5 นาทีเปลี่ยนอารมณ์บูดให้เป็นอารมณ์ดี:ดร.แพง ชินพงศ์
26 เม.ย. 56 17:42 น. /
ดู 1,476 ครั้ง /
9 ความเห็น /
18 ชอบจัง
/
แชร์
1.เดินออกจากเหตุการณ์
บางครั้งเราอาจถูกคนในครอบครัว เพื่อน คนในที่ทำงาน คนบนท้องถนน ทำอะไรให้เรารู้สึกไม่พอใจหรือโกรธ และเราอาจจะรู้สึกอยากตอบโต้กลับไปให้สะใจ แต่ให้คิดเสียว่าการทำเช่นนั้นอาจยิ่งทำให้เรื่องมันหนักหนาเข้าไปอีก ดังนั้น แทนที่จะทำให้วันที่ดีๆ หมดไป ให้ใช้วิธีเดินหนีไปจะดีกว่า เพราะบางครั้งการเดินออกจากปัญหามาก่อนก็ดีกว่าการที่จะมานั่งโต้เถียงกันแบบไม่รู้จักจบ เพราะขณะที่อารมณ์ยังไม่ปกตินั้น คนเรามักขาดสติและการคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่ถูกต้อง การย้ายตัวของเราออกจากปัญหาบางทีช่วยให้ความรู้สึกที่ไม่ดีหายไปได้ ทั้งยังช่วยลดความเครียดและสามารถทำให้เรากลับมาเผชิญ และแก้ปัญหาได้อย่างฉลาดและมีสติอีกครั้ง
2.เล่นกับสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์ที่ช่วยลดความเครียดและทำให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นแมว สุนัข หรือสัตว์อื่นๆ เช่น นก กระรอก หนู การได้เห็นสัตว์เหล่านี้เคลื่อนไหวและการได้จับ ได้ลูบ ได้กอด หรือให้พวกมันมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ จะทำให้เรามีความสุข ผ่อนคลายและอารมณ์ปลอดโปร่งมากขึ้น แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีสัตว์เลี้ยงอาจเปลี่ยนเป็นการใกล้ชิดกับธรรมชาติ เช่น นอนใต้ต้นไม้ ฟังเสียงใบไม้ ฟังเสียงนกร้อง เดินดูต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า หรือรดน้ำ พรวนดิน หาซื้อพันธุ์ไม้ต่างๆ มาปลูก ก็เป็นการใช้ธรรมชาติบำบัดที่ได้ผลดีอีกทางหนึ่ง
3.ออกกำลังกาย
การเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการได้เดินไปเรื่อยๆ ช้าๆ หรือวิ่งเหยาะๆ หรือเต้น ฮูลาฮูป หรือเล่นกีฬาที่โปรดปราน จะช่วยให้ความเครียดที่ฝังอยู่จางหรือหมดลงไป เพราะคนที่เครียด กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายมักจะตึง เมื่อเราได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระจะทำให้กล้ามเนื้อนั้นคลายความตึงลง ซึ่งจะทำให้เราผ่อนคลายขึ้น ดังนั้น เวลาที่เราหงุดหงิด แทนที่จะจมอยู่กับอารมณ์นั้น ให้เราอาจเปลี่ยนอารมณ์บูดของเราให้กลายเป็นอารมณ์ดีด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้อารมณ์หงุดหงิดหมดไปแล้ว ยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่อีกด้วย เรียกว่า เป็นประโยชน์ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์และจิตใจควบคู่กันไปเลยทีเดียว
4.กอด
การได้กอดหรือได้รับการกอดจากคนที่เรารักและรักเรา ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง เพื่อน หรือคนรัก จะช่วยให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นทันทีและช่วยลดความเครียดลงได้ในเวลาเดียวกัน เพราะการกอดสามารถถ่ายทอดความรู้สึกรัก อบอุ่นใจ ห่วงใยและเข้าใจระหว่างกันและกันได้ เมื่อเราได้รับการถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ มาจะทำให้เรามั่นคงในจิตใจมากขึ้น และพร้อมที่จะก้าวข้ามปัญหาหรืออุปสรรคไปได้อย่างมีสติและใจเย็น
