Super Junior ไม่ใช่วงที่มีแต่ความสุข
เบื้องหลังรอยยิ้มของพวกเขาคือรอยน้ำตา
(ตอนแรก SM วางแผนจะเปลี่ยนสมาชิก 12 คนถ้าพวกเขาไม่เป็นที่น่าพอใจ ก็เหมือนกับวงของญี่ปุ่น
SMมีสิทธิจะเพิ่มสมาชิกใหม่แทนคนเก่า) ถึงจะรู้ว่าในที่สุดแล้วพวกเขาก็ต้องแยกกัน แต่ SJ ยังคงมีรอยยิ้ม
หนึ่งปีผ่านไป และเอสเอ็มเปลี่ยนแผน เพราะความโด่งดังแบบคาดไม่ถึงของ SJ
มันเป็น วงขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกถึง 13 คน แทนที่จะเป็น โปรเจควง SJ05 ที่มีสมาชิก 12 คน
มันจึงกลายเป็นวงที่มีสมาชิก 13 คนแบบถาวร SJ เป็นวงที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง และเป็นที่รักมากมาย
ผ่านเพลง U
คำวิพากษ์วิจารณ์ในการเป็นวงที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
คิมฮีชอลในฐานะนักร้อง ได้รับคำวิจารณ์มากที่สุด
แต่ถึงแม้จะถูกรบกวนและเจ็บปวดกับผลตอบรับที่ไม่ดี ฮีชอลยังคงทำหน้าที่ของเขาต่อไป
ระหว่างในรายการวาไรตี้ เขาแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น รวมถึงพยายามไม่พูดถึง
จนทำให้คนอื่นๆ ต่างตำหนิด้วยถอยคำที่รุนแรงว่า นายไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวของตัวเองหรอก
ไม่นานหลังจากนั้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น....การจากไปของคุณพ่อ ลีทงเฮ...
ในช่วงเวลานั้น ทงเฮได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต คุณพ่อของเค้าคือผู้ที่มอบความกล้าหาญ
และมอบพลังให้แก่เขา ในอัลบั้ม 2 และ 3....ข้อความทั้งหมดที่เขียนในหัวข้อ ขอบคุณ.. เขาจะเอ่ยถึง
คุณพ่อ ผู้ที่คอยปกป้องเขาบนสวรรค์ รอยยิ้มที่ดูเหนื่อยล้าและโง่เง้าของทงเฮ ในงานศพ ตอนที่นักข่าว
ถ่ายรูป ทำไม? ก็เพราะเขากล้วว่า ตัวเองจะทำให้สมาชิกคนอื่นๆถูกตำหนิ
เหตุการณ์ร้ายยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น ไม่กี่วันต่อมา คิมฮีชอล ประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทางกลับจาก
งานศพ ฮีชอล ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณขา จนอาจทำให้เขาไม่สามารถกลับมาเต้นได้ เหตุการณ์นี้
ได้สร้างความเจ็บปวดที่ไม่สิ้นสุดแก่เขา แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงที่มุ่งร้ายออกมา..
ทำไมไม่ให้คิมฮีชอลออกจากSJ? ทำไมเขายังอยู่?
แท่งเหล็กที่ใช้ดามขา สร้างความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่าให้กับคิมฮีชอล
แต่แล้วเขาก็กลับมาขึ้นเวทีอีกครั้งในฐานะหนึ่งในยูนิตย่อย Super Junior-T
การปรึกษาหารือระหว่างบริษัทและสมาชิก คิมฮีชอลที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้สมบูรณ์
จากอาการบาดเจ็บที่ขา เขาพยายามเต้นด้วยรอยยิ้มอย่างดีที่สุด ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้เต้นหนักๆมานาน
ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ ชาวเน็ทยังคงแสดงความคิดเห็นที่มุ่งร้าย นี่มันเป็นการเต้นของเด็กประถมเหรอ?
ฉันยังเต้นได้ดีกว่าเขาเสียอีก
แต่อย่างไรก็ตาม ฮีชอลไม่เคยคุกเข่าต่อหน้าผู้คนที่ไม่ชื่นชมเขา เขาตัดสินใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง
เป็นคิมฮีชอลตัวจริง ผู้ที่ไม่เคยใส่ใจกับความพ่ายแพ้
ในเดือนเมษายน ปี2007 อุบัติเหตุทางรถยนตร์ครั้งใหญ่ของสมาชิก....
