[Review] มาวิจารณ์อัลบั้ม Loud (จบแล้ว)

(8/10) ย่างเข้าสู่ปีที่ 7 ในวงการ กับการฝ่าฟันอุปสรรคมากมายจนกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้.. จากสาวบ้านๆที่ไม่มีใครรู้จักแม้แต่ประเทศของเธอพร้อมกับแนวเพลงที่คนเค้าก็ทำมาเยอะ การลองผิดลองถูก แต่โชคดีหน่อย เพราะว่า ห่านคือผู้รอดชีวิต จนวันนี้เธอคือหนึ่งในตัวการสำคัญที่มีอิทธิพลมากที่สุดในอุตสาหกรรมดนตรีแห่งยุค เธอทำได้ทำให้ทั่วโลกยอมรับ และทำให้ประเทศของเธอได้ปรากฏอยู่บนแผนที่โลก และมีวัน Rihanna's Day เป็นของตัวเอง อันดับหนึ่งในไอดอลที่ส่วนตัวรู้สึก "รัก" เป็นพิเศษ เธอเป็นแรงบันดาลใจในการฟังเพลงสากลเลย การกลับมาในลุคสาวหัวแดง ร้อนแรงไปทั่วโลกแล้วตอนนี้สำหรับพ๊อพฮิฮอพอาร์แอนด์บีเซ็กซี่สตาร์ไอค่อนยุคปัจจุบัน การกลับมาสดใส เปรี้ยว ก๋ากั่นสมวัย แล้วก็ไม่ใช่เปรี้ยวสร้างกระแสเพ้อเจ้อ งานชิ้นนี้เต็มไปด้วยศักยภาพ คุณภาพล้นๆ แอร๊ยย การกลับมาครั้งนี้ สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 5 เป็นการรวมเอา Rated R หม่นๆ และ Good Girl Gone Bad แรดซ่องแตก มามิกส์รวมกันกับ Music Of The Sun ได้อารมณ์อาร์แอนด์บีบัลลาดเร็กเก้สดๆ ห่านนำเอาแนวเพลงที่ตัวเองชอบมามิกส์ให้เข้ากับตัวนางเองได้อย่างเหมาะสม โมเดิร์นร็อค อาร์แอนด์บี พ๊อพ บัลลาดร็อค กีต้าร์ไฟฟ้า โซโล่ อัลบั้มนี้ก็เหมือน Rated R ตรงที่ไม่อิงกระแส ไม่แคร์แฟนคลับ ไม่ได้ทำมาเพื่อที่จะดัง แต่นางทำเพราะว่า "อยากทำ" แบบไม่แคร์ค่ายเลยทีเดียว อัลบั้มนี้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนของนาง รวมทั้งการสื่ออารมณ์ ดรามาติค เปรี้ยว กะเทย เพ้อเจ้อ ซ่องแตก และเป็นอัลบั้มที่สุดในปี 2011 นี้เลยเชียวโน๊ะ?

Only Girl (In the World)(9/10) แอร๊ยยยยเปิดตัวมาซิงเกิ้ลแรกก็แร่ดซะแร่ะ อิเล็กทรอนิกส์ ยูโรพ๊อพแดนซ์ ฉาบซินธิ์ สดใสๆ(?) มิดเทมโพ บีทกลองตึบๆมันเร้าใจมากกก ท่อนฮุคนางเว่อร์ได้อีก และเนื้อหาก็เพ้อเจ้ออป่วงจิตสุดๆ 5555 เป็นแทร็คที่ระเบิดซ่องฆ่ากะเทยมากๆ สาดออโต้จูนกระจายย อร๊ายยยยย การร้องวีนๆ อารมณ์ยุค 90's กรี๊ดดดดดด แต่มีข้อดีมันต้องมีข้อเสีย อี Stargate คนเดิมหายไปไหน? หรือว่า ทางค่ายใช้งานหนักเกินไป เลยแกล้งประชดเบาๆ==? ทำลีดซิงเกิ้ลอิห่านช้านบ้านนอกมากๆ กรี้สๆๆๆๆๆๆ แต่อย่างไรก็ตามนางคิดถูกมาเพราะเพลงนี้เป็นเพลงเดียวที่เหมาะกับการเปิดอัลบั้มนี้มากที่สุด
