อเล็กซ์ พลิกบทบาทใสๆ ในละครเรื่อง สามใบไม่เถา

7 ม.ค. 57 16:57 น. / ดู 1,083 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
การกลับมารับบทร้ายอีกครั้งของ "อเล็กซ์ เรนเดลล์" ในละครเรื่อง "สามี" ทำเอาคนดูหลายคนถึงออกปากชมว่านักแสดงหนุ่มคนนี้เล่นได้ถึงบทบาทจริงๆ แต่ดูเหมือนว่าแต่ละฉากในละครจะใช้พลังมากกว่าละครเรื่องที่ผ่านๆ มา ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า "อันนี้มันบ้า มันโรคจิตครับ คือในเรื่องผมเล่นเป็นเด็กที่เป็นไบโพลาร์อยู่แล้วครับ เป็นโรคหนึ่งที่เวลาที่คนๆ หนึ่งโมโหมากๆ คือจะควบคุมไม่ได้ คือจะโมโหแบบบ้าคลั่ง แล้วเวลาแฮปปี้ หรือว่ามีอะไรมาสะกิดให้เขามีความสุข เขาก็จะตื่นเต้นกระตือรือร้น คือเป็นโรคที่ไม่มีจุดตรงกลาง ถ้าเกิดมีอะไรมากระตุ้นก็จะไปครับ เหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เวลาโมโหเลยเป็นอย่างที่เห็นครับ"
อเล็กซ์ ยอมรับว่าชอบเล่นบทแบบนี้มาก "ครับ ผมชอบมากครับผม สนุกกับเรื่องนี้มากครับ ผมรู้ว่ามันจะดีตั้งแต่ผมถ่ายแล้วล่ะครับ ผมรู้ว่าเป็นละครที่คนไม่ได้พูดถึงตอนแรกเท่าไร คือเป็นตามที่ผมคาดหวังไว้เลยครับ ผมเชื่อว่าจะมีละครบางเรื่องที่ดังตั้งแต่โปรโมตแล้ว เพียงแต่ว่าของเราผมรู้อยู่แล้วว่าโปรโมตเท่าไร คนอาจจะไม่ให้ความสนใจเท่าที่เราต้องการ แต่ผมรู้ว่าเวลาออนแอร์ไปแล้วคนจะดูแล้วคนจะชอบ เพราะว่าเรตติ้งช่วงแรกๆ ก็ไม่ได้ถือว่าดีมาก แต่ว่าผมเชื่อว่าพอมาอาทิตย์ที่ 3 อาทิตย์ที่ 4 เนี่ย ผมเชื่อว่าคนจะต้องรู้จักละครเรื่องนี้แน่ๆ แล้วคนจะต้องพูดถึงมันแน่ๆ แล้วมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ"

ล่าสุดกำลังจะมีละครเรื่องใหม่ "สามใบไม่เถา" ด้วย "ครับ ก็เปลี่ยนบ้างครับ ผมหนักมาเยอะแล้วครับ (หัวเราะ) หนักมา แรงปรารถนา สาปพระเพ็ง มาเล่นหนังใหญ่แล้วก็มาเจอเรื่องนี้ ก็อยากมาเล่นแบบใสๆ แบบขำๆ แบบเรื่อยๆ สามารถเข้าไปในกองยิ้มๆ ได้ กินข้าวเสร็จสบายใจ นอนไม่ต้องกลับไปเครียดอยู่กับตัวแบบอย่างนั้น ขอพัก ขอเปลี่ยน แล้วผมก็เชื่อว่าผมจะเปลี่ยนมันได้อย่างดีด้วยครับ เพราะว่าบทออกมาแล้วผมตื่นเต้นที่จะได้เข้าฉากมากๆ กับเรื่องนี้เหมือนกันครับ" นักแสดงหนุ่มยังแง้มอีกว่าบท แสงฉาน ที่ได้รับนี้เป็นบทบาทเดียวกับที่ "หนุ่ม - กรรชัย กำเนิดพลอย" เคยแสดงมาก่อน เมื่อถามว่าจะไปขอคำปรึกษา หนุ่ม ไหม อเล็กซ์ ก็บอกว่า "จริงๆ ก็ไม่ครับผม เอาตรงๆ นะ ผมไม่เคยได้ยินละครเรื่องนี้มาก่อนเลยครับ เกิดน่าจะทันครับ แต่อาจจะยังเด็กอยู่มั้งครับ ไม่ค่อยได้ดูละครครับ"

เจ้าตัวยังเล่าว่าไม่เคยดูฉบับดั้งเดิมของละครเรื่องนี้ "ไม่เคยครับ ผมว่าเราอยู่กับบท ไม่งั้นมันก็เหมือนเราเอาการบ้านคนอื่นมา เราเป็นนักแสดง เราก็อยากใช้ความครีเอทีฟของเรา ตัวละครเราตีความไว้ว่ายังไง เราต้องการที่จะถ่ายทอดอะไรออกมา เราต้องการที่จะโชว์อะไรให้กับคนดูหรือว่าสื่ออะไรกับตัวละครตัวนี้ เราว่าเดี๋ยวตรงนั้นเราไปทำของเราเอง แล้วมาปรับกับผู้กำกับกับผู้จัดอีกที ผมว่าวิธีนี้น่าจะดีกว่าการไปใช้เทปเก่าๆ มาเป็นเรฟเฟอร์เรนซ์ของเรา อันนั้นผมว่าแอบขี้โกงนิดนึงอ่ะครับ"

