คิดยังไงกับเด็กสายศิลป์สามารถสอบแพทย์ได้
ทางด้าน รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม รองกรรมการอนุกรรมการสอบคัดเลือก กสพท.ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวเสริมว่า "ที่ผ่านมาในส่วนของ คณะสายแพทย์ ของมหาวิทยาลัยมหิดล ยังไม่มีนักเรียน ม.6 สายศิลป์ผ่านการคัดเลือกผ่านระบบ กสพท.เข้ามา ซึ่งอาจจะเป็นเพราะนักเรียนเหล่านั้นไม่ได้เรียนในวิชากลุ่มวิทยาศาสตร์สายแพทย์ จึงทำให้ทำข้อสอบแข่งกับสายวิทย์ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ตามระเบียบการไม่ได้ปิดกั้น หากนักเรียนสายศิลป์สนใจก็มีสิทธิ์คัดเลือกได้เต็มที่"
(C) เด็กดี http://www.เด็กดี.com/content/admissions/29279/
.... กระทู้นี้ย้ายมาจากห้องเบ็ดเตล็ด ...
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
คงยุติธรรม แค่เด็กสายศิลป์บางคนอาจจะไม่มีความรู้ด้านวิทย์ไง
แพทย์ใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มากกกกกกกกก
มันเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับวิศวะมาแล้ว
ที่เด็กสายศิลป์ติดิศวะ เพราะ วิชา ไทย อังกฤษ สังคม
เด็กที่ได้มาคุณภาพไม่ถึง เพราะ ไม่มีพื้นฐานทางวิทย์แน่นพอ ทำให้มีคนโดนไทร์เยอะ
หลายมหาลัยจึงเปิดรับตรงกันเอง มากกว่า90%
เช่น รับตรง 500คน เปิดรับแอดมิชชั่น 15คน
รับตรงก็ระบุว่า เฉพาะเด็กวิทย์
สอบเฉพาะ ฟิสิกส์ เคมี เลข อังกฤษ
แต่กสพท.ก็ไม่เอาเกรดอยู่แล้ว เรียนสายวิทย์ก็ได้เปรียบเห็นๆ ยกเว้ยตรงข้อสอบสายสายศิลป์มีหลายวิชาอยู่ แต่ยังมีเกินคะแนนไม่ต่ำกว่า30อยู่ พวกฟิสิกส์ เลข ข้อสอบน้อยโอกาสมั่วแล้วเลยมีน้อย
ก็ยุติธรรมดีนะ
เราสายวิทย์คณิตแต่ไม่ชอบงานด้านวิทย์คณิตสักอย่าง
ชอบงานด้านสายศิลป์ กับงานอิสระพวกธุรกิจ
กลัวเข้าไปแล้วเรียนไม่ได้มากกว่า ประมานว่าไม่เคยเจอมาก่อน
กดดันเพราะเพื่อนรู้แต่เราไม่ อาจจะต้องปูพื้นใหม่
กลัวเข้าไปแล้วเรียนไม่ได้มากกว่า ประมานว่าไม่เคยเจอมาก่อน
กดดันเพราะเพื่อนรู้แต่เราไม่ อาจจะต้องปูพื้นใหม่
same 13
เข้าได้ก็ดีแล้วนี่คะ แต่ประเด็นก็ตามนั้นแหละ
ต้องไปปูพื้นฐานใหม่ ถ้าเขาชอบจริงๆเขาก็เรียนได้แหละค่ะ
