[Review Album] The Heist-Macklemore & Ryan Lewis

24 ม.ค. 57 15:37 น. / ดู 2,012 ครั้ง / 7 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
มีคนขอให้ผมรีวิวอัลบั้มนี้ มานานเป็นปีเป็นชาติแล้ว แอบรู้สึกผิดนิดๆที่ไม่ได้ปล่อยรีวิวนี้ออกมาซักที ทั้งๆที่อัลบั้มนี้มันดีกว่าที่ผมคิดไว้มากเลยทีเดียว ยังไงก็ขออภัยด้วยนะฮับ


เรียกได้ว่าปี2013ที่ผ่านมา ได้มีปรากฎการณ์ในวงการเพลงที่ศิลปินอิสระไร้ค่ายไต้สังกัดอยู่คนนึงที่สามารถทำยอดขายDebutอัลบั้มเต็มได้ถล่มทลายในระดับแพล็ตตินั่ม ซึ่งทำได้ยากมากในขณะนั้น เพราะต้องห้ำหั่นกับศิลปินใหญ่ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดจนศิลปินอิ้นดี่้หลายๆคนแทบจะไม่มีจุดยืนในวงการเพลงด้วยซ้ำ แต่พวกเขาทำได้ พวกเขาคือMacklemore&Ryan Lewis ฮิพฮอพดูโอ้จากซีแอทเทิ่ล นั่นเอง

สำหรับอัลบั้ม The Heist เป็นอัลบั้มฮิพฮอพที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง โดดเด่นไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เล่นเนื้อหาที่สร้างสรรค์ ไม่เล่นยา เซ็กส์แบบโจ๋งครึ้มแบบศิลปินท่านอื่นๆ สำหรับคนที่ชอบฟังแร็พเปอร์ผิวขาวอยู่แล้วหรืออยากจะลองฟังแนวฮิพฮอพ ฟังสบายๆ บีทไม่หนักหูจนเกินไป อัลบั้มนี้ตอบโจทย์คุณได้แน่นอน ทุกเพลง Macklemore หรือ Ben Haggerty  แร็พเองแต่งเองทุกเพลง ส่วนงานดนตรีเป็นฝ่ายของ Ryan Lewis ดีเจจากซีแอทเทิ่ล ที่คอยคุมโปรดิวซ์ให้ อัดเอง ขายเอง แบบไม่ง้อค่าย ปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 2012 โน่น เปิดตัวด้วยอันดับที่ 2 Billboard Top200 ด้วยยอดขาย 78,000 copies ตั้งแต่สัปดาห์แรก โดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาให้ยุ่งยาก และที่สำคัญยังได้ถูกเสนอเข้าชิงรางวัล Grammy Award ในสาขาใหญ่อย่าง Best Album ในปีนี้อีกด้วย  ผมโชคดีมากๆที่ซื้ออัลบั้มนี้ผ่านไอจูน แล้วได้ artwork แถมมา ต้องบอกก่อนว่า เห้ย ออกแบบปกแต่ละเพลงได้สวยมากๆ  จนผมอยากจะซื้อแผ่นแท้มาเก็บสะสมไว้เลย


โทษทีที่เกริ่นนำเยอะไปหน่อย มาเริ่มรีวิวแต่ละเพลงกันเลย

1.Ten Thousand Hours(9.5/10)  เปิดอัลบั้มได้เจ๋งมากๆ ให้ความรู้สึกเฟรช กลิ่นอายความเป็นป็อปแร็พ เมโลดี้สวย sound หนักแน่น บัลลาดเปียโนเด่น บีทโดดเด้งดี ฟังแล้วรื่นหูดีแท้  รสชาติแห่งความสำเร็จที่รอคอยมานาน กับการได้ออกอัลบั้มแบบ LP ของสองหนุ่มดูโอ้คู่นี้ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง



2.Can’t Hold Us featuring Ray Dalton 2. (10/10) singleที่ 2 ที่ปล่อยนานและแต่ได้รับอานิสงก์จาก Thrift Shop เลยทำให้เพลงนี้ขึ้นอันดับหนึ่งตามมา เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ดีดสีตีเป่าจัดเต็ม เปียโนเด่น ติดหู ฟังแล้วคึกครื้น  ทำให้นึกถึงงานวัดงานบุญ ขบวนแห่ขันหมากหรือบวชนาคอะไรประมาณนั้นเลย เฮียmacแกแร็พได้เฉียบคมมาก ส่วนแขกรับเชิญ ยอมรับครับว่า ไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อเลย แต่เสียงนี่สุดยอด เข้มแหลม สูสีกับดีโว่บนดินหลายๆคนเลย อย่าดูเชียวล่ะ เป็นปาร์ตีรื่นเริงที่สะอาดๆ ไม่เล่นยา ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเพลงนี้ถึงได้อันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดชาร์ต