5.พูดกับตัวเอง
เวลาที่เราโกรธหรืออารมณ์เสีย เรามักอยากจะระบายสิ่งที่มันอัดอั้นออกมา เป็นคำด่าบ้าง ตะโกนเสียงดังบ้าง ระบายลงกับทรัพย์สินสิ่งของทำให้มันแตกหักเสียหายบ้าง แต่หากเราใช้วิธีพูดกับตัวเองอาจช่วยให้เราสงบลงได้มากกว่า เช่น ไม่เป็นไรน่า ช่างมันเหอะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ใจเย็นๆ คำพูดที่เป็นเชิงบวกเหล่านี้ จะทำให้เรารู้สึกสงบลงได้ภายในไม่กี่นาที เพราะคำพูดเหล่านี้เหมือนเป็นการสร้างกำลังใจ ความเชื่อมั่นและความภูมิใจให้ตัวเอง อย่าลืมว่าขณะพูดให้ผ่อนลมหายใจเบาๆ ช้าๆ จะทำให้รู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว
6.คิดบวก
หยุดความคิดในทางลบแล้วเปลี่ยนเป็นคิดในแง่บวก คือ คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้มีความสุขและสบายใจ เช่น คิดถึงเรื่องการไปเที่ยวในสถานที่ที่ชอบ คิดถึงอาหารที่อร่อยๆ คิดถึงของที่อยากซื้อ การที่เรามีความคิดที่ไม่สบายใจอยู่ภายใน ทำให้เราสมองไม่แจ่มใส ไม่สามารถคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้ ดังนั้น ให้เราลองใช้วิธีเปลี่ยนความคิดดู คิดทางบวก มีความสุขสดชื่นจะทำให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นและผ่อนคลายมากขึ้น
7.ดูหนังฟังเพลง
เลือกดูหนังที่ไม่ทำให้เครียด เช่น หนังรักโรแมนติก หนังตลก การ์ตูน หรือเลือกฟังเพลงที่มีจังหวะสบายๆ เบาๆ นอนฟังอย่างสบายใจ หรือไม่ก็จังหวะสนุกสนานที่เต้นตามได้ นอกจากจะช่วยให้เราลืมความขุ่นข้องหมองใจไปได้ ก็ยังช่วยให้จิตใจเราเบิกบาน แจ่มใส และรู้สึกสงบลงด้วย
8.นับจำนวน
เวลาที่เราเริ่มรู้สึกอารมณ์ไม่ดี เช่น อยู่ดีๆ ก็ถูกตำหนิหรือถูกว่ากล่าวในสิ่งที่เราไม่ได้ทำผิด หรือมีใครทำอะไรให้เราไม่พอใจแล้วเรารู้สึกโกรธเขามากจนเราอยากตะโกนออกมาดังๆ ด้วยความโมโหเพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมา ให้เราลองเปลี่ยนมาใช้วิธีนี้ คือ หายใจเข้าลึกๆ และนับ 1-20 อย่างช้าๆ ขณะนับจำนวนอยู่นั้นต้องทำสมองให้ว่างเปล่า ให้สมองคิดถึงแต่ตัวเลขที่เรากำลังนับอยู่โดยไม่ต้องคิดถึงเหตุการณ์ที่มากระตุ้นอารมณ์บูดของเรา แล้วเราจะแปลกใจกับผลที่ได้รับเพราะวิธีนี้ช่วยให้เรานิ่งและสงบลงได้จริงๆ
9.เขียนระบาย
หากเรารู้สึกอัดอั้นหรืออึดอัด ให้ใช้วิธีเขียนระบายลงในสมุดบันทึกจะทำให้รู้สึกดีขึ้น เพราะการเขียนข้อความทำให้เรามีเวลาสงบและทำให้เกิดสมาธิ อีกทั้งการเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ลงไปในสมุดเหมือนการปล่อยของเสียออกมา ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยให้เราได้ลดความเครียดลงได้
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์