ก็ดูยุติธรรมดีเหมือนกันนะ ถ้าสอบได้ก็คือได้เรียน
แต่ถ้าจะแบ่งขนาดว่าเด็กสายวิทย์ต้องเรียนสายวิทย์เท่านั้นนะ สายศิลป์ต้องศิลป์เท่านั้น
งั้นตอนสอบเข้ามหาลัยก็จำกัดไปเลย จะได้ไม่เกิดปัญหาแย่งกันเรียน
ความจริงไม่น่าจะแบ่งสายเลยมากกว่า บางคนความสนใจเรียน ความตั้งใจมันต่างกัน
เด็กสายศิลป์เรียนดีตั้งใจมีเยอะจะตายไป
ก็แปลกดี ไม่ต้องเรียนถึงด๊อกเตอร์แค่การศึกษาระดับมัธยมก็ทำให้คนดูถูกกันได้
ปล. คหสต.จ้า
บางทีห้องวิทย์คณิตอยู่แล้วกดดันเลยเลือกที่จะอยู่ในที่ที่เหมาะกับตนเอง แต่ไม่ทำตัวให้เกรดตกต่ำ มันก็มีสิทธิ์ทั้งนั้นแหละ
มันก็ยุติธรรม แต่ส่วนตัวนะคิดว่าโอกาสน้อยมาก
เพราะเด็กสายศิลป์เรียนไม่ลึกถึงขนาดเด็กสายวิทย์
ทางที่ดีเราว่าจัดระบบให้เด็กวิทย์ไม่มาสามารถสอบคณะ
ของเด็กสายศิลป์จะดีกว่า อันนี้ยุติธรรมกว่าเยอะเลย
ก็ดีนะ ไม่ต้องเรียนวิทย์โดนโรงเรียนกดเกรด
ไปเรียนกวดวิชาเอา แต่พวกวิชาเกี่ยวกับทดลอง เกี่ยวกับแล็บ
หรือวิชาวิทย์ต่างๆ จะสู้พวกวิทย์ไม่ได้
เข้าเรียนคณะแพทย์ก็ลำบากกว่านะ เราว่า ต้องมีวิชาที่ต้องเจาะลึกลงไปอีก
บางวิชาเขาก็คิดว่าเราเรียนตอนม.ปลายมา เค้าก็ไม่ย้อนให้
แต่มันก็เป็นโอกาสดี สำหรับเด็กศิลป์บางคนที่สอบวิทย์ไม่ได้ หรือเลือกเรียนสายผิดเหมือนที่เด็กวิทย์บางคนเลือกเรียนสายผิดน่ะแหละจ้า
#21 บางคนอาจจะอยากเน้นไปด้านนี้ ดังนั้นถ้าเรียนวิทย์คณิตโอกาสเป็นหมอนี่มีเยอะมาก
ในขณะเดียวกันเขาก็ให้โอกาสกับเด็กศิลป์ที่มีความรู้มาสอบได้
มันไม่เกี่ยวกับสายเลยนะจริงๆ ถ้าหัวเราฉลาดพอก็สอบได้ .
เรียนวิทย์ก็ติดได้ เรียนศิลป์ถ้าไม่ฉลาดจริง (เพราะไม่ได้เรียนพวกฟิสิกเคมีชีวะบลาๆ) ก็ไม่ติดหรอก.
เราว่าวิทย์ สอบเข้าศิลป์ คือเด็กวิทย์เรียนมาหมดอะ ความรู้ไม่ห่างมาก
แต่เด็กศิลป์ ได้เรียนปะ ฟิสิกส์เคมีชีวะอะ จะลดไปให้คะแนนไทยสังคมหรอ
หมอนะเฮ้ย ความรู้ที่ใช้จริงก็วิทย์อิ้งทั้งนั้นอะ แล้วใช้วิทย์ "ทุกตัว"
อาชีพมันก็ รับผิดชอบชีวิตคน ความรู้มันก็ต้องมาตั้งแต่พื้นฐาน
ถ้าจะมานั่งอ่านเอง เรียนพิเศษเก็บเอา แล้วจะเรียนสายศิลป์ทำไม ไม่ไปเรียนสายวิทย์อะ
เหมือนไม่เอาอะไรจากโรงเรียนแล้ว เข้าใจอารมณ์มะ ??
