อลิซาเบธ บาโทรี่ ราชินีแวมไพร์

21 พ.ย. 52 22:18 น. / ดู 2,242 ครั้ง / 23 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
"Man is what he eat"
        นี่คือความเชื่อขั้นพื้นฐานของคนอีกหลายๆคน  ซึ่งเชื่อกันว่า  สิ่งที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขมนุษย์นั้น  มีสิ่งที่ลึกลับและมอบพลังบางอย่างให้แก่ผู้ที่ได้รับและบริโภค  รวมถึงความงามและความอมตะอันยั่งยืน
        อลิซาเบธ  บาโธรี่(Alizabeth  Bathory)หากคุณคือบุคคลที่อ่านในนิยายแนวสยองขวัญน่าจะพอรู้จักชื่อของเธอ "บาโธรี่" เคาน์เตสผู้ที่ฆ่าสาวพรหมจรรย์ไปกว่า 650 คนโดยวิธีสุดวิปริต
        เธอเชือด  กรีด  ชำแหละและทำทุกวิถีทางเพื่อรีดโลหิตทุกหยดของเหยื่อ  เอามันมาเป็นเครื่องประทินโฉมและความงาม  และใช้มันต่างน้ำอมฤตที่จะชุบผิวพรรณเธอให้งดงามตลอดไปตามความเชื่อ  ที่เธอได้รับมา  และด้วยความโหด**มของ เคาน์เตสโรคจิตผู้นี้  ประชากรสาวสวยในทรานซิลเวเนียลดลงไป 

        แม้ว่าตระกูลบาโธรี่ของเธอนั้นสูงส่ง  ทรงอิทธิพลมากที่สุดตระกูลหนึ่งในยุโรป  มีชื่อเสียงล้นเหลือ  เป็นที่ยำเกรงของผู้คนในแถบนั้น  แต่ทว่า  ในอีกด้านมุมหนึ่งของตระกูลอันสูงส่งนี้  ยังมีสมาชิกของวงศ์ตระกูลอีกมากมายหลายท่านที่ชื่นชอบในกามวิปริต  ลูกท่านหลานเธอในวงศ์ตระกูลนับถือลัทธิซาตานิสต์  บางคนเป็นนักวางยาพิษที่ไม่มีใครกล้าคบค้าสมาคมด้วย

        อลิซาเบธมิใช่หญิงสาวที่งดงามเลยอย่างที่ในนิยายหรือภาพยนต์หลายเรื่องเคยกล่าวไว้  ในประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า  เธอออกจะขี้เหร่ด้วยซ้ำ  แต่ด้วยความเป็นลูกของผู้มีตระกูลของแคว้นทรานซิลเวเนีย  ทำให้ปมด้อยของเธออดูถูกลบเลือนไป  และหล่อนถูกหมั้นหมายกับท่านเคาน์เฟเรนซ์ เนดาสดี  ทายาทผู้สูงส่งอีกตระกูลหนึ่งของแคว้น  ซึ่งนับถือนิกาย โปรเตสแตนท์

        ในขณะที่หมั้นหมายนั้น  เธออายุเพียงแค่ 11 ขวบเท่านั้น  ดังนั้น  เธอจึงถูกส่งไปเก็บตัวอยู่ในปราสาทของฝ่ายคู่หมั้น  เพื่อเตรียมอบรมเข้าคอร์ส  เพื่อรับตำแหน่งเคาน์เตสอันแสนสูงส่ง

        ทว่า.........ด้วยนิสัยที่บิดเบี้ยวไปจากฐานะอันแสนสูงส่ง  สันดานอันเพี้ยนตั้งแต่เกิดมานั้น  แทนที่อลิซาเบธจะพอใจในเกียรติยศชื่อเสียงที่ได้มา  เธอกลับมีทีท่าว่าจะเบื่อพี่เลี้ยง  รังเกียจครูบาอาจารย์ที่มาคอยอบรมสั่งสอน

