ไดอารี่ สำหรับคนจัดฟัน
หวังว่าคงมีประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจจะจัดฟันบ้างเน้อ
ตัว จขกท. เองเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองฟันตัวเองยื่นประมาณ ม.ปลาย ตอนนั้นไม่ได้ซีเรียสมาก เพื่อนก็ล้อไป อิเฉาะ อิหนูนา บลาๆ แต่ก็คิดว่า เออช่างมัน น่ารักดีฟันกระต่าย (ตรงไหน) =_=
จนมาประมาณพอขึ้นมหาวิทยาลัยเริ่มอยากจะจัดฟันจริงจัง เพราะพอส่องกระจกดีๆ แล้ว ฟันมันไม่กระต่ายแฮะ พอดูด้านข้างนี่แบบ หือมันเฉาะออกมามากจริงๆ ทำให้ปากดูอูมไปด้วย
ด้านหน้า (เป็นฟันกระต่ายดูน่ารักดี =_=)
พอมาดูด้านข้างจะเริ่มเห็นว่าฟันมันบิดไปมาก
มองด้านข้างแล้วเหมือนฟันมันพุ่งเป็น สามเหลี่ยมออกไป ^
อ้อนที่บ้านอยู่นานมาก ไฟท์กับพ่อกับแม่ทุกวัน
แต่ก็โดนปฎิเสธนับครั้งไม่ถ้วน ไร้สาระบ้างแหละ ฟันไม่มีปัญหามั่งล่ะ
ตอนนั้นท้อแล้ว ช่างมันอยู่แบบปลวกๆ แบบนี้ต่อไปล่ะดีแล้ว TT
เห็นเพื่อนสวยก็อยากสวยมั่งเนอะ
จนสุดท้าย.... สร้างขอแลกเปลี่ยนกับพ่อ
"ถ้าหนูเรียนดีหนูขอจัดฟันนะ" ในที่สุด TT ก็ได้จัดแล้ว ฮือ ดีใจมาก
รีบแจ้นไปปรึกษาหมอทันที กลัวพ่อไม่ให้จัด 5555
ไปปรึกษาหมอทั้งหมด 3 คลินิก
คลินิกแรก :: หมอบอกว่า ฟันยื่นทำให้ปากอูม แต่ไม่สามารถจัดให้ฟันเข้าไปได้แล้ว คงได้แต่จัดให้มันไม่บิด เพราะฟันหลังเขี้ยวเราถอนไปเพราะฟันผุไปตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่มีพื้นที่เหลือให้ฟันเข้าไปแล้ว TT เอาฟิลม์เอ็กซเรย์มาแล้วติดอุปกรณ์ได้เลยแอบงง อ้าวไม่เคลียร์ช่องปากก่อนหรอคะ หมอบอกติดก่อนแล้วค่อยเคลียร์ (เออแปลกดี) ใช้เวลาจัดประมาณ 1 ปีครึ่ง
อัตราค่าบริการ ราคา 42,000 ไม่รวมรีเทนเนอร์ แบ่งจ่าย 14,000 บาท 2ครั้ง ครั้งต่อไป 1,400 จนกว่าจะครบ 42000 ถ้าจ่ายครบแล้วยังจัดไม่เสร็จ ครั้งต่อไปฟรี
พิมพ์ฟัน 1,200 บาท
คลินิกที่สอง :: หมอบอกว่า เพราะไม่มีฟันหลังเขี้ยวแล้ว อาจต้องปักหมุด ราคาตัวละ 4000 ซึ่งไม่แน่ใจว่าต้องปักกี่ตัว หมอคนนี้เป็นผู้หญิง เลยส่งตัว จขกท. ไปให้หมอผู้ชายอีกคนแนะนำ ผลคือ เหมือนเดิมต้องปักหมุนประมาณ 4 ตัว O_O ใช้เวลาจัดประมาณ 2 ปีครึ่ง
อัตราค่าบริการ ราคา 56,000 ไม่รวมรีเทนเนอร์ แบ่งจ่่าย 8,000 บาท 2 ครั้ง ครั้งตอไป 2,000 จนกว่าจะครบ ค่าวางแผนการรักษา พิมพ์ฟัน เอ็กซเรย์ 4,700 บาท ผ่าฟันคุดซี่ละ 5,200 บาท *(คลินิกนี้แพงมาก จขกท. เลยขอบาย)