เห็นมีแต่คนบอกยุติธรรม ตอนแรกก็ไม่กล้าเม้น แต่เราว่ามันไม่ค่อยโอเท่าไหร่หนะ
เรียนให้มันเท่ากันเลยเหอะงี้ แยกสายทำไม
เด็กวิทย์เรียนหัวบานเป็นจานทรูแล้วเจียดเวลาไปเรียนพิเศษงานก็เยอะ
ระหว่างเด็กศิลป์ สบาย เวลาเยอะกว่า ลงเรียนพิเศษเลยเต็มที่
ไม่ต้องเก็บคะแนนสอบวิทย์ รร เก็บคะแนนงานให้ปวดหัวด้วย ?
ไม่ยุติธรรม
สายศิลป์ เขาไม่ได้อยู่ในสภาวะเครียดกดดัน เรียนวิทย์สามตัว
เรียนเลขเรียนอิ้งอีกนิดหน่อย เหมือนเด็กสายวิทย์หรอก
เขาไม่รู้สึกถึงความยากตลอดเวลาสามปีที่เด็กสายวิทย์ทนมา
#### อิจฉา อิจฉาโว้ยย
โคตรไม่ยุติธรรม
คหสต.
ไลค์ 30 รัวๆ เสียงโดนรุมในกระทู้นี้มากๆ...
เค้าว่าถ้าเด็กสายศิลป์สอบเข้าคณะแพทย์ได้แสดงว่าเขาก็เก่งพอดูเลยนะ
อีกอย่างถึงจะไม่ได้เรียนวิทย์สามตัว แต่เชื่อเถอะ ส่วนใหญ่ก็มาจากการเรียนพิเศษกันทั้งนั้น
จริงอยู่ที่เหมือนเอาเปรียบสายวิทย์-คณิต เพราะการเรียนมันดูสบายกว่าสายวิทย์ แต่ถ้าเขาความสามารถถึง เค้าคิดว่าก็น่าจะให้เขาได้เรียนนะ เขาสามารถไปเรียนวิทย์เสริมจากข้างนอกได้ ส่วนคณิตศาสตร์ก็เรียนตัวเดียวกับสายวิทย์ เขามุ่งมั่นตั้งใจ ก็ให้เขาลองเถอะ
เค้าเรียนสายศิลป์-คำนวณ แต่ไม่ได้จะเข้าแพทย์นะ บอกตรงๆ หลายคนเรียนสายวิทย์ แต่ก็เลือกที่จะเข้าคณะที่ไม่ใช่พวกแพทย์หรือวิศวะอะไรทั้งหลาย มันก็ทำให้พวกเค้ารู้สึกไม่ดีเหมือนกัน
บางคนสอบเข้าแพทย์หรือวิศวะ สถาปัตย์ไรไม่ได้ยังพอเข้าใจ แต่บางคนมันมีจุดมุ่งหมายจะเข้าพวกคณะศิลป์ มันก็น่าจะความรู้สึกเดียวๆ กันน่ะแหละ
เราว่าดีอย่างเสียอย่าง
ดีมากที่เปิดโอกาส เด็กวิทย์ยังมาสอบของศิลป์ได้ เด็กศิลป์ก็สอบได้หมือนกัน
แต่เด็กศิลป์ที่ตั้งใจจริงๆ ก็ต้องเน้นต้องหนัก พื้นฐานที่เรียนมันไม่เหมือนกัน
เด็กศิลป์เก่งเยอะไม่เรียนสายวิทย์พราะกลัวฉุดเกรด
แต่คงมีน้อยมากที่เด็กศิลป์จะเข้าแพทย์ติด
เราว่าได้ภาษาแต่เสียเปรียบนิดหน่อยตรงต้องเน้นหนักวิทย์
กว่าจะได้มาเป็นเด็กวิทย์ เด็กศิลป์ เหมือนเด็กวิทย์จะเข้ายากมากกว่านะ
เรียนก็หนักกว่า เยอะกว่า
ยากลำบากกว่าก็ต้องมีสิทธิ์ได้เลือกมากกว่าสิ
ไม่ยุติธรรม
ยุติธรรม แต่ไม่ควรทำ (คหสต.)
