[Full Review album] The Marshall Mathers LP2 -Eminem

9 พ.ย. 56 12:49 น. / ดู 3,299 ครั้ง / 7 ความเห็น / 2 ชอบจัง / แชร์


สิ้นสุดการรอคอย สำหรับการกลับมาอีกครั้งของราชาแร็พตัวจริงอย่าง EMINEM สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 8 ที่มีชื่อว่า The Marshall Mathers LP 2 อัลบั้มภาคต่อภาคสุดท้ายของอัลบั้มสุดคลาสสิคที่เขย่าวงการฮิพฮอพในปี 2000อย่าง  The Marshall Mathers LP แน่นอนล่ะครับว่า สร้างความตื่นเต้นให้กับสาวกเอมิเน็มอยู่ไม่น้อย เพราะอัลบั้มภาคแรกนั้นดังพลุแตกซะขนาดนั้น กวาดแกรมมี่ไปนอนกอดตั้งหลายรางวัล เนื้อหาของเพลงก็ไม่ธรรมดา สะท้อนตัวตนที่แท้จริงของศิลปินที่เก็บกด อยู่ในสังคมที่แตกหัก โทนของอัลบั้มก็ออกไปในด้านมืด ตลกร้าย ซาดิสม์ แปลกประหลาด บ้านแตก และการสื่อภาษาที่ค่อนข้างรุนแรง ดุดัน ตรงไปตรงมาซะด้วย ซึ่งอัลบั้มชุดดังกล่าวผมเองก็ได้รีวิวไปแล้ว ผมเองก็ยกให้เป็นอัลบั้ม MMLP ภาคแรกนั้นเป็นสุดยอดอัลบั้มฮิพฮอพในดวงใจอันดับที่สองรองจากอัลบั้ม My Beautiful Dark Twisted Fantasy ของ Kanye West เลยทีเดียว อัลบั้มภาคต่อชุดนี้ป๋าเอ็มพาทุกคนไปย้อยวันวานความเป็น MMLPแบบเก่านั่นเอง ผมได้ลองฟังดูแล้วดูปะติดปะต่อจากภาคที่แล้วอยู่หลายเพลงเหมือนกันนะครับ บางเพลงก็เอาดนตรีจากอัลบั้มภาคแรกมายำเล่นในสไตล์ที่แตกต่างจากเดิม แต่ดูค่อนข้างเป็นเมนสตรีมมากกว่าภาคแรกครับ และที่สำคัญป๋าเอ็มนั้นทำเซอร์ไพร์สซะด้วย จะเป็นเรื่องอะไรหรือเพลงไหน ห้ามพลาดละกัน


ก่อนอื่นเลยผมต้องขอพูดถึงโปรดิวซ์เซอร์ในงานเพลงชุดนี้ตามธรรมเนียมการรีวิวของผม ดูจากเครดิตแต่ละเพลงแล้ว ดูเหมือนว่าโปรดิวซ์เซอร์คู่บุญอย่าง Dr.Dre ที่ควบตำแหน่ง Executive Producerจะดูเป็นตัวเสริมในการมิกซ์เพลงมากกว่าการเป็นโปรดิวเซอร์หลักซะอีกนะ คนที่เป็นโปรดิวซ์เซอร์หลักซะส่วนใหญ่เป็นตาฤาษีหนวดขาวอย่าง Rick Rubin (Excutive Producerอีกคน) ที่ร่วมงานกับป๋าเอ็มเป็นครั้งแรก  สาธยายมาเยอะแล้ว ไปดูกันเลย

