David Fincher ผงาด กระแส Gone Girl แรงงส์
กลายเป็นหนึ่งในหนังที่ผู้ชมในสหรัฐอเมริกาอยากดูมากที่สุดในช่วงฤดูใบไม่ร่วง นั่นก็คือหนังที่สร้างมาจากนวนิยายที่เคยสร้างสถิติใน New York time bestseller ติดกันถึง 100 สัปดาห์ มาแล้วอย่าง Gone Girl ซึ่งคราวนี้ก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง หลังจากเปิดตัวในงาน New York Film Festival กระแสตอบรับออกมาในทางที่ดี-ดีมากเลยทีเดียว แม้จะมีนักวิจารณ์บางท่านที่ไม่เห็นด้วยก็ตาม อย่างไรก็ตามในตอนนี้ใน IMDB คะแนนพุ่งสูงถึง 9.3/10 ถือเป็นการตอบรับที่แรงใช่เล่นสำหรับหนังเรื่องนึง
The Guardian
- A bracing, scalding sketch of a marriage in meltdown
Gillian Flynns bestselling novel has become a feverish thriller that has all the emotional subtlety of a Punch and Judy show but is all the better for it 4/5
นี่คือภาพลักษณ์ของความสดชื่นเสมือนเป็นแผลของคู่แต่งงานที่กำลังจะละลาย Gillian Flynn ผู้แต่งนิยายที่ขายดีที่สุดจะกลายเป็นผู้ที่จะทำให้เกิดความสยองขวัญอย่างตื่นเต้นซึ่งนั่นทำให้ทำให้เกิดอารมณ์ที่เปราะบางของการแสดง Punch and Judy แต่ทุกสิ่งทุกอย่างคือสิ่งที่ดีกว่า
The Hollywood Reporter
Expertly crafted entertainment, but falls short of Fincher's finest
สร้างความบันเทิงได้อย่างถึงที่สุดเมื่อมันไปอยู่ภายใต้ฝีมือที่ดีที่สุดของผกก.ฟินเชอร์
Mirror.co.uk
You will get totally lost in this fiendishly brilliant crime thriller
คุณจะกลายเป็นคนหลงทางในหนังอาชญากรรมสยองขวัญที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายที่เจ๋งที่สุด
NYFF
Gone Girl makes for one of Finchers most purely entertaining films.
Gone Girl ทำให้เป็นหนึ่งในหนังของผกก.ฟินเชอร์ที่เต็มไปด้วยความบันเทิงอย่างสดใหม่
Indiewire
If "Zodiac" was about fearing the unknown evil that lurks out in the world, "Gone Girl" is nearly the opposite, studying the monsters that lie inside in the very people we share our lives with
ถ้า Zodiac เคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับความกลัวของคนแปลกหน้าที่หลบซ่อนอยู่ในโลกนี้ Gone Girl ใกล้เคียงกับคำว่าตรงกันข้าม การเรียนรู้ของสัตว์ประหลาดของการโกหกที่ซ่อนอยู่ข้างในผู้คนที่เราร่วมใช้ชีวิตด้วย
L.A.Times
Gone Girl' finds David Fincher at delightfully twisted best
Gone Girl ภายใต้การค้นหาของเดวิด ฟินเชอร์ซึ่งที่ดีที่สุดคือการหักมุมที่เปี่ยมไปด้วยความเพลิดเพลิน
Telegraph
David Fincher in fun mode. David Fincher's adaptation of Gillian Flynn's best-seller is unnerving, shocking and provoking
