1. สยามโซน
  2. เพลง
  3. ข่าวสารวงการเพลง

ประกาศแล้วผลรางวัล แกรมมี อวอร์ดส์ ครั้งที่ 58

ประกาศแล้วผลรางวัล แกรมมี อวอร์ดส์ ครั้งที่ 58

เป็นอีกปีที่สาว "เทย์เลอร์ สวิฟต์" (Taylor Swift) เปล่งประกายเจิดจ้าที่งานประกาศรางวัลทางดนตรีสุดยิ่งใหญ่ "แกรมมี อวอร์ดส์" (Grammy Awards) หลังยึด 3 รางวัล ทั้งรางวัลอัลบั้มแห่งปี และรางวัลอัลบั้มเพลงป๊อปยอดเยี่ยมจากผลงานในฐานะศิลปินป๊อปเต็มตัวชุดแรก "1998" และรางวัลมิวสิกวิดีโอขนาดสั้นยอดเยี่ยมจากเพลง "Bad Blood" โดยงานประกาศรางวัลครั้งนี้เวียนมาเป็นครั้งที่ 58 พอดิบพอดีเมื่อค่ำวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของสถานที่จัดงาน ณ ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหน้าที่พิธีกรหลักประจำงานยังเป็นของ "แอลแอล คูล เจ" (LL Cool J) ศิลปินแร็ปที่เข้ามาทำหน้าที่นี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 5

เมื่อได้โอกาสเฉิดฉาย เทย์เลอร์ ก็อดไม่ได้ที่จะให้ความเห็นถึงประเด็นที่บางส่วนของเพลง "Famous" จาก "คานเย เวสต์" (Kanye West) อ้างว่าตนเองเป็นคนทำให้ศิลปินสาวก้านยาวโด่งดัง "ในฐานะผู้หญิงคนแรกที่ชนะรางวัลอัลบั้มแห่งปีที่งานแกรมมีถึง 2 ครั้ง ฉันจึงอยากบอกกับหญิงสาวทุกคนว่า จะมีคนที่คอยพยายามขัดขวางความสำเร็จของคุณ หรือพยายามเอาหน้าจากชื่อเสียงที่คุณได้มา แต่ถ้าคุณมุ่งทำงานไม่ลดละ ไม่ยอมให้ใครก็ตามมาขัดขวางคุณได้ สักวันเมื่อคุณไปอยู่ตรงจุดนั้น คุณมองไปรอบๆ และคุณจะรู้ว่าคนที่ทำให้คุณอยู่ตรงนั้นได้คือตัวคุณเองและคนที่รักคุณทั้งนั้น และนั่นเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดในโลกเลยค่ะ"

ด้านรางวัลบันทึกเสียงยอดเยี่ยมแห่งปีตกเป็นของเพลงจังหวะสนุกอย่าง "Uptown Funk" ที่เป็นการร่วมงานของสองศิลปิน "มาร์ก รอนสัน" (Mark Ronson) และ "บรูโน มาร์ส" (Bruno Mars) การร่วมงานสุดสนุกครั้งนี้เองที่ทำให้เพลงนี้รั้งตำแหน่งการแสดงเพลงป๊อปยอดเยี่ยมจากศิลปินคู่หรือกลุ่มไว้ได้อีกรางวัล โดย บรูโน พูดถึงชัยชนะครั้งนี้ว่า "รางวัลนี้ขออุทิศให้แฟนๆ ที่อยู่ที่นี่ครับ เราไม่มีทางมายืนอยู่บนนี้ได้เลยหากไม่มีผู้คนที่คอยเต้นไปพร้อมกับเพลงนี้ครับ" นอกจากนี้ Uptown Funk ฉบับรีมิกซ์โดย "เดฟ ออเด" (Dave Aude) ยังเป็นเจ้าของรางวัลเพลงรีมิกซ์ยอดเยี่ยมด้วย