What's My Name? (featuring Drake)(8.5/10) กรี๊ดดดด พูดตามตรงเลยว่าเพลงนี้ถ้าไม่ได้สำเนียงอิห่านร้องก็คงไม่โดดเด้งขนาดนี้ ฟิวเจอร์ริสติก อาร์แอนด์บี มิดเทมโพ บีทเอื่อยๆ เนิบนาบ ซอฟต์แจม ติดกลิ่นฮิพฮอพ ท่อนแร๊พเซ๊กซี่มากกก ท่อนคอรัสมันน่าแหกหยีตามมากๆรุย แอร๊ยย เพลงนี้กลายเป็น signature ของห่านไปแล้วตอนนี้ เป็นอะไรที่เข้ากับห่านและเป็นห่านมากกกกๆ กลิ่นเร๊กเก้ลอยฟุ้งไปทั้งเพลง กับท่อน Oh na na What's my name ที่ได้ยินทีไรเป็นต้องร้องตาม แอร๊ยยยย .. แต่ฟังไปเรื่อยๆก็เริ่มเกลียดอิเดรกขึ้นสมองทันที เนื่องจากมันแร๊พได้จากตอนแรกเซ้กซี่เป็นน่าเบื่อมากๆ ทำให้เพลงน่าเบื่ิอไปด้วยเลยทีเดียว
Raining Men (featuring Nicki Minaj)(6/10) เป็นแทร็คที่เกลียดมากๆในอัลบั้ม รวมทั้งเบื่อเสียงนิคกี้มาฟีทมากมาย หร่อนจะแร๊พแบบเดียว ทำนองเดียวทุกเพลงเลยรึไง? อารมณ์เพลงเหมือนเดโม่เรยอ่ะั  เหมือนทำยังไม่เสร็จดี ฮิพฮอพอาร์แอนด์บี อัพบีท เสียงไซเรนทำให้เพลงดูมีอะไรๆขึ้นมา 'มากเกินไป' == อิดวอกรกหูมากกก ดาวน์เกรดอัลบั้มนี้ไปเลยทีเดียว แถมยังมั่นในหนัีงหน้าปล่อยในวิทยุอีกตะหาก ถึงจะรักอิห่านขนาดไหนเพลงนี้ดูวอนนาบีอิบีมากมาย แต่ยังดีที่มันยังติดอยู่ฝั่งสไตล์ MIA มากกว่า

S&M(7.5/10) อร๊ายยยย ชอบตรงนี้แหล่ะเปิดอัลบั้มแบบสวยๆ เป็นแทร็คที่บอกภาพรวมเนื้อหา ดนตรี อารมณ์ พัฒนาการของอัลบั้มนี้ได้ดีที่สุด ถึงแม้มันจะเหมือนกับเอาของเก่ากลับมาหากินไปนิดนึง(?)ก็เถอะ ยูโรแดนซ์ อิเล็กทรอนิกส์อัพบีทเทมโพ พ๊อพแดนซ์สังเคราะห์ บีทกลองสดๆ เบสหนักๆ ฉาบซินธิ์แรงๆ ตามฉบับ club banger ชั้นเริ่ด อร๊ายยยยยย ระเบิดซ่องฆ่ากะเทยตายแน่นอน
S&M(Remix) - Rihanna(featuring Britney Spears)(7/10) แอร๊ยยยย การร่วมงานกันของพรินเซสออฟพ๊อพทั้งขาวแล่ะผิวสี กลายเป็นเหมือนเพลงเดโม่ไต้ดินมากๆ เสียงเป็ดๆ ซึ่งอีห่านโดนอีหอกแย่งซีนไปเต็มๆกรี๊ดดดดด บอกได้คำเดียวว่ารีมิกส์มาได้แรดแตก และฆ่าต้นฉบับตายหร่า แบบต้นฉบับตายสนิทมากๆ แต่ยังยืนยันว่าต้นฉบับเป้ะ และดูเป็น Official มากกว่าโน๊ะ อันนี้ยังกะกะหรี่สกอยซ์มามิกส์ให้ซะงั้น มันถึงออกมาแรดไงค๊าาา แอร๊ยยยย เป็นรีมิกซ์แห่งปีเรยทีเดียว เสียงบริทเข้ากับเพลงมากกก ตอนอ้า อ้า อ้า มันฟินนน กรี๊ดดดดดดด ปล.หน้าจะสลับชื่อคนร้องกับเจ้าของเพลงน่ะค่ะ //ยุอีห่านตบอีหอก กรี๊ดดดดดดดดด
