วิจารณ์ คิดถึงวิทยา
22 มี.ค. 57 00:07 น. /
ดู 3,590 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
คิดถึงวิทยา
By Bigtum
: มิตรภาพต่างเวลาในเรือลำเดียวกัน
หากพูดถึงบทบาทของครูแอน ครูสอง ในฐานะเรือจ้างลำน้อยแล้ว โมเม้นต์น่ารักๆคงหนีไม่พ้นการทำหน้าที่อย่างจริงใจตรงไปตรงมา บทบาทที่มากกว่าคำว่า 'ครู' คือเป็นทั้งพี่เลี้ยง ผู้ปกครอง ส่วนนี้น่าจะได้ใจคนดูได้อย่างไม่ยาก โดยเฉพาะฉากนั่งเรือไปตะโกนร้องปาวๆ บอกนักเรียนว่าเปิดเทอมแล้ว ฉากสอนทำโจทย์เลข ฉากทำกับข้าวและกิจกรรมอะไรต่างๆ ฉากทั้งหลายเหล่านี้ต้องยกคุณงามความดีให้กับทีมนักเเสดงนำ ไม่ว่าจะเป็นคุณบี้ คุณพลอย รวมไปถึงพวกเด็กๆในเรื่อง ความใสซื่อของพวกเค้าทำเอาผู้ชมยิ้มหน้าบานกันทั้งโรง ส่วนศิษย์เก่าสองคนจาก Seasons Change กับพระเอกจากละครจอแก้วนะเหรอ เอาตรงๆ มาเป็นเพียงไม้ประดับที่ให้บทลงล็อคแต่ไม่ได้น่าจดจำสักเท่าไหร่
ด้วยความที่เป็นค่ายหนังขวัญใจมวลมหาชน ความคาดหวังจึงย่อมสูงกว่าค่ายอื่นๆเป็นธรรมดา เราถึงได้เห็นการจัดเเสงที่สวยงาม งานตัดต่อเนี๊ยบๆที่ดูลื่นไหล ไดอะล็อกคำพูดของตัวละครที่ไม่ต้องเยอะ แต่ต้องเป๊ะ มีวาทะศิลป์เก๋ๆ แค่นี้คนดูก็พร้อมจะอมยิ้มให้แล้ว สำหรับผู้เขียนน่ะเหรอ เห็นหน้าครูแอนแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กชะมัด อยากวิ่งเข้าไปโผกอดครูแล้วพูดว่า 'ผมรักครูเเอนกั๊บ' ถุย...เด็กโข่ง!!! อย่างไรก็ดีแม้มาตรฐานคุณภาพงานของจีทีเอชจะยังคงรักษาระดับที่น่าพอใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเนื้อในจะไม่มีจุดบกพร่องเลย บอกตรงๆ ภาพความสนุกสนานไตล์ฟีลกู๊ดระหว่างครูกับเด็กๆที่ระดมใส่มาไม่ยั้งนั่นแหละ ทำให้ไม่รู้สึกว่าตัวละครมันเหงาอย่างที่ควรจะเป็น
จะมีหนังไทยสักกี่เรื่องกันเชียว ที่เอาหยิบไดอารี่มาเล่นจริงจังกันขนาดนี้ ยิ่งกับยุคโซเชียล ณ พ.ศ.นี้ ไดอารี่น่าจะเป็นของที่เชยพอๆกับจดหมาย ซึ่งก่อนหน้าก็มี Timeline ที่เข้าใจเคาะประเด็นไอเดีย พยายามจะนำความคลาสสิคของจดหมายมาผสมกับโลกของโซเชียล แต่คิดถึงวิทยาไม่ต้อง ตัดโลกของโซเชียลอุปกรณ์สื่อสารทิ้งไปได้เลย เพราะมันไม่มีสัญญาณไง อยู่ในแพกลางน้ำที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่น้ำและภูเขาโอบรอบ จริงๆมันก็เป็นทิวทัศน์ที่ดูสวยนะ แต่หนังก็ประเคนดนตรีประกอบใส่ไม่ยั้งมือเหมือนกัน โอเค เสียงกีตาร์โปร่งมันฟังเพราะอยู่ก็จริง เพียงแต่มันไม่เหลือที่ให้ได้ฟังเสียงธรรมชาติอะไรบ้างเลย ไม่แน่นะ ถ้าปล่อยของให้น้อยลงกว่านี้หน่อยอาจจะรู้สึกถึงความอ้างว้างขึ้นมาจริงๆก็ได้