1. Bad Guy (feat. Sarah Jaffe) (10/10) ภาคต่อของเพลง Stan ที่โด่งดังจนอื้อฉาวกันไปทั้งบาง เปิดด้วย Introเมโลดี้สวยๆ ท่อนฮุกติดหูดีครับ ก่อนที่จะมาแร็พกันยาวๆถึงสี่ท่อน เพลงยาวถึง  7 นาที เนื้อหาสืบเนื่องจากน้องชายของ Stan ที่ชื่อ Matthew ได้รู้ความจริงว่า พี่ชายของตนฆ่าตัวตาย เพราะป๋าเอ็มเพิกเฉยไม่ยอบตอบจดหมาย  13ปีผ่านไป Matthew พยายามจะแก้แค้นพี่ชายอย่างสาสมด้วยการฆ่าเอมิเน็ม ซึ่งป๋าเอ็มเองก็รู้สึกละอายกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น กับแฟนเพลงที่ต้องมาจบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตายอย่างน่าเศร้า **แมททิวเองก็ดันเป็นเกย์ซะด้วย เป็นการเปิดอัลบั้มที่บ่งบอกคอนเซปต์ได้ดีมากๆครับ เนื้อหาก็ดูน่าติดตามมากๆครับ แฝงความเป็นป๋าในภาคแรกได้ดีที่สุด ตอนจบเข้าใจคิดดีฮะ เด็ดสุดๆอยู่ตรงverse 4ของเพลงนี้ครับ เข้าโหมดดาร์กเต็มๆ เป็นช่วงที่ป๋าเอ็มฝันร้าย โดนStan และ Matthew หลอกหลอน ผมเองก็แอบเชียร์ให้เพลงนี้ทำเป็นเอ็มวีออกมา ถ้าได้ทำจริงคงน่ากลัวอยู่

2. Parking Lot (skit) skit สั้นๆ ต่อจากเพลง criminal หลังจากที่เอมิเน็มไปปล้นและฆ่าผู้หญิงคนนั้นตาย ตำรวจมาก็เผ่นดิครับ ตอนจบจะเป็นอย่างไร ให้ไปฟังกันเองก็แล้วกันครับ เกรียนได้ใจดีฮะ แต่ตอนจบนี่ แหม ทำไปได้



3. Rhyme or Reason (9/10) เปิดตัวนี่ ดูฮิปปี้เอามากๆ แปะด้วยแซมเปิ้ลเพลง Time Of Season ของ The Zombies เพลงสุดคลาสสิคในยุค 70 เข้ากันกะแร็พได้อย่างน่าอัศจรรย์ แถมป๋าแกก็โคตรกวนบาทาได้อีก ในเพลงป๋าแกก็คิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ชอบแต่งเพลงดิสเซเลปคนโน่นคนนี่ ก็แอบบ่นในใจอยู่เหมือนกันว่า ตรูนี่โคตระะไร้สาระซะจริงๆ ในขณะเดียวกันก็ยังจิกกัดพ่อแท้ๆของป๋าเอ็ม ที่ทิ้งเขาตั้งแต่ยังแบเบาะไปอย่างไม่มีเยื่อใยฮะ

4. So Much Better (9.5/10) เพลงนี้เอาบีทจากเพลง Criminal มาโมดิฟายใหม่ ในโทนที่ดูจริงจังขึ้น แต่ป๋าเอ็มยังคงสไตล์ความเป็นป๋าในอดีตได้อย่างดี ตลกร้าย ซาดิส และเหนือชั้นมากๆ โดยเฉพาะการแร็พ และการแปลงท่อนฮุกของเพลงสุดฮิตอย่าง 99 Problems ของ Jay-Z ได้อย่างแนบเนียนและเด็ดดวงเอามากๆครับ ประโยคเด็ดที่ว่า I got 99 problems and a bitch ain’t one/she’s all 99 of ‘em, I need a machine gun



