนิวเวฟลงไปในเพลง

นอกจากดนตรีซินธ์ป๊อปผสมดับสเต็ปที่อบอวลตลอดทั้งอัลบั้มแล้ว แฟนเพลงจะยังได้ยินดนตรีโมทาวน์ บลูส์ และเรกเก้ ในเพลง Sins of My Father สำหรับ Show Me เป็นเพลงเด่นด้วยจังหวะเทคโน และถ้าเคยประทับใจเสียงร้องแบบฟอลเซตโตของ อัชเชอร์ แนะนำให้ฟัง Dive