3.Thrift Shop featuring Wanz (10/10) ต่อด้วยเพลงมันส์ๆ ชวนโยกกันอีก ซิงเกิ้ลที่สร้างชื่อให้พวกเขาเป็นอย่างดี ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักทั่วโลก ถือเป็น signature ของดูโอ้คู่นี้เลยก็ว่าได้ มันเป็นเพลงแร็พที่ฟังแล้วมันช่างสนุกซะเหลือเกิน บีทเป็นคลื่นๆไม่หนักหูเคล้าด้วยเสียงทรัมเปท อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ  และที่สำคัญครับเนื้อหานั้นก็โคตรสร้างสรรค์เอามากๆ ปกติแล้วเนื้อหาของเพลงฮิพฮอพมักจะหาอะไรแพงๆมาปรนเปรอตัวเอง แต่เพลงนี้พี่แกไม่จำเป็นต้องซื้อของแพง ของหรูมาให้เสียสตางค์เลย แค่ของหรูๆเก่าๆมือสองราคาถูกที่ใครๆไม่เห็นค่า ก็สามารถมีความสุขได้ แถมเท่ด้วย เจ๋งปะล่ะ นับถือพวกเขาจริงๆ

4.Thin Line featuring Buffalo Madonna (9/10) rap R&B ฟังสบายๆ คลอด้วยเสียงสัญญาณโทรศัพท์ บีทเป็นคลื่นๆ แร็พได้โฟลดี ท่อนฮุคไม่ต้องอาศัยเนื้อร้องอะไรมาก ใช้การเอื้อนได้ฟิลลิ่งดี ท่อนแยกทำได้เด่นมากๆ เพิ่มความหนักแน่นเข้าไปอีก ได้อารมณ์คนอยากลืมใครสักคนจริงๆ



5.Same Love featuring Mary Lambert (9/10) ได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับเพลงนี้มาเยอะพอสมควร เพราะเพลงนี้เค้าแต่งให้กับชาวรักร่วมเพศทั้งหลาย ให้ออกมากล้าแสดงจุดยืนในสังคม ซึ่งก็มีน้อยมากที่เพลงฮิพฮอพจะแต่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เป็นที่รู้กันดีว่า เพลงฮิพฮอพทั้งหลายหรือแม้กระทั่งสื่อออนไลน์แอนตี้เรื่องพวกนี้แบบเอาเป็นเอาตาย มีอยู่ท่อนนึงที่เฮียแม็คระบายออกมาว่า If I was gay, I would think hip-hop hates me
Have you read the YouTube comments lately?
"Man, that's gay" gets dropped on the daily
We become so numb to what we're saying เพราะดีครับ สบายๆ ฟังแล้วรื่นหู เนื้อหาก็ไม่โจ๋งครึ้มอย่างที่คิด ไม่มีคำหยาบให้รำคาญใจ ใครที่เป็นหรือไม่เป็นต้องประทับใจเพลงนี้แน่นอนได้

6.Make The Money (8.5/10) เป็นอีกหนึ่งเพลงโปรดในอัลบั้มนี้เลยก็ว่าได้ โทนค่อนข้างจริงจัง เนื้อหานี่สาระเน้นๆ ฟังแล้วได้ข้อคิด นี่มันเพลงเพื่อชีวิตวัยรุ่นชัดๆ ว่าเราควรที่จะหาเงินได้ด้วยตนเองแล้วนะ ไม่ใช่ให้เงินมามีอำนาจเหนือเรา ต้องอยู่กับความเป็นจริงได้แล้ว let make the money don't let the money make you change the game, don't let the game change you
เป็นวลีที่คมเอามากๆ ไม่ต้องอาศัยดนตรีที่สวยหรู แต่ยิงประเด็นเรื่องเงินกับความฝันเข้าอย่างจัง สุดยอด



7.Neon Cathedral featuring Allen Stone (10/10) เบรคด้วยแทร็คช้าๆ เป็นแทร็คที่เพอร์เฟคจริงๆ กลิ่นอาย neon-soul หอมหวนมาแต่ไกล ฟังสบายๆ รื่นรมย์ ให้ความรู้สึกสงบและสบายใจ เหมือนอยู่ในโบสถ์ตามชื่อเพลง แร็พเนิบๆท่อนฮุคฟังแล้วเคลิ้ม ได้ฟิลลิ่งเต็มๆ ลงตัวดี เป็นอีกเพลงที่ไม่อยากให้ข้าม