5. Survival (feat. Liz Rodrigues) (9.5/10) ซิงเกิ้ลที่สอง เพลงประกอบเกมส์ Call Of Duty : Ghost อินโทรเบส โซโลกีตาร์มาอย่างเท่ๆ การแร็พฮาร์ดคอที่ดุดัน มันส์เอามากๆ ปิดเกมแร็พในท่อน 3 ได้เด็ดดวงมากๆ  เนื้อหาแสดงจุดยืนได้เป็นอย่างดีสมชื่อเพลงเลย ประโยคที่ผมชอบมากๆอยู่ที่ท่อนสองครับ  if I don’t got enough in the tank maybe I can just syphon enough/to fill up this last can, man will I survive in this climate or what/they said I was washed up and got a blood bath, I’m not a rapper I’m an adapter- I can adjust ที่ตูอยู่รอดในวงการเพลงจนถึงทุกวันนี้ เพราะตรูปรับตัวเก่งโว้ยย

6. Legacy (feat. Polina Goudieva) (10/10) เบรคด้วยเพลงช้าๆ ฟังสบายๆ ท่อนฮุกติดหูมาก เด่นด้วยเปียโน กลิ่นอายมีความเป็นมิดเทมโปฮิพฮอพ อาร์แอนด์บี เหมาะเหม็งกะการปล่อยเป็นซิงเกิ้ล เพราะเป็นมิตรกับวิทยุได้เป็นอย่างดี โทนเพลงออกแนว ระบายความเจ็บปวดในอดีตอันขมขื่นของ shady ที่ยากจะลืมเลือน

7. Asshole (ft. Skylar Grey) (7.5/10) เปิดตัวด้วยแร็พเคล้าเสียงกลองอันฮึกเฮิม จงใจด่าตัวเองเต็มที่ ท่อนฮุกเสียงสูงจาก Skylar Grey เสียดายครับที่แจมน้อยไปหน่อย แต่ก็ยังไม่โดดเด่นเท่ากะเพลง I need a doctor อยู่ดี เป็นการcollaboration ที่ยังไม่โดดเด่นพอครับ 



8. Berzerk (9.5/10) Single แรกที่เปิดตัว แร็พฮาร์ดคอสุดมันส์ อะดรีนาลินพุ่งพล่าน ได้ความเป็น old school ฮิพฮอพ แบบเต็มๆ ทำให้ผมนึกถึง Public Enemies กะ Beastie Boy ในสมัยนั้นเลย แร็พกวนอวัยวะ เคล้ากับบีทที่ตุบตับที่นำมาจากเพลง The Stokes ของ Billy Sqiuer เด่นด้วยกีตาร์ เบสสุดกระหึ่ม และแสครชแผ่น ผมยอมรับเลยครับว่า ฟังครั้งแรกรู้สึกแปลกๆนิด แต่ฟังไปเรื่อยๆรู้สึกว่าก็มันส์ดีแฮะ ดูเฟรช กระปี้กระเปร่าดี ก็แน่นอนล่ะฮะว่า Dr.Dre ไม่ได้เป็นคนโปรดิวซ์เพลงนี้ แต่มอบหมายให้กับ Rick Rubin แทน ถือว่าเป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวที่ไม่ทำให้ผิดหวัง



9. Rap God (1000000/10) ซิงเกิ้ลที่3 ที่ชื่อออกแนวโอ้อวดไปหน่อย เปิดตัวในอันดับที่7ในสัปดาห์แรก เป็นเพลงที่ยาวถึง 6นาทีด้วยกัน แค่เห็นก็เอียนแล้ว แต่ป๋าเอ็มสามารถโชว์ศักยภาพขั้นเทพอย่างเต็มที่ ปล่อยหมัดเด็ดใส่แฟนเพลงเข้าอย่างจัง การแร็พที่เล่นคำได้อย่างเมามัน เถื่อนได้ใจ และเด็ดสุดคงหนีไม่พ้น นาทีที่4:27 ที่แร็พรัวลากยาวไปตั้ง 15วิ แร็พชนิดที่ลืมหายใจ จะว่าไปแล้ว Look at me now ที่ว่ารัวนานแล้ว มาเจอเพลงนี้เข้าไป ทำลายสติไปเลย แถมฟังพอรู้เรื่อง ไม่มั่ว flowไหลเป็นน้ำ แถมตรงจังหวะเป๊ะ  สมแล้วที่ได้สมญานาม rap god จริงไม๊เพื่อนๆ

