ชีวิตดราม่ามีใครเลวร้ายกว่าเราไหม

2 มิ.ย. 57 19:29 น. / ดู 751 ครั้ง / 7 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
อาจจะยาวมาก เพราะเราไม่สบายใจเลย อยากระบาย
เรื่องมีอยู่ว่าครอบครัวเรานั้นเป็นครอบครัวมีปัญหาเหมือนครอบครัวทั่วๆไปคือพ่อกับแม่แยกทางกัน ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เราอาศัยอยู่กับย่า (ตอนจำความไม่ได้ย่าเล่าให้ฟังว่าพ่อเคยทะเลาะกับทางบ้านจึงเที่ยวพาเรากะแม่ไปอยู่กับญาติหลายที่จนไม่มีกินก็กลับมาอยู่กับย่า) ตอนที่จำความได้ก่อนที่แม่จะแยกทางกับพ่อ พ่อกับแม่มีปัญหาถึงขั้นทุบตีแม่ไล่แม่ออกจากบ้าน จนแม่ทนไม่ไหวจึงแยกทางไป ผ่านไปไม่กี่ปีพ่อทะเลาะกับปู่ย่าถึงขั้นด่าและทุบตีกับย่า (พ่อเราเป็นฝ่ายทำร้ายย่า)ตอนนั้นพ่อเราจัดว่าติดเหล้ามากถึงขั้นอารวาดและก็พาเราไปอยู่กับแม่เลี้ยงคนที่สอง ที่จ.สกลฯญาติทางแม่เลี้ยงดีกับเราทุกคนยกเว้นแม่เลี้ยง ตอนแรกดีกับเรามากแต่เนื่องจากสาเหตุเกิดจากพ่อเราอีกแล้ว เค้ามีปากเสียงกันแต่แม่เลี้ยงมาลงที่เรา เคยจับเรากดน้ำและตีเรา ตลอดที่อยู่กับแม่เลี้ยง ย่ากับปู่ทำทุกวิถีทางเพื่ออยากรู้ว่าหลานอยู่ไหน และต่อมาสืบได้จากคนรู้จักว่าเราได้มาอยู่ที่นี่กับแม่เลี้ยงจึงแอบมาหาซึ่ง บ้านย่าเรานั้นอยู่พัทยาไกลจากที่เราอยู่มากแต่ก็ด้วยความรักหลานจึงเดินทางมาหา ต่อมาไปนานพ่อรู้เรื่องเข้าจึงพาเราหนีไปอยู่กับญาติซึ่งเป็นบ้านของพี่สาวย่า เรานึกดีใจว่าอย่างน้อยเราก็ได้มาอยู่กับญาติเราจริงๆคงไม่เดือดร้อนอะไร แต่ไหนได้ เราว่ามันแย่กว่าที่อยู่กับแม่เลี้ยงเรามาก เพราะตัวเราไม่ใช่หลานเค้าโดยตรงเป็นเพียงแค่หลานห่างๆ เค้าจึงเลี้ยงเราแบบไม่ให้อดตายก็แค่นั้น ใช้งานเราทุกอย่าง ตอนนั้นเราเป็นเพียงเด็กแปดขวบ แต่ทำงานเรียกได้เลยว่าคนใช้ของบ้าน หลานๆหรือคนในบ้านนั้นแทบไม่ต้องกระดิกนิ้วทำอะไรกันเลย เมื่อเราทำผิดเค้าก็จะลงโทษด้วยการตีบางครั้งถึงครั้นเขียวช้ำ พ่อเรารู้ว่าเราโดนทำอะไรแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะแค่มาอาศัยอยู่ จึงออกไปจากบ้านพี่สาวย่าทิ้งเราไว้ให้อยู่ที่นั่นจนเราท้อคิดว่าพ่อทิ้งเรา แต่พ่อกลับมา เพราะรู้เรื่องที่บ้านพี่สาวย่าปิดบังไว้ตลอดคือ เคยพาเราไปหาย่าทุกเดือน พ่อไม่รู้สาเหตุตอนแรกว่าพาไปทำอะไร พ่อเพียงแค่ไม่อยากใ้เราไปเจอย่า แต่จุดประสงค์ที่พ่อมารู้ตอนหลังตอนที่ยอมพาเรากลับมาอยู่กับย่าคือลูกสะใภ้ของพี่สาวย่ารวมถึงลุงและอา จะพาเราไปขอเงินย่าทุกเดือนเพื่อมาเป็นค่าเลี้ยงดูเรา แต่จริงๆเงินนั่นแทบไม่เคยถึงเราเลย เราก็กินเหมือนเดิมเงินที่ได้มามีเพียงแต่ค่าขนมที่ย่าเราให้ติดตัวเราแค่นั้น นอกจากเงินยังมีข้าวสารสิ่งของอื่นๆอีกมากมายที่ย่าให้เรามาเพราะกลัวหลานลำบาก