8.BomBom featuring The Teaching (-) Trackดนตรีบรรเลงทั้งเพลงไม่มีคนร้อง ทีที่คราวนี้ Ryan Lewis ขอโชว์เดี่ยว ฟังเพลินๆคั่นเวลาไปก่อน เปิดตัวบัลลาดเปียโน บีทอันเป็นสไตล์เฉพาะ ช่วงครึ่งหลังก็จัดเต็ม ดนตรีดุริยางค์เคล้าด้วยเสียงเปียโนได้อย่างยอดเยี่ยม แทร็คนี้ยาวตั้งเกือบ5นาที แต่พี่ Ryan ก็สามารถโชว์ศักยภาพได้เต็มที่



9.White Walls featuring ScHoolBoy Q; Hollis (9/10) มาต่อกันด้วยเพลงจังหวะคึกคัก ที่ตอนนี้กำลังไต่อันดับในบิลบอร์ดขึ้นมาเรื่อยๆ ผมชอบท่อนแร็พเพลงนี้มากๆ ทั้งเฮียแม็คกะแขกรับเชิญschoolboy Q แร็พได้สนุกดี
Flow แบ่งรับแบ่งส่งกันเต็มที่ สูสีกันทั้งคู่ อีกหนึ่งสิ่งที่ผมชอบก็คือ บีทสุดจี๊ด เสียงคนร้องน่ารักดี ฟังมันส์

10.Jimmy Iovine featuring Ab-Soul (of Black Hippy) (8/10) นี่มันเพลงเสียดสีค่ายใหญ่แท้ๆ สังเกตได้จากartwork ประจำเพลงนี้ ที่มีเด็กใส่แว่นตาที่มีรูปดอลล่าร์กะรูปตราสัญลักษณ์ค่าย Interscope แขวนหูฟังบีทซะด้วย เป็นการแสดงจุดยืนได้อย่างชัดเจนว่า ต่อให้ง้อมาเสนอเงินก้อนใหญ่แค่ไหน พี่แกก็ไม่ยอมเซนต์สัญญาให้แน่นอน อย่างที่รู้ดีว่าค่ายใหญ่มักจะปิดกั้นความเป็นอิสระทางความคิดของศิลปิน ต้องรออนุมัติจากผู้บริหารค่ายเพลงอีก น่ารำคาญสุดๆ ส่วนตัวเพลงนั้นออกแนวอิเล็กโทร เล่นซาวน์ที่ซับซ้อน แตกต่างจากแทร็คอื่นที่เล่นซาวน์เรียบง่าย ให้ความแปลกใหม่ได้ดีเหมือนกัน ในความคิดผมดูฟังยากนิดนึง



11.Wing$ (9/10) ซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมาแต่ไม่เปรี้ยงเท่าไหร่นะ แทร็คนี้เท่ดี ช้าๆ ดูหนักแน่น เด่นด้วยเสียงไวโอลิน คอรัสเด็กประสานเสียง สอดคล้องกับคอนเซปต์ได้อย่างแนบเนียน เหมือนพี่แม็คแกกำลังเสียดสีโฆษณาชวนเชื่อของรองเท้ายี่ห้อต่างๆ ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สิ่งเหล่านี้ครอบงำเราไปแล้วเรียบร้อย

12.A Wake featuring Evan Roman (9.5/10) ออกแนวอินดี้จ๋าเลย ซาวน์ดเจ๋งดี บีทยานต่ำ ท่อนฮุคติดหูดี ควบด้วย เปียโน ฟังเพลินๆไปอีกหนึ่งเพลง

13.Gold featuring Eighty4 Fly (8/10) Intro เอาซะป็อปจ๋าเลย กรุ้งกริ้งๆ ใสๆ ส่วนทำนองเพลง ไม่รู้เหมือนกันว่า เอามาจาก Ten Thousand Hours มามิกซ์ใหม่หรือไงไม่ทราบ ซาวน์ดคล้ายๆกันเลย
ออกแนวโหลไปนิดๆ

14.Starting Over featuring Ben Bridwell (of Band Of Horses) (10/10) อีกหนึ่งแทร็คที่ชอบมากๆ แร็พพรรณนา ฟังสบายๆ ให้อารมณ์ชายหาดเอามากๆ บีทเบาะๆ กล่อมด้วยเสียงเปียโน ผ่อนคลาย ชิวๆ ลงตัว

15.Cowboy Boots (8.5/10) แบนโจเริ่มอินโทร กลิ่นอายความเป็นคันทรี่ลอยมาแต่ไกล แร็พเนิบๆ เคล้ากีตาร์โปร่ง บีทหนาประปราย บรรยากาศทำให้นึกถึงงานเลี้ยงเต้นรำแบบคาวบอย เพลงแร็พผสมผสานคันทรี่ได้ลงตัว เป็นแทร็คปิดแสตนดาร์ดที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกยังไม่จบสนิทซะเท่าไหร่ เพราะมันจะมีในโบนัสแทร็คไงล่ะครับ



