Britney Spears บทที่ 4: จากสาวไร้เดียงสา สู่สาววัยสะพรั่ง

24 เม.ย. 56 11:32 น. / ดู 1,757 ครั้ง / 10 ความเห็น / 2 ชอบจัง / แชร์















Britney ใช้เวลากว่าครึ่งปี (ค.ศ.2002 / พ.ศ.2545) เพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ลึกๆแล้วทุกคนรู้ว่าเธอกำลังค้นหาตัวเองอย่างจริงจัง

ระหว่างนั้นข่าวคราวของเธอมีออกมาให้ชาวโลกได้รับรู้เป็นช่วงๆ แต่พอพ้นครึ่งปีแรกไปแล้วดูเหมือนว่า Britney พร้อมแล้วที่จะกลับมาสร้างผลงานอันน่าตื่นตาตื่นใจของเธออีกครั้งแม้ไม่มีใครรู้ว่าเธอจะแข็งแกร่งกว่าเก่าหรือไม่ แต่แฟนๆของเธอก็ยังคงหวังว่าผลงานใหม่ๆของเธอคงพอจะสร้างสีสันให้หายคิดถึงกันได้บ้าง

Britney เปิดฉากสร้างความหวือหวาคนแฟนเพลงทั่วโลกต้องตกตะลึงอ้าปากค้างเมื่อเธอไปวาดลวดลายบนเวทีของการประกาศรางวัล MTV Video Music Awards ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.2003 (พ.ศ.2546)

บนเวทีนั้นมี Madonna เจ้าแม่วงการเพลงป๊อบรุ่นเก๋ายืนพื้นเป็นเจ้าภาพเพลง Like a Virgin ซึ่งเป็นเพลงดังยอดฮิตของเธอในอดีต จากนั้นก็มีนักร้องรับเชิญสุดดังอย่าง Britney Spears และ Christina Aguilera ขึ้นมาวาดลวดลายร่วมกันบนเวที

สิ่งที่ทำให้ทุกคนลืมหายใจไปชั่วขณะก็คือลีลาการบดปากจูบชนิดไม่มีการหลบกล้องของ Madonna กับ Britney และระหว่าง Madonna กับ Christina ที่ต้องบอกว่าเร่าร้อน ตื่นเต้น ราวกับเห็นฉากรักของสาวเลสเบี้ยนที่จูบกันโดยปราศจากเซ็นเซอร์อย่างดูดดื่มลืมตายแห่งศตวรรษภาพดังกล่าวได้รับการแพร่ภาพไปทั่วรวมทั้งยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหูแบบสุดๆ

น่าแปลกที่ภาพการจูบปากอย่างดูดดื่มระหว่าง Madonna กับ Christina นั้นไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นซีนที่ Madonna ประกบปากจูบกับ Britney นั้นกลายเป็นภาพตรึงใจที่ทำให้มีการพูดถึงกันจนป่นไปหมด

ดูเหมือนว่าการกลับมาของ Britney คราวนี้แฝงไปด้วยความไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่งและเป็นการอุ่นเครื่องให้ผู้คนนึกถึงเธอขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เธอหยุดงานไปนานกว่าครึ่งปี การอุ่นเครื่องแบบนี้ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งถวิลหาเพลงชุดต่อไปของเธอซึ่งน่าจะดูเซ็กซี่ ไม่ต่างจากการออกมาเปิดตัวด้วยลีลาสุด**ท่ามกลางฤดูร้อนของอเมริกาในเวลานั้น




• ตัวตนของเธอที่ปรากฏบนเพลง

Britney ทำตัวให้เป็นข่าวระยะๆ แต่ละช่วงก็ได้ผลไม่ใช่น้อย กว่าจะถึงเดือน พฤศจิกายน ค.ศ.2003 (พ.ศ.2546) ซึ่งเป็นช่วงที่เธอปล่อยอัลบั้มล่าสุดชุดที่ 4 ในชื่อ In the Zone ออกมาก็เป็นช่วงที่ใครๆกเรียกร้องหาเธอกันเสียงระงมเข้าไปแล้ว

อัลบั้มล่าสุดนั้นสร้างความฮือฮาได้ไม่ขาดช่วง เพราะเป็นที่รู้กันว่า Britney นั้นเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการเขียนเพลงถึง 8 เพลง จากจำนวนเพลงทั้งหมด 13 เพลงในอัลบั้ม