แต่ของที่ได้มาบอกเลยเราได้เพียงแต่มองไม่ได้ใช้ เราได้กลับมาอยู่ยอมรับเลยว่าเหมือนขึ้นสวรรค์ ชีวิตสะดวกสบายทุกอย่าง และช่วงนั้นเราอยู่ป.6 พ่อเราตอนนั้นมีงานทำและใช้ชีวิตดีขึ้นไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อน เราก็ไม่เอะใจอะไร พอได้สักพักพ่อพาแม่เลี้ยงคนใหม่มาให้ย่ารู้จักซึ่งเราบอกเลยเรากลัวเพราะเรามีอดีตฝังใจมากๆเกี่ยวกับแม่เลี้ยง แรกเราพยายามเปิดใจเพราะท่าทางของแม่เลี้ยงคนนนี้ดีเสมอต้นเสมอปลาย แต่เราก็ยังกังวล แต่ที่ผิดคลาดไปกว่านั้นคือหลังจากที่พ่อกะแม่เลี้ยงคนปัจจุบันมีน้อง ใช้ชีวิตมาจนตอนนี้น้องเราสี่ขวบ พ่อเราเริ่มออกอาการเดิมคือเริ่มมีปัญหากันแรกๆปรับความเข้าใจได้แต่มาตอนนี้ ณ ปัจจุบันเรายอมรับได้เลยว่าแม่เลี้ยงคนนี้ดีมากถึงที่สุดเพราะความอดทนที่มีต่อพ่อเรานั้น ถ้าเป็นคนอื่นคงจากไปเพราะทนไม่ไหวเหมือนแม่สองคนที่ผ่านมา ยอมรับเลยว่าแม่เลี้ยงรักทุกคนในบ้านเราเหมือนเป็นแม่และลูกแท้ๆเลยก็ว่า เพราะที่แม่ทนอยู่เพราะเราเองก็ยังเรียนน้องก็ยังเด็ก ทิ้งไปคงทำใจได้ได้ เรามีโอกาสได้นั่งคุยกับแม่เลี้ยงเรา แม่บอกว่าอยากไปอยู่บ้านนอกกลับยายมากกว่าที่ต้องมานั่งทนพ่อของเราทำร้ายกันทางคำพูดดีกว่า (พ่อเราไม่ใช้กำลังเหมือนเมื่อก่อน แต่คำพูดที่ด่าทอมานั้นเหมือนแม่เลี้ยงเราไม่ใช่คน)ทั้งๆที่แม่เลี้ยงไม่เคยสักครั้งที่จะเป็นคนก่อปัญหาจนต้องทะเลาะกันแท้ๆ เรานั่งฟังที่แม่ระบายออกมาเราก็เห็นใจเพราะเป็นเรา เราคงไม่ทนให้เค้ามาด่าเช้าเย็นแบบนี้ แต่ที่แม่ไม่ยอมไปเพราะเป็นห่วงคนในบ้านจะอยู่ยังไงเพราะปู่กะย่าเราก็แก่ขึ้นเรื่อยๆเราเองก็ยังเรียนไม่จบ น้องก็ยังเล็ก (พ่อเราไม่ได้เป็นคนเลี้ยงลูกเอง มีแต่ย่าเท่านั้นที่ส่งเสียหลานทุกคนที่อยู่ในตระกลูก็ว่าได้ เพราะย่ามีลูกชายสองคนแต่ไม่มีคนไหนพึ่งได้เลย แถมขยันมีภรรยาใหม่กันทุกคน)ทุกวันนี้เรามีเพียงย่ากะปู่ที่คุ้มหัวเรากะแม่เลี้ยงอยู่ ถ้าเกิดวันนึงเราไม่มีท่านทั้งสองเราจะทำยังไงถึงวันนั้นแม่เลี้ยงเราคงไม่ทนอยู่แล้ว เรามานั่งคิดดูอยู่หลายครั้งว่า จะมีไม๊ที่มีคนเจอแบบเราหรือหนักกว่าเรา เค้าแก้ปัญหายังไง หรือปล่อไปในแบบนี้เรื่อยๆต่อไป ทุกวันนี้เราพยายามทำให้ทุกวันดีที่สุด เพราะเราไม่รู้จริงๆว่าในอนาคตมันจะดีหรือแย่
ที่เล่ามามีปนทั้งน้ำแล้วเนื้อ แต่เรื่องจริงๆมันยิบย่อยถ้าเล่าไปทั้งหมดเราคนแต่งได้นิยายหนึ่งเล่มเลย เราก็ขอระบายเท่านี้ก็พอ เพียงอยากให้คนที่ได้อ่านเอาไปเป็น แรงบันดานใจหรืออะไรก็แล้วแต่ ว่าชีวิตของเรานั้นมันไม่ได้แค่ใช้ชีวิตไปวันๆสบายๆหากแต่ชีวิตของคนบางคนนั้นเค้าอาจจะมีทุกข์แต่สิ่งที่แสดงออกว่าให้กับคนอื่นมีเพียงแค่รอยยิ้มก็เท่านั้น