ผู้จัดการ อีทึก อึนฮยอก ชินดง และคยูฮยอน กำลังเดินทางกลับที่พักหลังจากเสร็จสิ้นตารางงาน...
อีทึก อึนฮยอก ชินดง ไม่ได้บาดเจ็บสาหัสมากนัก แต่คยูฮยอน ที่หมดสติ...
ปอดของเขาหยุดการทำงาน เนื่องจากกระดูกซี่โครงหักทะลุมาถึงปอด ซึ่งมันอาจส่งผลให้เขาไม่
สามารถกลับมาร้องเพลงได้อีก....
แต่อย่างไรก็ตาม มีเสียงนินทาที่มุ่งร้ายจากชาวเน็ทคล้ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคิมฮีชอล
ทำไมเขาถึงรอด? ทำไมถึงไม่ตาย?....
โชคดีอย่างยิ่งที่ อาการบาดเจ็บของคยูฮยอนเริ่มดีขึ้นอย่างช้าๆ ภายใต้การรักษาที่โรงพยาบาล
ช่วงฤดูร้อนปี 2007 --Attack on the Pin-Up Boys'ภาพยนตร์เรื่องแรกของซุปเปอร์จูเนียร์ออกฉาย
แต่น่าเสียดายที่คยูฮยอนและอีทึก ไม่สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ได้เนื่องจากสุขภาพของพวกเขา แต่ด้วยความช่วยเหลือจากแฟนคลับ ทำให้อีทึกหาสถานที่ถ่ายทำจนเจอ และขอผู้กำกับ ให้เขามีส่วนในการถ่ายทำ แต่อย่างไรก็ตาม เสียงตอบรับจากภาพยนตร์นี้ไม่เป็นไปตามคาด...และอีกครั้งที่มีเสียงตำหนิออก มา
นี่คือภาพยนตร์ที่ใช้สมองคิดแล้วเหรอ? มันช่างไม่มีความคิด ทำไมเขาถึงกล้านำเสนอมันในวงการภาพยนตร์
SJ ปล่อยอัลบั้ม 2 ในช่วงฤดูหนาวปี 2007
แต่เพลงหลักอย่าง Dont don กลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด
มีความคิดเห็นที่เลวร้ายมากมาย อย่าง ฉันไม่ได้ยินเสียงคนร้องเลย นอกจากเสียงที่แต่งโดยคอมพิวเตอร์, SJ คือกลุ่มนักร้องที่มีข้อบกพร่องมากมายและไม่มีทักษะในการร้องเพลงเลย
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมโปรโมตอัลบั้ม 2 , การเต้นอันทรงพลังของคยูฮยอน เพื่อให้เข้ากับสไตล์เพลง
แม้ร่างกายจะยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ แต่เขากลับไม่แสดงอาการเจ็บปวด เขาซ่อนมันและความเหนื่อยล้า
ภายใต้รอยยิ้มอย่างมีความสุขบนเวที
หลังจากจบ Don't don, Marry U ก็ได้เวลาเปิดตัว
แต่มันยังดูเหมือนไม่เป็นที่นิยมมากนัก... สุดท้าย SJ จึงปิดฉากโปรโมทอัลบั้ม 2 ...
มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของ SJ และ ELF
เพื่อไม่ให้ SJ ถูกตำหนิอีกครั้งจากการกระทำของ ELF
ELF จึงตั้งโปรเจคที่ชื่อว่า Becoming a kindhearted ELFs และเริ่มตอบโต้คำวิจารณ์ที่มุ่งร้าย
ด้วยการให้อภัยอย่างสุภาพ
เหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ทุกคนไม่อาจลืม...
เด็กหนุ่มนิรนาม ที่เล่นไวโอลีนในช่วงกลางของเพลง Dont don มีข่าวลือว่าเขาอาจกลายเป็นสมาชิกใหม่
ของซุปเปอร์จูเนียร์
ผลที่ตามมา...ELF เริ่มเกิดกระแสต่อต้าน...
การประท้วงภายใต้ข้อเรียกร้อง เราต้องการ 13 ได้เริ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว ของเดือนมกราคม ปี2008
นอกจากยืนประท้วงหน้าบริษัท SM แล้ว ELF ยังรวบรวมเงินราว $1,000 เพื่อซื้อหุ้น 1% ของSM
และออกแถลงการยืนยันจะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งการเพิ่มสมาชิกใหม่
ป้ายมากมายที่ลงข้อความแสดงเจตนาเดียวกัน...