คลินิกที่สาม :: หมอบอกคล้ายๆกัน ว่า ไม่สามารถให้ฟันยุบลงไปได้มาก เพราะฟันหลังเขี้ยวไม่มีแล้ว ไม่มีพื้นที่ให้ดึงฟันเข้าไป ในเคสของ จขกท. หมอบอกอีกว่า ฟันหน้า 2 ซี่ใหญ่มาก อาจจะต้องกรอให้ซี่เล็กลง ก็อาจจะทำให้ฟันมีพื้นที่ยุบลงไปได้อีกนิดหน่อย ถ้าตัดสินใจทำก็เอาฟิลม์เอ็กซเรย์มาวันติดอุปกรณ์ สามารถเคลียร์ช่องปากที่โรงพยาบาลของรัฐได้ ใช้เวลาจัดประมาณ 2 ปีครึ่ง
อัตราค่าบริการ ราคา 35,000 บาท ไม่รวมรีเทนเนอร์ แบ่งจ่าย 3,000 บาท 4 ครั้ง ครั้งแต่ไป 1,000 บาทจนกว่าจะครบ ถ้าจ่ายครบแล้วยังจัดไม่เสร็จ ครั้งต่อไปฟรี พิมพ์ฟัน 1,000 บาท
สุดท้าย จขกท. ตกลงปลงใจไปกับคลินิกที่ 3 เพราะราคาถูก แบ่งจ่ายได้ราคาสบายกระเป๋าดี (แพงเกินสงสารพ่อ) แถมหมออธิบายดี พูดตรง ได้คือได้ ไม่ได้คือไม่ได้
ปล. จขกท. ถามว่า หมอคะ ถ้าหนูจัดฟันหนูจะมีคาง แล้วหน้าจะเรียวกว่านี้มั๊ยคะ หมอตอบแบบไร้เยื่อใยมาก ไม่ครับ! *ยิ้มหวาน* TT
เริ่มจากเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลพังงา 2 ฟิลม์ ราคา 600 บาท
เอ็กซเรย์กระโหลก 1 ฟิลม์
เอ็กซเรย์ช่องปาก 1 ฟิลม์
และแล้วก็มาถึงเวลาสยอง "เคลียร์ช่องปาก"
จขกท. ตัดสินใจเคลียร์ที่โรงพยาบาลของรัฐ เพราะทำสิทธิ 30 บาทเอาไว้ #งก
!!!อยากขอเตือนไว้เลยว่าอย่าทำที่โรงพยาบาลทับสะแกนี้เด็ดขาด!!!
ครั้งแรกขูดหินปูน :: หมอทำรุนแรงมาก จนเลือดออก ปกติขูดหินปูนมันเลือดออกขนาดนี้หรอ แถม จนท. ดูดน้ำลายก็เอาสายดูดน้ำลายมาทิ่มๆ ไม่่คิดบ้างหรอว่าหนูเจ็บนะคะ ปฏิบัติหน้าที่ไป เม้าเรื่องชาวบ้านไป ไม่เวิคนะคะ แล้วจขกท.ก็ กลับบ้านด้วยช่องปากพังๆ
แต่ไม่เข็ด ไม่หมดศรัทธาในโรงพยาบาลของรัฐอีก
ผ่าฟันคุดทั้งหมด 4 ซี่ :: สองซี่บนชิวๆ ไม่เจ็บเท่าไหร่ เพราะมันงอกพ้นเหงือกมาแล้วนิดหน่อย
หน้าบวม =_=
ผ่าฟันคุด 2ซี่ล่าง!! ขอบอกว่านี่เป็นอะไรนี่นรกสุดๆ
ซี่แรกฝังในเหงือก ต้องกรอฟันให้แตก ถอนออกมาไม่ได้ ก่อนเข้าห้องผ่า ชีพจรเต้นเร็วมาก จนหมอดุ (ดุทำไม? หนูควบคุมได้ที่ไหน? ครั้งนี้หมอผช.) โดนอัดยาชาไม่รู้กี่เข็มต่อกี่เข็ม คุณจนท. ดูดน้ำลายก็ทำได้แย่เหมือนเดิม