10. Brainless (9.5/10) เพลงนี้กลับเข้าสู่สไตล์เอมิเนมที่ทุกคนคุ้นเคยจากเพลง Brain Damage จากอัลบั้ม Slim Shady LP นั่นเอง ดนตรีอิเล็กโทนกะบีทโดดเด้งมากครับ แร็พได้ flowดี เล่นคำได้เจ๋งดี ป่วนสมองดีครับ ดูจากชื่อเพลงแล้ว คงไม่ Brainless อย่างที่คิดแน่นอน อย่างนี้เค้าเรียกว่าอัจฉริยะแล้วล่ะครับ

11. Stronger Than I Was (7/10)  เมื่อได้ยินเพลงนี้ครั้งแรก เซอร์ไพร์สผมอย่างแรง ป๋าเอ็มร้องเพลงแล้วโว้ย ป็อบบัลลาดซะด้วย ป๋าแกตั้งใจร้องมากๆ ร้องได้เพราะซะด้วย คราวนี้ป๋าแกขอสานภาคต่อของเพลง Kim ที่ทำออกมาได้โหดร้าย ป่าเถื่อน จนหลายคนหยี เพลงนี้ก็ยังตัดพ้อ เมียเก่าKimเหมือนเดิมครับ แต่ทำออกมาได้หนักแน่น ดูเป็นลูกผู้ชายจริงๆ  ถึงแม้ว่าเธอจะเดินหนีจากชั้นไปแล้ว แต่ฉันก็จะเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าและเข้มแข็งขึ้น เจ๋งอ่ะ



12. The Monster (feat. Rihanna) (8/10) มาถึงอีกหนึ่งซิงเกิ้ลที่ทุกคนรอคอยแล้วล่ะครับ กลับการร่วมงานกันเป็นครั้งที่4 แล้วกะริห่านของเรา คราวนี้มาในบรรยากาศที่ชิวๆ ไม่จริงจังมากเหมือนกะ Love the way you lie และเนื้อหาก็ไม่ได้พูดถึงความรัก แต่พูดถึงชื่อเสียงของพวกเขาที่นอกจากจะเป็นเงาตามตัวแล้ว ยังเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่คอยหลอกหลอนเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งตรงกะชีวิตของทั้งคู่จริง ท่อนฮุกของรีห่านดึงเพลงได้เยอะเลย ติดหู วนเวียนอยู่ในหัวเลย ส่วนการแร็พของshady ก็ออกแนวแปลกประหลาดสมชื่อเพลงเลย เพลงนี้ย่อมถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะคราวที่แล้ว ทำไว้ซะดังพลุแตก กลับคราวนี้สำหรับผมแล้ว โอเคอยู่ครับ ดังแน่ๆ และเพลงนี้ก็เปิดตัวแรงในสัปดาห์แรก ที่อันดับ 3 บิลบอร์ดเรียบร้อยโรงเรียนป๋าเอ็มรีห่าน แน่นอนครับว่า ต้องปล่อยเอ็มวีออกมาในเร็วๆนี้แน่นอน



13. So Far... (10/10) เปิดตัวด้วยแซมเปิ้ลเพลง Life’s Been Good  ของ Joe Walsh และเสียงร้องอันชิวๆของ shady และแร็พที่เข้ากันได้ดีมากๆ ดูรู้เลยครับว่า ป๋าเราท่าทางจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ มองโลกในแง่ดีมากขึ้น ผมฟังแล้วอดยิ้มไม่ได้เลย บรรยากาศของเพลงดูเฟรนลี่มากๆครับ แถมเนื้อหาก็ดีมากๆ แสดงถึงด้านดีของเอมิเนมที่เป็นคนติดดิน ไม่อวดรวยเหมือนแร็พเปอร์คนอื่นๆ และไม่ลืมบ้านเกิดของตัวเอง ฝีมือการโปรดิวซ์โดย Rick Rubin สุดยอดมากครับเพลงนี้ เนี่ยแหละอีกหนึ่งเซอร์ไพร์ส เข้าถึงได้ไม่ยาก และขอร้องอย่าข้ามเพลงนี้