การเขียนเพลงของเธอช่วยบ่งบอกให้รู้ว่าตัวตนของอัลบั้มนั้นสะท้อนความคิดและความเป็น Britney Spears ที่แท้จริงออกมาแทบทั้งหมด ใครรู้จักเพลงนั้นก็ต้องรู้จักเธอดียิ่งขึ้นนั่นเอง นอกจากนั้นงานในอัลบั้มดังกล่าวยังมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดบางประการ เช่น ในชุดอัลบั้มมีการเขี่ยสไตล์ดนตรีแบบ Synthpop ที่เคยที Max Martin ทำเพลงให้ออกไป ขณะเดียวกันก็อ้าแขนตอบรับ Producer ที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงอย่าง RedZone เข้ามา และเพื่อการันตีให้เพลงดียิ่งๆขึ้นก็รับเอา Producer ชื่อดังอย่าง Moby และ R.Kelly เข้ามาช่วย สิ่งเหล่านี้คือความแปลกใหม่ที่ทำให้ Britney กลายเป็น New Britney ที่มีลีลาการทำเพลงที่แปลกออกไปจากเดิม และเมื่อมีการนำเพลงออกสู่ตลาดปรากฏว่าเพลงของเธอได้รับการตอบรับอ่างล้นหลามไม่แพ้อัลบั้มก่อนหน้าทั้งสามเลย

อัลบั้ม “In the Zone” ของเธอนั้นสามารถพุ่งขึ้นทะลุเป้าเพียงแค่การเปิดตัวในสัปดาห์แรกเท่านั้นมันพุ่งขึ้นติดชาร์ตชื่อดังแทบทุกชาร์ตในอเมริกาทั้งยังทำยอดขายมากมายถึง 609,000 ก๊อปปี้ (บางแหล่งระบุที่ 909,000 แผ่น) ผลงานยอดเยี่ยมและการตอบรับอย่างล้นหลามของแฟนเพลงของเธอนั้นทำให้ Britney กลายเป็นนักร้องหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำยอดขายทั้ง 4 อัลบั้มติดอันดับที่ 1 ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม สาวน้อยมากความสามารถเช่นเธอก็ยังคงตกเป็นขี้ปากของนักวิจารณ์เสมอราวกับเป็นเนื้อคู่กันมาแต่ชาติปางก่อนหนังสือที่วิจารณ์เธออย่างแรงก็คือหนังสือชื่อ สไตลัส แมกกาซีน

สไตลัส แมกกาซีน ระบุว่า Britney นั้นกำลังเปลี่ยนจาก “สาวน้อยหวานใสไปสู่ความเป็นสาวเร่าร้อนดุดันและมีอำนาจ” และ Britney นั้นคือผู้ที่กำหนดทิศทางอาชีพของตัวเธอเองแล้วแทนที่จะรอทำตัวแบบสาวน้อยที่คอยแต่จะรอให้ใครมากำหนดชีวิตให้ ตอนนี้เธอน่าจะมีกำลังความสามารถสูงส่งอยู่ในกำลือและสิ่งนั้นก็พร้อมแล้วที่สร้างให้เธอกำหนดทิศทางดนตรีของตัวเองได้เสียด้วย




• ความไม่ธรรมดาของอัลบั้มชุดที่ 4

Britney นั้นสามารถกำหนดความเป็นตัวตนของเธอลงไปในอัลบั้มและซิงเกิลชุดที่ 4 นี้ได้อย่างสะใจตัวเองเป็นที่สุด บางทีสิ่งที่กดดันอยู่ในใจของเธอลึกๆคือสิ่งที่เธอปลดปล่อยออกมาในรูปแบบของเพลงที่ดูท่าว่าจะสอดคล้องกับตัวตนของเธอมากกว่าที่ผ่านมา

ในชุดนี้มีซิงเกิลบางเพลงเป็นงานที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างตัวของ Britney เองกับราชินีเพลงป๊อบอย่าง Madonna จนอย่างลงตัว เพลงนั้นก็คือเพลง “Me against the Music” ซึ่งถือว่าเป็นเพลงแปลกที่เป็นที่นิยมสูงทั่วอเมริกาและส่งผลให้มันกลายเป็นเพลงที่ติดชาร์ต TRL เป็นเวลานานเหลือเชื่อถึง 9 อาทิตย์เต็มๆ ความเกรียงไกรในการติดชาร์ตนานแบบนั้นถือว่าเป็นสุดยอดความสำเร็จที่น่าปรบมือให้จริงๆและสิ่งที่เป็นรองก็เพียงแค่ The Beatle ในอดีตกาลเมื่อราวๆ 40 ก่อนเท่านั้น