California King Bed(9/10) และแล้วห่านก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังซักครั้งกับบัลาดกินใจๆ อดัลท์ คอนเทมโพรารี่ อคูสติกบัลลาดบริสุทธิ์ไปด้วยเนื้อหาและความสดสวยของนักร้อง โฮ๊ะๆๆ เป็นพ๊อพบัลลาดที่ค่อนข้างหนักด้วยทั้งเสียงอีห่านแร่ะก็กีต้าร์ไฟฟ้า แบบซอฟท์ร็อค เพลงนี้ให้อารมณ์เหงามากกก กับการเล่นคำอย่างฉลาด เนื้อเพลงก็คิดถึงแฟน อารมณ์เหงาๆ ห่างแค่เพียงเอื้อมมือแต่มันคือแสนไกลอ่ะน่ะ เพลงนี้อิห่านแหกปากไม่กลัวเสียงเจ๊งเรยอ่ะ อร๊ายยย เป็นบัลลาดดีๆเชิดชูอัลบั้มอีกเพลงโน๊ะ?

Man Down(10/10) มิดเทมโพแร๊กเก้ลอยฟุ้ง เข้าถึงยาก ยืนพื้นด้วยพ๊อพ ผสมเออร์บันดำปี๋  เป็นการผสมแนว raggae ที่ห่านถนัด จับมายัดใส่ pop ซึ่งกลายเป็นสเน่ห์อีกอย่างของห่านไปแล้ว กับสำเนียงแปร่งๆ แรดๆ สาดโพแกรมมิ่ง จับเสียงหวอมายัดใส่ 55 ความเป็นดรามาติคคือตัวขับเคลื่อนเพลงนี้ เนื้อหาที่หลายคนหามานาน มันเป็นการเปรียบเทียบการยิงผู้ชายคือการทำร้ายผู้ชายเหมือนกับการฆ่าเค้าทั้งเป็น หลังจากที่คิดไม่ตกไปนานสองนานว่าจะทำดีมั้ย สุดท้ายก็ตัดสินใจจะทำร้ายเค้า แล้วตัวเองก็กลับมาเสียใจทีหลัง *Peggy Sue คือปืนพกของห่าน* ซึ่งติ่งหยีที่ฟังแต่เพลงพ๊อพกากๆนำเสนอประโคมการปรุงแต่งนานาทำให้เพลงมันน่าฟังสังเคราะห์ไปเรื่อยก็คงไม่เข้าใจ รสนิยมมันสอนกันไม่ได้จริงๆ การมีอคติไม่ใช่คนฟังเพลง ..น่ะค๊ะ^^
Cheers (Drink to That)(10/10) กรี๊ดดดดด มันเริ่ดมากกกๆๆ sample เสียงอิวีญจาก i'm with you ทำให้ได้ฟิลอารมณ์มึนเมามันส์ เข้าไปอีก พ๊อพร็อคดิบๆ กับคอรัสที่หืมม มันได้อารมณ์เมาๆเหวี่ยงๆในผับมากก คนไทยสุดๆ ทำดีแค่ไหนเค้าก็คงไม่เห็นหัวเราหรอก มาดื่มกันเถอะ อารมณ์กรึ่มๆ อคูสติกมิดเทมโพหม่นๆบีทอ่อนๆ กับการร้องปนแร๊พ เจือเสียงสังเคราะห์  กอรปกับเสียงคนร้องโห่นี่ก็เศร้าเป็นธรรมชาติส่งเพลงสุดๆ เป็นแทรคเด่นๆในอัลบั้มแร่ะ ฟังเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ แอร๊ยยยย เก๋ๆ เป็นแทร็คที่จะทำให้คุณอยากให้เปิดมากที่สุดเวลาไปผับกับเพื่อนหรือคนรู้ใจแล้วไม่อยากเต้น แล้วก็ถ้าฟังแล้วเข้าถึงอาจจะต้องเพิ่งแอลกอฮอล์จริงๆล่ะนะ ให้ตายสิ ตัดเพลงนี้ทีเถอะ ยังไงก็ดังเลยย รับรองง กรี๊ดๆๆๆๆ