ผ่าเสร็จกลับมาบ้านเห้ย ไม่เจ็บ** ชิวๆ กลับมาถึงไม่ประคบอะไรทั้งสิ้น นั่งดูรายการชินฮวาบังซง หัวเราะกระจาย กัดผ้าก็อตไป 2 ชั่วโมง ถึงเวลาเอาออก มานั่งดูต่อ กินน้ำไปด้วย ซักพักระหว่างหัวเราะได้ยินเสียงดัง กึก! ก็ไม่สนใจอะไร นั่งจิบนมไป เริ่มรู้สึกว่าเอ๊ะทำไมปากเราชาจนเก็บน้ำนมไม่อยู่ ไหลย้อนออกมา....สักพัก เริ่มผิดปกติ ไปดูกระจก..แม่เจ้า!! เลือดสดๆ ไหลอาบ ไหลแบบเป็นก็อกอ่ะ พลั่กๆ วิ่งไปหาแม่ แม่ให้อมน้ำเย็นให้เลือดหยุดไหล สรุปต้องไปโรงพยาบาลทั้งเลือดโชกๆ เพราะด้ายที่แผลหลุด =_= เจ็บตัวอีกรอบ กลับมานอนน้ำตาไหล หน้าเริ่มบวม
เข้าใจคำว่า แม้แต่น้ำก็กลืนไม่ได้ก็คราวนี้
บวมไปทั้งหน้า ประหนึ่งว่าไปศัลยกรรมมา
ส่วนผ่าซี่ที่ 2 ไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะเริ่มรู้ตัว ผ่าโรงพยาบาลเดิม หมอคนเดิม โดนด่าเรื่องเดิม (ไม่เข็ด) แต่คราวนี้กลับมา รีบนอนเอาเจลประคบเย็นประคบทันที เหลือเชื่อ รอบนี้หน้าไม่บวมเลย กินน้ำข้าวได้บ้าง
สำหรับคนผ่าฟันคุดแนะนำเลย เจลประคบเย็น ช่วยได้มากจริงๆ TT
หลังจากนี้จะเป็นการติดอุปกรณ์แล้ว อยู่ใน คห.1 นะ
อัพเดือนพ.ค.- มิ.ย อยู่ คห. 15
อัพเดตเดือนส.ค.-ก.ย อยู่คห. 21
ฝากกระทู้ BF-AT ด้วยจ้า
http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=3591959
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
และแล้วก็ถึงเวลาติดอุปกรณ์แล้ว จขกท. เริ่มติดอุปกรณ์ เดือน ธันวาคม
ไปถึงคลินิกก็เอาฟิลม์เอ็กซเรย์ให้หมอ พร้อมเลือกสียาง ที่คลินิกมีสีตามนี้
จขกท. เลือกเบอร์ 31
เดินออกมาจากคลินิกด้วยความไม่มั่นใจ ไม่กล้ายิ้ม TT ไม่ชิน
วันแรกจัดหนัก สเตกหมู ในใจคิด หือไม่เห็นจะเจ็บเลย หมอเวอร์ไหนบอกจะเจ็บ โด่ๆ
..
.
หลังจากนี้คือ นรก อีกครั้ง เช้าตื่นมาเจ็บมาก เจ็บเหมือนเราโดนชกปากแล้วฟันกำลังจะร่วงอ่ะ แปรงฟันลำบาก กินอะไรไม่ได้ นอกจากโจ๊ก รำคาญเหล็ก จนอยากกระชากออกมาก
เดือน มกราคม เลือกยางเบอร์ 16
ฟันที่ซ้อนเก เริ่มแยกออกแล้ว สังเกตตรงเขี้ยวล่างหมอติดอุปกรณ์ให้แปลกมาก เพราะฟันจขกท. มันบิด
เดือนกุมภาพันธุ์ (เอสเจเอ็มจะมา จขกท. เลยจัดสีน้ำเงินเบอร์ 32)
ผ่านไปเกือบครึ่งเดือน เหลือเชื่อ ฟันเริ่มห่างแล้ว O_O
เดือนมีนาคม (เดือนนี้วุ่นวายกับการสอบมาก ลืมถ่ายรูปเก็บเอาไว้ แงแง เลยไปตัดมา ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่) ยางสีเขียวเบอร์ 44
ลืมบอกไปเดือนนี้ไม่เจ็บฟันเลย กินแหลกอีกเช่นเคย
เดือนเมษายน ล่าสุด อยากลองสลับสีดูมั่ง เลยเลือก สีม่วงเบอร์ 35 สลับกับชมพู เบอร์ 55
สีหวานน่ารักมาก