คือไม่รู้สิ เราว่ายังไงเด็กวิทย์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ก็ต้องมากกว่าอยู่ดี
มันอาจจะทำให้มีปัญหาตอนที่ต้องเข้าไปเรียนจริง
เพราะเด็กศิลป์เรียนแค่วิทย์พื้นฐานสัปดาร์ละแค่2คาบ
เด็กวิทย์ เรียนแค่ชีวะ(วิชาที่ใช้มากที่สุดในการเรียนแพทย์)ก็ตั้ง3คาบ
แล้วไหนจะเคมี ฟิสิกส์ (บางโรงเรียนอาจมีวิทย์พื้น)
ถ้าให้พูดตรงๆก็คือ ต่อให้ฟลุคเข้าไปได้ ก็อยู่ได้ไม่เกินปี1แน่ๆ
แล้วอีกอย่างที่เด็กวิทย์มีสิทธิ์สอบได้ทั้งวิทย์ทั้งศิลป์
ก็คงเพราะเด็กวิทย์เรียนหนักกว่าหลานเท่า เข้าก็ยากกว่า การบ้าน+งาน ก็เยอะกว่า
แต่ใจจริงแล้วเราว่าเค้าน่าจะจัดระบบให้แบบว่า
เด็กวิทย์ก็สอบเข้าคณะที่เป็นวิทย์เท่านั้น
เด็กศิลป์ก็สอบเข้าคณะที่เป็นศิลป์เท่านั้น
นี้แหละยุติธรรมที่สุด
เด็กวิทย์บางคนอย่าดูถูกกันให้มากนักเลย ไอที่บอกเรียนไม่เท่ากันอ่ะ วิทย์ยากกว่า
โอเคมันยากกว่าก็จริง แล้วไงอ่ะ เรียนสายศิลป์ไม่ยากอ่อ ง่ายมากเลยดิ ?
คนที่บอกว่าสายศิลป์เรียนสบายอ่ะ เปลี่ยนความคิดเถอะนะคะ ไม่เสมอไป
มันก็ยากแหละ แต่ก็คนละแบบอ่านะแล้วแต่คน
แล้วถ้าเกิดมีเด็กสายศิลป์สอบเข้าแพทย์ได้จริงๆ เขาก็น่าจะเก่งพอตัวแหละ
เพราะเด็กวิทย์บางคนยังไม่ติดก็มีนิ
ลองให้โอกาสกันบ้าง เผื่อเค้าเพิ่งค้นพบตัวเอง
อีกอย่างเด็กที่เค้าเลือกสายศิลป์มาตั้งแต่แรก เค้าคงไม่ได้คิดอยากจะเป็นหมอตั้งแต่แรกแหละ
อย่าดิ คหบน
มันไม่ใช่แค่ยากกว่า มันไม่เหมือนกันเลยด้วย
ถ้าได้ก็ เรื่องของเขา ไม่ได้กั๊ก ไม่ได้หวง
สอบได้ก็เรียนไปดิ แต่มันใช่ปะ เรียนสายศิลป์มาสอบหมออะ
มันจะได้ซักกี่คน แล้วตอนเรียนๆ อยู่อะ
เหนื่อยปะ ยากปะ ติดปะ พื้นฐานมาก็แน่นไม่เ่ท่ากันแล้ว
เทียบตารางสอนเลย รร ไหนก็ได้ สองสาย แล้วค่อยว่า หนักจริง เนื้อหาเยอะจริง
เอาความรู้แต่ที่อ่านเองเรียนพิเศษมามีรร ไว้ทำไร
ไม่ได้ดูถูก สมองเท่ากัน แต่สิ่งที่ถูกอัดมา มันไม่เท่ากัน
ถ้าเด็กสายศิลป์อยากเป็นหมอก็คงลงเรียนสายหลักเป็นวิทย์ไปนานแล้วแหละ
ไม่มาเลือกสายศิลป์ให้เสียเวลาหรอกคงไม่ลงเรียนคนให้คนอื่นดูถูกเล่นหรอกนะ
เราเรียนสายศิลป์อิ๊ง-ญี่ปุ่นเรียนอิ๊งบางวันมี 4 เรียงกันคาบเช้าก็เรียนหนักเหมือนกัน
เข้าใจความรู้สึกตอนสอบพวกสายวิทย์มาแย่งสอบไหมละ ?
