เคลิบเคลิ้มไปกับดนตรีอันแสนหวานของ เฮอร์บี แฮนค็อก

เป็นอีกค่ำคืนประวัติศาสตร์ของคอเพลงแจ๊ซ เมื่อ ลัลลาบาย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ นำนักเปียโนแจ๊ซผู้ยิ่งใหญ่วัย 71 ปี อย่าง "เฮอร์บี แฮนค็อก" (Herbie Hancock) มาแสดงความล้ำลึกในฝีมือดนตรีของเขาให้แฟนเพลงได้ประจักษ์กันอีกครั้งหนึ่งในคอนเสิร์ต "เฮอร์บี แฮนค็อก ไลฟ์ อิน แบงค็อก" (Herbie Hancock Live in Bangkok)

มาครั้งนี้ เฮอร์บี ไม่ได้มาคนเดียวยังชวนเพื่อนพ้องนักดนตรีระดับโลกอย่างมือเบส "เจมส์ จีนัส" (James Genus) มือกลอง "เทรเวอร์ ลอว์เรนซ์" (Trevor Lawrence) และนักร้องสาวเสียงดี "คริสตินา เทรน" (Kristina Train) มาเพิ่มอรรถรสในคอนเสิร์ต ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยเหล่าแฟนเพลงคอแจ๊ซทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่หลั่งไหลกันมาเรื่อยๆ จนเต็มพื้นที่จัดงาน ทันทีที่คอนเสิร์ตเริ่มแฟนเพลงก็ส่งเสียงพร้อมกับปรบมือต้อนรับดังไปทั่วทั้งฮอลล์ ไม่รอช้า เฮอร์บี ได้นำพาทุกคนเข้าสู่โลกของดนตรีแจ๊ซ ด้วยการสะกดทุกคนกับเสียงของเปียโนที่ไพเราะเพราะพริ้งในเพลง "Actual Proof"

จากนั้นก็เพลิดเพลินกันต่อกับเพลง "Imagine" "Watermelon Man" และ "Court and Spark" สำหรับเพลงนี้ได้นักร้องสาวเสียงดี คริสตินา มาร่วมแสดงพลังเสียงอันไพเราะไปกับท่วงทำนองเสียงเปียโนของ เฮอร์บี ยิ่งเพิ่มรสชาติของการฟังเพลงมากยิ่งขึ้น ต่อด้วยการแสดงเดี่ยวเปียโนฝีมือการเล่นของ เฮอร์บี ที่จัดเต็มให้กับแฟนๆ ได้ฟังกันต่อในเพลง "Round Midnight" ตามมาติดๆ กับเพลง "Dolphin Dance" "Speak Like a Child" และ "Cantaloupe Island" จากนั้น เฮอร์บี ได้เปลี่ยนบรรยากาศจากการบรรเลงเปียโน มาเล่นคีย์บอร์ดสะพายในจังหวะเพลงที่สนุกๆ ร่วมกับเพื่อนๆ ทั้ง เจมส์ และ เทรเวอร์ ในเพลง "Chameleon"

ต่อด้วยการกลับมาอีกครั้งของสาวสวย คริสตินา ในเพลง "Tamatant Tilay-Exodus" ซึ่งเสียงร้องของเธอเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับเสียงเปียโนของ เฮอร์บี ยังไม่พอทั้งคู่ยังจัดให้ทุกคนสนุกและเพลิดเพลินกันต่อกับเสียงร้องบวกกับเสียงมนต์เสน่ห์ของดนตรีกับเพลง "The Times, They Are A' Changin" ซึ่งนอกจากจะส่งเสียงร้องเพลงแล้ว คริสตินา ยังได้แสดงความสามารถในการสีไวโอลิน ประชันกับเสียงเปียโนของ เฮอร์บี สะกดจิตคนดูให้จดจ่ออยู่กับเสียงอันไพเราะนี้

เฮอร์บี ยังได้ส่งความสุขให้กับคนดูกันต่อกับ "Space Captian" และปิดท้ายความสุขของค่ำคืนที่อบอวลไปด้วยท่วงทำนองของดนตรีแจ๊ซกลางมหานครกรุงเทพฯ กับเพลง "Rockit" ก่อนจาก เฮอร์บี ก็ได้กล่าวคำขอบคุณแฟนๆ ที่มาร่วมชมคอนเสิร์ต นับเป็นวันอันแสนหวานของสาวกเพลงแจ๊ซเลยก็ว่าได้