14. Love Game (feat. Kendrick Lamar) (9/10) ดูจากแขกรับเชิญแร็พเปอร์ดาวรุ่งอย่าง Kendrick Lamar แล้ว น่าจะมีการเปิดเกมส์แร็พอย่างเมามันส์แน่นอน แต่ที่ไหนได้บรรยากาศของเพลงกลับเป็นมิตรเหมือนเพลงที่แล้วแฮะ ดูค่อนข้าง vintage พอสมควร แปะด้วยซิมเป้ลเพลง Game Of Love ของ Wayne Fontana & The Mindbreakers  ฟังได้สบายๆเหมือนเพลงที่แล้ว การแร็พของตาลามะก็สร้างสีสันให้กับเพลงได้เป็นอย่างดี เกือบแย่งซีนป๋าเอ็มเลยนะเนี่ย ตอนนี้ตาลามะกำลังดังซะด้วย น่าจะมีเอ็มวีออกมาแน่ๆ



15. Headlights (feat. Nate Ruess) (9.75/10) อีกหนึ่งเพลงที่น่าจับตามอง เพราะได้ Nate Ruess แห่งวง FUN. มาร่วมงานด้วย ได้ฟังแล้วผมกลับรู้สึกว่า เฮ้ย!นี่มัน FUN. Feat EMINEM ชัดๆ สไตล์เพลงมันเป็นของวง FUN. ไม่มีเค้าความเป็นเอมิเน็มเสียเลย แต่ก็เพราะดีนะครับ และเซอร์ไพร์สยิ่งกว่าคือ เพลงนี้ป๋าเอ็มแต่งเพื่อขอโทษแม่แท้ๆของเค้าด้วยครับ หลังจากที่แร็พด่าแม่ไปตั้งหลายเพลง คราวนี้ป๋าเอ็มเรากลับรู้บุญคุณแล้วล่ะครับ แถมปลอบใจแม่ที่โดนพ่อทิ้งอีกด้วย งานนี้แฟนคลับคงสบายใจแล้วล่ะ จบศึกอย่างแฮปปี้  มีความเป็นไปได้สูงครับที่เพลงนี้จะถูกตัดเป็นซิงเกิ้ลต่อจาก The Monster

16. Evil Twin (9.5/10) หลังจากที่ผ่านเพลงชิวๆมาถึง3เพลงแล้ว ทีนี้มาเข้าสู่โหมดดาร์กๆ ปิดท้าย standard version กัน Evil Twin ในที่นี้ก็คือ Slim Shady นั่นแหละครับ สะท้อนตัวตน slim shady คนเก่าที่สยอง ตลกร้าย ซาดิสม์ ได้เป็นอย่างดีครับ ใครว่าป๋าเอ็มไม่มีเพลงจิกกัดเซเลป ก็มีอยู่ในแทร็คนี้จนได้ ทั้ง Lady Gaga Justin Bieber LMFAO ก็เป็นเหยื่ออันโอชะในเพลงป๋าอย่างหนีไม่พ้น บีทตึบตับได้ใจดีครับ การแร็พของ Shady ก็มีพลังความเป็นฮาร์ดคออยู่ แถมยังไม่ต้องอาศัยท่อนฮุคอะไรมากมาย แร็พยาว5นาที ไม่น่าเบื่อแต่อย่างใด

ยังมี review bonus track และสรุปคะแนนภาพรวม ในคห.1ต่อนะครับ
แก้ไขล่าสุด 17 พ.ย. 57 14:55 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | IamIstyle | 9 พ.ย. 56 12:53 น.

