{ ? } การแปลภาษาแปลอย่างไรให้ได้ใจความและเข้าใจ
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ถ้าเเปลในใจให้เรารู้คนเดียว ก็ไม่ต้องมีอะไรมากหรอก มองปราดเดียวก็รู้เรื่องเเล้ว ถ้าเเปลลงบล๊อค เเปลหนังสือ ก็ดูตัวที่เป็นต้นฉบับอ่านให้จบไปก่อน 1 รอบ เเปลตามที่ตัวเองเข้าใจ เเล้วเวลาเขียน หรือ พิมพ์ลงไป ทำให้คนอื่นอ่านรู้เรื่องเเละคงอารมณ์เดิมเอาไว้ อาจจะใช้คำที่ไม่ตรงเป๊ะกับที่เป็นภาษาต้นฉบับ เเต่เอาให้เมื่ออ่านประโยคนี้ ก็ยังเข้าใจเหมือนตอนที่อ่านมาจากภาษาต้นฉบับ ส่วนตัวก็ฝึกจากเวลาดูหนังก็เปิดซับอังกฤษเอา เเล้วก็หนังสือลองอ่านที่เป็นภาษาอังกฤษเเล้วลองเอามาเเปลดู หรือ ลงข่าวในสยามโซนนี่ล่ะค่ะ เอาข่าวมาจากเวปนอกเเล้วก็นั่งแปล คนอ่านไม่เข้าใจ เค้าก็คอมเม้นด่าเองล่ะค่ะ 
อันนี้วิธีส่วนตัวนะ
อันนี้เด็กแอดรุ่นนี้ใช่มะ อืมๆ ถ้าใช่ก็รุ่นเดียวกันแจร้
มาพูดถึงเรื่องเนื้อหาระทู้นี้
สำหรับเรานะ ในหมวดของ Reading นั้นเป็นข้อสอบที่เขาไม่ได้ต้องการเรารู้เนื้อเรื่องทั้งหมดที่เขาให้มา เข้าใจมั้ย? เขาแค่ต้องการให้เราทราบว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เพราะน้านไม่ต้องไปอ่านหมดทุก Passage อย่างแรกที่จำเป็นต้องทำในหมวดของ Reading คือ
1. เริ่มจาก Scan คำถามที่เขาให้มาก่อนว่าเขาถามอะไร พอเราสแกนคำถามเสร็จแล้วก็แปลด้วยว่าคำถามนั้นเขาถามอะไรเรา หลังจากนั้นเราก็พิจารณาว่าคำถามไหนควรตอบได้เลยโดยไม่ต้องอ่าน Passage คำถามไหนควรอ่านเนื้อเรื่อง ส่วนใหญ่คำถามที่จะตอบได้เลยก็อย่างเช่นพวก Vocab พวกนี้ถ้าเรารู้ความหมายของศัพท์ที่เขาถามมาแล้วเราก็จะเลือกช้อยซ์ตอบไปได้เลย ก็จะทำให้เราประหยัดเวลาในการทำข้อสอบได้ไปอีกหน่อย
2. หากเจอคำถามที่พูดถึงการสรุป (Sum up, Summarize, Conclude, Deduce, Infer) พวกนี้เราต้องอ่านเนือ้เรื่องก่อนเลย ..
วิธีการอ่านเนื้อเรื่องของเราก็คือ ... อ่านเฉพาะว่าใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ให้เราพอได้รู้ว่าเขากำลังจะบอกอะไรเรา ไม่จำเป็นต้องอ่านหมดเราก็ทำข้อสอบได้อย่างง่าย
มีทริคมาฝากการทำข้อสอบ Reading คือใจความหรือเมนไอเดียส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประโยคแรก และประโยคสุดท้าย
มาพูดถึงเรื่องการแปล
การแปลนั้นแน่นอน เราต้องอาศัยสำเนียงการแปลของตัวเอง กล่าวคือแปลยังไงก็ได้ให้ข้อความในภาษาอังกฤษที่เขาให้มานั้นมันเข้าใจง่าย และอยู่ในขอบเขตของเรื่องนั้นๆ อาจจะเสริมเติมแต่งให้มันดูสละสลวยขึ้น แต่อย่าให้มันมากไปจนนอกเรื่อง เรื่องแกรมม่าถือว่าสำคัญมากสำหรับเรื่องการแปล Vocab ก็ต้องแม่น
สิ่งที่สำคัญที่สุดการแปลคือ แปลยังไงก็ได้ให้เราเข้าใจ และไม่ให้เนื้อหาที่เราแปลมันออกนอกขอบเขตที่โจทย์เขาให้มา
มาเรื่องการทำข้อสอบ Cloze Test
หมวดนี้ไม่ง่ายและไม่ยากไป สิ่งสำคัญของหมวดนี้คือต้องรู้พวกคำศัพท์ให้เยอะ ที่เขาจะชอบออกบ่อยๆ คือพวกสันธาน คำเชื่อม สิ่งนี้แหละต้องรู้ให้มาก และที่สำคัญต้องอาศัยการแปลสูง และที่สำคัญเขาวัดแกรมม่าเรานะจ๊ะ
ขอยกตัวอย่างข้อสอบเบสิคๆ ให้ละกัน
That girl ____ by a teacher is my sister.
