Meeting my boyfriend for the second time

29 มิ.ย. 58 15:10 น. / ดู 2,365 ครั้ง / 11 ความเห็น / 3 ชอบจัง / แชร์
สวัสดีค่ะ
วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องการพบกันอีกครั้งของเรากับแฟนที่เป็นคนอเมริกัน
จะว่าไปเราก้เคยตั้งกระทู้มาแบบนี้เมื่อปีที่แล้ว แต่เป็น meeting my boyfriend for the first time ซึ่งนางมาไทย เพื่อมาเจอเราครั้งแรกแบบตัวเป็นๆ หากใครอยากอ่านก้อ...
http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=3985797
เข้าไปอ่านได้คร่า
แต่ครั้งที่สองที่จะเล่านี้ ไม่เหมือนกะครั้งแรกที่นางมาไทย เพราะว่าเราไปหานางด้วยตัวของเราเองที่อเมริกาแบบฉายเดี่ยว
กว่าจะได้เจอกันอีกครั้งนี่มันต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก  แต่ก็คุ้มฝุดๆ
ไม่รู้กระทู้นี้จะมีคนสนใจอ่านไหม 
แต่เราขอฝาก cute couple video ใน youtube ไว้ให้ชมก่อน เผื่อมีใครสนใจอยากจะอ่านเรื่องที่เราจะเล่าแฮร่ๆ
https://youtu.be/EWofbbCbaOU
ประเดี๋ยวมาอัพน้าาาาา <3 <3 <3
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | mama | 29 มิ.ย. 58 16:37 น.

โอ้ยยยย อิจสุดๆๆเล้ยยย คู่นี้น่ารักมากจริงๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | mellisa312 | 30 มิ.ย. 58 17:46 น.

อ่าๆ มาต่อแบ้ววว

จะบอกไว้เลยว่าการเจอกันครั้งนี้ ไม่ง่ายเลย เพราะตัวเราต้องทำเรื่องเยอะแยะมากมายเพื่อจะให้ได้วีซ่า ไปอเมริกา ซึ่งมันขอยากมหาโหด แต่ก็ได้มาครอบครอสิบปีแบบงงๆ เพราะ เราให้ข้อมูลไปว่า เราไปที่นู่น คนเดียว ไปเยี่ยมคนรู้จัก ไม่ใช่ญาติเรา แต่ไปเคลมว่าไปเยี่ยมแฟนก็จะดูไม่งาม แล้วเคยมีคนเคลมไปว่าไปเยี่ยมแฟนแล้วโดนปฎิเสธวีซ่ากันเยอะ เราเลยไม่อยากเสี่ยง  555 เลยบอกไปเยี่ยมน้องสาวนางแทน เพราะก็จะไปเยี่ยมน้องและครอบครัวนางจริงๆ เพราะ เราก็ถือว่าเป็นเพื่อนกันได้งงมั้ย?  สงสัยงง งั้นช่างเหอะ เข้าเรื่องเลย 

