แคนดี้ รากแก่น แอบท้อ ถูกมองเป็นมารวัฒนธรรม

23 ก.ย. 57 17:38 น. / ดู 566 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
โดนอีกจนได้ สำหรับ "แคนดี้ รากแก่น" ลูกสาวคนสวยของศิลปินแห่งชาติ "บานเย็น รากแก่น" ที่ล่าสุดถูกมองเป็นมารวัฒนธรรมไปเสียแล้ว หลังจากลุกขึ้นมาดำเนินการสืบสานวัฒนธรรมไทย โดยจัดให้มีโครงการประกวดหมอลำ แต่แล้วก็มีภาพหลุดที่ทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ออกมาอีก ล่าสุดสาวคนนี้จึงขอเปิดใจแบบหมดเปลือก และยอมรับว่าเกือบจะท้อ ถึงขนาดไม่อยากจะทำความดีอีกแล้ว
ถามถึงกระแสข่าวที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ในโลกอินเตอร์เน็ต
"จริงๆ แล้วเรื่องนี้แคนดี้ว่าทุกคนโดน และก็โดนเป็นเรื่องปกติ สำหรับนักเลงคีย์บอร์ดที่เขาจะขึ้นอะไรก็ได้ ตัวแคนดี้เองหลีกเลี่ยงการเข้าไปอ่าน การเข้าไปปะทะกับคนพวกนี้อยู่แล้ว เราอยู่กันคนละที่ก็ดีอยู่แล้ว แต่พอดีมันเป็นจังหวะที่แคนดี้ทำโครงการเกี่ยวกับวัฒนธรรม พอดีมันมีภาพที่หลุดออกมาอีกแล้ว มันหลุดช่วงจังหวะที่เราทำโครงการวัฒนธรรม ด้วยความที่สังคมไทย ถ้าเป็นเรื่องวัฒนธรรมก็ยังจะต้องเรียบร้อย และไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี แต่บังเอิญรูปที่มันหลุดออกมาดูแล้วมันขัด คงไปขัดหูขัดตาด้วย เขาก็เลยมาตอบโต้มาว่าเรา ตอนที่เรารู้สึกเดือดก็คือ การพาดพิงไปถึงคุณแม่เรื่องที่คุณแม่ทำ มันก็เลยทำให้แคนดี้เดือด ส่วนคำที่คุณพูดถึงแคนดี้ว่าอะไรยังไงก็แล้วแต่คุณ ความที่เราเป็นคนก็มีความรู้สึกว่าเราทำอะไรมาเหรอ ทำไมด่ากันขนาดนี้ แล้วคุณไม่แยกแยะเหรอว่าสิ่งที่แคนดี้ทำอยู่ในปัจจุบัน กับรูปที่มันหลุดออกมากับงาน งานแคนดี้ก็ไม่ใส่ชุดอย่างนั้นมาเดินเล่น หรือขึ้นแสดงบนเวที การที่ตอบโต้ไปมันก็คืออารมณ์คน"

จริงๆ แล้วภาพลักษณ์ของเราที่ดูเปรี้ยว มันขัดกับงานทางด้านวัฒนธรรมหรือเปล่า
"มันขัดแน่นอน ถ้าในมุมมองของคนที่กำลังมองว่าสิ่งที่แคนดี้กำลังทำมันคือการแสดงแบบนั้น แต่ถ้าลึกๆ แล้ว แคนดี้บอกเสมอว่าไม่ได้เป็นคนที่จะมาถ่ายทอดแทนคุณแม่ ไม่ได้ออกมาร้อง มารำหมอลำ แต่แคนดี้เป็นคนจัดงาน และประกาศไปแล้ว ร้องหมอลำไม่ได้ รำไม่ได้เหมือนคุณแม่ ซึ่งแคนดี้ก็รับหน้าที่จัดงานละกัน ระหว่างที่เราทำงานอะไรรับหน้าที่อะไร เราก็ทำตรงนั้นให้ดีที่สุด"

