แนะนำ 10 ข้อผิดพลาดการซื้อบ้าน-คอนโดมือสอง
25 ก.พ. 57 09:52 น. /
ดู 524 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
การซื้อหา บ้าน และคอนโด หรือที่อยู่อาศัย มีได้ไม่กี่ครั้งในชีวิตของคนส่วนใหญ่ แม้จะเป็นบ้านและคอนโดมือสองก็ตาม เพราะต้องใช้เงินไม่น้อยในการดาวน์ การผ่อนเป็นเวลานานหลายปี ทำให้ถ้าพลาดแล้ว ยากที่จะแก้ปัญหาได้ สิ่งที่คุณควรทำคือ ป้องกันไว้ก่อน จากการพบเห็นประสบการณ์ของคนอื่นที่เคยพลาดมาแล้ว ซึ่งโฮมบายเออร์ไกด์ รวบรวมมาให้แล้วทั้ง 10 ข้อต่อไปนี้ครับ
1. หลงความสวยงาม มากกว่าทำเล
คนทั่วไปมักติดกับดักเรื่องความงาม แต่เรื่องที่อยู่อาศัยแล้ว ทำเลเป็นเรื่องสำคัญกว่าความงามบ้านมือสองหลายๆหลังที่ถูกประกาศขายมักเป็นบ้านที่เคยมีคนอยู่อาศัยแล้ว เป็นแบบบ้านรุ่นเก่า สีสันอาจดูเก่าไปตามอายุ แต่บ้านเหล่านี้มักจะอยู่ในทำเลที่ดีกว่าบ้านใหม่ อยู่ในเมืองมากกว่า ใกล้ระบบขนส่งและสาธารณูปโภคมากกว่า ฉะนั้นอย่าได้หลงความงามเลย ว่ากันว่าอยากทำให้บ้านใหม่ ก็เพียงแต่ทาสีใหม่เท่านั้นแหละ แต่อยากได้ทำเลใหม่นี่ต้องซื้อใหม่อย่างเดียวเลย
2. เลือกบ้านสวยแต่ชุมชนและสภาพแวดล้อมแย่
นอกจากคุณจะซื้อบ้านเดี่ยวท่ามกลางป่าเขา ส่วนใหญ่แล้วการต้องอยู่ร่วมกับบ้านใกล้เคียงคือสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น อย่าลืมสำรวจบ้านอื่นๆ รอบข้าง หรือสิ่งแวดล้อมในระแวกใกล้เคียงนั้นด้วยว่ามีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร ทั้งความสะอาดและลักษณะของเพื่อนบ้านใกล้เคียง ยิ่งคุณมีลูกหลาน ยิ่งต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เขาเกิดขึ้นมากับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี นอกจากนั้น สภาพชุมชนรอบข้างที่แย่ก็อาจทำให้มูลค่าบ้านลดลง อีกทั้งในภายหลังเมื่อย้ายมาอยู่ ก็อาจต้องเจอปัญหาอีกสารพัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทางเข้าออก ความปลอดภัย และสภาพจิตใจของทุกคนในครอบครัว ซึ่งคุณควรให้วามสำคัญอันดับแรก และอย่าลืมว่า ไม่จำเป็นที่บ้านต้องราคาแพงหลายล้าน ถึงจะมีสภาพแวดล้อมที่ดีได้ บ้านราคาที่่พอซื้อได้แต่มีชุมชนที่ดีมีอีกมาก แค่ใช้เวลาเลือกอีกซักหน่อยคุณจะพบบ้านหรือคอนโดที่สภาพแวดล้อมดีได้
3. หลีกเลี่ยงการซื้อจากนายหน้า
หลายคนมักรังเกียจนายหน้า มักคิดว่าการซื้อบ้านมือสองผ่านนายหน้าจะทำให้มีราคาแพงกว่าปกติ เพราะราคาบ้านจะถูกบวกไปกับค่านายหน้า แต่อันที่จริงแล้ว นายหน้ามืออาชีพจะเป็นผู้แนะนำผู้จะขายว่าราคาขายที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร ไม่สูงเวอร์หรือต่ำเกินไป ข้อดีของการซื้อผ่านนายหน้าก็คือนายหน้าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายให้เราทั้งหมด ช่วยดูแลความเรียบร้อยของบ้าน และที่สำคัญการซื้อผ่านนายหน้าก็ต่อราคาได้
4. อย่ารีบร้อนเกินไป ใจเย็นที่สุด