        ยิ่งไปกว่านั้น  เธอกลับเที่ยวเล่นกับเด็กชาย  ลูกของชาวไร่ชาวนาที่เป็นทาสซึ่งติดอยู่ใกล้ๆกับปราสาท  จนกระทั่งเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาเมื่ออายุเพียงแค่ 13 ปี
        แน่นอน  ข่าวนี้ถูกคาบไปบอกกับมารดาของเธออย่างรวดเร็ว  และเพื่อมิให้สูญเสียชื่อเสียงและค่าตัวของตระกูลบาโธรี่  และก่อนที่จะมีใครระแคะระคาย  อลิซาเบธถูกส่งตัวไปปในปราสาทของตระกูลบาโธรี่อีกปราสาทหนึ่งซึ่งอยู่ไกลสายตาผู้คน  โดยท่านแม่ของเธออ้างว่า  ลูกสาวไม่สบาย  ต้องพาไปอยู่ในที่สงบเพื่อรักษาตัว  และทารกที่คลอดออกมานั้นอาจจะถูกฆ่าทิ้งหรือถ้าโชคดีไปก็แค่ถูกส่งไปเลี้ยงที่อื่นเพื่อไกลหูไกลตาก็ไม่มีใครทราบนะครับ.........

        ครั้นเมื่อเธออายุได้ 15 ปีอลิซาเบธได้เข้าสู่วิวาห์กับท่านเคาน์เฟเรนซ์  สามีผู้สูงส่งของอีกตระกูลหนึ่ง

        "กล่าวถึงเคาน์เฟเรนซ์นั้นก็มีนิสัยที่บิดเบี้ยว  วิปริตวิตถาร ไม่แพ้กันเลย  แต่เนื่องจากเขามีความสามารถในการควบคุมกำลังทหาร  แม้เทียบไม่ได้กับตระกูลดั้งเดิมของตระกูลบาโธรี่อย่างตระกูลเทเปส(TAPEZ) อันเลืองชื่อก็ตามที"

        ฟ้าอาจบันดลให้ทั้งสองมาเป็นคู่นรกกันก็ได้  อีกคนวิปริต  อีกคนวิตถารเพราะหลังจากท่านเคาน์และเคาน์เตสได้ย้ายไปปลีกวิเวกที่ ปราสาทเซจเธ  ซึ่งตั้งอยู่กลางป่าลึกของทรานซิลเวเนีย  และทั้งสองมีงานอดิเรกที่สำคัญ  ปรัจำวันนั่นคือการทรมานเหล่าบ่าวไพร่ผู้ต่ำศักดิ์  โดยท่านเคาน์มักเล่าเรื่องราวตอนที่เขาเคยทรมานเชลยชาวเติร์กอย่างโหด**มและซาดิสซ์  และภรรยาที่ดีอย่างเคาน์เตส อลิซาเบธ ก็จะหาทางสนองต่อตัณหาของตนที่ได้รับฟังจากท่านเคาน์มาลองใช้กับคนรับใช้ของตนบ้าง

        ความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นที่ต้องกันระหว่างท่านเคาน์และเคาน์เตสนั้นผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว  จนกระทั่งมีบุตรและธิดาด้วยกันถึง 4 คน  แต่แล้ว  นรกกับพรากคู่ชีวิตของเคาน์เตสไปจากอกของอลิซาเบธในฤดูหนาวของปี ค.ศ.1604

        คู่ซาดิสซ์ผิดมนุษย์จากไป 1 คนแล้ว  แต่ทว่า  เธอไม่ใช่นกกระเรียนที่เมื่อคู่ของตนตาย  ก็ต้องตายตามกันไป  เมื่อกระนั้นเลย  เธอกลับบ้าคลั่งกว่าเดิมอีก  เมื่อเธอค้นพบตัวตนของเธอว่า  ตัวเองเป็นอัจฉริยภาพในด้านซาดิสซ์  เพราะวันแล้ววันเล่า  เธอจะทดลองกรรมวิธีมรมานคนของตให้เจ็บปวดสุดขีด  จนเป็นเรื่องธรรมดาของ ปราสาทเซจเธ ไปเลยก็ว่าได้