ฝั่งหนุ่มผมแดงจากเกาะอังกฤษ "เอ็ด ชีแรน" (Ed Sheeran) พาเพลง "Thinking Out Loud" รวบรางวัลเพลงแห่งปีและการแสดงเพลงป๊อปยอดเยี่ยมจากศิลปินเดี่ยวได้อย่างสวยงาม เอ็ด กล่าวขอบคุณทุกคนที่อยู่เบื้องหลังการสร้างเพลงรักหวานซึ้งเพลงนี้ และยังขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่มาร่วมงานแกรมมีที่เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเป็นครั้งที่ 4 ว่า "ทุกครั้งที่ผมแพ้ พวกท่านจะบอกว่า ปีหน้าอาจจะได้ก็ได้น่า" ขณะที่ "เมแกน เทรนเนอร์" (Meghan Trainor) ได้มีค่ำคืนแสนประทับใจจนน้ำตารื้น หลังชนะรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ศิลปินสาวมากพลังเสียงเผยว่า "ขอบคุณแกรมมีมากๆ นะคะ ฉันรักพวกคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ"

ด้าน "เคนดริก ลามาร์" (Kendrick Lamar) ผู้ร่วมร้องเพลง Bad Blood ก็ประกาศศักดาในฐานะศิลปินแร็ปได้อย่างสมศักดิ์ศรี กวาดรางวัลสาขาเพลงแร็ปไปทั้งหมด 4 รางวัล โดยเพลง "Alright" ส่งให้ศิลปินผิวสีควบรางวัลการแสดงเพลงแร็ปยอดเยี่ยม และรางวัลเพลงแร็ปยอดเยี่ยม ส่วน "These Walls" ซึ่งเป็นเพลงที่ร่วมงานกับ "บิลาล" (Bilal) "แอนนา ไวส์" (Anna Wise) และ "ธันเดอร์แคต" (Thundercat) ก็พารางวัลเพลงแร็ปยอดเยี่ยมจากการร่วมงานของศิลปินสู่มือ เคนดริก ขณะที่อัลบั้มเต็ม "To Pimp a Butterfly" ทำให้เขายึดรางวัลอัลบั้มเพลงแร็ปยอดเยี่ยมได้สำเร็จ นับเป็นการชนะรางวัลทั้งหมด 4 รางวัลจากการเข้าชิงสูงสุด 11 สาขา ซึ่ง เคนดริก กล่าวขณะรับรางวัลว่า "รางวัลนี้สำหรับเพลงฮิปฮอปครับ เราจะคงอยู่ตลอดไป เชื่อเถอะครับ"

ฝั่งเพลงร็อก "Don't Wanna Fight" ของศิลปินกลุ่ม "อลาบามา เชกส์" (Alabama Shakes) รวบสองสาขา ทั้งเพลงร็อกยอดเยี่ยมและการแสดงเพลงร็อกยอดเยี่ยม ส่วนอัลบั้ม "Sound & Color" ของ อลาบามา เชกส์ ก็ครองตำแหน่งอัลบั้มเพลงอัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม นักร้องนำของวง "บริตตานี โฮเวิร์ด" (Brittany Howard) เปิดใจว่า "ไม่เคยคิดเลยค่ะว่าเราจะได้มายืนพูดอยู่ตรงนี้ ตอนที่เราเริ่มวงเรายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เราร้องเพลงเพื่อความสนุก ไม่เคยคิดว่าจะได้รับการจดจำแบบนี้ค่ะ" ขณะที่เก้าอี้อัลบั้มเพลงร็อกยอดเยี่ยมตกเป็นของ "มิวส์" (Muse) จากผลงานชุด "Drones" ส่วนหน้าใหม่ "คริส สเตเปิลตัน" (Chris Stapleton) เจ้าของอัลบั้ม "Traveller" คือผู้ชนะรางวัลอัลบั้มเพลงคันทรียอดเยี่ยม และการแสดงเพลงคันทรียอดเยี่ยมจากศิลปินเดี่ยวจากเพลง "Traveller" ด้าน "ลิตเทิล บิก ทาวน์" (Little Big Town) เจ้าของเพลง "Girl Crush" ฉวยเพลงคันทรียอดเยี่ยมและรางวัลการแสดงเพลงคันทรียอดเยี่ยมจากศิลปินคู่หรือกลุ่มเอาไว้ได้

