รวมรีวิวสั้น 6 เรื่องรวด อาทิ Gone Girl, Fury, John Wick

รวมรีวิวสั้นและคะแนนจากหนังในรอบ 2 สัปดาห์ เรียงตามคะแนนไปเลยงานนี้ จะได้ดูกันชัดๆ เรื่องไหนสูงสุด ต่ำสุด -Gone Girl (A)
เสน่ห์ของเวอร์ชั่นนิยายคือ อ่านแล้วเงิบไปหลายคืน โชคดีมากที่ จิลเลียน ฟลินน์ คนแต่งนิยายกระโดดมาเขียนบทหนังด้วยตัวเอง แถมยังได้ เดวิด ฟินเชอร์ มากำกับ เลยกลายเป็นงานที่สมบูรณ์แบบ ดึงเอารายละเอียดๆหลักมาเรียงต่อกันได้แม่น ดั่งจิ๊กซอว์ที่มาอยู่ในมือคนฉลาด

-Whiplash (A-)
ในฐานะที่เคยตีกลองมาก่อน การรัวสปีดตีเร็วขนาดนั้น บอกเลยว่านรกชัดๆ มุ่งมั่นอย่างแรงกล้า หรือทลายขีดจำกัดตัวเองจนบ้าคลั่ง ฟาดกระหน่ำจนแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนคือเลือด อันไหนคือเหงื่อ นี่มันเข้าขั้นดาร์คของดนตรีเลยนะเนี่ย นี่ถือเป็นตัวอย่างของนักแสดงที่ควรได้รับเสียงปรบมือด้วยความชื่นชมจริงๆ

-Fury (B+)
อเมริกันไม่ดรีมเสมอไปหรอก นี่เป็นอีกมุมของความหดหู่ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ไม่เน้นยกย่องเชิดชูจนน่าเกลียด แต่เลือกนำเสนอด้านที่เป็นเลือดเนื้อ จิตวิญญาณ และการดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอด มีดราม่าเสียดสีให้ชวนคิด เจ็บจี๊ด ขณะที่ฉากแอ็คชั่นนั้นทำถึง บันทึกเสียงได้แน่นสมจริง ราวกับอยู่สมรภูมิรบ

-John Wick (B)
บูกี้แมนที่ฆ่าคนได้ด้วยดินสอเพียงแท่งเดียว ถ้าบอกว่าเป็นญาติกับ ดร. ฮันนิบาล เล็กเตอร์ ก็เชื่ออยู่! การกลับมารอบนี้ของ คีอานู รีฟส์ ถือว่าน่าพอใจ ลีลายิงปืนเฉพาะตัวที่โหดไม่เหมือนใคร คือซีนจดจำเมื่อเดินออกจากโรง อืม แล้วก็อีกฉากตอนที่ตัวโกงทำหน้าเหวอเมื่อพูดชื่อพระเอก บอกแล้วว่า จอห์น วิค พ่อทุกสถาบันจริงๆ

-Love, Rosie (C+)
ในที่สุดหวานใจ ลิลลี่ คอลลินส์ ก็ได้รับบทที่เหมาะสมกับตัวเองได้ซะที เวลาเธอยิ้มทีไรโลกพลันสดใสขึ้นมา หากนัยน์ตาเธอเอ่อล้นด้วยน้ำตา โลกแทบมืดดับลงทันที แหวะ จะอ้วก! เอาเป็นว่าดูหนังรักเรื่องนี้แล้วชอบ แม้บทจะจงใจจนเกินธรรมชาติ แต่มันก็สอบผ่านด้วยเคมีนักเเสดง

-Dracula Untold (C)
เวอร์ชั่นผดุงคุณธรรมที่ออกจะขาดเลือดไปสักหน่อย แม้จะได้ฉากแอ็คชั่นที่เน้นเทคนิคซีจีไอมาช่วยกลบจุดอ่อน แต่ก็ยังไม่สามารถซื้อใจเราได้หรอก ยิ่งมาพร้อมกับตอนจบที่จงใจเปิดโอกาสให้มีภาคต่อแบบเช๊ยเชย มุกแบบนี้ ยิ่งทำให้อยากเห็น ลุค อีแวนส์ กลับไปเล่นเป็นตัวร้ายแบบเท่ห์ๆอย่างเดิม

เข้าไปอ่านรีวิวแบบเต็มๆได้ที่
https://m.facebook.com/profile.php?.........mp;ref=bookmark