เดวิดฟินเชอร์อยู่ในโหมดสนุก ภายใต้การบังเหียนของเดวิด ฟินเชอร์ร่วมกับนักเขียนนวนิยายที่ขายดีที่สุดจิลเลียน ฟินล์คือ การทำให้เสียขวัญ น่าประหลาดใจและก้าวร้าว
ที่จริงยังมีอีกเยอะมากที่รีวิวกันออกมา แม้ส่วนใหญ่จะไม่ได้รีวิวถึงขั้นว่าเป็นหนังยอดเยี่ยมกระเทียมดอง แต่ด้วยข้อดีที่มี โดยเฉพาะในช่วงท้ายที่เปลี่ยนตอนจบใหม่ที่ต้องบอกว่าดีกว่าในหนังสือเสียอีก รวมทั้งการแสดงที่ถึงและเหมาะสมกับนักแสดงทำให้ดูไม่ตะขิดตะขวงใจ
ได้ยินอย่างนี้แล้วอยากไปดูหนังเรื่องนี้เร็วๆ หนังได้ฤกษ์เข้าฉาย 23 ตุลาคม 2014 อีกไมนานเกินรอ
สำหรับคนที่พลาดชมรีวิวหนังสือนวนิยาย ติดตามได้ที่
http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=4001289
มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย [REC.O]
- New Full trailer : คนเหล็กปะทะคนเหล็กหรือ? (บันเทิง)
- Full trailer : Antman มนุษย์มดปะทะมนุษย์ตัวต่อ (บันเทิง)
- หนังสยองเรื่องอื่นหลบไป It follows จัดเต็มกระแสบวกท่วมท้น (บันเทิง)
- Preview : 2538 อัลเทอร์มาจีบ อยากหาอะไรโดนๆต้องเรื่องนี้ (บันเทิง)
- Review : Gone Girl not good but it's the best of marriage (บันเทิง)
- 18+ K.BEN กระแสที่พูดถึงตอนนี้ในอเมริกาจาก Gone Girl (บันเทิง)
- กระทู้โดย [REC.O] ทั้งหมด
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
เรื่องนี้เป็นลิสหมายเลข 3 ของปีที่ผมอยากดูที่สุดเลยครับ แม้คะแนน IMDb จะสูงถึง 9.3 แต่จำนวนคนทั้งหมดก็น้อยอยู่ดี (น้อยมากๆจนไม่น่าเชื่อถือ) ลักษณะคล้ายกับตอน Hobbit: Smaug ช่วงแรกๆ ผมว่าเดี๋ยวก็คงลดลงอีกเยอะครับ (ล่าสุดเปิดดูเหลือ 9.2 ละ)
แต่ถึงยังไงผมก็ไปดูอยู่ดี หมายหัวไว้และชอบ Fincher เป็นทุนอยู่แล้ว น่าจะชอบพอสมควรครับถ้าแกไม่หลุดฟอร์มเกินไป 
ตอบ คห.Now-You-See-Me ผมคิดว่าเปิดตัวแบบนี้ถือว่า เดวิด ฟินเชอร์ ยังทำให้พวกเราคาดหวังไปไม่น้อยกว่าเก่า ส่วนตัวแล้วผมชอบนวนิยายที่ทำมาเป็นหนังเรื่องนี้มากถึงมากที่สุด จากในหนังสือที่ตอนจบเล่นเอาทึ่งแล้ว กระแสตอนจบที่เปลี่ยนไปนั้นก็ดีกว่าเก่าเสียอีก แม้ว่าตัวหนังจะได้เรต R ผมคาดว่ารายได้คงไม่น้อยไปกว่า The girl with the dragon tattoo มั้ง! จากโผหลายๆฝ่ายกระแสคงไม่ต่างกันมากแน่ๆ ด้วยตัวฝีมือผกก.เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยังไงแน่ๆผมไปดูแน่นอน 
จบไม่เหมือนในนิยายเหรอ!!!!!!!ในนิยานคิดว่ามันจบดีแล้วนะ หักมุมด้วย แต่นักวิจารณ์ว่าหนังมันจบไม่เหมือนในนิยาย แถมมีกระแสบอกว่าจบได้ดีกว่าตัวนิยายอีก ยังงี้ต้องไปพิสูจน์แล้วว่าจะแตกต่างและดีกว่าในนิยายไหม
ตอบ คห.Now-You-See-Me ต้องลองหามาชมครับสำหรับหนังสือนวนิยาย สนุกมากเลย แต่รู้สึกดีใจตั้งแต่มีการเปลี่ยนตอนจบ เลยอยากไปรับชมว่าองค์3ของหนังจะเจ๋งเท่าเปล่า