อย่าตัดสินใจซื้อทันทีที่ชอบ จงใช้เทคนิคซื้อบ้านเพียง 1 หลัง เลือกและต่อรองจากบ้านมากกว่า 1 หลัง เพื่อเลือกซื้อบ้านที่มีราคาและเงื่อนไขดีที่สุด ปกติคนทั่วไปเวลาซื้อบ้านสักหลัง จะเลือกซื้อจากบ้านที่พิจารณาเพียงแค่ 1-3 หลังเท่านั้น ซึ่งทำให้เสียโอกาสในการซื้อบ้านราคาถูกไป เทคนิคที่ดีที่สุดก็คือ แม้ว่าจะเป็นการซื้อบ้านเพียงหลังเดียว แต่ก็ควรจะเลือกบ้านที่ดีที่สุด จากบ้านจำนวนมากหลังที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้ระลึกไว้เสมอว่ายิ่งมีบ้านให้เลือกมากเท่าใด ก็จะยิ่งเกิดประโยชน์กับผู้ซื้อมากขึ้นเพียงนั้น
5.ซื้อบ้านไม่รู้ประวัติ
ฟังดูอาจดูเรื่องมากไปนิด ต่างที่ดีก่อนจะซื้อควรหาโอกาสไปคุยกับเพื่อนบ้านดูสักหน่อยว่าเจ้าของบ้านเดิมเป็นใคร เคยมีเหตุการณ์สยองขวัญในบ้านหรือคอนโดห้องดังกล่าวหรือไม่ หากมารู้เอาภายหลังเมื่อซื้อมาแล้ว อาจทำให้อยู่ไม่เป็นสุขกันล่ะคราวนี้
6. ไม่สอบถามเรื่องค่าสาธารณูปโภคค้างจ่ายจากเจ้าของเก่า
ข้อนี้ให้พูดคุยสอบถามกันให้ชัดเจนก่อนซื้อ เพราะมีเหตุการณ์ที่เจ้าของคอนโดฯ เดิมซื้อมานานแล้วไม่เคยไปอยู่อาศัยเลย ค่าส่วนกลางก็ไม่เคยเสีย เวลาล่วงเลยมาหลายปีจึงตัดสินใจขาย กฎหมายกำหนดให้ผู้ขายต้องมีหนังสือรับรองยืนยันปลอดภาระหนี้จากนิติบุคคล หากไม่มี ต้องตกลงกันให้ชัดเจนก่อนว่าใครจะเป็นผู้รับภาระ และจะต้องชำระก่อนการโอนด้วย เพื่อให้ได้หนังสือรับรองดังกล่าวมาเป็นส่วนประกอบการโอน
7. ไม่สอบถามผู้เชี่ยวชาญ และเชื่อแต่ตัวเอง
ในการลงทุนในบ้านมือสอง ถ้าเกิดข้อสงสัยขึ้นมาเมื่อไหร่ อย่าด่วนตัดสินใจเรื่องหนึ่งเรื่องใดไปเป็นอันขาด ให้ถามหรือใช้บริการผู้เชี่ยวชาญเสมอ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ล้วนอยู่ใกล้ตัวท่านอยู่แล้ว เช่น ผู้ประเมินราคา ช่างก่อสร้าง เจ้าหน้าที่สินเชื่อ หรือนักกฎหมาย ฯลฯ
ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะปกติแล้วต้นทุนในการใช้บริการผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ เมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากความผิดพลาด น้อยกว่ากันลิบลับอย่างเทียบกันไม่ติดเลย
8.คิดเรื่องซ่อมหลังซื้อ (จงคิดเรื่องซ่อมแล้วค่อยซื้อ)
ข้อผิดพลาดอีกประการหนึ่งในการเลือกซื้อบ้านมือสองในปัจจุบัน ก็คือคนส่วนใหญ่มักคิดเรื่องการซ่อมแซม หลังจากที่ซื้อบ้านมาแล้ว ซึ่งที่ถูกต้องแล้วการซ่อมแซม ควรเป็นประเด็นที่ต้องมีการหยิบยกมาพิจารณาก่อนที่คิดจะซื้อบ้านเสมอ เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้การลงทุนมีความปลอดภัย และช่วยประหยัดงบในการลงทุน เนื่องจากการประมาณการต้นทุนค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมล่วงหน้า จะทำให้ทราบถึงต้นทุนแท้จริงในการลงทุน และสามารถหยิบยกข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการต่อรองราคาซื้อบ้านให้ต่ำลงได้เป็นอย่างดี
9. ให้ความสำคัญกับวัสดุ มากกว่าช่างซ่อมบ้าน
