= Review All = สกินแคร์และเครื่องสำอางหลักๆที่ใช้ประจำ
1 พ.ย. 57 13:29 น. /
ดู 9,004 ครั้ง /
24 ความเห็น /
8 ชอบจัง
/
แชร์
สวัสดีค่ะ
จะเป็นการทยอยอัพนะคะเนื่องจากว่าของค่อนข้างเยอะทีเดียว
คือว่าเราจะทำ Review ของใช้ส่วนตัวที่ใช้หลักๆในชีวิตประจำวันทั้งที่ยังใช้อยู่และใช้หมดไปแล้วแต่ดีมากและบรรดาเหล่าเครื่องสำอางเล็กๆน้อยๆ เน้นไปที่ลิปสติก(เดี๋ยวปาดให้ดูด้วย)
มาเริ่มกันเลยนะคะ
>> กลุ่มแรก จะเป็นพวกสกินแคร์และครีมบำรุงต่างๆนะ <<
1. NATURE REPUBLIC Soothing & Moisture ALOE VERA 92% (ผลิตในเกาหลี)
ราคา : 200 บาท
สถานที่สอย : ซื้อที่ช้อปของ NATURE REPUBLIC ประเทศไทย
ลักษณะ : เจลว่านหางจระเข้สีใส เนื้อเจลนุ่มมาก ค่อนข้างเย็นและซึมเร็ว
ปริมาณ : 300 ml. (กระปุกใหญ่มาก)
สรรพคุณ : เป็นเจลว่านหางจระเข้สารพัดประโยชน์ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยก็ว่าได้ หน้า เล็บ ผม หลักๆที่เราใช้คือ ใช้ทาบำรุงหน้าก่อนนอน ทำให้หลับสบาย (ใช้แล้วติด) คือเป็นเหมือนการเพิ่มน้ำและความชุ่มชื้นให้ใบหน้า เวลาตื่นมาจะรู้สึกว่าใบหน้านุ่มมากๆ นอกจากนั้นเรายังใช้สำหรับทาก่อนแต่งหน้าด้วยทำให้หน้าไม่ลอกเป็นขุยและไม่เป็นคราบเวลาแต่งหน้าเลย อีกอย่างก็ใช้ลูบผมที่สระแล้วหมาดๆ เจลนี้ไม่เหนียวเนอะหน่ะสักนิดและยังช่วยให้ผมพริ้วไม่พันกันเวลาผมแห้งสนิทอีก
สรุป : เป็นไอเทมสารพัดประโยชน์ที่ใช้บำรุงรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว เจ้าตัวนี้ราคาค่อนข้างถูกและเป็นที่นิยมกันมากๆในเกาหลี(เคยอ่านเจอ)เพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้ผิวแห้งง่าย จึงน่าจะใช้ได้ดีในประเทศไทยช่วงหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงด้วย แต่เราก็ใช้เป็นประจำตลอด
คะแนน : 9/10 ชอบที่ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับปริมาณ ขอหักแค่พนักงานร้านบริการไม่ค่อยดีเท่าไร
ซื้อต่อไหม : แน่นอนจ้าาาาาา รักมาก
อันนี้ขอรีวิวคู่กันไปเลยนะคะ เพราะคล้ายกันมาก
2. Olay white radiance intensive whitening lotion SPF 24 (ฝาเทา)
OLay white radiance UV whitening lotion SPF19 UVA/UVB (ฝาดำ)
ราคา : 120 บาท (ช่วงโปรอาจจะถูกกว่านี้ ประมาณ 109 บาท)
สถานที่สอย : ตามช้อปทั่วไปเลย (หาง่ายๆก็ 7-11)
ลักษณะ : เป็นเนื้อโลชั่นทั้งคู่ เหนียวนิดหน่อยแต่ซึมเร็วมากทำให้ไม่รู้สึกว่าเนอะ ทาแล้วเบาไม่หนักหน้า แต่ถ้าอยู่ในที่ร้อยๆนานๆก็เยิ้มนิดหน่อย ซับเอา
ปริมาณ : Net 30 ml. มีแค่ขนาด 30 ml. เท่านั้นจ้า ขวดใหญ่กว่านี้ไม่มีนะ
สรรพคุณ : (ฝาดำ) คือที่ขวดระบุว่าให้ใช้เป็นคลีนเฟคหรือเรียกง่ายๆก็ใช้ทำความสะอาดหน้า ตาและปากนั่นแหละ แต่เราเอามาใช้เป็นตัวบำรุงแทน(ใช้ตอนกลางวัน) เนื้อครีมจะเป็นสีขาวแบบขาวมากๆ พอเวลาทาแล้วหน้าจะเปลี่ยนสีทันที คือมันขาวขึ้นแบบทันทีเลยแต่ไม่ลอยนะ ถ้าทาดีๆก็จะกลมกลืนเหมือนผิวเราดีจริงๆ หน้าเงาแบบใสๆเหมือนชอนซงอี (you who came from the stars) เวลารีบๆหรือเพื่อนเรียกออกไปข้างนอกกระทันหันก็จะหยิบตัวนี้ละเลงหน้าแล้วก็ออกไปเลย และดูใสๆสุขภาพดีเหมือนไม่ได้แต่หน้า 55555 ดีที่มีกันแดดด้วย SPF แค่ 19 ยังไม่สูงมาก เราเป็นพวกชอบ SPF ต่ำๆด้วยเพราะไม่อยากหน้าบางเร็วจากการสะสมของสารเคมี
(ฝาเทา)จะเป็นตัวที่ใช้สำหรับทาเพื่อความขาวกระจ่างใส ส่วนอื่นๆก็คล้ายกับฝาดำเลยแค่มี SPF 24 (มากกว่าฝาดำ) แต่ทาแล้วไม่ขาวสู้ฝาดำและกลิ่นไม่ถูกใจเท่าฝาดำทำให้เป็นชอนซงอีน้อยกว่าฝาดำ
สรุป : ดีทั้งคู่ เราซื้อเก็บทั้งคู่ด้วย ผลัดกันใช้ตามงานและโอกาส นอนบำรุงอยู่บ้านใช้ฝาเทา ออกงานอีเว้นท์ใช้ฝาดำ ทำใหไ้สวยเหมือนไม่แต่งหน้า 55555
คะแนน : 10/10
ซื้อต่อไหม : แน่นอนอยู่แล้ว จนกว่าบริษัทจะเลิกผลิตปิดโรงงาน
3. L'Oral Paris White Perfect day cream SPF17/PA++
ราคา : ประมาณ 129 บาท
สถานที่ซื้อ : ตามช้อปชั้นนำทั่วไป หาง่ายๆก็ 7-11
ลักษณะ : เนื้อครีมเหนียวๆ สีขาว ปรับสูตรใหม่จะออกกึ่งโลชั่นนิดนึง คือความเหนียวหนืดลดลง เราชอบแบบเดิมมากว่า
ปริมาณ : 20 ml.