Fading(7.5/10) หืมมมม คอนเทมโพรารี่อาร์แอนด์บี อคูสติบัลลาดประโคมเครื่องสาย เมโลดี้หวานๆ เป็นการใส่เครื่องสายที่ส่งเพลงสุดๆ อร๊ายยย ดูมีชั้นเชิง เทคนิคการเล่นเสียง แอบใส่เพียโนน่ารักๆไปด้วย อะไรต่างๆ ตัวเพลงมัน fresh มากกๆๆ ให้อารมณ์สบายๆ ลมเอื่อยๆบนหาดทราย หืมมม ฟังแล้วมีความสุขอ่ะ ตัดมาคู่กะเพลงบนเลย และก็มั่นด้วยว่าเพลงนี้ต้องดังงงงงมากกกก อยางน้อยก็.. ประเทศไทย ติ่งหยีชอบนักแล กรั่กๆๆๆๆ

Complicated(7.5/10) แอร๊ยยย เริ่มเพลงด้วยดนตรีใสๆ แล้วระเบิดไปด้วยการแผดเสียงที่หืมมมม สงสัยจะเริ่มทนไม่ไหวจริงๆ ระเบิดใส่แบบ "ทำไมทุกวันที่เราอยู่ด้วยกันมันช่างผ่านไปยากเย็นอย่างงี้ว๊ะ!" อิเล็กทรอนิกส์พ๊อพบัลลาด สาดโพรแกรมมิ่ง ติดกลิ่นเฮาส์ ฉาบเสียงสังเคราะห์ อัพเทมโพเริ่ดๆอีกเพลง แสดงออกถึงความสับสน'จนเกินไป'ได้เริ่ดมากๆๆ==
Skin(10/10) อาร์แอนด์บีเนิบนาบ อารมณ์เร่าร้อนๆ มิดเทมโพดาวน์สโลว์แจมเซ็กซี่ย์ๆฟังแล้วอยากแนบเนื้อกับใครซักคนจริงๆ อารมณ์งุ่นง่าน ฉาบซินธิ์ลื่นๆ อร๊ายยยย เนื้อเพลงกับดนตรีมันส่อมากกก สาดกีต้าร์ร็อคในช่วงโซโล่ปลดปล่อยอารมณ์ หืมม กรี๊ดดดดด ฟินนนนนนน แต่มองในอีกแง่นึงคือดนตรีมันหลอนนมากกก อารมณ์เกือบเป็นดั๊บเสต็ปเลยทีเดียว บรื๋อออ
Love the Way You Lie (Part II) (featuring Eminem)(8.5/10)  อร๊ายยยยยย มาต่อกันภาค 2 กันดีกว่า ภาคดนตรีอลังมากกกก อาร์แอนด์บีบัลลาด บีทกลองร็อคทรงพลัง คลอเสียงเพียโน ใช้น้ำเสียงเกรี้ยวกราด ดุดัน ประชดประชัน ตัดพ้อ สื่ออารมณ์ได้ดี ได้ Eminem มาแร๊พให้สลับกันไป เป็นเหมือนอีกมุมมองของผู้หญิง ที่เราก็เจ็บปวดเป็นเหมือนกัน ปิดอัลบั้มไปได้อย่างสวยงามเลยเชียวววว

สรุป กรี๊ดดด เป็นอัลบั้มที่ฟังได้ทุกแทร็คจริงๆ หลายหลายอารมณ์ พ๊อพแท้ๆ พ๊อพบริสุทธิ์ ปะปนกับอาร์แอนด์บีที่ เร็กเก้ ร็อค บัลลาดตามลำดับ และโชคดีที่มันฟังง่าย ห่านกำลังเรียกฐานแฟนคลับคืนพร้อมกับพัฒนาการเรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง การผสมผสานไม่ทิ้งห่างไปจาก Rated R แต่เพิ่มความตลาดอย่าง Good Girl Gone Bad ไปนิดๆ ณ ตอนนี้ Rihanna แสดงตนเป็น The Next Madonna ได้ชัดเจนที่สุด
#All Reviews