เมื่อได้บ้านมือสองมาแล้ว ก็ถึงคราวซ่อมแซมตกแต่ง ปัญหากวนใจอันหนึ่ง ก็คือเรื่องการเลือกใช้ช่างก่อสร้างกับการเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง ซึ่งถ้าเลือกใช้ของดีทั้งคู่ ก็จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ปัญหาอยู่ที่ว่า ถ้าจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เนื่องจากมีงบประมาณจำกัด ดังนั้นควรจะให้น้ำหนักความสำคัญสิ่งไหนมากกว่ากันจึงจะดี
กรณีแบบนี้คำตอบง่ายๆ ก็คือ ต้องเน้นที่ช่างก่อสร้างที่มีฝีมือ เป็นสำคัญ โดยวัสดุก่อสร้างขอให้ถือเป็นเรื่องรอง ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะช่างที่มีฝีมือ สามารถช่วยแก้ปัญหาตำหนิหรือความไม่สวยงามที่เกิดจากวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างได้ แต่ถ้าใช้ช่างที่ไม่มีฝีมือและขาดความชำนาญเมื่อไหร่ แม้จะใช้วัสดุก่อสร้างดีแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่วายต้องเจอปัญหาเปลืองค่าใช้จ่าย และทำให้บ้านขาดความสวยงามได้
10. ไม่ดูสัญญาให้ดีก่อนตกลงซื้อขายบ้านหรือคอนโดมือสอง
สัญญาจะซื้อจะขายเป็นเรื่องสำคัญ ระหว่างผู้จะซื้อกับผู้จะขาย ส่วนใหญ่จะดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ต่างๆ มากรอกรายละเอียดกันเอง ฉะนั้นต้องดูเรื่องการวางเงินมัดจำ ค่าปรับหรือเรื่องการผิดสัญญาของแต่ละฝ่ายให้ดี เพราะหากไม่รัดกุม เมื่อคนขายได้ผู้ซื้อรายใหม่ที่ให้ราคาดีกว่า เขาอาจยกเลิกสัญญาไปเสียดื้อๆ ก็ได้ และที่สำคัญ เรื่องค่าใช้จ่ายในการทำนิติกรรม ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีเงินได้ ใครจะเป็นผู้ออก
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง http://www.home.co.th/Content/DataDetail/77056
1. หลงความสวยงาม มากกว่าทำเล
คนทั่วไปมักติดกับดักเรื่องความงาม แต่เรื่องที่อยู่อาศัยแล้ว ทำเลเป็นเรื่องสำคัญกว่าความงามบ้านมือสองหลายๆหลังที่ถูกประกาศขายมักเป็นบ้านที่เคยมีคนอยู่อาศัยแล้ว เป็นแบบบ้านรุ่นเก่า สีสันอาจดูเก่าไปตามอายุ แต่บ้านเหล่านี้มักจะอยู่ในทำเลที่ดีกว่าบ้านใหม่ อยู่ในเมืองมากกว่า ใกล้ระบบขนส่งและสาธารณูปโภคมากกว่า ฉะนั้นอย่าได้หลงความงามเลย ว่ากันว่าอยากทำให้บ้านใหม่ ก็เพียงแต่ทาสีใหม่เท่านั้นแหละ แต่อยากได้ทำเลใหม่นี่ต้องซื้อใหม่อย่างเดียวเลย
2. เลือกบ้านสวยแต่ชุมชนและสภาพแวดล้อมแย่
นอกจากคุณจะซื้อบ้านเดี่ยวท่ามกลางป่าเขา ส่วนใหญ่แล้วการต้องอยู่ร่วมกับบ้านใกล้เคียงคือสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น อย่าลืมสำรวจบ้านอื่นๆ รอบข้าง หรือสิ่งแวดล้อมในระแวกใกล้เคียงนั้นด้วยว่ามีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร ทั้งความสะอาดและลักษณะของเพื่อนบ้านใกล้เคียง ยิ่งคุณมีลูกหลาน ยิ่งต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เขาเกิดขึ้นมากับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี นอกจากนั้น สภาพชุมชนรอบข้างที่แย่ก็อาจทำให้มูลค่าบ้านลดลง