สรรพคุณ : เป็นครีมบำรุงผิวหน้า สำหรับทากลางวัน แต่เราเอามาใช้ทากลางคืนแทนเพราะเนื้อครีมแน่นมาก ไม่บางเบา เวลาทาแล้วมันรู้สึกหนักๆหน้า เลยเก็บเอาไว้ทากลางคืนดีกว่า อีกอย่างเคยเอาไปทาก่อนลงรองพื้นแต่งหน้าแล้วมันลอกกลายเป็นขุย ครีมเป็นคราบๆเกาะอยู่บนหน้า ดูแล้วตลกตัวเอง เลยไม่เอาอีกแล้ว เก็บไว้ทาบำรุงตอนนอนแทน รวมๆแล้วก็ถือว่าโอเค กลิ่นหอมอ่อนๆ SPF 17 เบาๆไม่แรงมาก
สรุป : ใช้แค่สัปดาห์เดียวก็สัมผัสได้ถึงความขาวกระจ่างใสได้เลย อาจจะไปช่วยเสริมกันกับน้อง Olay ฝาดำกับฝาเทาเราด้วยแหละ ถือว่าเป็นเซ็ตแห่งความขาวใสส่วนตัวของเรา
คะแนน : 7/10 หักตรงที่ปรับสูตรใหม่ ชอบแบบเดิมมากกว่า และหักอีกตรงที่ใช้ร่วมกับเครื่องสำอางไม่ได้เป็นคราบเป็นขุย
ซื้อต่อไหม : ก็ซื้อต่ออยู่ดี เอามาโอบเวลานอน ตื่นมาเช้าๆจะได้ขาวกระจ่างใสต่อเนื่อง
4. Biore' UV AQUA Rich SPF 50 PA+++
ราคา : ประมาณ 129 บาท
สถาที่สอย : 7-11
ปริมาณ : 15 กรัม
ลักษณะ : เป็นเนื้อโลชั่นแบบไม่เหนียวเลย สีเลม่อนอ่อนๆกลิ่นก็เหมือนเลม่อน เวลาทาให้ความรู้สึกเหมือนเอาน้ำเปล่ามาสัมผัสกับหน้าเฉยๆ ทั้งที่ควรจะเหนียวมากเพราะ SPF ตั้ง 50
สรรพคุณ : ก็เป็นครีมกันแดดแบรนด์ดังของญี่ปุ่น เราไม่แน่ใจว่าผลิตในประเทศไทยหรือนำเข้ามาจากยุ่นเพราะที่หลอดไม่มีตัวอักษรไทยเลยเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด นั่นแหละที่เราบอกตั้งแต่แรกว่าไม่ชอบพวกที่มีสารกันแดด SPF สูงๆ แต่เจ้าตัวนี้ก็ฟาดไปตั้ง 50 เราเลยเก็บไว้ใช้เวลาที่ต้องออกแดดเยอะๆหรือไปสู้ชีวิตที่งานเอ้าดอร์ของมหาลัย
สรุป : ก็ถือว่าดีทีเดียว ขนาดเล็กพกพาง่าย ไม่เหนียวสักนิด ทาทับเครื่องสำอางได้ตลอด ไม่ลอก ไม่เยิ้ม ไม่เยอะ กลิ่นหอม เหมือนจะช่วยทำให้หน้ากับเครื่องสำอางไม่หลุดจากกันด้วย ยิ่งทาทับเครื่องสำอางยิ่งเนียน (อันนี้ค้นพบเอง)
คะแนน : 9/10 หักตรง SPF สูงเกินไป
ซื้อต่อไหม : แน่อนอน อย่างน้อยก็ทำให้หน้าปลอดภัยจากการโดนแสงแดดทำร้าย แถมยังไม่เนอะน่ะอีกทั้งที่กันแดดทั่วไปยิ่งปกป้องมากยิ่งเหนียวมาก แต่ตัวนี้ไม่เหนียวสักนิดเลย จริงๆ
5. SODIUM CHLORICE IRRIGATION U.S.P (น้ำเเกลือ)
ราคา : 55 บาท
สถานที่สอย: Watsons
ลักษณะ : เป็นน้ำเกลือทั่วไป (น้ำเกลือที่ใช้ล้างแผลในโรงพยาบาลนั่นแหละ)
ปริมาณ : 1,000 ml.