ซิงเกิลเพลงที่ 2 ก็คือเพลง “Toxic” นั้น แม้ชื่อของมันจะแปลว่า “เป็นพิษ” ก็ตามที แต่เพลงนี้กลับเป็นเพลงยอดนิยมที่ทำให้คนชื่นชอบได้อีกเพลงและถือเป็นเพลงปราบเซียนเพลงหนึ่งเนื่องจากก่อนหน้านั้นเกจิทางวงการเพลงของอเมริกาหลายคนพากันออกความเห็นว่า เห็นทีซิงเกลินี้คงไปไม่รอดแน่ๆ แต่แล้วเพลงดังกล่าวก็พิสูจน์ตัวเองว่ามีความเหนือชั้นกว่าคำวิจารณ์นั้นหลายเท่า ยอดขายจึงพุ่งสูงลิ่วๆไม่ยอมตก เพลงดังที่ตัดเป็นซิงเกิลอีกเพลงในชุดก็คือ “Everytime” แม้จะฟังเข้าท่าแต่เอาเข้าจริงกลับไม่ค่อยกระเตื้องเท่าไหร่นักในตลาดอเมริกา แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจที่มันกลับเป็นเพลงดังที่สุดในตลาดเพลงที่อังกฤษ นอกจากนั้นยังทะยานพุ่งขึ้นสู่อันดับที่ 1 พ่วงกับยอดขายถล่มทลายถึง 15 ล้านก๊อปปี้ในแดนเกรทบริเทน




• ปรากฏการณ์บัตรคอนเสิร์ตขายหมดภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

สิ่งที่น่าถึงสำหรับอัลบั้มมหัศจรรย์ In the Zone ของ Britney ก็คือ บัตรเข้าชมคอนเสิร์ตอัลบั้มล่าสุดนี้ภายใต้ชื่อว่า The Onyx Hotel Tour นั้นสามารถสร้างสถิติใหม่ในการเปิดจองบัตรได้แค่ 26 นาทีเท่านั้นบัตรก็ถูกจองจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือหรอ ปรากฏการณ์นี้สร้างความตื่นตะลึงไปทั่ว เพราะนอกจากขายบัตรได้ว่องไวหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็วแทบไม่ทันกระพิบตาแล้วยังทำรายได้ถล่มทลายเมื่อเทียบกับคอนเสิร์ตครั้งก่อนหน้านั้นนับเป็นจำนวนเงิน (ส่วนที่เกินหรือมากกว่า) ตั้ง 113 ล้านอเมริกันดอลล่าร์

ความสำเร็จคราวนี้ถือว่าสามารถเรียกเอาความมั่นใจกลับคืนสู่ Britney Spears ได้มากมายและส่งผลให้เธอกลายเป็นสาวที่มีแต่ความสุขตลอดปี 2003 เพราะได้ทั้งเงินและได้ทั้งกล่องควบคู่กันไปชนิดที่หาใครมาเลียนแบบเธอได้ยากจริงๆ
เลขไอพี : ไม่แสดง

มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย HelloWhoAmI

แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | HelloWhoAmI | 24 เม.ย. 56 11:33 น.

• ปี 2004 มีสามี 2 คน

ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ.2547) นั้นเป็นปีที่ถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับ Britney Spears เป็นอย่างมาก เพราะปีนี้เองเธอเทใจให้กับผู้ชายถึง 2 คน โดยที่แต่ละคนนั้นก็ผ่านพิธีแต่งงานกับเธอทั้งคู่

ตอนต้นปีเธอแต่งงานกับ Jason Allen Alexander ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่ยังเล็กๆ แต่ตอนปลายปีเธอได้แต่งงานกับหนุ่มเอวไวอดีตแซนเซอร์ที่มีลีลาหลายอย่างประทับใจเธอเป็นอย่างมาก และถือว่าเป็นคนที่เธอมอบกายถวายใจให้จริงๆจนถึงขั้นผลิตทายาทออกมา 2 คนด้วยกันก่อนที่จะเลิกร้างกันไป

เรามาดูคู่ใจผู้กลายเป็นสามีของ Britney กันทีละคนจะดีกว่า…

คนแรกสุด...Jason Allen Alexander นั้นเป็นหนุ่มร่างใหญ่ที่มีอดีตเป็นเพื่อนสมัยนักเรียนมาด้วยกันกับ Britney Spears และเป็นคนที่ Britney โทรศัพท์ไปคุยด้วยเสมอๆ แม้ว่าเธอจะเป็นนักร้องชื่อดังไปแล้วก็ตาม