อีกทั้งในภายหลังเมื่อย้ายมาอยู่ ก็อาจต้องเจอปัญหาอีกสารพัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทางเข้าออก ความปลอดภัย และสภาพจิตใจของทุกคนในครอบครัว ซึ่งคุณควรให้วามสำคัญอันดับแรก และอย่าลืมว่า ไม่จำเป็นที่บ้านต้องราคาแพงหลายล้าน ถึงจะมีสภาพแวดล้อมที่ดีได้ บ้านราคาที่่พอซื้อได้แต่มีชุมชนที่ดีมีอีกมาก แค่ใช้เวลาเลือกอีกซักหน่อยคุณจะพบบ้านหรือคอนโดที่สภาพแวดล้อมดีได้
3. หลีกเลี่ยงการซื้อจากนายหน้า
หลายคนมักรังเกียจนายหน้า มักคิดว่าการซื้อบ้านมือสองผ่านนายหน้าจะทำให้มีราคาแพงกว่าปกติ เพราะราคาบ้านจะถูกบวกไปกับค่านายหน้า แต่อันที่จริงแล้ว นายหน้ามืออาชีพจะเป็นผู้แนะนำผู้จะขายว่าราคาขายที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร ไม่สูงเวอร์หรือต่ำเกินไป ข้อดีของการซื้อผ่านนายหน้าก็คือนายหน้าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายให้เราทั้งหมด ช่วยดูแลความเรียบร้อยของบ้าน และที่สำคัญการซื้อผ่านนายหน้าก็ต่อราคาได้
4. อย่ารีบร้อนเกินไป ใจเย็นที่สุด
อย่าตัดสินใจซื้อทันทีที่ชอบ จงใช้เทคนิคซื้อบ้านเพียง 1 หลัง เลือกและต่อรองจากบ้านมากกว่า 1 หลัง เพื่อเลือกซื้อบ้านที่มีราคาและเงื่อนไขดีที่สุด ปกติคนทั่วไปเวลาซื้อบ้านสักหลัง จะเลือกซื้อจากบ้านที่พิจารณาเพียงแค่ 1-3 หลังเท่านั้น ซึ่งทำให้เสียโอกาสในการซื้อบ้านราคาถูกไป เทคนิคที่ดีที่สุดก็คือ แม้ว่าจะเป็นการซื้อบ้านเพียงหลังเดียว แต่ก็ควรจะเลือกบ้านที่ดีที่สุด จากบ้านจำนวนมากหลังที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้ระลึกไว้เสมอว่ายิ่งมีบ้านให้เลือกมากเท่าใด ก็จะยิ่งเกิดประโยชน์กับผู้ซื้อมากขึ้นเพียงนั้น
5.ซื้อบ้านไม่รู้ประวัติ
ฟังดูอาจดูเรื่องมากไปนิด ต่างที่ดีก่อนจะซื้อควรหาโอกาสไปคุยกับเพื่อนบ้านดูสักหน่อยว่าเจ้าของบ้านเดิมเป็นใคร เคยมีเหตุการณ์สยองขวัญในบ้านหรือคอนโดห้องดังกล่าวหรือไม่ หากมารู้เอาภายหลังเมื่อซื้อมาแล้ว อาจทำให้อยู่ไม่เป็นสุขกันล่ะคราวนี้
6. ไม่สอบถามเรื่องค่าสาธารณูปโภคค้างจ่ายจากเจ้าของเก่า
ข้อนี้ให้พูดคุยสอบถามกันให้ชัดเจนก่อนซื้อ เพราะมีเหตุการณ์ที่เจ้าของคอนโดฯ เดิมซื้อมานานแล้วไม่เคยไปอยู่อาศัยเลย ค่าส่วนกลางก็ไม่เคยเสีย เวลาล่วงเลยมาหลายปีจึงตัดสินใจขาย กฎหมายกำหนดให้ผู้ขายต้องมีหนังสือรับรองยืนยันปลอดภาระหนี้จากนิติบุคคล หากไม่มี ต้องตกลงกันให้ชัดเจนก่อนว่าใครจะเป็นผู้รับภาระ และจะต้องชำระก่อนการโอนด้วย เพื่อให้ได้หนังสือรับรองดังกล่าวมาเป็นส่วนประกอบการโอน
7. ไม่สอบถามผู้เชี่ยวชาญ และเชื่อแต่ตัวเอง
ในการลงทุนในบ้านมือสอง ถ้าเกิดข้อสงสัยขึ้นมาเมื่อไหร่ อย่าด่วนตัดสินใจเรื่องหนึ่งเรื่องใดไปเป็นอันขาด ให้ถามหรือใช้บริการผู้เชี่ยวชาญเสมอ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ล้วนอยู่ใกล้ตัวท่านอยู่แล้ว เช่น ผู้ประเมินราคา ช่างก่อสร้าง เจ้าหน้าที่สินเชื่อ หรือนักกฎหมาย ฯลฯ
ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะปกติแล้วต้นทุนในการใช้บริการผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ เมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากความผิดพลาด น้อยกว่ากันลิบลับอย่างเทียบกันไม่ติดเลย
8.คิดเรื่องซ่อมหลังซื้อ (จงคิดเรื่องซ่อมแล้วค่อยซื้อ)
ข้อผิดพลาดอีกประการหนึ่งในการเลือกซื้อบ้านมือสองในปัจจุบัน ก็คือคนส่วนใหญ่มักคิดเรื่องการซ่อมแซม หลังจากที่ซื้อบ้านมาแล้ว ซึ่งที่ถูกต้องแล้วการซ่อมแซม ควรเป็นประเด็นที่ต้องมีการหยิบยกมาพิจารณาก่อนที่คิดจะซื้อบ้านเสมอ เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้การลงทุนมีความปลอดภัย และช่วยประหยัดงบในการลงทุน เนื่องจากการประมาณการต้นทุนค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมล่วงหน้า จะทำให้ทราบถึงต้นทุนแท้จริงในการลงทุน และสามารถหยิบยกข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการต่อรองราคาซื้อบ้านให้ต่ำลงได้เป็นอย่างดี
9. ให้ความสำคัญกับวัสดุ มากกว่าช่างซ่อมบ้าน
เมื่อได้บ้านมือสองมาแล้ว ก็ถึงคราวซ่อมแซมตกแต่ง ปัญหากวนใจอันหนึ่ง ก็คือเรื่องการเลือกใช้ช่างก่อสร้างกับการเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง ซึ่งถ้าเลือกใช้ของดีทั้งคู่ ก็จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ปัญหาอยู่ที่ว่า ถ้าจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เนื่องจากมีงบประมาณจำกัด ดังนั้นควรจะให้น้ำหนักความสำคัญสิ่งไหนมากกว่ากันจึงจะดี
กรณีแบบนี้คำตอบง่ายๆ ก็คือ ต้องเน้นที่ช่างก่อสร้างที่มีฝีมือ เป็นสำคัญ โดยวัสดุก่อสร้างขอให้ถือเป็นเรื่องรอง ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะช่างที่มีฝีมือ สามารถช่วยแก้ปัญหาตำหนิหรือความไม่สวยงามที่เกิดจากวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างได้ แต่ถ้าใช้ช่างที่ไม่มีฝีมือและขาดความชำนาญเมื่อไหร่ แม้จะใช้วัสดุก่อสร้างดีแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่วายต้องเจอปัญหาเปลืองค่าใช้จ่าย และทำให้บ้านขาดความสวยงามได้
10. ไม่ดูสัญญาให้ดีก่อนตกลงซื้อขายบ้านหรือคอนโดมือสอง
สัญญาจะซื้อจะขายเป็นเรื่องสำคัญ ระหว่างผู้จะซื้อกับผู้จะขาย ส่วนใหญ่จะดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ต่างๆ มากรอกรายละเอียดกันเอง ฉะนั้นต้องดูเรื่องการวางเงินมัดจำ ค่าปรับหรือเรื่องการผิดสัญญาของแต่ละฝ่ายให้ดี เพราะหากไม่รัดกุม เมื่อคนขายได้ผู้ซื้อรายใหม่ที่ให้ราคาดีกว่า เขาอาจยกเลิกสัญญาไปเสียดื้อๆ ก็ได้ และที่สำคัญ เรื่องค่าใช้จ่ายในการทำนิติกรรม ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีเงินได้ ใครจะเป็นผู้ออก
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง http://www.home.co.th/Content/DataDetail/77056
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google