สรรพคุณ : หลายคนอาจจะสงสัยว่าเราเอามาใช้ทำอะไร ล้างแผลรึไงกัน มันก็ไม่เชิงนะ เพราะเจ้าตัวนี้ก็ค่อนข้างสารพัดประโยชน์ สำหรับเรา คือที่บริเวณหลังใบหูเราจะเหงื่อออกแล้วเราแพ้เหงื่อง่ายมาก มันจะแสบๆอ่ะ เลยต้องเช็ดเหงื่อตรงนั้นออกให้สะอาด ซึ่งน้ำเปล่าที่เราใช้กันทุกๆวันก็ไม่สามารถบอกว่าสะอาดได้แค่ไหน ยิ่งกับจุดที่บอบบางด้วย เราเลยลองใช้น้ำเกลือเช็ดดู เพราะน้ำเกลือมี Sodium Chloride 0.9 ml. ละลายอยู่ ซึ่งเท่าๆกับร่างกายเรา คืออะธิบายยังไงล่ะ น้ำเกลือเป็นน้ำที่มีค่าความหนาแน่นคล้ายกับน้ำในร่างกายเรานั่นแหละ (อ่านมา) นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เวลาพยาบาลใช้ล้างแผลอะไรให้เรา เราจึงไม่รู้สึกแสบ แต่เป็นเย็นๆ เฉยๆแทน กลับมาที่หู หลังจากนั้นเรารู้สึกว่าหูเราไม่ค่อยแดงเวลาโดนเหงื่อเยอะคือเหงื่อไม่กัดใบหูให้แสบแล้ว เราเลยเอาน้ำเกลือมาใช้ล้างหน้าซะเลย มันเจ๋งตรงนี้แหละ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว อยากเป็นน้ำที่สะอาดปราศจากเชื้อโรคดีนัก งั้นก็ใช้ล้างหน้าไปเลย 55555
สรุป : เราเอามาใช้ล้างหน้า เทน้ำเกลือลงในสำลีแผ่นแล้วเช็ดทำความสะอาดใบหน้าหลังจากใช้ Remover เช็ดเครื่องสำอางแล้ว ความรู้สึกคือเย็นสบายไปทั้งหน้า ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวสิวบุกจากปัญหาการแพ้น้ำที่มีค่า pH ที่แตกต่างหรือสภาพหน้ารับไม่ไหว
คะแนน : 9/10 หักตรงอายุการใช้งาน คือถ้าเปิดขวดแล้วประสิทธิภาพจะลดลงทันทีจากสถานะปลอดเชื้อ เพราะเราเปิดปิดๆขวดทุกๆวันอาจจะทำให้ฝุ่นละอองเข้าไปได้ แต่ก็ยังถือว่าสะอาดกว่าน้ำเปล่าจากก็อกที่บ้านอยู่ ถ้า 1 เดือนแล้วยังใช้ไม่หมดก็ควรทิ้งซื้อขวดใหม่ เพื่อความสะอาด แต่สำหรับเราเรากลัวหมดก่อน 1 เดือนน่ะสิ เป็นมนุษย์โอบไปทั้งหน้า มือหนัก ยิ่งเทเยอะยิ่งฟิน
ซื้อต่อไหม : ซื้อต่อนะ แต่จะลองไปถามร้านอื่นดู เพื่อจะเจอยี้ห้ออื่นที่ราคาถูกกว่านี้ (ยังจะงกอีก )
6. NIVEA body lotion UV Whitening Extra Cell Repair Protect
ราคา : ประมาณ 200 นิดๆมั้ง จำไม่ได้แล้วแล้วแต่สถานที่ที่ซื้อด้วย เคยเห็นถูกสุด 160 บาท
สถานที่สอย : Watsons
ปริมาณ : 400 ml.
ลักษณะ : เป็นเนื้อโลชั่นสีขาวขุ่น ซึมค่อนข้างเร็ว ไม่ค่อยเนอะ แต่ถ้าโอบเยอะก็ละลายและเยิ้มทีเดียว ตามสไตล์ NIVEA
สรรพคุณ : เป็นโลชั่นบำรุงผิวที่ผสมสารกันแดด ๊UVA & UVB เน้นเรื่องแก้ไขผิวคล้ำเสียจากแสงแดด ไม่มีสาร AHA ที่เข้มข้นสูง ที่เป็นสาเหตุของการทำลายชั้นผิว (ทำให้ผิวบาง) โดยที่เจ้าตัวนี้บอกว่ามีส่วนผสมของวิตามิน C สูงถึง 50 เท่า จากผลคามู คามู
สรุป : เป็นครีมบำรุงผิวกายของเรา ใช้เวลากลางคืนเพราะเน้นบำรุงรักษาผิวจากการที่ไปโดดแดดมาแล้วมากกว่า ไม่ใช่ตัวที่ทำให้ขาวขึ้น แต่ถ้าใช้ได้อย่างเป็นประจำก็ขาวขึ้นเล็กน้อย ขาวแบบใสๆ ดูสุขภาพดีนะ เพราะมันช่วยรักษาผิวจากการคล้ำแดด
คะแนน : 7/10 น่าจะถูกกว่านี้ เรางก หักตรงที่หัวปั้มด้วย หัวปั้มใช้ง่ายดีและพังง่ายมาก ไม่รู้เราเป็นคนเดียวรึเปล่า
ซื้อต่อไหม : ตอนนี้ยังก่อน จะเอาเงินไปลองตัวใหม่ แต่ถ้าลดราคามากๆก็อาจจะสอยอีกชิ้น เคยซื้อ 3- 4 ครั้งแล้วตัวนี้
ึ
7. NIVEA body UV Whitening Serum SPF 25 PA+++
ราคา : น่าจะ 189 - 200 บาท
สถานที่สอย : Watsons
ปริมาณ : 350 ml.
ลักษณะ : เป็นซีรั่มบำรุงผิวผสมสารป้องกันแสงแดด เนื้อเซรั่มเหนียวสไตล์นีเวียแต่ไม่หนืดเลย พอทาเสร็จแล้วก็ไม่เหนียว ไม่เยิ้มด้วยซึ่งแปลกมากสำหรับ นีเวีย ปกติพี่แกจะชอบเยิ้ม
สรรพคุณ : เซรั่มที่บำรุงถึงระดับเซลล์ผิว แม้ผิวคล้ำเสียสะสมลึกแก้ไขยาก พร้อมด้วยการบำรุงจากวิตามินซี บริสุทธิ์ถึง 95% ซึ่งจะทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสภายใน 14 วัน ผิวไม่ไวต่อแสงแดดอันเป็นสาเหตุของการคล้ำเสียอีกด้วย
สรุป : ตัวนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าดีสำหรับเราเลยทีเดียว ชอบมากเพราะมันไม่เหนียวเยิ้ม คือเหนียวแค่ตอนทาๆลูบๆ แต่ระหว่างวันคือเบาสบาย ด้วย SPF ที่ไม่สูงมากด้วยแหละ กำลังพอดีเลย ส่วนเรื่องขาวภายใน 14 วันก็ขอบอกว่าจริงๆ ขาวขึ้นจนเพื่อนก็ทัก ครอบครัวก็ทัก ตอนได้มาครั้งแรกแล้วใช้ แต่ถ้าถามว่าใช้ไปเรื่อยๆจะขาวขึ้นอีกไหม ไม่นะ!! มันก็แค่ช่วยปรับให้ผิวเราขาวอย่างเป็นธรรมชาติ ขาวเท่าที่ผิวคนหนึ่งจะขาวได้โดยที่ไม่พึ่งยาขาวหรือศัลยกรรม เรียกว่าได้ผิวขาวของตัวเองจริงๆ ออกแนวใสๆสุขภาพดีด้วยแค่ภายใน 14 วัน
คะแนน : 10/10
ซื้อต่อไหม : ซื้อต่อจ้า อันทีี่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ และต่อให้ขึ้นราคาก็ยังต้องซื้ออยู่ดี รักมาก
8. NIVEA Extra Whitening Skin Therapy Serum broad spectrum SPF33 PA+++
ราคา : ประมาณ 160 - 180 บาท
ปริมาณ : 180 ml.