พอได้วีซ่า ช่วงนั้นมันเดือน มค เราก็ร่ำเรียนแล้วรอไปอีกสี่เดือนเต็มๆ กว่าจะได้ฤกษ์ยาม ไปโกอินเตอร์ที่เมกา อุเหม่ เชื่อว่ามีไม่น้อยที่มีคนเดินทางไปต่างประเทศคนเดียว แล้วเป็นผญ อายุยังน้อย แถมไปประเทศที่เข้ายากสุดๆ มีหรือจะไม่กลัว แต่ด้วยสปอนเซอร์ทางด้านการเงินจากคุณแฟนตั้งแต่ ค่าพาสปอร์ต วีซ่า และ ตั๋วเครื่องบิน ให้มาขนาดนี้ ได้ไปฟรีๆ มีหรือจะพลาด ฮี่ๆ 
พอวันที่ 4 มิย ตอนตีสี่ เราก้ออกจากบ้าน ร่ำลาครอบครัว เสร็จสรรพ ก้นั่งเครื่องไปญี่ปุ่นหกชั่วโมงแบบ หลับคามาก มันนานเกิ้นนนน แต่ก็ได้cinderella แก้เหงาไปพลาง จากนั้นแบบ โอ้ย ถึงญี่ปุ่นแล้วแบบโอ้ยย กรี้ดตม ที่ั่นั่นมาก แบบ หล่อใสชนะใจเจ๊มาก แบบเห้ยที่นี่เค้าคัดหน้าตาทำงานกันด้วยเหรอ หล่อตั้งแต่พนักงานโบกเครื่องยันตม อุแหม่ น่ารักมากอ่า แบบไม่หล่อมากมายอะไร แต่เสน่ห์พวกนางนั้นเหลือร้ายจริงๆ แต่อังกฤษสำเนียงยุ่นของพวกนางก็ทำร้ายจิตใจเจ๊มิใช่น้อย มันรัวเอ้ารัวเอา แต่ก็ผ่านมาได้เอ้าเออ555 ไม่ได้ๆ ทริปนี้ไปหาแฟน จะมาแอ๊วหนุ่มอื่นได้ไงเล่า เอ้อออ อ่าๆและ แล้วก้อนั่งรอเปลี่ยนเครื่องไปเมกา ประมาณอีกชั่วโมงกว่าๆงี้ ในที่สุด การนั่งเครื่องสุดหฤโหดของเจ๊ก้อมาถึง 12 ชั่วโมงนั่งให้รากงอกออกจากตูดเลยม้ายยยย    555 เห้ออ ไอเราก็นั่งข้างๆ ผญญี่ปุ่นรายนึงซึ่งไม่คุยกะเราเล้ยยยย แถมนางกินทุกอย่างด้วยตะเกียบจริงๆซึ่งเราไม่สามารถจิมๆ    แต่สิ่งที่ทำเราสตั้นไปหลายวิ ก็  คงจะเป็นการกินแพนเค้กด้วยตะเกียบของนาง          ซึ่งเราแบบเห้ย สามารถ** คารวะจิมๆ แต่นางสวยว่าไม่ได้    ก่อนเครื่องจอดที่เท็กซัส นางก้อแต่งหน้าปัดมาสคาร่ารัวๆ ท่าทางจะมาหาแฟนเหมือนเรา555 ตัดภาพกลับมาที่เราซึ่งทำหน้าคล้ำๆมันๆ และนอนน้ำลายยืดไปอีกหลายรอบ   

เอาสิ้ๆ ถึงอเมริกาแล้วเว้ยยยยยยยยย          แต่ไม่ใช่รัฐที่นางอยู่ เพราะเราต้องไปต่อเครื่องอีกรอบ แบบเห้อออออ    จะให้รากงอกอีกยาวแค่ไหน    จะว่าไปด่านนี้ก็น่ากลัวมิใช่น้อย เพราะเจ๊โดนด่าตรวจคนเข้าเมืองของนาง แบบโค้วววววว คนเยอะมาก มีเวลาเปลี่ยนเครื่องสอง ชม ขุ่นพระยา พระร่วง อะไรจะเร่งรัดปานฉะนี้    แล้วที่แซดสุดๆ คือ ขุ่น ตม ซักถามเจ๊ ล่อไปเป็นชั่วโมง แม่เจ้าาา กว่าจะผ่านมาาได้ ดีนะเตรียมหลักฐานไปเยอะ ไม่หลบหนีเข้าประเทศแน่นอน ไอหลักฐานที่ว่า คือบัตรนักศึกษา กะตั๋วขากลัว ฮ่าๆ บอกว่า ต้องกลับไปเรียนนนน มาหลบอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกกก ขุ่นพี่   

แล้วนางก็ปล่อยให้เจ๊เข้าไปในที่สุด เพราะ รายก่อนหน้าเรา เป็นคนไทย ผช ด้วย เหมือนมาเวิร์ค    ่เพื่อนนางก่อนหน้าก้อผ่านนะ แต่นางไม่ผ่านแล้วถูกส่งตัวไปห้องอะไรไม่รู้แล้วแบบ เห้ยยยย ขนาดมาเวิร์คนะเนี้ยะ ทำเอาใจหายไปเป็นกอง

แต่ก็นะ โชคคนจะได้เจอกันอีกครั้ง ทุกอย่างมันต้องแคล้วคลาดปลอดภัยไม่ควรจะมีอะไรมาติดขัด แต่แหมมม เล่นล่อถามไปเป็นชั่วโมง ตามหากระเป๋า แล้วต้องเดินไปเช็คอินอี้กกกกกก โอ้ยยย เหลือเวลาอีกทีสามสิบนาทีไปหาเกทขึ้นเครื่อง แล้วสนามบินไม่เล็กเลยยยยย ใหญ่มโหฬาร เรียกว่าสุวรรณภูมิบ้านเราจิ๋วไปเลย    แล้วเกทเจ๊มันอยู่อีกฟากของสนามบิน โอ้ยยยย ขุ่นพระโชคชะตาก็เล่นตลกกะเจ๊จัง ต้องวิ่งไปขึ้นรถไฟฟ้า ย้ำว่ารถไฟฟ้า เพื่อไปขึ้นเกทที่อยู่ฝั่่งขะโน้นนนน ไม่มีเวลาจะส่องผู้เลยจิมๆ 
จะตกเตรื่องม้ายยยย พอถึกอาคารนั้นแล้วคนเยอะมากกก เหลืออีกสิบห้านาที เจ๊ก็วิ่งเลยจ้าาา แล้วเกทที่อาคารนี้ เรียกได้ว่ามีเป็นร้อยเกท เจ๊ก็มองหาเก๊ทด้วยวามสะพรึงจิต มันอยู่หนายยยยย แบบ เห้ย เกท 21 แล้วป้ายมันหยุดอยู่แค่เลขที่ 22 แม่เจ้าาา ขนาดเกทในสนามบินยังแกล้งกันขนาดนี้เหลืออีกสิบนาทีกะจะให้ตกเครื่องจริงๆใช่มั้ยยยย