ด้วยภาพลักษณ์และชื่อเสียงของคุณแม่หรือเปล่าทำให้โดนกดดัน
"นี่คือเหตุผลที่ทำให้แคนดี้ไม่เข้าวงการตั้งแต่แรก โอกาสการเข้าวงการแคนดี้มีมานานแล้ว แต่เราไม่เข้าเพราะทุกคนคิดว่าเราต้องเหมือนคุณแม่ ซึ่งคุณแม่ทำไว้ดีมาก เราพยายามค้นหาตัวเองมาเรื่อยๆ จนมาค้นพบว่าตัวเราเป็นวาไรตี้ เป็นคนที่ทำโชว์ อีกบทบาทหนึ่งคือ หลังจากที่คุณแม่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ คุณแม่ก็บอกว่าอยากจะหาผู้สืบทอด คำว่าผู้สืบทอดมันไม่ได้หมายความตรงถึงแคนดี้ว่าต้องไปแสดง ในเมื่อเราแสดงไม่ได้ เราพยายามแล้วแต่ทำไม่ได้ เราก็บอกคุณแม่ว่าถ้าเราทำไม่ได้เราใช้วิธีอื่นได้ไหมหนูตั้งบริษัทให้ คุณแม่ชอบบริหาร หนูขอทำโครงการประกวดหมอลำ ล่าสุดที่โดนก็คือการประกวดวงโปงลาง และประกวดรำซิ่ง ซึ่งแคนดี้ก็ออกมาประชาสัมพันธ์ให้คนมาประกวด นั่นแหละก็สาเหตุที่เราโดนว่า คนก็เลยมองว่ามันขัดกันนะ คุณมองภาพดีๆ เพราะแคนดี้ไม่ได้ออกมาร้องเอง แสดงเอง แต่แคนดี้เป็นผู้จัดงาน ถามว่ากดดันไหม ตอบเลยว่ากดดันมาก และรู้ว่าทำไมเหรอ เวลาเราทำดีๆ แล้วรู้สึกว่ามันยากเนอะ มันกำลังทำให้คนที่รู้สึกอยากจะทำความดีไม่อยากทำ เหมือนเวลาเราทำความดี เราออกไปช่วยคน ไปช่วยเด็กๆ คนก็จะหาว่าสร้างภาพ ทุกวันนี้เวลาแคนดี้จะทำความดี กับองค์กรของพี่ๆ แคนดี้จะถามเลยว่ามีสื่อไหม ถ้ามีสื่อแคนดี้ไม่ไป กลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว เคยเป็นไหมเห็นคนรถล้มอยู่ข้างถนนแต่ไม่กล้าไปช่วย เพราะอะไร เพราะสังคมเป็นแบบนี้ไง ทุกคนถูกตัดสินด้วย ความรู้สึกส่วนตัว และตัดสินคนจากภายนอก"

ตอนที่เห็นข่าวแล้วรู้สึกอย่างไร
"นึกภาพตามนะคะ แคนดี้เห็นข่าวนี้ในหน้าหนังสือพิมพ์ ขณะกำลังคุยงานเรื่องวัฒนธรรม มาเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ จะมาสานต่อเรื่องวัฒนธรรม พอดีมีข่าวตัวนี้ออกมาปุ๊บ แล้วข่าวมันเร็วผู้ใหญ่เห็น เขาก็เลยพิจารณาใหม่เลย มันก็เลยรู้สึกไงว่าคำพูดคนๆ เดียวมันส่งผลกับเรา แคนดี้ก็เลยตอบโต้เขาค่อนข้างแรง"

กับคนที่กล่าวว่าแคนดี้ไม่เหมาะสมกับการทำงานด้านวัฒนธรรม อยากจะบอกอะไรกับเขา
"อยากจะบอกว่าคุณเกือบจะทำให้แคนดี้เกือบท้อแล้ว ในขณะที่สิ่งที่แคนดี้พยายามทำ พยายามสร้างมานานแล้วค้นพบแล้วว่าถ้าแคนดี้ไม่ทำแล้วใครจะทำให้คุณแม่ เราก็พยายามบอกกับทุกคนเสมอ ไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมรับตัวเอง ว่าเราเป็นคนแรงๆ เป็นคนตรงๆ แต่วันนี้แคนดี้ลุกขึ้นมาตั้งใจสานต่อวัฒนธรรมเท่าที่แคนดี้ทำได้นั้นก็คือ การสร้างเวทีประกวดให้กับน้องๆ แคนดี้ก็ออกมาบอกตรงๆ ไม่ใช่มาบอกว่าแคนดี้จะเปลี่ยนไปแล้วนะ แคนดี้ไม่เคยพูด และอยากจะบอกว่าสิ่งที่คุณทำก็คือ คุณสนุกปาก แต่คุณกำลังทำให้ความตั้งใจของแคนดี้มันล้มลง ถึงขนาดคุยกันเลยว่าไม่ทำก็ได้นะ ถ้าการทำความดีมันจะยากขนาดนี้ มันบั่นทอนชีวิตมากนะ"

หลายคนมองว่าเราสร้างกระแส
"ถ้าจะปั่นกระแสขนาดนี้อย่าทำเลย เพราะมันทำให้งานที่แคนดี้ตั้งใจจะทำเกือบล้ม แคนดี้ก็ไม่คิดบ้าที่จะทำแบบนั้น การสร้างกระแสไม่ได้ช่วยให้เรามีชื่อเสียงหรืองานเยอะขึ้นเลย"

หลังจากมีข่าวออกมาคุณแม่ว่าอย่างไร
"คุณแม่คงชินแล้วเนอะ แต่คุณแม่ก็ยังเป็นห่วง คือครั้งนี้คุณแม่เห็นว่าเราระวังตัวสุดๆ แล้วมันยังโดน คุณแม่เลยไม่รู้จะบอกยังไง ก็ได้แค่บอกว่าไม่เป็นไรลูกตั้งใจจะทำอะไรก็ทำไปเพราะคุณแม่เห็นว่าเราถอยแล้ว เหมือนที่คุณแม่บอกว้า ถ้ามารไม่มีบารมีไม่เกิด ก็บอกให้เราสู้ๆ นะลูก"
แก้ไขล่าสุด 25 ก.ย. 57 23:21 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google