ลักษณะ : เป็นเนื้อเซรั่มเหมือนตัวก่อนหน้านี้เลย แต่หนืดกว่าเล็กน้อย เรียกยังไงล่ะ เหมือนเนื้อจะด้านกว่าเล็กน้อย อาจจะเพราะ SPF ที่สูงกว่าด้วย กลิ่นก็หอมกว่า หอมแบบน่าใช้นะ
สรรพคุณ : ก็คล้ายๆกับตัวก่อนหน้านี้เลย เป็นตระกูลซีรั่มนีเวียเหมือนกัน เน้นการดูแลผิวที่ไวต่อแสงแดดอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำง่าย ตัวนี้ก็มีวิตามินซีบริสุทธิ์เท่ากันคือ 95% เน้นไปที่คนกลุ่มออกแดดบ่อยมาก ปกป้องจากรังสี UVA & UVB ด้วย
สรุป : ก็เหมือนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกับตัวก่อนหน้านี้ ตัวนี้ออกมาทีหลัง เหมือนเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดูแลรักษาและบำรุงมากขึ้น ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ถามว่าดีกว่าไหม ก็คงดีกว่าเพราะดูเหมือนใส่อะไรเพิ่มมากขึ้น เราซื้อมาใช้แค่บางครั้งคราวเพราะมันขนาดเล็กกว่า ใกล้มือก็หยิบใช้เลยบอกไม่ได้ว่าขาวกระจ่างใสขึ้นภายใน 14 วันหรือเปล่า แต่ก็น่าจะเป็นไปได้เพราะส่วนผสมหลักเหมือนกันหมด เพิ่มอะไรมานิดหน่อย
คะแนน : 8/10 เนื่องจากรักตัวก่อนหน้านี้ไปแล้ว ไม่อยากปันใจ แต่กลิ่นหอมน่าใช้กว่านะ
ซื้อต่อไหม : ซื้อต่อเมื่อร้านจัดโปรลดราคา
9. GARNIER skin nature Light Complete multi-action brightening Form
ราคา : ประมาณ 60 บาท
ปริมาณ : 50 ml.
ลักษณะ : Cleanses & Brightens เป็นโฟมล้างหน้าเพื่อความกระจ่างใส เนื้อโฟมเป็นเนื้อครีมหนืดๆหยาบนิดๆ เหมาะแก่การถูหน้ามาก (สำหรับเรา ) กลิ่นก็หอม
สรรพคุณ : ก็ล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกทั่วไป แต่ผลิตภัณฑ์จะเน้นที่ความขาวกระจ่างใสด้วย
สรุป : ใช้แล้วขาวไหม ขาวอยู่นะ ขาวจริงๆ แต่ต้องใช้อย่างต่อเนื่องสักหลอดและพอหมดต้องซื้อต่อไปเรื่อยๆ ใช้ทุกวัน เลิกใช้เลิกขาวจ้า รู้สึกเบาหน้ามากๆด้วยตอนนี้ล้างน้ำเปล่าออกแล้ว ชุ่มๆ แต่ก็รู้สึกได้ไม่นาน
คะแนน : 6/10 เจอมาเยอะพวกที่เลิกใช้เลิกขาวทันที แบบถ้าคุณไม่ใช้แค่ 1-2 ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนทันทีและต้องมาเริ่มนับเริ่มต้นใหม่ คือใช้ต่อเนื่องยาวๆ
ซื้อต่อไหม : ไม่ซื้อแล้ว เคยซื้อมาใช้ประมาณ 5-6 หลอด ทั้งชีวิต เยอะอยู่นะ แต่ไม่เอาแล้วล่ะ เพราะไม่มั่นใจว่ามีสารอะไรที่ไปกัดให้ผิวบางหรือเปล่า ช่วงขาวใช้เวลา 1หลอดหลังจากลืมหยิบใช้ 1-2 สัมผัสได้ว่าผิวคล้ำลงทันที
10. Clean&Clear fairness Cleanser
ราคา : 59 บาท
สถาที่สอย : TOP Supermarket
ปริมาณ : 50 ml.