a. is punished
b. punishing
c. punished
d. punishes
นี่แหละ ข้อสอบ Cloze Test ที่เราเคยเอาไปสอนให้เด็ก ม.3 ข้อนี้เป็นการวัดแกรมม่าเรื่อง Participle ถ้าเราไม่มีอะไรในสมองในเรื่อง Participle เลย บอกได้คำเดียวจร้า เดี้ยงคาโต๊ะสอบ
ให้กลับไปคิดนะข้อนี้
ส่วนเรื่อง Error Analyze นั่นเป็นข้อสอบพิชิตพวกเซียนแกรมม่า ยากมากจร้าข้อสอบนี้
หลักการทำข้อสอบนี้เราต้องหาประธานหลัก กับกริยาหลักก่อนว่าคืออะไร
ขอทิ้งข้อสอบให้กลับไปคิดซักนิดละกัน เดี๋ยวมาเฉลยนะจร๊ะ
(a)When (b)blame (c)among people, I felt (d)embarrassed
ลองทำดูนะ คิดว่าอันไหนผิด ^ ^
นิดนึงนะจร๊ะ สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ ตอนนี้เราได้สร้างเพจมาเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับภาษาอังกฤษแล้ว
ใครที่สมัครเพซบุ๊คเป็นของตัวเองแล้วกดไลค์เข้าไปได้เลยนะจร๊ะ
คลิกเลยแจร้
That girl ____ by a teacher is my sister.
a. is punished
b. punishing
c. punished
d. punishes
ตอบข้อ A. ใช่มั้ยฮะพี่ *0* เพราะว่ามันต้องเป็น Passive voice เพราะประธานโดนกระทำ 
ผิดจ่ะ
คำตอบคือ ข้อ. c
เพราะอะไร ... เพราะว่า Punished ไม่ใช่กริยาแท้ของประโยคไงเธอว์ กริยาแท้ของประโยคนี้คือ is เธอดูนะ
ถ้าเธอตอบว่า
That girl is punished by a teacher is my sister. จะเป็นโครงสร้างที่ผิดแกรมม่าทันที่ ซึ่งจะทำให้เสียคะแนนข้อนี้ไปเลย
สมมตินะ ถ้าเธอเลือกข้อนี้เป็นคำตอบ จะทำให้กริยาในประโยคนี้มีสองตัวทันที่ ซึ่งตามหลักแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลย เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดส์ (ถ้าตอบข้อ a จะพิจารณาได้ว่ากริยาของประโยคนี้คือ is ตัวหน้า และ is ตัวหลัง)
เพราะน้าน ประโยคนี้เราต้องการแค่กริยาแท้ตัวเดียวคือ is (my sister)
จากนั้นเราก็มาดูช้อยซ์และเริ่มทำการตัดช้อยซ์ ข้อไหนที่เป็นกริยาแท้เราตัดทิ้งหมด จากช้อยซ์
a. is punished
b. punishing
c. punished
d. punishes
จะสังเกตได้ว่า ข้อ a และ d เป็นกริยาแท้ เราจึงตัดทิ้ง เพื่อไม่ให้โครงสร้างของแกรมม่าผิดเพี้ยนไป ดังนั้นก็จะเหลือ b และ c ...
จะสังเกตเห็นว่า ข้างหน้าช่องว่างจะมีคำว่า by ซึ่งก็แน่ชัดแล้วว่ามันเป็นเรื่อง Passive Voice เรื่องนี้เธอวิเคราะห์ถูก จากข้อ b และ c มาดูว่าข้อไหนเป็นกริยาช่อง 3
b. punishing = อันนี้เรียกว่า Present Participle คือกริยาที่ขยายประธานว่าเป็นผู้กระทำกริยานั้นๆ เอง ไม่ได้เป็นผู้ถูกกระทำ กล่าวคือเป็น Active Voice
c. punished = ข้อนี้เรียกว่า Past Participle คือกริยาที่ขายประธานว่าเป็นผู้ถูกกระทำ โดยใคร ก็ใช้ by (ส่วนใหญ่จะไม่ใส่ by ก็ได้ และจะเจอมากในข้อสอบเข้ามหาลัย เขาจะเอามาหลอกเรา) ตัวนี้เป็นว็อยซ์ที่เรียกว่า Passive Voice
พอเราวิเคราะห์ช๊อยซ์แต่ละช๊อยซ์ได้แล้ว ก็มาเลือกให้มันเหมาะสมกับโจทย์
เพราะน้านกริยาที่ถูกกระทำ ที่ทำหน้าเป็นส่วนขยายคือข้อ c นั้นเอง 
ขอทิ้งท้ายด้วยโครงสร้างของประโยคนี้
S + [past participle (ประธานถูกกระทำ) หรือ present participle (ประธานเป็นผู้กระทำ)] + V
*หมายเหตุ ตัวเน้นสีแดงหมายถึงประธานหลัก และกริยาหลัก
- - - - - - - -
ขอเสริมอีกนิด ถ้าเธอต้องการจะตอบข้อ a ละก็ ... ประโยคต้องเป็นเช่นนี้
That girl who____ by a teacher is my sister.