และจุดเริ่มต้นแห่งความสยองขวัญได้เริ่มขึ้น

        เช้าวันหนึ่ง  เคาน์เตสอลิซาเบธ  ตื่นขึ้นมาพร้อมกับแต่งหน้าล้างตา  จัดองค์ทรงเครื่อง  ปรากฎว่าเธอไปสัมผัสสิ่งหนึ่งที่ใบหน้าเข้า  พร้อมกับชะงักหน้าที่กระจกด้วยความตกใจกลัว

        "ริ้วรอย เหี่ยวย่น"  นั่นสิครับ  เพราะว่าเธออายุปาเข้าไปตั้ง45แล้วนี่นา

        แม้ว่าเธอจะไม่สวย  แต่ตามอุปนิสัยแล้ว  ไม่ว่าปผู้หญิงคนไหน  สวยไม่สวยก็ไม่มีใครอยากแก่หรอกครับ
        อลิซาเบธถึงกับหงุดหงิดในอารมณ์  ฮึดฮัด  ประกอบกับพอดิบพอดีกับที่มีสาวใช้ดวงจู๋  เข้ามาถามความต้องการที่เคาน์เตสอยากรับประจำวัน

        อลิซาเบธจึงลากตัวของสาวใช้ผู้นั้นไปตรึงไว้  แล้วลงมือหวดแส้หนังผูกปมโลหะประทังเข้าสู่เนื้อหนังมังสาของสาวใช้เคราะห์รายทันที

        ฟาดแล้วฟาดอีก  แรงฟาดแต่ละครั้งที่แส้โลหะตวัดเข้า  เกี่ยวเนื้อหลุดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  หยาดเลือดสาดกระเซ็นออกมาเป็นฝอยจนกระเด็นมาติดตามใบหน้าของอลิซาเบธ

        เคาน์เตส อลิซาเบธ  เหนื่อยหอบ  หมดแรงไปกับการตวัดแส้หนัง  แม้ว่าจะเหนื่อย  แต่ก็สุขสมใจเธอแล้ว  พร้อมด้วยผละจากร่างที่สิ้นชีวิตของสาวใช้เพื่อไปล้างหน้า ล้างตา  แต่.........จุดสยองมันกำลังเริ่มขึ้นครับ

        เธอนั่งลงเพื่อเช็ดหน้าเช็ดตากับผ้าที่สาวใช้ต้นห้องนำมาให้  ปรากฎสัมผัสอันอ่อนนุ่มที่ใบหน้า
        ความหงุดหงิดแปรเปลี่ยนเปป็นความพิศวงงงงวย  เพราะหน้าที่ดูเหี่ยวย่น  กลับเปล่งปลั่ง  ดูเป็นเด็กสาวแรกแย้ม  และด้วยความคิดอันแสนอัจฉริยะจึงแว่บเข้ามาในสมอง(ส่วนไหน)

        เธอคิดว่าเลือดสดๆ  ของหญิงสาวมีคุณสมบัติพิเศษที่จะดลบันดาลให้เธอมีผิวพรรณที่เปร่งปรั่ง  มอบความเป็นอมตะให้เธอได้ตลอดกาล

        และที่สำคัญ  เลือดนั้นต้องเป็นเลือดของเด็กสาวบริสุทธิ์เท่านั้น  มันถึงจะได้ฤทธิ์ของน้ำแห่งชีวิตอันแสนบริสุทธิ์

        นับแต่นั้นมา  มหกรรมอ่างอาบน้ำโลหิตของเคาน์เตส  อลิซาเบธจึงเริ่มต้นขึ้น  เป็นเลือดของหญิงสาวพรหมจรรย์ที่ถูกคัดสรรมา  และเลือกที่จะเชือด  ชำแหละ  เพื่อรีดเอาโลหิตในร่างเขาเธอเหล่านั้นมาสังเวยให้แก่ เคาน์เตส

        เมื่อลูกสาวของคนใช้และทาสตายหมดแล้ว  เธอจึงล่อลวงลูกสาวชาวไร่ชาวนาในแถบบริเวณนั้นมาโดยอ้างว่าให้มารับใช้เคาน์เตส  บ้างก็ว่าให้มาเป็นธิดาบุญธรรมของเคาน์เตส  และพวกเธอก็จะสบายไปตลอดชาติ