ณ จุดๆนั้น เราเข้าตาจนมาก มองซ้ายและขวา เลยเข้าไปถามพนักงานขายของชาวผิวสีคนนึงที่เป็นผญ แต่นางยุ่งๆอยู่อ่า เราก็จะถามให้ได้ แต่แล้วนายฟ้านายสวรรค์ที่ไหนก็ไม่รู้ได้เอ่ยถามเจ๊ขึ้นมา Whats the problem? เจ๊ก็มองขึ้นไปทันใด แบบ โอ้ววว แม้เจ้า หล่อจนลืมไปว่า กำลังจะตกเครื่องไปชั่วขณะ  หล่อหยุดเวลาเจ๊มาก คือแบบกรี้ดดด หล่อลากกระชากจิตวิญญาณ นางอายุน่าจะ 16 17 นะ ดูหน้าเด้กเด็ก ผมบลอนด์ค่อนข้างยาว ตาฟ้าๆ แล้วมันแบบเอ้อออ ทำซะสกิลภาษาอังกฤษของเราอัมพาตไปชั่วขณะ แบบพูดไม่ออก ได้แต่ชี้หมายเลขเกทในตั๋ว แล้วพูดอ้ำอึ้งว่ามันอยู่ไหน นางก้อ ชี้ๆ ว่า อ้อ คงทางนั้นมั้งงง เราก้อได้สติกลับมาแบบเห้ยยย ไม่มีเวลาแล้วนี่หว่าาาา เลยบอกขอบคุณนางไป แต่ก็แอบเสียดายจีๆ แต่แหม ไม่ได้เป้นอะไรัน ต่อให้ไม่รีบก็คงไม่ได้สานต่อร้อกกก 555

ค่ะ  ในที่สุดก็เจอเกทที่ 21 จนได้ กรีดร้องงงง และได้เข้าไปในเครื่องเกือบจะคนสุดท้ายเพราะมีคนสายกว่าเรา เอาสิ้ ไม่ได้สายสุดจนทำให้เครื่องดีเลย์ก็บุญแค่ไหนนนแล้วววว
และแล้ว ก้อนั่งไปอีกราวๆสองชั่วโมงเอื่ม ความตื่นเต้นก้เริ่มเข้าครอบงำจิตใจ เพราะ จะได้เอ ผชตัวจริงของเราเสียที เห้อออ โชคดีที่สนามบินบ้านนางเล็กแล้วคนไม่พลุกพล่าน เดินออกกก็ง่ายๆ เดินไปสักพัก เราก็เห็นน้องสาวนาง ซึ่งคือคนเดียวที่เราบอกจะมาหาตอนไปทำวีซ่านั่นแหล่ะ 555 นางก้อทำท่าเอ้าาาา มาแล้วไง แต่เราแบบเห้ยแซคอยู่ไหนน แล้วตอนนั้นใจมันเต้นรัวๆ  ตาก้อมองหา 180 องศาที่ไหนได้ ฝรั่งข้างหน้าตัวสูงไปบังซะมิด ว่าไม่ได้ มันค่อนข้าง้หมือนในหนังพอประมาณ