ช่วงนี้เห็นว่าได้เสนอบทละครชุด "บันทึกกรรม" ด้วย ซึ่ง อเล็กซ์ เปิดใจว่าผลงานที่ทำไว้ยังไม่ผ่านสักที "ก็เสนอไปแล้วเขาก็ไม่ผ่านให้ผมสักที (หัวเราะ) ผมก็จะเสนอไปเรื่อยๆ ครับ" นักแสดงหนุ่มเผยว่าที่ยังไม่ผ่านอาจเป็นเพราะบทที่เขียนไว้น่ากลัวเกินไป "อาจจะเป็นอย่างนั้นครับ เขาก็พูดมาว่าแบบต้องการให้คนดูฆ่าตัวตายเหรอ (หัวเราะ) เอาอะไรที่มันฟีลกู๊ดหน่อย บอกพี่ผมไม่ถนัดฟีลกู๊ดอ่ะ ผมก็บอกกับเขาว่าเมื่อไรที่มีโปรเจกต์อะไรที่เหมาะก็นึกถึงกันและกัน แต่เขาบอกคงไม่มีอ่ะ (หัวเราะ)" เมื่อถามว่ามีโอกาสปรับบทลดความน่ากลัวลงไหม หนุ่มคนนี้เปรยว่า "มีครับ ผมว่าตอนนี้ก็พยายามเสนออีกเรื่องหนึ่ง (หัวเราะ) ซึ่งก็เป็นเรื่องฟีลกู๊ดครับ กำลังพยายามที่จะหาทางเข้าไปหาเขาอยู่ครับ ก็พยายามหาทางลัดอยู่ครับ ก็ได้คุยกับเขาไปบางส่วนแล้ว ตอนนี้เขาก็ได้แต่บอกว่าเดี๋ยวต้องหาคนเขียนบท คือผมไม่ชอบอะไรที่ในอันเรียลลิสติกครับ ชอบอะไรที่มันเรียล ชอบไดอะล็อกที่เหมือนคำพูดของคน ไม่ใช่ภาษาเขียนอ่ะครับ บางคนโดยละครโดยหนังแมสส์อ่ะ ภาษามันไม่ใช่ภาษาธรรมชาติ ก็เลยต้องหาคนเขียนบทที่เข้ากับเราได้อ่ะครับ"

เจ้าตัวก็ยอมรับว่าชอบบทบาทที่ดูหม่นมืด "คือจริงๆ ผมชอบอะไรดาร์กๆ อยู่แล้วครับ ผมว่าความดาร์กคือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของคนโดยที่คนจะไม่ยอมรับมันครับ เขารู้อยู่แก่ใจว่าเขาชอบแต่เขาจะไม่กล้าพูดออกมาครับ อย่างเวลาเราดูหนังที่คนตัดคอกันอย่างนี้แล้วเลือดกระจายคนจะแบบซี้ดอย่างนี้ อันนี้คือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คือจริงๆ ชอบดูอะไรอย่างนี้ อันนี้ผมพูดถึงคนโดยรวมครับ คือทุกคนก็จะชอบนะแต่ทุกคนก็จะแอบบอกไม่เอาไม่อยากดู แต่เวลาเข้าไปแล้วทุกคนจะชอบครับ ซึ่งผมก็จะเอาตรงนี้มาให้พวกคุณดูเองครับ ถ้าเกิดผมมีโอกาสครับ"

นักแสดงหนุ่มพูดถึงความยากของการทำงานเบื้องหลังว่า "มันก็ยากครับ แต่ว่าก็ได้เปรียบในหลายๆ มุมมอง เราทำงานตรงนี้มาทุกอย่างค่อนข้างที่จะคุ้นตา ไม่ว่าจะเป็นเรื่ององค์ประกอบ คือหนังเรื่องหนึ่งละครเรื่องหนึ่งองค์ประกอบเยอะมากครับ องค์ประกอบต้องรู้ให้หมด ไม่ว่าจะแสงไฟ กล้อง ทุกอย่างต้องรู้ให้หมด แล้วเราก็อยู่กับมันมานานแล้ว เหมือนคนที่เรียนนิเทศฯ (นิเทศศาสตร์) มา คือเรียนทฤษฎี ผมว่ามันไม่เหมือนกับการเรียนจริงๆ ครับ เรียนที่สนามจริงๆ เหมือนได้ทำงานกับคนที่เขาเก่งจริง ผมว่าผมมีแอดแวนเทจในตรงนี้พอสมควรครับ แต่ว่าพอได้ทำจริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้เก่งอย่างที่เราคิดไว้ครับ ตอนแรกเรานึกว่าเราทำได้ เรานึกว่าเป็นเรื่องง่ายไงครับ แต่พอไปทำจริงๆ แล้วเราต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยครับ อีกเยอะมากๆ เลยครับ"
แก้ไขล่าสุด 7 ม.ค. 57 18:00 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google