มีต่อในเม้นท์นะคร้าบบบบ

iTunes Bonus Track



16.Castle (9/10) อิเลกโทรฮิพฮอพ ที่ฟังแล้วอดนึกถึง Pitbull ไม่ได้ สำเนียงแร็พค่อนข้างคล้ายๆกัน จังหวะสนุกๆ partyที่บ้านเลย ไม่! จัดปารตี้ในประสาท**เลย

17.My Oh My(7.5/10) เพลงนี้ปล่อยมาตั้งแต่ปี2010 แล้ว สรรเสริญความเป็นอเมริกาเอามากๆฮะ กับกีฬาเบสบอลที่ชาวอเมริกาต่างภูมิอกภูมิใจ โดยเฮียแม็คก็ได้ตัดช่วงวินาทีประวัติศาสตร์ในวงการเบสบอล ซึ่งผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน เพราะผมไม่รู้เรื่องเบสบอลเท่าไหร่นะ แต่พอรู้ว่า เค้าแต่งให้กับ Dave Niehaus  นักพากย์เบสในตำนานผู้ล่วงลับ ฟังเพลินๆ

18.Victory Lap(8.5/10) ฉลองความสำเร็จด้วยเพลงนี้ก่อนปิดอัลบั้มกัน เพลงนี้ที่จริงแล้วมาจากmixtape ที่มีชื่อว่า XXL Freshman ปิดอัลบั้มdeluxe ได้เหมาะเหม็งมาก ดนตรีเฟรชดี ทั้งบีทและเครื่องเป่ามาเต็ม ประทับใจ



โดยรวม(8.9/10)
เป็นอัลบั้มที่ไม่อยากให้มองข้าม ถึงทั้งคู่จะเป็นแค่ศิลปินอิสระ อินดี้ ไม่เมนสตรีม แต่งฝีมือเรื่องแร็พและทำเพลงไม่เป็นสองรองใครเลยนะครัช ตัวดนตรีโดยรวมจะเป็นแนวอัลเทอเนทีฟฮิพฮอพผสมผสานดนตรีหลากหลายแนว ทั้ง R&B Pop Jazz Soul และอิเล็กโทร การแร็พก็ออกแนวสำเนียงอเมริกันเอามากๆ แขกรับเชิญถามว่ารู้จักไม๊? ไม่ แต่ความสามารถในด้านการร้องไม่ธรรมดาเลย โปรดักชั่นเยี่ยม น่าจับตามองสำหรับดูโอ้คู่นี้

สุดท้ายนี้ ผมเองก็ขอแอบเชียร์ให้อัลบั้มนี้ได้รางวัลแกรมมี่ซักหนึ่งรางวัล ถ้าได้best album จะดีใจมากๆ ขอบคุณคนที่รีเควสรีวิวอัลบั้มนี้ ไม่งั้นคงไม่ได้ฟังอัลบั้มฮิพฮอพดีๆอย่างนี้




Thanks For Reading
See Ya


All Album Review By Istyle yo!
แก้ไขล่าสุด 20 ก.พ. 59 21:36 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | HelloWhoAmI | 24 ม.ค. 57 16:15 น.

อัลบั้มนี้ ดีหลายเพลงเลย ชอบมาก 

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | Cr!/\/\iN@l_฿ | 24 ม.ค. 57 16:33 น.

อั่ยย่ะ กำลังหารีวิวบั้มนี้พอดี

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | ๛บๅโธโaมิว๏คุมะ | 24 ม.ค. 57 16:47 น.

นอกจาก Thrift Shop และ Can't Hold Us
Same Love กับ Neon Cathedral เป็นแทร็คที่แข็งแรงมากๆ
และตอนนี้กำลังชอบ White Walls

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | Thoughtless | 24 ม.ค. 57 19:10 น.

White Walls ฟังครั้งเเรกแล้วชอบเลยยย

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | ติ่งหูข้างซ้าย | 24 ม.ค. 57 22:11 น.

ชอบอัลบั้มนี้มาก ชอบหลายเพลง
ช่วงนี้ฟังทุกวันเลยอัลบั้มนี้
ของเค้าดีจริงๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | น้องโพ | 26 ม.ค. 57 14:35 น.

ว้าย ถ้าจำไม่ผิดเราขอไว้ใช่มั้ยค้ะ
กีสสสสสสส ขอบคุณมากๆค่ะะะ

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | IamIstyle | 26 ม.ค. 57 17:49 น.

@6 ใช่แล้ววว

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google