ช่วงเวลาที่ผ่านมาวงการเพลงสูญเสียศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ไปหลายคน งานประกาศรางวัลคราวนี้จึงมีการรำลึกถึงศิลปินเหล่านั้น อาทิ "เลดี้ กาก้า" (Lady Gaga) ผู้แปลงโฉมเป็น "เดวิด โบวี" (David Bowie) แสดงเมดเลย์เพลงดังของศิลปินระดับตำนาน ขณะที่ "แจ็กสัน บราวน์" (Jackson Browne) ร่วมมือกับสมาชิกวง "ดิ อีเกิลส์" (The Eagles) ร้องเพลง "Take It Easy" รำลึกถึงเพื่อนร่วมวงอย่าง "เกลนน์ เฟรย์" (Glenn Frey) ส่วน "สตีวี วันเดอร์" (Stevie Wonder) และวงอะแคปเปลลา "เพนทาโทนิกซ์" (Pentatonix) รำลึกถึง "มอริซ ไวต์" (Maurice White) แห่ง "เอิร์ธ, วินด์ แอนด์ ไฟร์" (Earth, Wind & Fire) ด้วยเพลง "That's the Way of the World" สำหรับการแสดงอื่นๆ ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เช่น "อเดล" (Adele) ที่แม้ตอนเริ่มแสดงจะมีปัญหาระบบเสียง แต่ศิลปินสาวก็ยังถ่ายทอดพลังผ่านเพลง "All I Ask" อย่างงาม ขณะหนุ่ม "จัสติน บีเบอร์" (Justin Bieber) ขึ้นอวดเพลง "Love Yourself" และ "Where Are U Now" ที่ชนะรางวัลเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม ทาง "เดอะ วีกเอนด์" (The Weeknd) ขอเมดเลย์เพลง "Can't Feel My Face" กับ "In the Night"