ยุติธรรมดี
ถ้าเข้าได้แสดงว่าเจ๋งจริง
มันก็เหมือนๆ ที่สายวิทย์เลือกคณะของสายศิลป์นั้นแหละ
ไม่ได้ต่างกัน
เขาก็บอกแล้วว่าให้สิทธิ์เลือกเต็มที่
มีสิทธิ์เลือกเหมือนที่สายวิทย์เลือกได้ทุกคณะ
สอบได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องนึง ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขา
เราเรียนสายวิทย์ ...เราว่ายุติธรรมดีค่ะ
ไม่รู้สิ...เราว่าถ้าพวกเด็กศิลป์จะสอบได้ก็สอบไป
แต่จะเรียนได้ไหมอีกเรื่องนึง เดี๋ยวก็รู้
เพราะวิชาพวกแผนวิทย์อย่าง ฟิสิกส์ เคมี เป็นวิชาทักษะ
ไม่ใช่ว่าวันสองวันจะเก่งปุบปับ อย่างดีก็ชีวะที่อ่านเอาก็ได้
แต่นั่นแหละ มันสยองตรงที่ชีวะเนื้อหาแน่นปึ้ก เยอะปั้ก
ส่วนที่พูดว่า "เอ๊า...แล้วทีเด็กวิทย์สอบคณะของศิลป์ได้"
ก็เพราะสิ่งที่ศิลป์เรียนมา วิทย์เค้าเรียนหมดไงคะ
แต่ประเทศสารขัณฑ์แลนด์เนี่ยมันอยู่ยาก จริงๆถ้าให้เลือกงทะเบียนวิชาที่ชอบเหมือนพวกฝรั่ง...ไม่ต้องแบ่งแผนเวิ่นเว้อ ก็ "จบ" ใครจะลงแค่ชีวะ ประวัติศาสตร์ กฎหมาย เคมี สนใจอะไรก็ลง แต่ว่าเวลาจะสอเข้ามหาลัย ก็ดูสิว่าคณะไรใช้การเรียนวิชาอะไรบ้าง? อย่างหมอเมืองนอกเนี่ย ไม่กำหนดด้วยซ้ำว่าต้องเรียนฟิสิกส์มา -_-
ดิท : จะไม่บอกว่า "คหสต" นะ ... ใครวิจารณ์ไรก็ว่ามา เพราะคิดว่า ถ้ามันจะ "คหสต" ขนาดนั้น...เก็บไว้ส่วนตัวเถอะป้า
งั้นถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปสายศิลป์คงบูมอะค่ะ
เพราะตัดหมอออกไปสายวิทย์คงมีที่ว่างอีกเยอะมาก
ศิลป์กับวิทย์มันหนักคนละแบบกัน ไม่มีใครหนักไปกว่ากันหรอกค่ะ
แต่การที่เด็กสายวิทย์ต้องมานั่งเรียนฟิสิกส์ เคมี ชีวะ สัปดาห์ละเป็นสิบๆ คาบ คณิตหลักคณิตเสริมอีกเกือบสิบคาบ
แต่สายศิลป์ไปหนักทางศิลปะกับภาษา ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าสบายกว่าหรอกนะ
เจ๋งจริงเอาให้ติดวิทย์ตั้งแต่แรกดีกว่า ไม่ต้องไปเรียนหรอกสายศิลป์
สอบติดได้เราก็ว่าเรียนไม่ไหวหรอก สามปีในมอปลายมันทำให้พื้นฐานห่างกันเยอะนะ
ไม่ได้จะดูถูกใครทั้งนั้น แต่ของแบบนี้ลองแล้วจะรู้
ปล.ได้ยินมาว่าสายศิลป์สอบผ่านก็ให้ตกสัมภาษณ์ค่ะ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google