พวกเขาเริ่มประท้วงโดยตะโกนคำว่า ยอล เซมยอง
เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นหัวข้อร้อนแรง และข่าวพาดหัวบนอินเตอร์เน็ทและสื่อทั้งหมด
แต่อย่างไรก็ตาม การกระทำนี้ถูกประณามจากชาวเน็ทอีกครั้ง
พวกคุณไม่คิดถึงคนที่อาศัยอยู่แถวนั้นบ้างเหรอ? พวกคุณนี่มันไม่มีหัวคิดกันรึไง?...ฯลฯ...
จากนั้น ก็ตามมาด้วยอุบัติเหตุจากคำพูดที่ไม่ได้คิดของอีทึก...
ผู้คนที่ไม่เข้าใจเจตนาของอีทึก ต่างรุมตำหนิเขาและแฟนคลับ ที่พูดอย่างไม่คิด
อย่างไรก็ตาม ELF ไม่ได้ตอบโต้อะไรในเรื่องนี้ พวกเขาพยายามที่จะแสดงความเสียใจ
และขอโทษต่อคิมยุนนา
อีทึก ขออภัยทุกๆคน โดยการพูดคำว่า ขอโทษ ในรายการวิทยุ Kiss the radio
เขาเสียสละตัวเองและคิมยุนนา และอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักหลังจากนั้น
เขาร้องไห้เพียงลำพัง ตอนที่กล้องไม่ได้จับที่เขา และไม่แสดงมันต่อหน้าแฟนคลับ
ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายรุมตำหนิ อีทึกก็ยังคงไม่ยอมแพ้..
ต่อมาไม่นาน ยูนิตย่อย Super Junior M ก็เปิดตัวขึ้นที่ประเทศจีนพร้อมสมาชิกใหม่ชาวจีน
เฮนรี่ และโจวมี่ ELF ต่างสงสัยว่า SM กำลังสร้างข้อแก้ตัวเพื่อเพิ่มสมาชิกใหม่ และนำมาซึ่ง
ความไม่สบายใจอย่างมาก
ELF ได้แต่มองพวกเขาผ่านวงการบันเทิงจีน...รอและรอ....
ฤดูร้อนปี 2008 ยูนิตย่อย Super Junior Happy ก็เปิดตัวตามมา
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และไม่ถูกกล่าวถึงมากนัก แต่การโจมตี
ที่สกปรกก็น้อยลงตามไปด้วย
(ในปี 2008 SJ แยกยูนิตออกเป็น SJM และ SJH , SJM ทำงานที่จีน ขณะที่ SJH ทำงานใน
เกาหลีและญี่ปุ่น..พวกเขาหาโอกาสได้ยากมากที่จะกลับมารวมกลุ่ม)
หลังจากรอคอยมาร่วม 1 ปีกับ 6 เดือน Super Junior กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้ม 3 Sorry sorry
ในเดือนมีนาคม ปี 2009
Sorry Sorry ทำให้พวกเขากลายเป็นที่นิยมทั่วทั้งเกาหลี และเพิ่มจำนวนแฟนคลับได้มากมาย
รวมยอดขายได้กว่า 200,000 แผ่น ในปี2009 และกลายเป็นอัลบั้มที่มียอดขายอันดับสูงสุดแห่งปี
รวมทั้งยังคว้าอันดับ 1 หลายสัปดาห์และกลายเป็นเพลงฮิตทั่วเอเชีย
ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นและไปได้สวย....
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีก...สมาชิก คังอินพัวพันกับคดีทำร้ายร่างกายและดื่มแล้วขับ
จนเกิดอุบัติเหตุ เขาเหมือนเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในคดีทำร้ายร่างกาย แต่เรื่องดื่มแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุ
เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจปฎิเสธอีกครั้ง...ที่สมาชิก Super Junior และ ELF ต่างรู้สึกเหนื่อยล้า...
แน่นอน...เขาได้ทำบางสิ่งที่ผิดพลาด
แต่อย่างไรก็ตาม มีความจริงที่ถูกบิดเบือนตอนรายงานข่าว
มีเพียงสมาชิก SJ , ELF และเพื่อนสนิทของSJ เท่านั้นที่รู้ความจริง
ระหว่างที่คังอิน อยู่ในช่วงพักงาน...เหตุการณบางอย่างระหว่างฮันคยองและ SM ก็ประทุขึ้น..