สรุปรางวัลสำคัญ Grammy Awards 2016

  • บันทึกเสียงยอดเยี่ยมแห่งปี: Uptown Funk จาก Mark Ronson ร่วมร้องโดย Bruno Mars
  • อัลบั้มแห่งปี: 1989 จาก Taylor Swift
  • เพลงแห่งปี: Thinking Out Loud จาก Ed Sheeran
  • ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม: Meghan Trainor
  • การแสดงเพลงป๊อปยอดเยี่ยมจากศิลปินเดี่ยว: Thinking Out Loud จาก Ed Sheeran
  • การแสดงเพลงป๊อปยอดเยี่ยมจากศิลปินคู่หรือกลุ่ม: Uptown Funk จาก Mark Ronson ร่วมร้องโดย Bruno Mars
  • อัลบั้มเพลงป๊อปยอดเยี่ยม: 1989 จาก Taylor Swift
  • อัลบั้มเพลงป๊อปดั้งเดิมยอดเยี่ยม: The Silver Lining: The Songs of Jerome Kern จาก Tony Bennett และ Bill Charlap
  • เพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม: Where Are U Now จาก Skrillex และ Diplo ร่วมร้องโดย Justin Bieber
  • อัลบั้มเพลงอิเล็กทรอนิกหรือแดนซ์ยอดเยี่ยม: Skrillex and Diplo Present Jack U จาก Skrillex และ Diplo
  • การแสดงเพลงฮาร์ดร็อกหรือเมทัลยอดเยี่ยม: Cirice จาก Ghost
  • การแสดงเพลงร็อกยอดเยี่ยม: Don't Wanna Fight จาก Alabama Shakes
  • เพลงร็อกยอดเยี่ยม: Don't Wanna Fight จาก Alabama Shakes
  • อัลบั้มเพลงร็อกยอดเยี่ยม: Drones จาก Muse
  • อัลบั้มเพลงอัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยม: Sound & Color จาก Alabama Shakes
  • การแสดงเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม: Earned It จาก The Weeknd
  • การแสดงเพลงอาร์แอนด์บีแบบดั้งเดิมยอดเยี่ยม: Little Ghetto Boy จาก Lalah Hathaway
  • เพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม: Really Love จาก D'Angelo และ The Vanguard
  • อัลบั้มเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม: Black Messiah จาก D'Angelo และ the Vanguard
  • อัลบั้มเพลงเออร์เบินร่วมสมัยยอดเยี่ยม: Beauty Behind the Madness จาก The Weeknd
  • การแสดงเพลงแร็ปยอดเยี่ยม: Alright จาก Kendrick Lamar
  • เพลงแร็ปยอดเยี่ยมจากการร่วมงานของศิลปิน: These Walls จาก Kendrick Lamar ร่วมร้องโดย Bilal, Anna Wise และ Thundercat
  • เพลงแร็ปยอดเยี่ยม: Alright จาก Kendrick Lamar
  • อัลบั้มเพลงแร็ปยอดเยี่ยม: To Pimp a Butterfly จาก Kendrick Lamar
  • การแสดงเพลงคันทรียอดเยี่ยมจากศิลปินเดี่ยว: Traveller จาก Chris Stapleton
  • การแสดงเพลงคันทรียอดเยี่ยมจากศิลปินคู่หรือกลุ่ม: Girl Crush จาก Little Big Town
  • เพลงคันทรียอดเยี่ยม: Girl Crush จาก Little Big Town
  • อัลบั้มเพลงคันทรียอดเยี่ยม: Traveller จาก Chris Stapleton
  • อัลบั้มเพลงแจ๊ซยอดเยี่ยม: For One to Love จาก Cecile McLorin Salvant
  • อัลบั้มเพลงแจ๊ซบรรเลงยอดเยี่ยม: Past Present จาก John Scofield
  • อัลบั้มเพลงแจ๊ซที่รวมตัวศิลปินยอดเยี่ยม: The Thompson Fields จาก Maria Schneider
  • อัลบั้มเพลงลาตินแจ๊ซยอดเยี่ยม: Made in Brazil จาก Eliane Elias
  • อัลบั้มเพลงบลูส์ยอดเยี่ยม: Born to Play Guitar จาก Buddy Guy
  • อัลบั้มเพลงโฟล์กยอดเยี่ยม: Bela Fleck and Abigail Washburn จาก Bela Fleck & Abigail Washburn
  • อัลบั้มเพลงเรกเก้ยอดเยี่ยม: Strictly Roots จาก Morgan Heritage
  • อัลบั้มเพลงลาตินป๊อปยอดเยี่ยม: A Quien Quiera Escuchar จาก Ricky Martin
  • เพลงรีมิกซ์ยอดเยี่ยม: Uptown Funk (Dave Aude Remix) จาก Mark Ronson ร่วมร้องโดย Bruno Mars
  • อัลบั้มเพลงที่มีเสียงรอบทิศทางยอดเยี่ยม: Amused To Death จาก James Guthrie และ Joel Plante
  • ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Birdman
  • โปรดิวเซอร์แห่งปี: Judith Sherman
  • มิวสิกวิดีโอขนาดสั้นยอดเยี่ยม: Bad Blood จาก Taylor Swift ร่วมร้องโดย Kendrick Lamar
  • มิวสิกวิดีโอขนาดยาวยอดเยี่ยม: Amy จาก Amy Winehouse
  • บุคคลแห่งปี: Lionel Richie

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น