เจสันรับรู้เรื่องราวความในใจบางอย่างของ Britney ก่อนที่เธอจะตัดสินใจแบบสายฟ้าแล่บกับเขาในช่วงต้นปี ค.ศ.2004 ซึ่งเรื่องนั้นก็คือ เรื่องการแต่งงานกันอย่างมีพิธีรีตอง ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อวันที่ 3 เดือน มกราคม ค.ศ. 2004 โดยมีบาทหลวงที่ลาสเวกัส มลนัฐเนวาดา ของสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ประสาทพรในพิธีแต่งงานให้กับคนทั้งคู่

แต่ก็เป็นเรื่องเหนือความคาดเดาที่ทั้งสองต่างก็ตัดสินใจประกาศล้มเลิกผลจากการแต่งงานกันในอีกแค่ 55 ชั่ว โมงต่อมา นั่นหมายความว่าคนทั้งสองประกาศความเป็นสามีภรรยากันเพียงแค่ 2 วันกับอีก 7 ชั่วโมงโดยประมาณ

วันที่สองประกาศเลิกล้มการแต่งงานและมีผลทำให้ทั้งสองต้องขาดจากการเป็นสามีภรรยากันก็คือวันที่ 5 มกราคม ค.ศ.2004 และการแต่งงานสายฟ้าแล่บรวมทั้งประกาศล้มเลิกการแต่งงานรวดเร็วราวสายฟฟ้าฟาดเช่นนี้ทำให้แฟนๆเพลงของเธอถึงกับตะลึงงันและไม่เข้าใจจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของ Britney Spears

แม้ว่า Britney จะออกมาอ้างเหตุผลต่างๆนานาที่ทำให้ผลแห่งการเป็นสามีภรรยากับเจสันต้องขาดสะบั้นไปก็ตาม แต่เหตุผลเหล่านั้นดูเป็นเรื่องทะ**ๆในสายตาของใครต่อใครทั้งสิ้น การที่ฝ่ายกฎหมายของ Britney นั้นยื่นคำร้องต่อทางการเพื่อขอหย่าขาดจากเจสันแบบสายฟ้าแล่บโดยอ้างว่า ขาดความเข้าใจในการกระทำของตัวเอง (ตัวของ Britney เอง ไม่เข้าใจตัวเอง) และเป็นเหตุที่ทำให้ต่างก็ไม่รู้จักตัวตนในหลายแง่มุมของแต่ละคนจนเป็นเหตุให้ต้องยื่นคำร้องขอให้การแต่งงานเป็นโมฆะนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คนภายนอกได้แต่มึนงงและไม่เข้าใจเรื่องของ Britney หนักเข้าไปอีก

อย่างไรก็ตาม คงต้องบอกว่าเจสันเป็นสุถาพบุรุษและเป็นคนดีพอตัวเพราะเขาตัดสินใจเบิกร้างจาก Britney โดยที่ไม่โกรธและไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายในทรัพย์สินของเธอแต่อย่างใดแม้มีใครถามถึงเรื่องนี้เขาก็ปิดปากเงียบสนิทเสมอ คาดว่า Britney เองก็คงพอใจในตัวเจสันด้วยเช่นกัน และเข้าใจความรู้สึกขิงเจสันได้เป็นอย่างดีว่าเขาชอกช้ำเพียงใด รวมทั้งรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลกที่มาสลับฉากชีวิตของเธอให้ดูซู่ซ่ามากขึ้นในสายตาของชาวโลกขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม ชื่องของ Jason Allen Alexander กลายเป็นชื่อที่คนทั้งโลกจำได้ดีโดยที่เขาไม่ต้องออกแรงโฆษณาแต่ประการใด เมื่อเรื่องราวระหว่างเธอกับเจสันจบลงกันด้วยดีแล้ว Britney ดูเหมือนว่าจะกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้อีกครั้ง คราวนี้เธอใช้เวลาไปกับการออกทัวร์เพื่อโปรโมทอัลบั้มเพลงชุดที่ 4 ซึ่งก็คือ In the Zone ภายใต้ชื่อการออกทัวร์ว่า The Onyx Hotel Tour อย่างมีความสุขและสบายใจขึ้น

การทัวร์คอนเสิร์ตดำเนินไปได้จนกระทั่งถึงราวเดือนมิถุนายนก็ปรากฏว่าเธอดั้บบาดเจ็บจากหัวเข่า สาเหตุจริงๆมาจากการที่ Britney กำลังถ่ายทำ Music Video สำหรับซิงเกิลเดี่ยวที่ชื่อว่า “Outrageous” (หรือว่า “เจ็บแค้นเหลือทานทน”) อยู่และพลาดท่าได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่เส้นเอ็นเข่าทำให้การแสดงทุกอย่างต้องหยุดชะงักลงกลางคันทั้งสิ้น