ต้องมี Relative Pronoun เข้ามาด้วย จุดนี้ต้องสังเกตให้ดี ถ้ามีตัว Relative Pronoun มาเธอจะตอบข้อ a ถูกต้อง แต่เมื่อไม่มีก็ต้องกลับไปศึกษาเรื่อง Participle ให้ชัดเจน
ถามว่าความหมายเหมือนกันมั้ย ระหว่าง ....
That girl who is punished by a teacher is my sister.
That girl punished by a teacher is my sister.
บอกได้เต็มปากว่าความหมายเหมือนกันนจร้าาาา
คห.7 อ้อๆ เข้าใจะละจ้า ^^"
ขอตัวอย่างแบบฝึกหัดอีกสัก ข้อสองข้อได้ัมั้ยอ่าจ้า ^^
ขอเอาข้อสอบ Cloze Test 1 ข้อ Error 1 ข้อละกันนะจร๊ะ
1. He is so selfish. _____, he always takes advantage of friends.
a. Consequently
b. Besides
c. Seeing that
d. But
^ ^ ข้อนี้ง่ายหน่อยนะจร๊ํะ แค่แปลได้ก็ได้คำตอบแว้ววว
2. Malee (a)who has (b)a young boyfriend (c)have gone (d)to Japan.
ข้อนี้วิธีเลือกก็คือจะมีวงเล็บอยู่เป็น (a), (b), (c), (d) อยู่หน้าข้อ Error ที่คิดว่าอาจจะผิด หนูคิดว่าข้อไหนผิดเลือกมาได้เลยแจร้
ฝึกทำของง่ายๆ แล้วลองไปฝึกทำข้อสอบ GAT หรือ ONET มานะจร๊ะ ถ้าสงสัยอะไรตรงไหนก็ถามได้ที่เฟซบุ๊คเลยจร้า
/me โปรโมทอีกรอบ แอร๊ยยยย คลิ๊ก
1. He is so selfish. _____, he always takes advantage of friends.
a. Consequently
b. Besides
c. Seeing that
d. But
- - - -- - -
2. Malee (a)who has (b)a young boyfriend (c)have gone (d)to Japan.
ใช่มั้ยอ่าครับ *0*
ข้อ 1 ผิดจร้า
คำตอบคือ b. Besides ข้อนี้ถ้าเราแปลได้จะง่ายๆ มากๆ เลย มาแปลโจทย์กัน
เขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก ...... เขาก็มักจะชอบเอาเปรียบเพื่อนๆ อยู่เสมอ
เสร็จแล้วเราก็มาแปลช้อยซ์กัน
a. ดังนั้น
b. ยิ่งไปกว่านั้น
c. เพราะว่า
d. แต่
เราดูจากประโยคแล้วเนี่ย จากประโยคแรกที่เขาบอกว่า เขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก ถือว่าเป็นประโยคที่ Negative หรือที่เรียกว่าประโยคในเชิงลบ แล้วพอเรามาดูตัวหลัง เขาก็มักจะชอบเอาเปรียบเพื่อนๆ อยู่เสมอ อันนี้ก็การขยายความที่ Negative เช่นนั้น เพราะน้าน ในช้อยซ์มีอยู่เพียงข้อเดียวเท่านั้นที่เอาไว้ใช้เชื่อมประโยคที่ข้างหน้าเป็น - ข้างหลังก็เป็น - หรือถ้าข้างหน้าเป็น + ข้างหลังก็เป็น +
เพราะน้านคำตอบคือข้อ b. Besides มาเทียบความหมายกันสำหรับข้อที่เลือกกับข้อที่เราเลือก
He is so selfish. Besides, he always takes advantage of friends.
เขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็มักจะชอบเอาเปรียบเพื่อนๆ อยู่เสมอ
He is so selfish. Seeing That, he always takes advantage of friends.
เขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก เพราะว่า เขาก็มักจะชอบเอาเปรียบเพื่อนๆ อยู่เสมอ
จะเห็นว่าข้อนี้มันก้ำกึ่ง แต่อยากให้จำไว้ว่า ถ้าเธออยากจะใช้ Seeing That หรือ Because นั้นต้องเป็นการให้เหตุผล เช่น
I am sick. Because I was walking in the rain.
ข้างหน้าแสดงถึงผล และข้างหลังแสดงถึงเหตุว่าทำไมถึงป่วย
ส่วนข้อสองที่ตอบมา ถูกแล้วจร้าาาา
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google