        ทั้งๆที่ลูกสาวพวกชาวบ้านจะต้องจากไปตลอดกาล
       
        ณ ปราสาทเซจเธ นั้นได้ค้นพบวิธีรีดเลือด  อันเป็นวิธีที่คลาสสิคสุดๆอีกหนึ่งวิธีหนึ่งนั่นคือ "หีบเจ้าสาวมรณะ"  ซึ่งอลิซาเบธจะสั่งให้ข้าทาสยัดใส่ร่างเด็กสาวเข้าไปในหีบที่ทำเป็นรูปสตรีที่งามสง่า  แต่ฝาเปิดปิดจะมีหนามเหล็กแหลมเรียงรายพรายพรึดไปหมด  (คิดดูครับเวลาที่ฝาหีบถูกปิด  เสียงเด็กสาวร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด  และเมื่อสิ้นเสียงร้อง  จะมีเสียงน้ำบางอย่างไหลออกมา  *โลหิต*จะไหลไปตามทางของแท่งรองเลือด  ไหลลงไปยังอ่างโลหิตที่เคาน์เตสอาบอยู่  ช่างวิปริตเสียนี่กะไร)

        เวลาผ่านไป 5 ปี  ลูกสาวชาวไร่ชาวนาหายไปหมดสิ้น !

        กระนั้นเลย  เคาน์เตสเริ่มที่จะเล่นของที่สูงกว่านี้  นั่นคือ  ลูกสาวของบรรดาเพื่อนสนิท  เคาน์และเคาน์เตสแคว้นใกล้เคียงกัน
       
        ซึ่งขอบอกได้เลยครับว่า หญิงสาวบางคนที่ถูกล่อลวงมาในชุดหลังๆนั้น  บางรายมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับเธอด้วยซ้ำไป

        เวลา 5 ปีผ่านไป  บรรดาบ่าวไพร่ของเคาน์เตสเริ่มที่จะหมดหนทางในการทำลายซาก  จึงขนศพออกไปหลังปราสาทเซจเธ เพื่อให้หมาป่า แร้งกามาคอยกำจัดให้
        สุดท้าย  ต่อให้ฝูงหมาป่าไม่สามารถกำจัดได้หมด  จนชาวบ้านซึ่งได้ตามหาลูกสาวของพวกเขามาพบในลักษณะของโครงกระดูกขาวโพลนและร่างที่ซีดเผือด  ไร้โลหิต  จนมีข่าวลือถึงเรื่องของผีดูดเลือดในป่า อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง

        แต่ทว่า  ญาติๆของผู้ตายยืนยันได้ว่า  นี่คือศพของลูกหลานของพวกเขาที่ถูกหลอกให้มาทำงานในปราสาทเซจเธ 

       
        ดังนั้น  อลิซาเบธจึงถูกสอบสวน ในปี 1610
       
        ไม่ใช่แค่ชาวบ้านเท่านั้นที่อาฆาตและโกรธแค้น เคาน์เตสผู้กระหายเลือดผู้นี้เท่านั้น  กระทั่งคนในวงศ์ตระกูล บาโธรี่ยังพลอยชิงชังเธอไปด้วย  เพราะเหตุที่เธอเป็นบุคคลชั้นนำของตระกูล  แต่กลับทำเรื่องวิปริตอย่างนี้  ตระกูล บาโธรี่เสียชื่อหมด

        และที่สำคัญ  ไม่มีอำนาจและอิทธิพลใดๆที่จะช่วยเหลือนางอสูรร้ายตนนี้ให้พ้นผิดไปได้แล้ว

        ลูกมือของอลิซาเบธเปิดปากสารภาพเล่าวิธีการ  กรรมวิธีในการรีดเลือดที่สุดจะคลาสสิคเท่าที่พวกเขาจะทำได้

        650 คน!!!  เฉพาะที่จำได้ก็ถึง 650 คนแน่ะ.........
   