สุดท้ายแล้วเมื่อมองถึงเจตนารมณ์ของหนังในด้านดีๆแบบไม่อคติจนเกินเลย อย่างน้อยๆมันก็พอมีคุณค่าในตัวแฝงอยู่ ถือว่าประเด็นหลักไม่ตกหาย สร้างแรงบันดาลใจแด่ครูผู้มีไฟทั้งหลาย มุ่งหวังให้เด็กได้เห็นประโยชน์ของการเรียนว่าได้คุณค่าอย่างไร ให้ผู้ใหญ่หันมาใส่ใจกับระบบการศึกษา ฉากที่บอกว่าจะเรียนไปทำไมสุดท้ายก็ต้องมาจับปลา เพราะทำอาชีพนี้มาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ต้องลองไปดูเอง ว่าครูสองจะหาทางออกให้กับเหตุการณ์นี้ยังไง ช่างได้ใจสุดๆ ส่วนประเด็นด้านความสัมพันธ์กับสมุดไดอารี่ของคนทั้งสองยังไม่เต็มอิ่ม บางทีความเพอร์เฟคที่จัดฉากมาเต็มสตรีมทุกอย่าง ก็อาจกลายเป็นหายนะสร้างจุดด้อยอย่างไม่ตั้งใจได้เหมือนกันนะงานนี้
ระดับคะแนน "B-"
ยังมีอีกหลายเรื่องรอให้อ่านอีกเพียบที่เพจแห่งนี้ https://m.facebook.com/profile.php?id=101573433344532
By Bigtum
: มิตรภาพต่างเวลาในเรือลำเดียวกัน
ด้วยความที่เป็นค่ายหนังขวัญใจมวลมหาชน ความคาดหวังจึงย่อมสูงกว่าค่ายอื่นๆเป็นธรรมดา เราถึงได้เห็นการจัดเเสงที่สวยงาม งานตัดต่อเนี๊ยบๆที่ดูลื่นไหล ไดอะล็อกคำพูดของตัวละครที่ไม่ต้องเยอะ แต่ต้องเป๊ะ มีวาทะศิลป์เก๋ๆ แค่นี้คนดูก็พร้อมจะอมยิ้มให้แล้ว สำหรับผู้เขียนน่ะเหรอ เห็นหน้าครูแอนแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กชะมัด อยากวิ่งเข้าไปโผกอดครูแล้วพูดว่า 'ผมรักครูเเอนกั๊บ' ถุย...เด็กโข่ง!!! อย่างไรก็ดีแม้มาตรฐานคุณภาพงานของจีทีเอชจะยังคงรักษาระดับที่น่าพอใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเนื้อในจะไม่มีจุดบกพร่องเลย บอกตรงๆ ภาพความสนุกสนานไตล์ฟีลกู๊ดระหว่างครูกับเด็กๆที่ระดมใส่มาไม่ยั้งนั่นแหละ ทำให้ไม่รู้สึกว่าตัวละครมันเหงาอย่างที่ควรจะเป็น