....เพราะวินาทีที่ฝรั่งร่างใหญ่เดินเบี่ยงออกทางซ้าย เผยให้เห็นผช ผิวขาวผ่อง ผมน้ำตาล ใส่เสื้อสีม่วงบวกกับหมวกสีแดงที่ถือช่อดอกกุหลาบสีแดงแล้วยิ้มแบบเขินๆมองมาที่เรา  ห่างกันประมาณไม่กี่เมตร เราที่เดินทางาอย่างเหนื่อยล้า เป้นอันได้ยิ้มอีกครั้งเพราะ ต้องรอหนึ่งปีเต็มๆกว่าจะได้เจอตัวเป็นๆกันอีกครั้ง ไม่รอช้า นางก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหาเรา แล้วยื่นกุหลาบให้ พร้อมคว้าตัวเราเข้าไปกอดแบบโมเม้น นั้นมันสุขล้น จริงๆ คุ้มมากที่อดทนทำสิ่งต่างเพื่อจะให้ได้เจอกันอีกครั้ง แล้วมันก็สำเร็จ

สักพัก แม่นางก้อเข้ามาหาเราพร้อมกับน้ำตานองน้ำ เห้ย เรื่องจริง อยู่ดีๆ นางก้ร้องไห้ใส่ แล้วมากอด โอ้โหวอะไรจะซึ้งขนาดนั้น ไปไปมามา เราก็ร้องไห้ตาม 555 น้องสาวก็เข้ามากอดเราแถมก็ร้องไห้ตามกันไปอีกโอ้ยย หันไปหาแซค อ่าวไอนี่ไม่ร้องไห้เวร้ย แต่ถามทีหลังนางบอกว่า  ร้องไปรอบนึง ตอนเปลี่ยนเครื่องที่เท็กซัส เพราะเราใช้wifiสนามบินส่งข้อความถึงนางแล้ว ตม ก้อถามเราเป็นชั่วโมงไง แล้วอยู่ดีๆ ไวไฟ มันก้หายไป แล้วเรารีบมาก กลัวตกเครื่อง เราเลยลืมหาไวไฟ ตอบข้อความนาง นางกลัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยร้องไปนิดหน่อยย แต่นางก็เชื่อใจว่าเราจะต้องมาถึงที่นี่ได้ แล้วมันก็เป็นไปตามที่นางคาด เย้

เดี๋ยวมาต่อน้าาาา โมเม้น มุ้งมิ้งยังไม่มีเลยยย เพิ่งถึงตอนเจอกันแหะๆ คืนนั้นที่ไปถึง ก้อเล่าเรื่อง ตม ที่ล่อถามไปเป็นชั่วโมง กับ ตอบไลน์พ่อแม่ ว่าถึงแล้ว ไรงี้ จากนั้น อาบน้ำนอน ก้แค่นี้ มันเหนื่อย แถมอยู่ดีๆ อาการเจ็ทแล็กก้อมา ก็เลยเอ๋อทั้งคืน งื้ออออ

แก้ไขล่าสุด 30 มิ.ย. 58 18:33 | ไอพี: ไม่แสดง

#3 | `alienxoxo. | 30 มิ.ย. 58 20:43 น.

อิจอิจอิจอิจอิจอิจ
ฉันจะมีโอกาสสักครั้งไหม

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | Undercover'Batman | 1 ก.ค. 58 21:10 น.

เห็นรูปในไอจีแล้วว นึกว่าจะไม่มาเขียนเรื่องให้อ่านสะอีกกกก
ดีใจจุง อิจฉามากกกก

อยากให้คุณแฟนเรามันซัพพอร์ตแบบนี้บ้าง   

มาต่ออีกน้าาาาาาา อยากอ่านสุดๆๆๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | xxamsn | 3 ก.ค. 58 19:22 น.

อยากมีโมเม้นต์แบบนี้อ่ะแกรรร๊อิจมาก 

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | mellisa312 | 3 ก.ค. 58 20:47 น.

โทษที ช่วงนี้เรามีเรื่องเครียดๆมาสองวัน เลยไม่มีกะจิตกะใจอัพทู้ ขอโทษจริงๆ 
แต่ตอนนี้ ดีขึ้นมากแล้ว เลยกลับมาอัพน้าาา เรื่องราวอาจจะไม่โอ้วโห เท่าไรแต่ก็อยากแชร์เรื่องราวที่ไปประสบพบเจอมา ก็แหม ครั้งแรกในชีวิตที่ได้ไปต่างประทศก็ขอระบายนิดนุงเน้อ 