ลักษณะ : เป็น Cleanser สูตรวิตามิน - เชอร์รี่ ที่ใช้ทำความสะอาดใบหน้า เนื้อครีมหอมๆกลิ่นเชอรี่ มีเม็ดบีดส์ช่วยผลัดเซลล์ผิว
สรรพคุณ : ล้างหน้าให้สะอาด มีเม็ดบีดส์ที่ช่วยผัดเซลล์ผิวใหม่ด้วย ดูกระจ่างใสทันทีไม่หมองคล้ำ พร้อมสารสกัดจากข้าวช่วยความคุมความมันและแก้ปัญหาความหมองคล้ำ
สรุป : ใช้แล้วเบาหน้ามาก เบาแบบเหมือนไม่มีอะไรเกาะหน้าเลย น้ำมงน้ำมันหายหมด จนดูหน้าแห้ง ต้องมาลงม้อยซ์เจอร์ไรด์เซอร์ต่อทันที ตัวนี้ล้างหน้าสะอาดจริง เป็น Oil Free ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้ามันอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวกันเลยทีเดียว แต่ต้องมาห่วงเรื่องหน้าแห้งแทน
คะแนน : 8/10 เธอแห้งไป แต่ฉันชอบแบบนี้ ตอนสครับเม็ดบีสด์มันส์สุดๆ โรคจิตละ
ซื้อต่อไหม : ชอบตระกูล Clean & Clear มาก คริสตัล F(x) ก็เป็นพรีเซนเตอร์หลายตัว เราเลยกะว่าจะลองให้ครบทั้งไลน์ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเลย น้องเชอรร์รี่บีดส์ตัวนี้ก็คงซื้อต่อแหละ
#เดี๋ยวมาลงต่อนะคะ
จะเป็นการทยอยอัพนะคะเนื่องจากว่าของค่อนข้างเยอะทีเดียว
คือว่าเราจะทำ Review ของใช้ส่วนตัวที่ใช้หลักๆในชีวิตประจำวันทั้งที่ยังใช้อยู่และใช้หมดไปแล้วแต่ดีมากและบรรดาเหล่าเครื่องสำอางเล็กๆน้อยๆ เน้นไปที่ลิปสติก(เดี๋ยวปาดให้ดูด้วย)
มาเริ่มกันเลยนะคะ
>> กลุ่มแรก จะเป็นพวกสกินแคร์และครีมบำรุงต่างๆนะ <<
1. NATURE REPUBLIC Soothing & Moisture ALOE VERA 92% (ผลิตในเกาหลี)
ราคา : 200 บาท
สถานที่สอย : ซื้อที่ช้อปของ NATURE REPUBLIC ประเทศไทย
ลักษณะ : เจลว่านหางจระเข้สีใส เนื้อเจลนุ่มมาก ค่อนข้างเย็นและซึมเร็ว
ปริมาณ : 300 ml. (กระปุกใหญ่มาก)
สรรพคุณ : เป็นเจลว่านหางจระเข้สารพัดประโยชน์ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยก็ว่าได้ หน้า เล็บ ผม หลักๆที่เราใช้คือ ใช้ทาบำรุงหน้าก่อนนอน ทำให้หลับสบาย (ใช้แล้วติด) คือเป็นเหมือนการเพิ่มน้ำและความชุ่มชื้นให้ใบหน้า เวลาตื่นมาจะรู้สึกว่าใบหน้านุ่มมากๆ นอกจากนั้นเรายังใช้สำหรับทาก่อนแต่งหน้าด้วยทำให้หน้าไม่ลอกเป็นขุยและไม่เป็นคราบเวลาแต่งหน้าเลย อีกอย่างก็ใช้ลูบผมที่สระแล้วหมาดๆ เจลนี้ไม่เหนียวเนอะหน่ะสักนิดและยังช่วยให้ผมพริ้วไม่พันกันเวลาผมแห้งสนิทอีก
สรุป : เป็นไอเทมสารพัดประโยชน์ที่ใช้บำรุงรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว เจ้าตัวนี้ราคาค่อนข้างถูกและเป็นที่นิยมกันมากๆในเกาหลี(เคยอ่านเจอ)เพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้ผิวแห้งง่าย จึงน่าจะใช้ได้ดีในประเทศไทยช่วงหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงด้วย แต่เราก็ใช้เป็นประจำตลอด
คะแนน : 9/10 ชอบที่ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับปริมาณ ขอหักแค่พนักงานร้านบริการไม่ค่อยดีเท่าไร
ซื้อต่อไหม : แน่นอนจ้าาาาาา รักมาก
อันนี้ขอรีวิวคู่กันไปเลยนะคะ เพราะคล้ายกันมาก
2. Olay white radiance intensive whitening lotion SPF 24 (ฝาเทา)
OLay white radiance UV whitening lotion SPF19 UVA/UVB (ฝาดำ)
ราคา : 120 บาท (ช่วงโปรอาจจะถูกกว่านี้ ประมาณ 109 บาท)
สถานที่สอย : ตามช้อปทั่วไปเลย (หาง่ายๆก็ 7-11)
ลักษณะ : เป็นเนื้อโลชั่นทั้งคู่ เหนียวนิดหน่อยแต่ซึมเร็วมากทำให้ไม่รู้สึกว่าเนอะ ทาแล้วเบาไม่หนักหน้า แต่ถ้าอยู่ในที่ร้อยๆนานๆก็เยิ้มนิดหน่อย ซับเอา
ปริมาณ : Net 30 ml. มีแค่ขนาด 30 ml. เท่านั้นจ้า ขวดใหญ่กว่านี้ไม่มีนะ
สรรพคุณ : (ฝาดำ) คือที่ขวดระบุว่าให้ใช้เป็นคลีนเฟคหรือเรียกง่ายๆก็ใช้ทำความสะอาดหน้า ตาและปากนั่นแหละ แต่เราเอามาใช้เป็นตัวบำรุงแทน(ใช้ตอนกลางวัน) เนื้อครีมจะเป็นสีขาวแบบขาวมากๆ พอเวลาทาแล้วหน้าจะเปลี่ยนสีทันที คือมันขาวขึ้นแบบทันทีเลยแต่ไม่ลอยนะ ถ้าทาดีๆก็จะกลมกลืนเหมือนผิวเราดีจริงๆ หน้าเงาแบบใสๆเหมือนชอนซงอี (you who came from the stars) เวลารีบๆหรือเพื่อนเรียกออกไปข้างนอกกระทันหันก็จะหยิบตัวนี้ละเลงหน้าแล้วก็ออกไปเลย และดูใสๆสุขภาพดีเหมือนไม่ได้แต่หน้า 55555 ดีที่มีกันแดดด้วย SPF แค่ 19 ยังไม่สูงมาก เราเป็นพวกชอบ SPF ต่ำๆด้วยเพราะไม่อยากหน้าบางเร็วจากการสะสมของสารเคมี
(ฝาเทา)จะเป็นตัวที่ใช้สำหรับทาเพื่อความขาวกระจ่างใส ส่วนอื่นๆก็คล้ายกับฝาดำเลยแค่มี SPF 24 (มากกว่าฝาดำ) แต่ทาแล้วไม่ขาวสู้ฝาดำและกลิ่นไม่ถูกใจเท่าฝาดำทำให้เป็นชอนซงอีน้อยกว่าฝาดำ
สรุป : ดีทั้งคู่ เราซื้อเก็บทั้งคู่ด้วย ผลัดกันใช้ตามงานและโอกาส นอนบำรุงอยู่บ้านใช้ฝาเทา ออกงานอีเว้นท์ใช้ฝาดำ ทำใหไ้สวยเหมือนไม่แต่งหน้า 55555
คะแนน : 10/10
ซื้อต่อไหม : แน่นอนอยู่แล้ว จนกว่าบริษัทจะเลิกผลิตปิดโรงงาน
3. L'Oral Paris White Perfect day cream SPF17/PA++
ราคา : ประมาณ 129 บาท
สถานที่ซื้อ : ตามช้อปชั้นนำทั่วไป หาง่ายๆก็ 7-11
ลักษณะ : เนื้อครีมเหนียวๆ สีขาว ปรับสูตรใหม่จะออกกึ่งโลชั่นนิดนึง คือความเหนียวหนืดลดลง เราชอบแบบเดิมมากว่า
ปริมาณ : 20 ml.