บางครั้งเราอาจถูกคนในครอบครัว เพื่อน คนในที่ทำงาน คนบนท้องถนน ทำอะไรให้เรารู้สึกไม่พอใจหรือโกรธ และเราอาจจะรู้สึกอยากตอบโต้กลับไปให้สะใจ แต่ให้คิดเสียว่าการทำเช่นนั้นอาจยิ่งทำให้เรื่องมันหนักหนาเข้าไปอีก ดังนั้น แทนที่จะทำให้วันที่ดีๆ หมดไป ให้ใช้วิธีเดินหนีไปจะดีกว่า เพราะบางครั้งการเดินออกจากปัญหามาก่อนก็ดีกว่าการที่จะมานั่งโต้เถียงกันแบบไม่รู้จักจบ เพราะขณะที่อารมณ์ยังไม่ปกตินั้น คนเรามักขาดสติและการคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่ถูกต้อง การย้ายตัวของเราออกจากปัญหาบางทีช่วยให้ความรู้สึกที่ไม่ดีหายไปได้ ทั้งยังช่วยลดความเครียดและสามารถทำให้เรากลับมาเผชิญ และแก้ปัญหาได้อย่างฉลาดและมีสติอีกครั้ง
2.เล่นกับสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์ที่ช่วยลดความเครียดและทำให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นแมว สุนัข หรือสัตว์อื่นๆ เช่น นก กระรอก หนู การได้เห็นสัตว์เหล่านี้เคลื่อนไหวและการได้จับ ได้ลูบ ได้กอด หรือให้พวกมันมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ จะทำให้เรามีความสุข ผ่อนคลายและอารมณ์ปลอดโปร่งมากขึ้น แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีสัตว์เลี้ยงอาจเปลี่ยนเป็นการใกล้ชิดกับธรรมชาติ เช่น นอนใต้ต้นไม้ ฟังเสียงใบไม้ ฟังเสียงนกร้อง เดินดูต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า หรือรดน้ำ พรวนดิน หาซื้อพันธุ์ไม้ต่างๆ มาปลูก ก็เป็นการใช้ธรรมชาติบำบัดที่ได้ผลดีอีกทางหนึ่ง
3.ออกกำลังกาย
การเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการได้เดินไปเรื่อยๆ ช้าๆ หรือวิ่งเหยาะๆ หรือเต้น ฮูลาฮูป หรือเล่นกีฬาที่โปรดปราน จะช่วยให้ความเครียดที่ฝังอยู่จางหรือหมดลงไป เพราะคนที่เครียด กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายมักจะตึง เมื่อเราได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระจะทำให้กล้ามเนื้อนั้นคลายความตึงลง ซึ่งจะทำให้เราผ่อนคลายขึ้น ดังนั้น เวลาที่เราหงุดหงิด แทนที่จะจมอยู่กับอารมณ์นั้น ให้เราอาจเปลี่ยนอารมณ์บูดของเราให้กลายเป็นอารมณ์ดีด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้อารมณ์หงุดหงิดหมดไปแล้ว ยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่อีกด้วย เรียกว่า เป็นประโยชน์ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์และจิตใจควบคู่กันไปเลยทีเดียว
4.กอด
การได้กอดหรือได้รับการกอดจากคนที่เรารักและรักเรา ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง เพื่อน หรือคนรัก จะช่วยให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นทันทีและช่วยลดความเครียดลงได้ในเวลาเดียวกัน เพราะการกอดสามารถถ่ายทอดความรู้สึกรัก อบอุ่นใจ ห่วงใยและเข้าใจระหว่างกันและกันได้ เมื่อเราได้รับการถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ มาจะทำให้เรามั่นคงในจิตใจมากขึ้น และพร้อมที่จะก้าวข้ามปัญหาหรืออุปสรรคไปได้อย่างมีสติและใจเย็น
5.พูดกับตัวเอง