ระหว่างที่กำลังพักฟื้นร่างกายให้มีสภาพสมบูรณ์จากอาการบาดเจ็บหัวเข่า (เส้นเอ็น) อยู่นั้นเอง เธอเกิดมีสัมพันธ์ทางกายและใจกับหนุ่มหล่อชื่อ Kevin Federline โดยที่ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วเกินความคาดหมายของใครๆ ช่วงเวลาสามเดือนเต็มๆ ที่เควินเดินเข้าไปในชีวิตของ Britney คือช่วงเวลาที่ทำให้นักร้องสาวคนนี้ลืมทุกอย่างไปจนหมด แม้จะมีข่าวหนาหูเกี่ยวกับประวัติของเควินและช่างภาพปาปารัสซี่พยายามเก็บภาพความหวานชื่นจน “เกินงาม” ของ Britney กับ Kevin ออกมาตีพิมพ์เผยแพร่กันอย่างสนุกเต็มมือก็ตามที ดูเหมือนว่า Britney เองจะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ข่าวลือสารพัดที่เกี่ยวกับตัวเควินกลายเป็นเรื่องที่ Britney ฟังแล้วก็ผ่านไปเลย แม้กระทั่งเรื่องที่เควินคือสามีของดาราสาว Shar Jackson ซึ่งกำลังตั้งท้องลูกคนที่สองของเขากับเธออยู่ในเวลานั้นก็ตาม และแล้ว Britney ก็ประกาศข่าวการหมั้นระหว่าง เธอกับ Kevin Federline ในราวๆเดือนกรกฎาคม ค.ศ.2004 ต่อมาเมื่อถึงวันที่ 18 กันยายน ปีเดียวกันคนทั้งคู่ก็แต่งงานที่เมือง Studio City ใน California โดยได้ลงนามรัยรู้ข้อกฎหมายบางประการที่ทนายความฝ่าย Britney เป็นผู้ร่างให้เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 2004

การลงนามรับรู้ข้อกฎหมายนั้นมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากที่ช่วยทำให้ Britney ไม่ต้องสูญเสียทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลที่เธอหามาได้เพื่อเอาไปแบ่งกินกับเควิน ในคราวที่ทั้งคู่อาจจะต้องหย่าขาดจากกันในอนาคต


(นับว่า Britney และทนายความของเธอเป็นผู้ที่มองการณ์ไกลมาก และก็เป็นเรื่องจริงที่ว่าทั้งคู่อาจอยู่กันไม่ยืดในอีกไม่กี่ปีข้างหลัง รวมทั้งมีการหย่าร้างกันในเวลาต่อมา ผลจากการหย่าร้างทำให้เควินไม่อาจเรียกร้องอะไรได้มากไปกว่าที่ได้เซ็นชื่อรัยรู้เอาไว้ในสัญญา ดังกล่าว)

...To Be Continued...

ปล. ใครตามบทไหนไม่ทัน ตามไปเลย
All Review By Britney Spears

แก้ไขล่าสุด 24 เม.ย. 56 11:33 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | `qwai้. | 24 เม.ย. 56 11:52 น.

กี๊ดดด เจิมมมม
/พับเพียบอ่าน

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | hazay | 24 เม.ย. 56 13:01 น.

ขอบคุณครับ

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | น้องโพ | 24 เม.ย. 56 13:10 น.

ขอบคุณข่ะะะะะะะ

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | คุคิ | 24 เม.ย. 56 13:48 น.

ขอบคุณค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | This_kiss_(Blow_me) | 24 เม.ย. 56 14:25 น.

ขอบคุณขร๊ะ
แปะๆไว้ก่อนอิอิ

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | Allyzํ | 24 เม.ย. 56 17:08 น.

ขอบคุณค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | B'Spears | 24 เม.ย. 56 18:06 น.

เมื่อไรอิหอกจะเจอ ผช. ดีๆสักทีคนล่าสุดนี่ก็เลิกแบบ งงๆ(เจสัน)

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | คุณหญิง. | 24 เม.ย. 56 18:26 น.

ขอบคุณค่ะข้อความสั้นเกินไป (ช่อง ความคิดเห็น)

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | หนอน_น้อย | 24 เม.ย. 56 20:03 น.

ยาวมาก เดี่ยวก็อบแล้วปริ้นอ่านน่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google