สรรพคุณ : เป็นครีมบำรุงผิวหน้า สำหรับทากลางวัน แต่เราเอามาใช้ทากลางคืนแทนเพราะเนื้อครีมแน่นมาก ไม่บางเบา เวลาทาแล้วมันรู้สึกหนักๆหน้า เลยเก็บเอาไว้ทากลางคืนดีกว่า อีกอย่างเคยเอาไปทาก่อนลงรองพื้นแต่งหน้าแล้วมันลอกกลายเป็นขุย ครีมเป็นคราบๆเกาะอยู่บนหน้า ดูแล้วตลกตัวเอง เลยไม่เอาอีกแล้ว เก็บไว้ทาบำรุงตอนนอนแทน รวมๆแล้วก็ถือว่าโอเค กลิ่นหอมอ่อนๆ SPF 17 เบาๆไม่แรงมาก
สรุป : ใช้แค่สัปดาห์เดียวก็สัมผัสได้ถึงความขาวกระจ่างใสได้เลย อาจจะไปช่วยเสริมกันกับน้อง Olay ฝาดำกับฝาเทาเราด้วยแหละ ถือว่าเป็นเซ็ตแห่งความขาวใสส่วนตัวของเรา
คะแนน : 7/10 หักตรงที่ปรับสูตรใหม่ ชอบแบบเดิมมากกว่า และหักอีกตรงที่ใช้ร่วมกับเครื่องสำอางไม่ได้เป็นคราบเป็นขุย
ซื้อต่อไหม : ก็ซื้อต่ออยู่ดี เอามาโอบเวลานอน ตื่นมาเช้าๆจะได้ขาวกระจ่างใสต่อเนื่อง
4. Biore' UV AQUA Rich SPF 50 PA+++
ราคา : ประมาณ 129 บาท
สถาที่สอย : 7-11
ปริมาณ : 15 กรัม
ลักษณะ : เป็นเนื้อโลชั่นแบบไม่เหนียวเลย สีเลม่อนอ่อนๆกลิ่นก็เหมือนเลม่อน เวลาทาให้ความรู้สึกเหมือนเอาน้ำเปล่ามาสัมผัสกับหน้าเฉยๆ ทั้งที่ควรจะเหนียวมากเพราะ SPF ตั้ง 50
สรรพคุณ : ก็เป็นครีมกันแดดแบรนด์ดังของญี่ปุ่น เราไม่แน่ใจว่าผลิตในประเทศไทยหรือนำเข้ามาจากยุ่นเพราะที่หลอดไม่มีตัวอักษรไทยเลยเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด นั่นแหละที่เราบอกตั้งแต่แรกว่าไม่ชอบพวกที่มีสารกันแดด SPF สูงๆ แต่เจ้าตัวนี้ก็ฟาดไปตั้ง 50 เราเลยเก็บไว้ใช้เวลาที่ต้องออกแดดเยอะๆหรือไปสู้ชีวิตที่งานเอ้าดอร์ของมหาลัย
สรุป : ก็ถือว่าดีทีเดียว ขนาดเล็กพกพาง่าย ไม่เหนียวสักนิด ทาทับเครื่องสำอางได้ตลอด ไม่ลอก ไม่เยิ้ม ไม่เยอะ กลิ่นหอม เหมือนจะช่วยทำให้หน้ากับเครื่องสำอางไม่หลุดจากกันด้วย ยิ่งทาทับเครื่องสำอางยิ่งเนียน (อันนี้ค้นพบเอง)
คะแนน : 9/10 หักตรง SPF สูงเกินไป
ซื้อต่อไหม : แน่อนอน อย่างน้อยก็ทำให้หน้าปลอดภัยจากการโดนแสงแดดทำร้าย แถมยังไม่เนอะน่ะอีกทั้งที่กันแดดทั่วไปยิ่งปกป้องมากยิ่งเหนียวมาก แต่ตัวนี้ไม่เหนียวสักนิดเลย จริงๆ
5. SODIUM CHLORICE IRRIGATION U.S.P (น้ำเเกลือ)
ราคา : 55 บาท
สถานที่สอย: Watsons
ลักษณะ : เป็นน้ำเกลือทั่วไป (น้ำเกลือที่ใช้ล้างแผลในโรงพยาบาลนั่นแหละ)
ปริมาณ : 1,000 ml.