จะมีหนังไทยสักกี่เรื่องกันเชียว ที่เอาหยิบไดอารี่มาเล่นจริงจังกันขนาดนี้ ยิ่งกับยุคโซเชียล ณ พ.ศ.นี้ ไดอารี่น่าจะเป็นของที่เชยพอๆกับจดหมาย ซึ่งก่อนหน้าก็มี Timeline ที่เข้าใจเคาะประเด็นไอเดีย พยายามจะนำความคลาสสิคของจดหมายมาผสมกับโลกของโซเชียล แต่คิดถึงวิทยาไม่ต้อง ตัดโลกของโซเชียลอุปกรณ์สื่อสารทิ้งไปได้เลย เพราะมันไม่มีสัญญาณไง อยู่ในแพกลางน้ำที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่น้ำและภูเขาโอบรอบ จริงๆมันก็เป็นทิวทัศน์ที่ดูสวยนะ แต่หนังก็ประเคนดนตรีประกอบใส่ไม่ยั้งมือเหมือนกัน โอเค เสียงกีตาร์โปร่งมันฟังเพราะอยู่ก็จริง เพียงแต่มันไม่เหลือที่ให้ได้ฟังเสียงธรรมชาติอะไรบ้างเลย ไม่แน่นะ ถ้าปล่อยของให้น้อยลงกว่านี้หน่อยอาจจะรู้สึกถึงความอ้างว้างขึ้นมาจริงๆก็ได้
สุดท้ายแล้วเมื่อมองถึงเจตนารมณ์ของหนังในด้านดีๆแบบไม่อคติจนเกินเลย อย่างน้อยๆมันก็พอมีคุณค่าในตัวแฝงอยู่ ถือว่าประเด็นหลักไม่ตกหาย สร้างแรงบันดาลใจแด่ครูผู้มีไฟทั้งหลาย มุ่งหวังให้เด็กได้เห็นประโยชน์ของการเรียนว่าได้คุณค่าอย่างไร ให้ผู้ใหญ่หันมาใส่ใจกับระบบการศึกษา ฉากที่บอกว่าจะเรียนไปทำไมสุดท้ายก็ต้องมาจับปลา เพราะทำอาชีพนี้มาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ต้องลองไปดูเอง ว่าครูสองจะหาทางออกให้กับเหตุการณ์นี้ยังไง ช่างได้ใจสุดๆ ส่วนประเด็นด้านความสัมพันธ์กับสมุดไดอารี่ของคนทั้งสองยังไม่เต็มอิ่ม บางทีความเพอร์เฟคที่จัดฉากมาเต็มสตรีมทุกอย่าง ก็อาจกลายเป็นหายนะสร้างจุดด้อยอย่างไม่ตั้งใจได้เหมือนกันนะงานนี้
ระดับคะแนน "B-"
ยังมีอีกหลายเรื่องรอให้อ่านอีกเพียบที่เพจแห่งนี้ https://m.facebook.com/profile.php?id=101573433344532
แก้ไขล่าสุด 22 มี.ค. 57 00:09 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
การเล่าเรื่องยังมีปัญหาครับ ไม่อินไปตามที่หนังพยามทำ ไม่ว่า
ความสัมพันธ์ของครูกับเด็กๆที่ยังไม่โดน
ครูแอนดูสวยไม่เข้ากับหนัง ทำให้หนังโดดๆยังไงไม่รู้
ครูสอง บางฉาก over act ไป ไม่ธรรมชาติ (คือเค้าให้เรารู้ว่ากำลังแสดง ไม่ใช่ของจริง ทำนองเนี๊ย)
แต่ดีใจแอบเห็นนักแสดงจาก เพื่อนสนิทคนนึง ฉากบนรถบัสที่พระเอกหลับซบไหล่
จัดเป็นหนังเกือบโดนเรื่องแรกของปี ดูได้ไม่เลวร้ายอะไร
แต่ให้ได้เท่า พี่มาก เพื่อนสนิท ยังอีกไกลเชียว
แก้ไขล่าสุด 22 มี.ค. 57 11:03 | ไอพี: ไม่แสดง
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google