ฟันห่างสุดๆ ไม่กล้ายิ้มให้ใคร (หยิ่งๆ 555)
สังเกตว่าพอดูจากด้านข้าง ฟันไม่บิดมากแล้วแทบจะเรียบไปหมดแล้ว เร็วเวอร์
ดิทเพิ่มเติม
สีม่วงที่ใส่เป็นม่วงใส ใส่ๆ ไปเปลี่ยนเป็นสีเขียว เพราะกินชาเขียวเข้าไป เซ็ง 55555 เข็ดทีหลังไม่ใส่ละ
สรุป จขกท. จัดฟันได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว >_< ฟันเริ่มแยกเร็วมาก อยากจัดเสร็จเร็วๆ ไว้จะมาอัพเดตเรื่อยๆ น้า
คห. 11 กว่าจะหายปวดประมาณ 1 อาทิตย์ค่ะ (ตอนใส่แรกๆ) ส่วนกว่าจะชินกับเหล็ก ก็ประมาณ เดือนที่ 2 อ่ะค่ะ แบบว่ารำคาญมาก
ขอบคุณค่ะ กำลังหากระทู้แบบนี้อยู่พอดี 
- หลังจากไปปรึกษาหมอที่คลีนิค
ต้องรอนานมั้ยค่ะกว่าจะได้ใส่เครื่องมือ
คห. 14 ปรึกษาหมอแล้ว เคลียร์ช่องปากประมาณ เดือนครึ่ง นัดคิวใส่อุปกรณ์อีก ประมาณ 1 เดือนจ้า
อัพๆ
เดือน พฤษภาคม
ด้วยความสิ้นคิด ไม่รู้จะเอาสีไหนแล้ว เลยเลือกโทนเดิม เลือกยางสีส้ม เบอร์ 1 กับชมพู เบอร์ 55
** ลืมถ่ายรูปเก็บไว้อีกแล้ว ต้องไปตัดจากรูปที่ถ่ายเล่นมา อาจเห็นสีไม่ชัดนะ TT
สังเกตว่าฟันหน้าสองซี่ ห่างมากๆ เป็นอุโมง ==
เดือนมิถุนายน เลือกยางสีแดงเบอร์ 16 สลับกับ สีน้ำเงิน เบอร์ 32 *** แต่ผู้ช่วยดันหยิบให้ผิด เป็นสีฟ้า เบอร์ 31 แทน =_= เหอๆ
เดือนนี้หมอใส่เชนให้ O_o เห้ย เร็วมากอ่ะ ผ่านไปไม่กี่เดือนเอง
หมอใส่เชนรวบฟันให้ 4 ซี่ล่าง ตอนใส่เจ็บๆ ตึงๆ นิดหน่อยพอทนได้ ทำฟันเสร็จไปทำงานพิเศษต่อ ขยันจัด 555 (ใกล้คอน SS5)
ไปทำฟันตอน บ่าย 2 เลิกงาน1 ทุ่ม เห้ยยยยยย ฟันที่ห่างเป็นอุโมงชิดแล้ว 5 ชั่วโมงเอง TT
ฟันด้านข้างห่างแทน =_=
จะบอกว่านรกของการจัดฟัน คือการใส่เชนนี่แหละ (เวอร์) คือมันปวดทรมานมาก ฟันกระทบกันไม่ได้เลย กัดอะไรไม่ได้ ยังดีที่ใส่เชนแค่ฟันหน้า ฟันกรามเลยยังพอเคี้ยวได้ กัดได้ เดือนนี้เลยไม่ผอมเท่าไหร่ คึคึคึ
เดือนสิงหาคม เลือกยางสีม่วงเบอร์ 23 เดือนหนูหมอใส่เชนเพิ่มให้ ตรงฟันกลาม ดึงฟันที่หมุนผิดที่ให้เข้าที่เดิม เป็นอะไรที่ปวดร้าว ทรมานมาก กินอะไรไม่ได้เลย
เดือนกันยายน เลือกใส่ยางเบอร์ 43
เดือนนี้**ังคงใส่เชนที่ฟันกลามเหมือนเดิม ฟันเริ่มเคลื่อนหมุนกลับในทิศที่ควรจะเป็นแล้ว >_<
** จะบอกว่าเดือนตุลาคมไม่ได้ไปหาหมอ 5555 รอเดือนนี้ละกันนะคะ หนูขอโทษค่าาาาา
สังเกตว่าฟันกลามที่หมุนผิดรูป เคลื่อนเร็วมาก คุณหมอสุดยอด
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google