        และหลังจากการไต่สวน  สมุนตัวเบิ้มของอลิซาเบธถูกตัดสินให้เผาทั้งเป็นทันทีโดยไม่ต้องรอลงอาญาในที่สาธารณะ

        ส่วนตัวเคาน์เตสนั้นโชคดีที่ได้กินบุญเก่า  แม้จะน้อยนิด  แต่ก็ทำให้เธอมีชีวิตยืนยาวได้กว่าสมุนตัวเบิ้มของเธอหน่อย  เพราะตามธรรมเนียมของยุโรป  เขาจะไม่ประหารผู้สูงศักดิ์ให้ใครได้เห็น

        แต่โทษที่เธอได้รับนั้นน่ากลัวเสียยิ่งกว่าความตายเสียอีก  เพราะเธอถูกลากเข้ามาที่ปราสาท เซจเธ  อันเป็นจุดเริ่มของความโหดร้าย  ซึ่งโทษของเธอนั้นคือ  ถูกขังตลอดชีวิต

        หากเป็นห้องขังธรรมดา  แค่ให้ข้าวปลาอาหาร  อากาศถ่ายเทสะดวก  ก็สามารถอยู่ได้ถึง10-20ปีแล้ว  แต่ทว่า  ห้องขังนี้มันไม่ใช่ห้องขังธรรมดาเลย  เพราะตั้งอยู่ที่หอคอยชั้นสูงสุดของปราสาท เซจเธ  เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก่ออิฐ  ปิดทางเข้าออกจนหมด  แม้แต่หน้าต่าง  เพื่อมิให้หล่อนได้รับแสงอาทิตย์อีกเลย  แต่ยังคงเหลือ ช่องเล็กๆสำหรับสอดอาหารไว้ให้เธอเท่านั้น

        กรรมที่หนักหนาสาหัสนั้น  ทำให้เธออยู่มาได้ตลอดถึง 4 ปี  ขณะที่คนธรรมดาๆนั้นต้องตายไปแล้ว  หากไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน  แต่บาปหนาของอดีตเคาน์เตสนั้นทำให้เธอต้องมีชีวิตอยู่  เพื่อรับรสความทรมานยิ่งกว่าความตายเสียอีก

        จนกระทั่ง สันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ.1614 เป็นวันที่ปราศจากสิ่งมีชีวิตของ อดีตเคาน์เตสกระหายเลือด อลิซาเบธ บาโธรี่ ช่องเล็กๆ  สำหรับสอดอาหารจึงถูกปิดลงทันทีด้วยก้อนอิฐก้อนสุดท้ายเสียจนสนิท

        เคาน์เตสกระหายเลือดจึงถูกปิดฉากลง  คงเหลือไว้แต่ภาพตำนานผีดูดเลือดสาว  คู่แข่งของนังปิศาจร่านสวาท"Sucubus"  และที่สำคัญคือ  หลังยุคของอลิซาเบธ  บาโธรี่จบลง  ก็ไม่มีใครเลยที่จะบ้าคลั่งเท่าๆกับเคาน์เตสกระหายเลือดผู้นี้

        แต่.........ผมเชื่อว่าโลกของเรานั้นในปัจจุบันยังมีคนหลายคนที่บ้า  กระหายอำนาจเหมือนกับอลิซาเบธ  บาโธรี่  หากมนุษย์ยังคงมีกิเลสที่ไม่สามารถลดหย่อนผ่อนปรนไปได้ 
       
        อาจจะมีเคาน์เตส อลิซาเบธ คนที่สองหรืออาจมีมากกว่านี้เกิดขึ้นมาอีกก็ได้



      มันมีวิธีสวยแบบนี้ด้วยหรอ+O+
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | +IIMim_pz''= | 21 พ.ย. 52 22:20 น.

Stay Alive ....

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | fernfriend (ไม่เป็นสมาชิก) | 21 พ.ย. 52 22:45 น.

เคยอ่านเรื่องของคนๆนี้ในการ์ตูน อึ้งในความวิปริตของเธอมาก

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | ใครนะใครนั่นสิใคร | 21 พ.ย. 52 22:50 น.

คห2การ์ตูนเรื่องอะไรคะจะหาอ่าน^_______^

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | fernfriend (ไม่เป็นสมาชิก) | 21 พ.ย. 52 22:58 น.