สรรพคุณ : หลายคนอาจจะสงสัยว่าเราเอามาใช้ทำอะไร ล้างแผลรึไงกัน มันก็ไม่เชิงนะ เพราะเจ้าตัวนี้ก็ค่อนข้างสารพัดประโยชน์ สำหรับเรา คือที่บริเวณหลังใบหูเราจะเหงื่อออกแล้วเราแพ้เหงื่อง่ายมาก มันจะแสบๆอ่ะ เลยต้องเช็ดเหงื่อตรงนั้นออกให้สะอาด ซึ่งน้ำเปล่าที่เราใช้กันทุกๆวันก็ไม่สามารถบอกว่าสะอาดได้แค่ไหน ยิ่งกับจุดที่บอบบางด้วย เราเลยลองใช้น้ำเกลือเช็ดดู เพราะน้ำเกลือมี Sodium Chloride 0.9 ml. ละลายอยู่ ซึ่งเท่าๆกับร่างกายเรา คืออะธิบายยังไงล่ะ น้ำเกลือเป็นน้ำที่มีค่าความหนาแน่นคล้ายกับน้ำในร่างกายเรานั่นแหละ (อ่านมา) นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เวลาพยาบาลใช้ล้างแผลอะไรให้เรา เราจึงไม่รู้สึกแสบ แต่เป็นเย็นๆ เฉยๆแทน กลับมาที่หู หลังจากนั้นเรารู้สึกว่าหูเราไม่ค่อยแดงเวลาโดนเหงื่อเยอะคือเหงื่อไม่กัดใบหูให้แสบแล้ว เราเลยเอาน้ำเกลือมาใช้ล้างหน้าซะเลย มันเจ๋งตรงนี้แหละ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว อยากเป็นน้ำที่สะอาดปราศจากเชื้อโรคดีนัก งั้นก็ใช้ล้างหน้าไปเลย 55555
สรุป : เราเอามาใช้ล้างหน้า เทน้ำเกลือลงในสำลีแผ่นแล้วเช็ดทำความสะอาดใบหน้าหลังจากใช้ Remover เช็ดเครื่องสำอางแล้ว ความรู้สึกคือเย็นสบายไปทั้งหน้า ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวสิวบุกจากปัญหาการแพ้น้ำที่มีค่า pH ที่แตกต่างหรือสภาพหน้ารับไม่ไหว
คะแนน : 9/10 หักตรงอายุการใช้งาน คือถ้าเปิดขวดแล้วประสิทธิภาพจะลดลงทันทีจากสถานะปลอดเชื้อ เพราะเราเปิดปิดๆขวดทุกๆวันอาจจะทำให้ฝุ่นละอองเข้าไปได้ แต่ก็ยังถือว่าสะอาดกว่าน้ำเปล่าจากก็อกที่บ้านอยู่ ถ้า 1 เดือนแล้วยังใช้ไม่หมดก็ควรทิ้งซื้อขวดใหม่ เพื่อความสะอาด แต่สำหรับเราเรากลัวหมดก่อน 1 เดือนน่ะสิ เป็นมนุษย์โอบไปทั้งหน้า มือหนัก ยิ่งเทเยอะยิ่งฟิน
ซื้อต่อไหม : ซื้อต่อนะ แต่จะลองไปถามร้านอื่นดู เพื่อจะเจอยี้ห้ออื่นที่ราคาถูกกว่านี้ (ยังจะงกอีก )
6. NIVEA body lotion UV Whitening Extra Cell Repair Protect
ราคา : ประมาณ 200 นิดๆมั้ง จำไม่ได้แล้วแล้วแต่สถานที่ที่ซื้อด้วย เคยเห็นถูกสุด 160 บาท
สถานที่สอย : Watsons
ปริมาณ : 400 ml.
ลักษณะ : เป็นเนื้อโลชั่นสีขาวขุ่น ซึมค่อนข้างเร็ว ไม่ค่อยเนอะ แต่ถ้าโอบเยอะก็ละลายและเยิ้มทีเดียว ตามสไตล์ NIVEA
สรรพคุณ : เป็นโลชั่นบำรุงผิวที่ผสมสารกันแดด ๊UVA & UVB เน้นเรื่องแก้ไขผิวคล้ำเสียจากแสงแดด ไม่มีสาร AHA ที่เข้มข้นสูง ที่เป็นสาเหตุของการทำลายชั้นผิว (ทำให้ผิวบาง) โดยที่เจ้าตัวนี้บอกว่ามีส่วนผสมของวิตามิน C สูงถึง 50 เท่า จากผลคามู คามู
สรุป : เป็นครีมบำรุงผิวกายของเรา ใช้เวลากลางคืนเพราะเน้นบำรุงรักษาผิวจากการที่ไปโดดแดดมาแล้วมากกว่า ไม่ใช่ตัวที่ทำให้ขาวขึ้น แต่ถ้าใช้ได้อย่างเป็นประจำก็ขาวขึ้นเล็กน้อย ขาวแบบใสๆ ดูสุขภาพดีนะ เพราะมันช่วยรักษาผิวจากการคล้ำแดด
คะแนน : 7/10 น่าจะถูกกว่านี้ เรางก หักตรงที่หัวปั้มด้วย หัวปั้มใช้ง่ายดีและพังง่ายมาก ไม่รู้เราเป็นคนเดียวรึเปล่า
ซื้อต่อไหม : ตอนนี้ยังก่อน จะเอาเงินไปลองตัวใหม่ แต่ถ้าลดราคามากๆก็อาจจะสอยอีกชิ้น เคยซื้อ 3- 4 ครั้งแล้วตัวนี้
ึ
7. NIVEA body UV Whitening Serum SPF 25 PA+++
ราคา : น่าจะ 189 - 200 บาท
สถานที่สอย : Watsons
ปริมาณ : 350 ml.
ลักษณะ : เป็นซีรั่มบำรุงผิวผสมสารป้องกันแสงแดด เนื้อเซรั่มเหนียวสไตล์นีเวียแต่ไม่หนืดเลย พอทาเสร็จแล้วก็ไม่เหนียว ไม่เยิ้มด้วยซึ่งแปลกมากสำหรับ นีเวีย ปกติพี่แกจะชอบเยิ้ม
สรรพคุณ : เซรั่มที่บำรุงถึงระดับเซลล์ผิว แม้ผิวคล้ำเสียสะสมลึกแก้ไขยาก พร้อมด้วยการบำรุงจากวิตามินซี บริสุทธิ์ถึง 95% ซึ่งจะทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสภายใน 14 วัน ผิวไม่ไวต่อแสงแดดอันเป็นสาเหตุของการคล้ำเสียอีกด้วย
สรุป : ตัวนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าดีสำหรับเราเลยทีเดียว ชอบมากเพราะมันไม่เหนียวเยิ้ม คือเหนียวแค่ตอนทาๆลูบๆ แต่ระหว่างวันคือเบาสบาย ด้วย SPF ที่ไม่สูงมากด้วยแหละ กำลังพอดีเลย ส่วนเรื่องขาวภายใน 14 วันก็ขอบอกว่าจริงๆ ขาวขึ้นจนเพื่อนก็ทัก ครอบครัวก็ทัก ตอนได้มาครั้งแรกแล้วใช้ แต่ถ้าถามว่าใช้ไปเรื่อยๆจะขาวขึ้นอีกไหม ไม่นะ!! มันก็แค่ช่วยปรับให้ผิวเราขาวอย่างเป็นธรรมชาติ ขาวเท่าที่ผิวคนหนึ่งจะขาวได้โดยที่ไม่พึ่งยาขาวหรือศัลยกรรม เรียกว่าได้ผิวขาวของตัวเองจริงๆ ออกแนวใสๆสุขภาพดีด้วยแค่ภายใน 14 วัน
คะแนน : 10/10
ซื้อต่อไหม : ซื้อต่อจ้า อันทีี่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ และต่อให้ขึ้นราคาก็ยังต้องซื้ออยู่ดี รักมาก
8. NIVEA Extra Whitening Skin Therapy Serum broad spectrum SPF33 PA+++
ราคา : ประมาณ 160 - 180 บาท
ปริมาณ : 180 ml.
