[Review]อัลบั้ม Strangeland ของ Keane

ตามคำขอของ T'zer ครับ


ผลโดยรวม (8/10) [B]

การกลับมาอีกครั้งของ Keane เจ้าของเพลงฮิตอย่าง Everybodys Changing, Somewhere Only We Know, Is It Any Wonder? หรือ Spiralling พร้อมสมาชิกใหม่ของวง มือเบส Jesse Quin โดยอัลบั้มนี้พวกเขาเน้นการแต่งเพลงเป็นหลัก โดยเอาเรื่องราวต่างๆมาทำเป็นเพลง ซึ่งอัลบั้มนี้ยังมีทำนองที่ยังดูสดใสคงเดิม แต่เนื้อหาในอัลบั้มดูมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หากคุณเป็นแฟนเพลงของวงคีน ก็ไม่ควรพลาด! กับอัลบั้มใหม่นี้ที่มีชื่อว่า “Strangeland”


1. You are Young (9/10)

เปิดอัลบั้มด้วย Track ที่มีน้ำหนักเบาๆ ฟังสบายๆ ไม่เลวๆ เป็นเพลง Alternative Rock ที่ฟังง่ายๆ และไม่ต้องคิดไรมาก เป็นเพลงที่บ่งบอกถึงชีวิตอิสระเสรีในวัยเยาว์ได้อย่างสวยงาม ถือว่าเป็น Track เปิดอัลบั้มได้น่าพอใจเลยทีเดียวนะครับ


2. Silenced By the Night (9/10)

มาต่อกันด้วย Track ที่ 2 เริ่มต้นด้วยเสียง Piano ที่ฟังแล้วแสนหวานและไพเราะแลดูเหมือนเด็กวัยรุ่น ตามด้วยจังหวะ Pop Rock มาติดๆ ทำนองเหมือนเดิมคือฟังง่าย และสบายๆ บางทีฟังเพลงแบบนี้ แล้วทำให้ความรู้สึกของผมลอยไปเลยล่ะ ลอยไปกับทำนองเพลงและก็เสียงของ Tom (นักร้องนำ) เมื่อได้มาดู Music Video ก็คล้ายๆกับเรื่องเล่าของทอมเหมือนกัน ว่ากันว่าเพลงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากความรู้สึกของตัว Tom เองที่ชอบขับรถเวลากลางคืน


3. Disconnected (7.5/10)

...เอิ่ม... พอดนตรีขึ้นปั๊บ เฮ้ย! นี่มันเพลงในยุค 80 ชัดๆ เพลงสไตล์ Pop Rock ที่มันไม่น่าจะแบบ... คือถามว่ามันโอเค มันก็โอเคอ่ะนะ ถ้าดูที่ตัวเนื้อเพลงที่เรียบเรียงกันได้สวย และดูท่าทางเพลงนี้จะได้ดีที่ท่อนกลาง ที่ดูเหมือนว่าจะฉุดเพลงนี้ขึ้นมาได้นิดหน่อย แต่ถ้าพูดถึงโดยรวมแล้ว สำหรับผมว่าเพลงนี้ก็ถือว่ายังโอเคในระดับปานกลาง


4. Watch How You Go (8.5/10)

ขึ้นด้วยเสียงเปียโนที่ติด Key Minor เต็มไปหมดแล้วฟังดูเหมือนมันจะไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ แต่พอกลองขึ้นปั๊บ ก็ทำให้เพลงนี้ดูมีอะไรดีมากกว่าปล่อยให้มันมีแต่เสียงเปียโนอ่ะนะ ถึงแม้ทำนองจะดูเรียบๆง่ายๆไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วเพลงนี้ยัง ว้าว! ประทับใจอยู่





5. Sovereign Light Café  (10/10)

เพลงโฆษณาที่ใครๆก็รู้จักกันดี โอ้ว!!! พระเจ้า ชอบมากๆ เพลงสไตล์ Alternative Rock ผสมกับ Pop Rock ที่เข้าท่าแล้วฟังดูลื่นหู เพลงนี้เป็นเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบั้มแล้วล่ะครับ (สำหรับผมนะ) ฟังไปเรื่อยๆก็รู้สึกว่าเพลงมันเพราะมากขึ้นเรื่อยๆ คือฟังแล้วเพลงมันดูมีอะไรมากกว่าเพลง Rock ทั่วไปอ่ะ เหมือนเพลงมันผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ซึ่งทำออกมาได้น่าประทับใจเลยทีเดียว


6. On the Road (9.5/10)

มาต่อกันด้วย Track ที่ยังน่าประทับใจอยู่ ถึงตัวทำนองที่ฟังแล้วแลดูคล้ายๆในยุค 90’s เล็กน้อย แต่เมื่อเอามาผสมกับดนตรีแนวสมัยใหม่ เออ! คิดได้ เพลงมันเลยออกมาเพราะอย่างที่เห็นนี่หละ


7. The Starting Line (8/10)

เพลง Pop Ballad ที่ยังคงไม่ทิ้งกลิ่นอายความเป็น Rock อยู่ ทำออกมาโดยรวมถือว่ายังใช้ได้อยู่ แต่ยังไม่ค่อยโดนเหมือน 2 เพลงก่อนหน้า หรือยังไม่ประทับใจเหมือนเพลง Watch How You Go แต่มันก็โอเคนะ ชอบก็ฟังไม่ชอบก็กดผ่านไปกับสายลม


8. Black Rain (4/10)

เพลงออกแนวปวดจิต ...เอิ่ม... อ๊ากกกกก!!! เพลงมันฟังสบายก็จริง แต่ผมไม่ไหวกับเสียงและทำนองที่มันเล่นเอาซะป่วนมากๆเลย ใครหลายๆคนอาจชอบ แต่สำหรับผมแล้ว แทร็คนี้อาจฆ่าคนฟังอย่างผมได้เลย เนื้อเพลงดูใช้ได้นะ แต่พอมาดูโดยรวมอ่ะ เพลงนี้ไม่ไหวเลยจริงๆ บ่องตง!