การ์ตูนชุด Princess มีหลายเล่ม จำไม่ได้เล่มไหน แต่ก็รวบรวมไว้หลายๆเรื่อง รวมถึงนิทานกริม ที่เอามาเล่าในเวอร์ชั่นโหดร้ายด้วย  ไม่แน่นะอาจมี ลิซซี่ด้วย ไม่แน่ใจ มันเลือนลางๆ อ่านมานานแล้ว

P.S การ์ตูนมันติดเรทด้วย เตรียมใจไว้ด้วยล่ะ หุหุหุ

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | summuner (ไม่เป็นสมาชิก) | 21 พ.ย. 52 23:02 น.

  น่ากัวเน้อ

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | โบซอก_เลือดผสม (ไม่เป็นสมาชิก) | 21 พ.ย. 52 23:03 น.

ซาดิสท์

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | \m/.E.T.\m/ | 21 พ.ย. 52 23:14 น.

บาโธรี่ จงเจริญ!!!





แก้ไขล่าสุด 21 พ.ย. 52 23:15 | ไอพี: ไม่แสดง

#8 | spit_it_out | 21 พ.ย. 52 23:53 น.

Paranoid look'in over my back .
It's like aaaaaa!!!!!!!!!

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | เปลี่ยนไปนะเรา (ไม่เป็นสมาชิก) | 22 พ.ย. 52 00:17 น.

ใจคอทำด้วยอะไรน้อ

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | ;(โลลิต้า.DCL>SFB)* | 22 พ.ย. 52 07:51 น.

อ่านะ คนเรา

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | wfrick | 22 พ.ย. 52 10:46 น.

เคยอ่านประวัติเธออยู่สักพัก 

ไอพี: ไม่แสดง

#12 | #ปaวก*กิu*ดิusะlบิด? | 22 พ.ย. 52 13:07 น.

อ๊ายซัคคูบัสชั้นไปเก่วไรด้วยฟ่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#13 | poo_123 | 22 พ.ย. 52 14:01 น.

มีเอาไปทำเป็นหนังหรือเปล่า?

เรื่องอะไร...อยากหาดู 

ไอพี: ไม่แสดง

#14 | (....BLEACH....) | 22 พ.ย. 52 21:06 น.

แฮะๆๆ ขี้เกียจอ่านแปะไว้ก่อนละกัน...

ไอพี: ไม่แสดง

#15 | \m/.E.T.\m/ | 23 พ.ย. 52 21:22 น.

เท่าที่จำได้นะ หนัง ชื่อเดียวกันกับตัวเอง
Bathory อะไรทำนองเนี่ย

ไอพี: ไม่แสดง

#16 | #2076 | 23 พ.ย. 52 21:51 น.

คห.1 ดูเหมือนกัน เรื่องนี้ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ชอบ CG เรื่องนี้มาก  

ไอพี: ไม่แสดง

#17 | นู๋พาย (ไม่เป็นสมาชิก) | 24 พ.ย. 52 15:17 น.

โชคดีที่เกิดไม่ทันชี

ไม่งั้น

หูย

หยองมากมายค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#18 | --[VIP]G-ri--[2NE1] | 25 พ.ย. 52 22:56 น.

ว้าว

สุดยอดอะคิดได้ยังไงเนี่ย

ไอพี: ไม่แสดง

#19 | `.(vixen,tw') | 27 พ.ย. 52 20:21 น.

- - มนุษย์หรือเปล่าวะนั่น

ไอพี: ไม่แสดง

#20 | ~HIBARI_KYOYA~ (ไม่เป็นสมาชิก) | 28 พ.ย. 52 15:56 น.

อ่านะ  ก็งี้แหละ

คนเรามันชอบไม่เหมือนกันไง  อย่างที่บาโทรี่ชอบเลือด ^^

ไอพี: ไม่แสดง

#21 | mbtaweenq | 1 มี.ค. 53 19:11 น.

= [ ] =
น่ากลัว

ไอพี: ไม่แสดง

#22 | youthy27 | 16 มี.ค. 53 16:34 น.

น่ากลัว 

ไอพี: ไม่แสดง

#23 | ๕'l___TVXQ! | 13 เม.ย. 53 23:33 น.

น่ากลัวมากเลย

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google