Deluxe Version : Bonus Track



17. Baby (8.5/10) โบนัสแทร็คเพลงแรก อาจจะยังไม่โดดเด่นสู้เพลงก่อนหน้านี้ไม่ได้ แต่ท่อนฮุคติดหูดี บีทหนักๆที่มิกซ์โดย Dr.Dre ช่วยดึงเพลงได้เยอะ และได้ความคุ้นเคยกลับมาด้วย ฟังสนุกใช้ได้

18. Desperation (ft. Jamie N Commons) (8/10) เปิดอินโทรมาซะแนวคันทรี่เลยนะครัช ผมเองยังอุทานไปเลยครับว่า นี่เป็นเพลงคันทรี่ที่มีเอมิเน็มมาfeat ให้ซะอีก ก็มันส์ไปอีกแบบครับ

19. Groundhog Day (9/10) แร็พล้วนๆ ออกแนวเนือยๆนิดๆในช่วงแรก แต่ท่อนสามป๋าเองใส่อินเนอร์โกรธเต็มที่ฮะช่วยเพลงขึ้นมาได้ แถมบีทของเพลงก็เด่นดี ฟังเพลิน

20. Beautiful Pain (ft. Sia) (9/10) ว้าว เป็นโบนัสแทร็คที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะได้นักร้องสาวเสียงทรงพลัง Sia หลายคนคงจำเธอได้ในเพลง Titanium ที่ฮิตไปทั่วโลก เพราะมากๆฮะเพลงนี้ ท่อนฮุคก็ติดหู แถมเนื้อหาก็ดีมากๆฮะ

21. Wicked Ways (feat. X Ambassadors) (8.5/10) เปิดตัวมาบีทตึบตับดีฮะ styleมันไม่ใช่ป๋าเอ็มเราเลยอ่ะ ออกแนวซ้ำกะศิลปินอื่นเฉยเลย แต่อย่าเพิ่งหยุดเพลงนี้นะครับ เพราะท้ายเพลงมี skit ฮาๆอีก เพราะคราวนี้ตาเกย์เฒ่า Ken  Kaniff โผล่มาเซอร์ไพร์สด้วย

สรุป (9/10)
เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มฮิพฮอพที่ดีสุดของปี2013เลยก็ว่าได้ และเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของป๋าเอ็มเลยฮะ ตั้งแต่ MMLP กะ The Eminem Show หลายๆคนคงได้อ่านรีวิวของผมคงสังเกตได้ว่า ผมคาดหวังอัลบั้มนี้ไว้เยอะพอสมควรแต่ได้ฟังแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ประทับใจหลายเพลงเลย มันมีความวาไรตี้ดี อัลบั้มนี้แทนที่จะออกไปในโทนดาร์กเหมือน MMLP ภาคที่แล้ว แต่มีอะไรที่เซอร์ไพร์สผมอย่างแรงครับ หลายเพลงกลับเข้าถึงได้ง่าย ไม่รุนแรงจนเกินไป ฟังสนุก และมีความสร้างสรรค์อันชาญฉลาดที่เชื่อมโยงเนื้อหาภาคที่แล้วได้อย่างแนบเนียนจริงๆ ฟังแล้วรู้สึกฟินจริงๆ
นี่แหละครับคือเพลงฮิพฮอพที่มันควรจะเป็น