ตอบ คห.michaelangarano ต้องรอรับชม หวังว่าจะมีโอกาสรีวิวในไม่ช้า นานมากกกกกที่ไม่ได้รีวิวหนัง 555+
สำหรับผมในส่วนของเนื้อหาในนิยาย ต้องขอสารภาพไว้ตรงนี้เลยครับว่า ครึ่งแรกของเล่มบรรยายได้อืดอาดมาก อ่านแล้ววางไปหลายรอบเหมือนกัน แต่พอเริ่มเข้าครึ่งหลังเท่านั้นแหละปมทุกอย่างทีทิ้งไว้ ที่ผมบอกว่าอืดๆในครึ่งแรกเริ่มได้รับการเฉลยเท่านั้นแหละ!! คิดไม่ถึงเหมือนกันมันมีเรื่องราวที่ซับซ้อนเนื้อเรื่องพลิกไปพลิกมาตลอด จนทำให้การอ่านเริ่มสนุกขึ้นมากๆจนวางไม่ลงเลย
ตอบ คห.`alienxoxo. อีกไม่นานเกินรอครับ 23 ตุลาคมนี้ ถ้าไม่มีการเลื่อนฉายนะครับ
ตอบ คห.Dorothy และ michaelangarano
สำหรับผมแล้วผมชอบตั้งแต่องค์ 2 เป็นต้นมา แม้องค์หนึ่งจะน่าเบื่อไปหน่อยสำหรับการเล่าเรื่อง แต่เมื่อได้วางรากฐานเสร็จสรรพ การหักมุมครั้งแรกก็มา ไม่ใช่แค่นั้นยังตามมาอีกหลายระลอก ทำให้ผมรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้ยิ่งอ่านแล้วยิ่งอยากรู้การเฉลยในตอนท้าย เมื่อออกมาเป็นหนัง ต้องเป็นอีก 1 หนังที่เซอร์ไพรซ์แน่ๆประจำปีนี้ ประมาณว่าห้ามเล่าตอนจบ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่าง The sixth sense แต่การที่จะประสบความสำเร็จคงไม่น่าจะทำได้เท่า 
คือเราชอบครึ่งแรกของเล่มมากเลยนะ แบบอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นผู้หญิงด้วยหรือเปล่า เลยอินกะตัวละครเป็นพิเศษ แล้วคืออินกะเอมี่มาก คิดไว้เลยว่าเรากำลังอ่านหนังสือชีวิตคู่ล้มเหลวดีๆ เรื่องนึงอยู่ แต่พอครึ่งหลังเท่านั้นแหละ ร้อง อ้าววววว เลย โดนคนเขียนหักหลังซะงั้น แบบว่าเก่งอะ ทำให้เรารู้สึกร่วมไปขนาดนั้นได้ แถมทำกันเจ็บแปลบ (แบบในทางที่ดี) อีก
แต่ว่าส่วนตัวคือไม่ชอบครึ่งหลังจนถึงบทจบเลย จบทรมานชีวิตมาก พอรู้ว่าจบไม่เหมือนเลยยิ่งอยากดู เอาเป็นว่าส่วนตัวเป็นแฟนของผู้กำกับคนนี้ 
(ถึงแม้จะแอบผิดหวังเล็กๆ กับ The Girl with the Dragon Tattoo ไปแล้วนิดๆ หน่อยๆ แต่พอเห็นชื่อก็อดอยากดูไม่ได้อยู่ดีอะ)
ตอบ คห.Dorothy
ผมไม่แปลกใจที่จะไม่ชอบ เพื่อนผมที่อ่านแล้วบางคนยังไม่ชอบเหมือนกัน แต่ที่ผมชอบตอนจบก็เพราะว่ามันจบได้เจ็บ เจ็บแบบได้จบ งง! เอาว่าจบได้แบบอย่างแสบสันต์
ส่วนตัวแล้วหนังสือเล่มนี้สะท้อนชีวิตคู่ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเกินคาดไปกับการเขียนของนักเขียนท่านนี้ก็ตาม รวมทั้ง The girl with the dragon tattoo ผมกลับชอบนะครับ โดยเฉพาะฉาก Open Credit ที่ต้องบอกว่าหนังคงแรงงงส์จริง โดยรวมผมกลับว่าหนังสนุกและตอนจบที่แตกต่างไปกับต้นฉบับรวมทั้งไม่ยืดเยื้อแต่ก็รวดเร็วจนบางคนจับไม่ติด และตอนนี้ก็รอภาค 2 ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมา
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google