.... กระทู้นี้ย้ายมาจากห้องเบ็ดเตล็ด ...
แก้ไขล่าสุด 2 มิ.ย. 57 19:50 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | #Prynce.P | 2 มิ.ย. 57 19:43 น.

ยังมีหลายคนเลยค่ะ ที่เจอเหตุการณ์แบบจขกท อยากให้อดทนและตั้งใจเรียนให้มากๆนะคะ เพราะเรายังมีคนส่งเสีย บางคนไม่ได้เรียนน่าสงสารกว่า พฤติกรรมไหนที่ไม่ดี ก็ให้จำไว้ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ ต่อไปในอนาคตจขกทจะอยู่รอดในสังคมได้ง่ายกว่าคนอื่นแน่นอนค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | TBC~22421 | 2 มิ.ย. 57 19:45 น.

ขอบคุณ #Prynce.P  มากๆเลยค่ะ เราจะสู้ต่อไป

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | Swift | 2 มิ.ย. 57 19:59 น.

สู้ๆนะ จขกท. คือแบบคล้ายกับเราเลยอะ แต่ไม่ดราม่าขนาดนี้ พ่อ
กับแม่เราก็แยกกัน เราอยู่กับครอบครัวฝ่ายพ่อ (ปู่ย่านี่แหละ) แต่
ปิดเทอมทุกปี เราก็ไปอยู่กับแม่ที่ตจว. พ่อเราก็ไม่ได้กีดกันอะไร

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | BijGetsMaShit | 2 มิ.ย. 57 20:11 น.

จขกท. ดูเป็นคนเข้มแข็ง ตามคห หนึ่งเลยค่ะตั้งใจเรียนมากๆเรื่องไม่ดีอย่าไปเอามาเป็นแบบอย่าง ให้มันเป็นแค่อดีตพอ เรียนๆเข้าจะได้มีงานดีๆทํานะคะสู้ๆนะ!

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | น้องน้ำเนย | 2 มิ.ย. 57 23:44 น.

น้องน้ำเนยให้กำลังใจพี่นะค่ะ สู้ๆน่ะ น้องน้ำเนยจะอยู่เคียงข้างเสมอ

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | ColorfulTatto | 3 มิ.ย. 57 00:39 น.

สู้ๆนะ เราก็คล้ายๆจขกท.เหมือนกันจ้า แต่เราทำใจได้แล้ว ^^ พ่อเราแยกทางกับแม่ตั้งแต่เรายังเล็กๆ ท่าจขกท.รู้เรื่องของเรานะจขกท.จะบอกว่ามีคนแย่กว่าเราอีกหรอ สู้ๆนะเราเป็นกำลังใจให้ ^^

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | ทำไง | 5 มิ.ย. 57 19:40 น.

สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ 

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google