สัญญาทาส....ฮันคยอง และ SM
เป็นที่แน่ชัดว่า มันไม่ใช่ความผิดของฮันคยอง มันเป็นข้อผูกมัดของสัญญาทาส
มันคือสัญญาทาสที่ไม่สมเหตุสมผลเอามากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องของ TVXQ
สัญญาทีว่า รายได้98% ที่ SJ ทำได้ต้องแบ่งให้กับต้นสังกัด SM
เมื่อข่าวเผยแพร่ออกไป สมาชิก Super Junior ต้องเจ็บปวดและถูกตำหนิอีกครั้ง
พวกเราต่างเจ็บปวดมากมายกับข้อความเหล่านี้ :
โอ้..มันใช่ 13 ใช่ไม๊?...คิบอมก็เอาแต่งานแสดง ไหนจะเหตุการณ์ของคังอิน ฮีชอลที่แยกไปทำงานเดี่ยว
และนี่ เรื่องสัญญาของฮันคยอง...โอ้..มันทำให้ฉันปวดหัวจริงๆ มันคงดีกว่าถ้าพวกคุณยุบวงไปเลย..
บางข้อความก็ว่า ความผิดพลาดหลายอย่างของคนทั้ง 13 ฉันแนะนำว่าทำไมถึงไม่ยุบวง Super Junior
เพราะยังไงพวกเขาก็ไม่ได้มีศักยภาพในการร้องเพลง...เพลงของพวกเขาล้วนแต่แปลกๆ....
เพราะเรื่องนี้ ยังทำให้ฮันคยอง ถูกรุมประณาม....
ความคิดเห็นของ ELF จีนว่า
ทำไมคุณถึงไม่กลับมาประเทศบ้านเกิดตัวเองแทนที่ต้องทนเจ็บปวดในประเทศอื่น
ในขณะที่ ELF เกาหลี ยังคงปกป้องเลข 13 ของพวกเขาอย่างหนักแน่น
มันจึงกลายเป็นสงครามระหว่าง ELF....สงครามที่มองไม่เห็น
คังอิน คิบอม และฮันคยอง ไม่ได้ปรากฎตัวในงานประกาศรางวัลปลายปี....
มีเพียง 10 สมาชิกเท่านั้นที่ร่วมในงานประกาศรางวัล
Super Junior กวาดรางวัลใหญ่มามากมายในงานประกาศรางวัล
และพวกเขาก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยชื่อสมาชิกที่ไม่ได้ร่วมงาน เมื่อไรก็ตามที่อีทึกกล่าวขอบคุณ
เขาจะพูดว่า รวมถึงสมาชิกทั้ง 3 ด้วย
Super Junior ต้องเผชิญหนทางที่เจ็บปวด และยากลำบากมากกว่าคนอื่นๆ
13 สมาชิก Super Junior มันก็เป็นเพียง 13 สมาชิก Super Juniorที่ไร้ความคิด
...นี่คือคำพูดที่มาจากเหล่าแอนตี้แฟน...
ผู้คนทั่วไปที่ไม่รู้ความจริง มักตำหนิพวกเขา(SJ) เมื่อไรก็ตามที่มีเรื่องเกิดขึ้น
ก่อนจะรู้สถานการณ์จริงทั้งหมด
SJ ถูกชาวเน็ทรุมสวด จัดฉลองวันเกิดให้คยูฮยอนระหว่างงานประกาศรางวัล Seoul Music Festival
เมื่อวันที่ 2/3/2009
ถึงอย่างไรก็ตาม พวกเขาเพียงอยากกล่าวขอโทษ
พวกเรา ELF ตะโกนเสียงดังมากกว่าสมาชิก SJ ที่อยู่ใต้แสงสปอร์ตไลท์
มันคือความผิด ที่พวกเราได้สร้างขึ้น
กรุณาทิ้งคำตำหนิทั้งหมดไว้ที่พวกเรา ELF ถ้าคุณต้องการทำมัน
สมาชิก Super Junior ร้องไห้มามากพอแล้ว กรุณาอย่าทำให้พวกเขาต้องหลั่งน้ำตาไปมากกว่านี้เลย...
ตลอดเวลา Super Junior ไม่สามารถบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการในใจ..
ตลอดเวลา Super Junior ไม่สามารถอธิบายความคับข้องใจของพวกเขาได้หมด
กรุณาอย่าตัดสินพวกเขา จากการพิจารณาเพียงด้านเดียว
กรุณา พิจารณาพวกเขา อย่างคนๆหนึ่งด้วยความรู้สึก แทนที่จะเป็นกลุ่มศิลปินจากสังกัด SM
Super Junior ไม่ใช่วงที่มีความสุขและรอมยิ้ม อย่างที่คุณเห็นในรายการ
สิ่งที่ซ่อนในรอยยิ้ม...คือน้ำตาของความกลัว กลัวว่าพวกเขาอาจทำให้แฟนๆต้องโดนตำหนิ
การแสดงอย่างมีความสุขตลอดเวลา...Super Junior คือน้ำตา
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ELFs จะรับคำตำหนิไว้
เพียงแค่.....พิจารณาว่า... อ่า,พวกเขาก็มีจิตใจ..