จะเห็นได้ว่า แร็พเปอร์หลายๆคนชอบสร้างสรรค์งานเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ อบายมุข ยาเสพติด ความรุนแรง โอ้อวดความรวย กินเหล้า ฟันหญิง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่สร้างสรรค์เลย ไร้สาระเอามากๆ แต่สำหรับ MMLP2 ผมขอชื่นชมเค้าจริงๆ เพราะเกือบทุกเพลงไม่ค่อยมีเรื่องพวกนี้มาเกี่ยวข้องเลยครับ อาจจะมีคำหยาบเยอะไปบ้าง แต่ด้วยความกลมกลืนของเพลง เลยทำให้เราพอรับได้ มันเป็นอัลบั้มที่เปิดใจให้กับทุกๆคนจริงๆ ทั้งคนที่เป็นแฟนเพลงป๋าเอ็มอยู่แล้วหรือว่าคนที่ไม่ได้เป็น เป็นการปิดมหากาพย์ MMLP ได้สวยงามครับ เหมือนนึกถึงหนังเรื่องนึง partแรกดูแบดบอยเต็มที่รุนแรงและหนักหน่วง แต่partนี้ดูเหมือนกับแบดบอยกลับใจ ขอเริ่มต้นใหม่ในสิ่งที่ดีกว่า ยังไงยังงั้นเลย การตัดสินใจรวมงานกับ Rick Rubin ครั้งนี้ ถือว่าป๋าเอ็มตัดสินใจไม่ผิดครับ


รีวิวอันนี้น่าจะเป็นรีวิวส่งท้ายปีแล้ว เจอกันใหม่อัลบั้มหน้า หวังว่าทุกคนคงจะชอบอัลบั้มนี้เหมือนผมนะครัช เม้นท์กันด้วยนะ

ปล. หากผิดพลาดในข้อมูลหรือตีความเพลงผิดในประการใด ก็ขออภัยด้วยนะครัช



Thanks For Reading
See Ya


ฝากรีวิวอัลบั้มเก่าของเอมิเน็มด้วย
The Marshall Mathers LP-Eminem
The Eminem Show - Eminem
Recovery-Eminem

อัลบั้มอื่นๆอีกมากมาย เจ๋งๆทั้งนั้น
All Album Review by Istyle yo! [กระทู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี]

แก้ไขล่าสุด 17 พ.ย. 57 14:57 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | ๛บๅโธโaมิว๏คุมะ | 9 พ.ย. 56 13:27 น.

Rap God มากๆ ณ จุดนี้ ส่วนตัวชอบหลายเพลง
โดยเฉพาะ Rap God กับ The Monster

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | HelloWhoAmI | 9 พ.ย. 56 16:28 น.

ชอบ Berzerk ที่สุดแล้วอ่ะ ฟังทีไรรู้สึกฟินกับป๋าเอ็ม 

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | IamIstyle | 9 พ.ย. 56 17:42 น.

@2 Rap God นี่ทำเอาแร็พเปอร์คนอื่นดูกระจอกไปเลยยล่ะ เค้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ
@3 ตอนแรกฟังยากอยู่เหมือนกัน เพราะโปร์ดิวเซอร์ไม่ใช่ Dr.Dre ฟังไปเรื่อยๆ ฟินเหมือนกันเบย แต่ใน met107 กลับแป้กเฉยเลย  น่าเสียดาย

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | AlexturnerDansmith | 9 พ.ย. 56 21:18 น.

Berzerk นี่ที่สุดอะ
ตอนฟังครั้งครั้งแรกมันแปลกๆฟังยากยังไงไม่รู้ แต่พอฟังไปเรื่อยๆกลับชอบเพลงนี้ที่สุด

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | ครูซ | 9 พ.ย. 56 21:27 น.

ชอบ Rap god กับ Love Game มากๆเลย

ป.ล.แผ่นวางขายที่ไทยวันที่ 15 นะครับ อย่าลืมอุดหนุน

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | Genocidez | 9 พ.ย. 56 23:00 น.

จริงๆ เพลงRap god ทำออกมาตอกเพลงของ Kendrick larma ในเพลงControlที่บอกว่าตัวเองเป็น King คนใหม่  แต่แสบจริง คนนี้ ลองหาฟังดูครับ และเหน็บแนมอีกหลายๆคน

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google