วิจารณ์ Rurouni Kenshin : เกียวโตทะเลเพลิง(ซามูไรพเนจร2)

สำหรับในภาคเกียวโตนี้ ตอนแรกแอบไม่คาดหวังว่าตัวหนังจะออกมาดี กลัวแป๊กจริงๆ ค่ะ เพราะภาคแรกทำไว้ได้ดีเหลือเกิน�สรุปว่า ภาคนี้ได้ใจไปเต็มๆ�อลังการทั้งสถานที่ถ่ายทำและฉากที่หลากหลาย ตัวละครที่มากขึ้น และองค์ประกอบในการต่อสู้ แหมมันช่าง!! พลิ้วไหวดังเพลงดาบล่องนภาจริงๆ ขอบอกฉากต่อสู้เนียนมาก ซาโต้ ทาเครุ พระเอกของเรื่องนี้ท่าทางจะฝึกฝนมาอย่างดี อย่างนี้สิ ถึงสมกับเป็นซามุไรของแท้�ส่วน ชิชิโอะ ตัวร้ายของเรื่องนี้ รับบทโดยนักแสดงเจ้าบทบาท ทัตสึยะ ฟูจิวาระ ซึ่งแม้จะมีบทโผล่หน้าแบบไม่เละออกมาฉากเดียว แต่ก็ดูสมบทบาทมาก หลังจากนั้นเละและเลวตลอดเวลา ว่ากันว่า...เบื้องหลังที่แสนเจ็บปวดของเค้าที่ฝังลึกจนกลายเป็นแรงอาฆาตมีเพียง มือพิฆาต ฮิมุระ บัตโตไซ เท่านั้นที่หยุดลงได้� แต่กว่า เคนชิน และชิชิโอะ จะได้สู้กันจริงๆ ต้องผ่านผู้ภักดีหน้าเด็ก โซจูโร่ ที่แสดงโดย หนุ่มคามิกิ ริวโนะสุเกะ และโจว แสดงโดย มิอุระ เรียวสุเกะ ผู้ที่เคยรับบทอังค์ จากคาเมนไรเดอร์ โอส และถูกอะโอชิ แห่งกลุ่มโอนิวะบัง อาฆาตแค้นซะก่อน�ในภาคสองนี้เราจะได้เห็นฉากที่ส่งความรู้สึกระหว่าง พระนาง ไม่เยอะมากเท่าไหร่แต่คนดู�ฟิน�มากค่ะไปดูเรื่องนี้ได้ข้อคิดดีๆ หลายอย่างเลย หลายประโยคโดนใจผู้เขียนเป็นอย่างมาก ดูมันเหมาะสมกับยุคที่กำลังเปลี่ยนซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงก็สามารถนำมาใช้ได้ จริงๆ หนังเรื่องนี้สร้างมาจากผลงานการ์ตูนแนวแอ็กชั่นประวัติศาสตร์ของอาจารย์ โนบุฮิโระ วาสึกิ เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว พอนำมาสร้างเป็นหนังในตอนนี้ ประโยคเหล่านั้นก็ยังนำมาใช้ในปัจจุบันได้เหมือนกัน อย่างเช่น�“ยากที่จะสร้างยุคใหม่มากกว่าทำลายยุคเก่า”�จากท่านโอคุโบะคนของรัฐบาล

สรุป Rurouni Kenshin : เกียวโตทะเลเพลิง ภาคต่อที่เจ๋งขึ้น และปูเรื่องไปภาคสาม จุดที่น่าสนใจของภาคนี้คือการได้เห็นศัตรูที่ร้ายที่สุดของเคนชินในหนังสือการ์ตูนอย่าง ชิชิโอ มาโกโตะ ตัวหนังก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ตัวหนังเดินเรื่องได้ค่อนข้างกระชับ ไม่ยืดเยื้อดูน่าสนใจ แค่ฉากแรกก็ดูโปรดักชั่นเจ๋งจนขนลุกแล้ว ดูยิ่งใหญ่อลังการมาก สิ่งที่พัฒนาขึ้นมาจากภาคแรกอย่างเห็นได้ชัดคือการดำเนินเรื่องที่ไม่ได้เอารายละเอียดใส่ลงไปเยอะจนน่าเบื่อ รวมถึงเรื่องของฉากแอ็คชั่นที่พัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน ฉากต่อสู้ดูสนุกกว่าภาคแรกมากๆ ภาคแรกกว่าจะเจอตัวบอสก็ปาเข้าไปเกือบจบ แต่ภาคนี้เจอชิชิโอตั้งแต่ตอนกลางๆ เรื่องเลย�อาจจะมีจุดด้อยของเรื่องสำหรับผมที่เป็นแฟนหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ก็คือ ตัวละครเด่นๆ หลายตัวจากหนังสือการ์ตูน ถูกส่งออกมาเรียกเสียงฮือฮาเยอะแยะมากมาย แต่ก็ได้แค่นั้นเพราะบทไม่ได้มีความสำคัญเท่าไหร่ พวกนักฆ่าจุปปงกาตานะ ออกมาน้อยมาก ก็ไม่รู้ว่าจะเก็บไว้เป็นตัวดึงความสนใจในภาคสามหรือเปล่า หลายๆ ฉากที่เป็นฉากเจ๋งๆ ในหนังสือการ์ตูนถูกตัดออกไปเยอะเลย อาจจะเพราะเหตุผลที่ผมว่าไว้แหละ พอดูจบแล้วรู้ว่ามีภาคต่อ ก็ยิ่งทำให้อยากดูมากขึ้นเยอะเลยก็หวังว่าภาคสามน่าจะมีหมัดเด็ดมาน็อคคนดูให้อึ้งทึ่งเสียวกันยิ่งกว่าภาคสองนะครับ เพราะแค่ภาคสองก็ลุ้นกันมันส์หยดแล้วล่ะ