มันก็เพียงพอแล้ว...
Super Junior และ ELFs, Fighting!
โปรดอย่าโพสมัน ถ้ามันทำให้คุณคิดว่า Super Junior น่าสมเพช หรืออะไรก็ตาม
เพียงแค่หวังให้คุณมองไปข้างหน้า และทำให้ดีขึ้น หลังจากได้เห็นอดีตที่ชัดเจน
มันคือยุคของ Super Junior และ ELFs!
SUJU ไม่ใช่เพียงแค่ความบันเทิง
พวกเขาคือครอบครัว...พวกเขาคือความรักของพวกเรา
SJ13+ELF = 1 เดียว
cr. : http://ploylilith.เอ็กซ์ทีน.com/20100415/sj
via :http://www.เด็กดี.com/board/view/2555580/
มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย เกรียนบนหลุมสิว!'
- แจกบั้ม AT Gwanghwamun จาก itunes (บันเทิง)
- แจก"ดิสทวิตEXO"แบบนี้ สนมั้ย? (ตกแต่งภาพ)
- [EXO] รีวิววิธีซื้อติ๊กเกอร์ไลน์EXO (บันเทิง)
- [ถาม] ปัญหาโลกแตก ใส่อะไรไปคอนดี? (บันเทิง)
- อยากแนะนำให้ดู ประทับใจมาก (บันเทิง)
- กระทู้โดย เกรียนบนหลุมสิว!' ทั้งหมด
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
SUJU ไม่ใช่เพียงแค่ความบันเทิง
พวกเขาคือครอบครัว...พวกเขาคือความรักของพวกเรา
SJ13+ELF = 1 เดียว
แม้ตอนนี้ใครที่เปลี่ยนใจไปชอบวงอื่นเราชาวเอลฟ์อาจจะเจ็บปวด แต่ก็ขอบคุณที่ออกไปจากชีวิตพวกเรา ให้เหลือไว้เฉพาะเอลฟ์จริิงๆที่จริงใจกับเอสเจ
เดินกันต่อไปจนหมดลมหายใจ
สนับสนุนต่อไป
รักต่อไป เมื่อได้รักแล้วมันไม่มีันจะเลิกรักได้หรอก
คิดถึงตอนนั้นจริงๆตอนที่เรามีกัน 13 คน และกับเฮนรี่โจมมี่ ขอบคุณที่ทำให้เอสเจเอ็มมีสีสันทั้งสองก็ผ่านอะไรมาเยอะ ไม่มีใครอยากโดนแอนตี้ทั้งนั้นหรอก ถ้าได้ไปยืนจุดนั้นมันจะรู้ว่าทั้งสองคนก็เลือกไม่ได้หรอก ก็นี้มันเอสเอ็มนะ ถ้าคุณไม่ใช่ลูกคนรวยก็ไไม่ควรปริปากมีปากมีเสียงกับใคร
#ทุกคห, ขอบคุณมากค่ะที่เข้าใจและยืนหยัดอยู่ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณที่เข้าใจจิตใจเอสเจและของกันและกัน, ถึงแม้ว่าจะมีบางฝ่ายต่อต้านก็จริง แต่ถ้าเราสู้ไปด้วยกันจนถึงที่สุด, อะไรๆก็เกิดขึ้นมาได้เสมอ
คห 7 เราก็ว่าจะทำอ่ะ ร่วมกันป่าวบ้านเธอกับบ้านเราอ่ะ
จริงค่ะ นี่ทวิตหนูนะคะ @kyuwife หนูแอดมินสมาคมทำร้ายsjแห่งประเทศไทยค่ะ คิดว่าคงจะได้แนวร่วมไม่มากก็น้อย คุยกันหลังไมค์เลยค่่ะ
like คห.6
เหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ได้คัดกรองแล้วว่ายังเหลือเอลฟ์ที่ยังรักและปกป้องเอสเจอยู่แค่ไหน
))) 
นี่เราผ่านเรื่องราวมามากมายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย 555
เราเป็นคนหนึ่งที่เดินผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาเหมือนกัน
มันมีทั้งความสุข จากทุกๆอย่างที่เอสเจมอบให้
ความทรมาณ ที่ได้รับรู้ว่าเอสเจมีความทุกข์ หรือได้รับบาดเจ็บ
สำหรับเรา อาจเกิดจากดูตามกระแส แต่เจ็ดปีที่ผ่านมา มันก็กลายเป็นความผูกพัน
จนคิดไม่ออกว่าถ้าไม่มีเอสเจในชีวิตจะเป็นยังไงเลย
แอบสงสัยว่าสยามโซนสมัยนี้ยังมีคนรู้เรื่องพวกนี้อยู่อีกมั้ย 555555
เด็กรุ่นใหม่ๆไม่ค่อยรู้จักเรื่องพวกนี้แล้วล่ะ ส่วนใหญ่เห็นเป็นแฟนคลับ
วงอื่นเสียมากกว่า หลายครั้งที่พวกเราถูกด่า ถูกต่อว่า ถามว่าโกรธมั้ย
โอเคแน่ล่ะ เราโกรธแต่เอสเจล่ะ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เอสเจและเอลฟ์เข้มเเข็ง
และอยู่มาได้ทุกวันนี้ก็คือ...ความจริงใจและเป็นห่วงเป็นใยกันทั้งสองฝ่าย
เอลฟ์ไม่อยากให้เอสเจเจ็บปวด เอสเจไม่อยากให้เอลฟ์เสียใจ
เอลฟ์ยอมโดนด่าแทนที่จะให้คำด่าเล่านั้นไปถึงหูเอสเจ
เอสเจยอมโดนด่าเองดีกว่าที่เขาจะด่าไปที่เอลฟ์ของพวกเขา
สิ่งเหล่านี้มันทำให้เอลฟ์จริงๆเหนียวแน่นและความสัมพันธ์พวกนี้แหละ
ที่ทำให้มันยืนยาว
คนส่วนมากคิดว่าเอสเจไม่หล่อ ร้องเพลงวงอื่นก็ดีกว่า เต้นหรอวงใหม่ๆเจ๋งกว่าเยอะ
ดังได้ยังไงพวกติ่งหลงไม่ลืมหูลืมตาล่ะสิ...
พวกเขาพูดได้แน่นอนเพราะพวกเขาไม่ได้ผ่านเหตุการณ์หรือรับรู้เหตุการณ์แบบนี้นี่
ถูกมั้ย ...แต่เรารับรู้
มันไม่สำคัญว่าตอนนี้พวกเขาจะอยู่ด้วยกันหรือไม่
ไม่สำคัญว่าเราจะโดนด่าว่ามากน้อยแค่ไหน
ไม่สำคัญว่ามีคนเปลี่ยนใจจากเอสเจมากเพียงใด
ไม่สำคัญว่าจะมีคนไม่เข้าใจเราอยู่อีกมั้ย
สิ่งที่สำคัญคือความห่วงใยที่มีให้กัน ต่อให้มีคนอีกเป็นแสน
ที่ไม่เข้าใจเพียงแค่มีคนๆเดียวที่เข้าใจพวกเขาก็ดีเกินพอ
คนเราไม่ได้ต้องการให้คนมากมายมาเข้าใจขอเพียงใครสักคน
ที่เข้าใจก็พอนี่
เด็กชอบเกาหลีรุ่นใหม่สมัยนี้รู้จักเอสเจนะแต่ไม่ค่อยได้เป็นเอลฟ์หรอก
ที่เห็นและรู้สึก คงเพราะไม่รู้ว่าเอสเจผ่านอะไรมามากมายแค่ไหน
ถามว่าเหนื่อยมั้ย มันเหนื่อยแต่ยอมแพ้มั้ย ไม่แน่นอน
เราไม่รู้ว่าเอสเจจะอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหนคำว่าตลอดไปน่ะไม่มีหรอก
ทึกก็พูดไว้ แต่เรา...จะอยู่ด้วยกันให้นานที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้...
คำว่า เอสเจ จะต้องถูกพูดถึงในอนาคตกับรุ่นน้องว่าพวกเขาฝ่าฟัน
พยายามแค่ไหนกว่าจะมีทุกวันนี้ได้ เอสเจคือตัวอย่างของคำว่า
"ศิลปินที่อยู่ได้ด้วยแฟนคลับ" ไม่ใช่ "ศิลปินที่อยู่ได้ด้วยการโปรโหมดของค่ายสักนิด"
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google