เวลาที่เราโกรธหรืออารมณ์เสีย เรามักอยากจะระบายสิ่งที่มันอัดอั้นออกมา เป็นคำด่าบ้าง ตะโกนเสียงดังบ้าง ระบายลงกับทรัพย์สินสิ่งของทำให้มันแตกหักเสียหายบ้าง แต่หากเราใช้วิธีพูดกับตัวเองอาจช่วยให้เราสงบลงได้มากกว่า เช่น ไม่เป็นไรน่า ช่างมันเหอะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ใจเย็นๆ คำพูดที่เป็นเชิงบวกเหล่านี้ จะทำให้เรารู้สึกสงบลงได้ภายในไม่กี่นาที เพราะคำพูดเหล่านี้เหมือนเป็นการสร้างกำลังใจ ความเชื่อมั่นและความภูมิใจให้ตัวเอง อย่าลืมว่าขณะพูดให้ผ่อนลมหายใจเบาๆ ช้าๆ จะทำให้รู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว
6.คิดบวก
หยุดความคิดในทางลบแล้วเปลี่ยนเป็นคิดในแง่บวก คือ คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้มีความสุขและสบายใจ เช่น คิดถึงเรื่องการไปเที่ยวในสถานที่ที่ชอบ คิดถึงอาหารที่อร่อยๆ คิดถึงของที่อยากซื้อ การที่เรามีความคิดที่ไม่สบายใจอยู่ภายใน ทำให้เราสมองไม่แจ่มใส ไม่สามารถคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ได้ ดังนั้น ให้เราลองใช้วิธีเปลี่ยนความคิดดู คิดทางบวก มีความสุขสดชื่นจะทำให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นและผ่อนคลายมากขึ้น
7.ดูหนังฟังเพลง
เลือกดูหนังที่ไม่ทำให้เครียด เช่น หนังรักโรแมนติก หนังตลก การ์ตูน หรือเลือกฟังเพลงที่มีจังหวะสบายๆ เบาๆ นอนฟังอย่างสบายใจ หรือไม่ก็จังหวะสนุกสนานที่เต้นตามได้ นอกจากจะช่วยให้เราลืมความขุ่นข้องหมองใจไปได้ ก็ยังช่วยให้จิตใจเราเบิกบาน แจ่มใส และรู้สึกสงบลงด้วย
8.นับจำนวน
เวลาที่เราเริ่มรู้สึกอารมณ์ไม่ดี เช่น อยู่ดีๆ ก็ถูกตำหนิหรือถูกว่ากล่าวในสิ่งที่เราไม่ได้ทำผิด หรือมีใครทำอะไรให้เราไม่พอใจแล้วเรารู้สึกโกรธเขามากจนเราอยากตะโกนออกมาดังๆ ด้วยความโมโหเพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมา ให้เราลองเปลี่ยนมาใช้วิธีนี้ คือ หายใจเข้าลึกๆ และนับ 1-20 อย่างช้าๆ ขณะนับจำนวนอยู่นั้นต้องทำสมองให้ว่างเปล่า ให้สมองคิดถึงแต่ตัวเลขที่เรากำลังนับอยู่โดยไม่ต้องคิดถึงเหตุการณ์ที่มากระตุ้นอารมณ์บูดของเรา แล้วเราจะแปลกใจกับผลที่ได้รับเพราะวิธีนี้ช่วยให้เรานิ่งและสงบลงได้จริงๆ
9.เขียนระบาย
หากเรารู้สึกอัดอั้นหรืออึดอัด ให้ใช้วิธีเขียนระบายลงในสมุดบันทึกจะทำให้รู้สึกดีขึ้น เพราะการเขียนข้อความทำให้เรามีเวลาสงบและทำให้เกิดสมาธิ อีกทั้งการเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ลงไปในสมุดเหมือนการปล่อยของเสียออกมา ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยให้เราได้ลดความเครียดลงได้
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์
แก้ไขล่าสุด 29 ก.ย. 56 16:54 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย `pesy))
- ตามหาเคส ^0^ (เทคโนโลยี)
- กระทู้โดย `pesy)) ทั้งหมด
แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
เล่นกับสัตว์เลี้ยงอ่ะ โคตรๆๆๆๆๆๆๆ เลย
อยู่ดีๆก็อารมณ์ดี ไม่รู้ทำไม ลืมเรื่องที่โมโหไปเลยอ่ะ
ไอพี: ไม่แสดง
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google