9. Neon River (7/10)

ขึ้นต้นด้วยเสียงดีดกีต้าร์ที่ฟังดูออกแนวกวนๆนิดๆ แต่พอเสียงร้องเสียงทำนองขึ้น Track นี้ก็ยังแลดูโอเคอยู่ แต่ยังไม่ดีพอเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเพลงนี้แค่พอผ่าน ฟังได้เรื่อยๆ


10. Day Will Come (8.5/10)

เอาล่ะ มาถึง Track สนุกๆ ในจังหวะมันส์ในสไตล์ของ Alternative Rock ที่นำมาผสมกับ Pop ได้อย่างลงตัวและน่าสนใจมาก จังหวะมันส์ดี และสามารถโยกไปกับจังหวะได้ มีหลายท่อนในเพลงนี้ที่น่าประทับใจเลยทีเดียว ทำนองเพลงกับเนื้อผสมผสานเรียบเรียงกันได้สวยนะ เสียดายเพลงสั้นไปหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับสั้นมาก บางทีอารมณ์ค้างอยู่ อะไรนะ! จบแล้วหรออ?


11. In Your Own Time (9/10)

Track สวยๆแบบนี้ชอบมากเลย ทำนองที่ฟังง่ายๆ สบายๆ คล้ายๆกับเพลงแรกๆเลยอ่ะนะ ทำออกมาได้เพราะจับใจจริงๆ ดีไซน์เพลงได้สวย ฟังได้เพลินๆ ชอบจริงๆ แนะนำเพลงนี้ครับ ชอบมาก


12. Sea Fog (8/10)

ปิด Track Standard ด้วยเพลงแนว Pop Ballad ได้อย่างสวย ชอบอ่ะ ฟังแล้วซึ้งดี ถึงมันจะไม่มีอะไรมาก แต่มันก็ทำให้เคลิ้มได้เหมือนกันนะ บวกกับเนื้อหาที่มีความไพเราะ เพลงมันเลยออกมาดีแบบนี้ล่ะ ชอบมากๆเลยครับ




Bonus Track

13. Strangeland (8/10)

Title Track ไหงมาอยู่ใน Bonus Track แบบนี้ได้ เพลงนี้ใช้ได้นะ แต่ก็นั่นหละ เอามาอยู่ใน Bonus Track แบบนี้ เพลงอื่นก็กินไปเรียบร้อยละ มันเลยทำให้เพลงนี้ฟังแล้วมันก็เดิมๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ แต่พอท่อน Hook ขึ้นก็โอเคละ ดูมีอะไรมากกว่าตอนแรกๆเยอะเลย


14. Run With Me (7/10)

เพลงสมัยยุค 80’s ที่หลงมาอยู่ในยุค 2010’s เป็นเพลงที่ฟังสบายๆ แล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรมากนัก ก็คือฟังได้เรื่อยๆอ่ะครับ ถ้าไม่ชอบก็กดข้าม Track ไปเลยครับ


15. The Boys (7/10)

เออ! เพลงแปลกๆดีอ่ะ มันแนวมาก แต่มันก็แนวไปในสมัยยุค 80 เหมือนเดิม ถ้าถามว่าชอบตรงไหน ไม่ขอปฏิเสธตรงท่อนกลางนะ มันแนวแบบแปลกๆดี คิดได้นะเอาทำนองสมัยยุค 80 มารวมกับทำนองปัจจุบัน


16. It’s Not True (7/10)

ปิด Track Deluxe Edition ได้อย่างประทับใจ ถึงแม้แทร็คนี้ฟังแล้วมันจะรู้สึกทะแ-ม่งๆชอบกล มันออกแนวเนือยๆ เฉื่อยชา แล้วก็ง่วงไปหน่อย ถ้าจะฟังอัลบั้มนี้แนะนำให้ฟังตอนกลางคืนครับ ฟังจบครบอัลบั้มปุ๊บ นอนเลย 555+ (แอบกวนนิดๆ)


17. Myth (8/10)

Oops! ตกใจนึกว่าเพลงจีน 555+ แต่อย่างน้อยเพลงนี้ก็ยังดีกว่าเพลง It’s Not True นะ แถมน่าจะปิดอัลบั้มสวยกว่าอีก เสียดายที่ Track นี้มีแต่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และมีใน ITunes ของ US ดนตรีฟังแล้วลื่นหู บวกกับเสียงเพราะๆของนักร้องนำ มันเลยทำให้เพลงนี้ทำออกมาปิดอัลบั้มได้ดีอย่างมาก


ปล.อยากให้ผม Review อัลบั้มไหน หรือนักร้องคนใด บอกได้นะคับ ยินดีฟังและ Review ให้ครับ
ขอบคุณที่ติดตามทุกๆ Review ครับ
ปล2. Review นี้ เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ!


All Review!!!