ลักษณะ : เป็นเนื้อเซรั่มเหมือนตัวก่อนหน้านี้เลย แต่หนืดกว่าเล็กน้อย เรียกยังไงล่ะ เหมือนเนื้อจะด้านกว่าเล็กน้อย อาจจะเพราะ SPF ที่สูงกว่าด้วย กลิ่นก็หอมกว่า หอมแบบน่าใช้นะ
สรรพคุณ : ก็คล้ายๆกับตัวก่อนหน้านี้เลย เป็นตระกูลซีรั่มนีเวียเหมือนกัน เน้นการดูแลผิวที่ไวต่อแสงแดดอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำง่าย ตัวนี้ก็มีวิตามินซีบริสุทธิ์เท่ากันคือ 95% เน้นไปที่คนกลุ่มออกแดดบ่อยมาก ปกป้องจากรังสี UVA & UVB ด้วย
สรุป : ก็เหมือนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกับตัวก่อนหน้านี้ ตัวนี้ออกมาทีหลัง เหมือนเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดูแลรักษาและบำรุงมากขึ้น ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ถามว่าดีกว่าไหม ก็คงดีกว่าเพราะดูเหมือนใส่อะไรเพิ่มมากขึ้น เราซื้อมาใช้แค่บางครั้งคราวเพราะมันขนาดเล็กกว่า ใกล้มือก็หยิบใช้เลยบอกไม่ได้ว่าขาวกระจ่างใสขึ้นภายใน 14 วันหรือเปล่า แต่ก็น่าจะเป็นไปได้เพราะส่วนผสมหลักเหมือนกันหมด เพิ่มอะไรมานิดหน่อย
คะแนน : 8/10 เนื่องจากรักตัวก่อนหน้านี้ไปแล้ว ไม่อยากปันใจ แต่กลิ่นหอมน่าใช้กว่านะ
ซื้อต่อไหม : ซื้อต่อเมื่อร้านจัดโปรลดราคา
9. GARNIER skin nature Light Complete multi-action brightening Form
ราคา : ประมาณ 60 บาท
ปริมาณ : 50 ml.
ลักษณะ : Cleanses & Brightens เป็นโฟมล้างหน้าเพื่อความกระจ่างใส เนื้อโฟมเป็นเนื้อครีมหนืดๆหยาบนิดๆ เหมาะแก่การถูหน้ามาก (สำหรับเรา ) กลิ่นก็หอม
สรรพคุณ : ก็ล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกทั่วไป แต่ผลิตภัณฑ์จะเน้นที่ความขาวกระจ่างใสด้วย
สรุป : ใช้แล้วขาวไหม ขาวอยู่นะ ขาวจริงๆ แต่ต้องใช้อย่างต่อเนื่องสักหลอดและพอหมดต้องซื้อต่อไปเรื่อยๆ ใช้ทุกวัน เลิกใช้เลิกขาวจ้า รู้สึกเบาหน้ามากๆด้วยตอนนี้ล้างน้ำเปล่าออกแล้ว ชุ่มๆ แต่ก็รู้สึกได้ไม่นาน
คะแนน : 6/10 เจอมาเยอะพวกที่เลิกใช้เลิกขาวทันที แบบถ้าคุณไม่ใช้แค่ 1-2 ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนทันทีและต้องมาเริ่มนับเริ่มต้นใหม่ คือใช้ต่อเนื่องยาวๆ
ซื้อต่อไหม : ไม่ซื้อแล้ว เคยซื้อมาใช้ประมาณ 5-6 หลอด ทั้งชีวิต เยอะอยู่นะ แต่ไม่เอาแล้วล่ะ เพราะไม่มั่นใจว่ามีสารอะไรที่ไปกัดให้ผิวบางหรือเปล่า ช่วงขาวใช้เวลา 1หลอดหลังจากลืมหยิบใช้ 1-2 สัมผัสได้ว่าผิวคล้ำลงทันที
10. Clean&Clear fairness Cleanser
ราคา : 59 บาท
สถาที่สอย : TOP Supermarket
ปริมาณ : 50 ml.
ลักษณะ : เป็น Cleanser สูตรวิตามิน - เชอร์รี่ ที่ใช้ทำความสะอาดใบหน้า เนื้อครีมหอมๆกลิ่นเชอรี่ มีเม็ดบีดส์ช่วยผลัดเซลล์ผิว
สรรพคุณ : ล้างหน้าให้สะอาด มีเม็ดบีดส์ที่ช่วยผัดเซลล์ผิวใหม่ด้วย ดูกระจ่างใสทันทีไม่หมองคล้ำ พร้อมสารสกัดจากข้าวช่วยความคุมความมันและแก้ปัญหาความหมองคล้ำ
สรุป : ใช้แล้วเบาหน้ามาก เบาแบบเหมือนไม่มีอะไรเกาะหน้าเลย น้ำมงน้ำมันหายหมด จนดูหน้าแห้ง ต้องมาลงม้อยซ์เจอร์ไรด์เซอร์ต่อทันที ตัวนี้ล้างหน้าสะอาดจริง เป็น Oil Free ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้ามันอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวกันเลยทีเดียว แต่ต้องมาห่วงเรื่องหน้าแห้งแทน
คะแนน : 8/10 เธอแห้งไป แต่ฉันชอบแบบนี้ ตอนสครับเม็ดบีสด์มันส์สุดๆ โรคจิตละ
ซื้อต่อไหม : ชอบตระกูล Clean & Clear มาก คริสตัล F(x) ก็เป็นพรีเซนเตอร์หลายตัว เราเลยกะว่าจะลองให้ครบทั้งไลน์ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเลย น้องเชอรร์รี่บีดส์ตัวนี้ก็คงซื้อต่อแหละ
#เดี๋ยวมาลงต่อนะคะ
แก้ไขล่าสุด 2 พ.ย. 57 14:36 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google