เออ ลืมเล่า ตอนที่เรามาถึงบ้านนาง นางกะแม่นางเซอร์ไพรส์เราโดยการซื้อเค้กย้อนหลังวันเกิดให้เราสองเดือน 555 สืบเนืื่องมาจาก นางรู้ว่าวันเกิดปีนี้เราไม่ได้อยู่กะครอบครัว เพราะ มหาลัยเราอยู่ไกลโพ้น ต้องมาเป็นเด็กหอ นางเลยจัดเค้กก้อนบ่าเหิ้มให้เราเสียนี่ มันปริ่มจีๆ แล้วแม่นางก้อซื้อของขวัญให้เรากล่องนึง แบบเห้ยใจดีมากกก ปรื่มกับของต้อนรับเข้าบ้านพวกนางจิมๆ คือดีงามและรู้สึกอบอุ่น ประหนึ่งเป็นส่วนหนึางของครอบครัวนี้ 
พอเราได้เข้าไปห้องแฟยครั้งแรก ซึ่งเห็นเป้นเวอร์ชั่นรูปภาพและวิดีโอที่นางส่งมาให้ดู มาร่วมกว่าสอง เกือบ สามปี แบบโว้ววว มันสวยมาก ขนาดเป็นห้องผช นะแบบเอ้ออวววว่าไม่ได้ สวยกว่าห้องนอนตัวเองไปอี้กกกก แล้วที่เราดีใจที่สุดคงเป็น ตัวอักษรประดับฝาผนัง ZM ที่แม่แฟนซื้อมาประดับให้ อุแหม เหมือนบ้านนี้สนับสนุนให่ลูกมีความรักกันเนาะ เพราะเราแอบย่องไปดูห้องน้องสาวนางมาเหมือนกัน แต่งห้องเริ่ด รูปแฟนซึ่งหล่อกว่าแฟนเรา    ก้อแน่นกำแพงห้องนางไปอี้กกกก 555
หลังจากนั้น แซคก็ให้ power bank เราอันนึง ซึ่งนางสั่งมาจาก ebay ที่นางซื้อเป็นแพ็คคู่มา แล้วบอกว่า จะได้ชาร์จมือถือได้ตอนอยู่นอกบ้าน คือ แก มันปรื่มนะ ทุกการกระทำของนางสื่อให้เหนว่า แคร์เราแค่ไหน เราไม่รู้จะหาอะไรมาอธิบาย หรือให้คำำนิยามกับผชคนนี้ดี จะบอกว่าดีเริ่ด ก็มากไป เพราะนางก็ ผช ธรรมดาคนนึงซึ่งจริงใจกับเรา แค่นี้เราก็พอใจมากแล้ว   

จากนั้นเราก็นอนคุยกันจนถึงตีสามเพราะวันตื่นเต้นมาก บวกกับอาการเจ็ทแลกที่มาทุกๆครึ่งชั่วโมงของเจ๊ ทำเอานอนไม่หลับจีๆ แต่ก็นะกว่าจะได้นอนก็ไม่ใช่แค่คุยมันก็ต้องมีกอด รัด ฟัด เหวี่ยง แอร้ แค่นั้นจริงๆ ยังไม่ถึงอะไรขั้นนนั้น เป็นคนใสๆ แต่ก็พล้อยหลับกันไปทั้งคู่ด้วยท่านางโอบกอดเราข้างหลัง พร้อมให้เราหนุนแขนข้างนึงของนางแล้วอีกข้างกุมมือเราไว้ เพราะว่าเป็นท่านอนที่เราหายใจสบายที่สุด 555 ซบอกก้อดีไปอีกแบบนะ แต่มันหายใจลำบากจริงๆ ลองมาแล้ว 55

จากน้านนนนน เราก็ตื่นมารับตะวันรุ่งสายคนแรก ในขณะที่นางนอนอ้าปาก อยู่ค้างๆ 555 เราก็เปิดหน้าต่างเว้ย แล้วแบบแม่เจ้าาาาาา คนตัดหญ้าาาาา อ้ากกกก หล่ออออ หล่อลากกกกกกกกก คือแก เข้าใจอารมณ์เอ็มวี call me maybe ก้อตอนนั้นแหล่ะ แล้วมันไม่ได้มีคนเดียว แ่มีสองคน แบบโอ้ยยย อกอีแป้นจะแตก เจออะไรดีๆ แต่เช้า เห้อ ไม่ได้ๆ ผช เราก็ยังนอนอ้าปากอยู่เยี่ยงนั้นเราเลยจัดการไปปลุกนางสะนี่ วิธีการปลุกเราก็ง่าย กอดนาง แล้วก็ลูบๆผิวนางให้รู้สึกตัว จากนั้นเมื่อนางรู้สึกตัวว่าเป็นเรา นางก้อเข้ามากอด แล้วดึงตัวเราเข้าไปกอด แล้วมันก็หลับต่อ โธวพ่อขี้เซา อะไรจะง่วงปานฉะนั้น แต่ก้นะ ตีสามกว่าจะได้หลับ เหอๆ แต่เรานี่อเลิร์ทแต่สายจริงๆ

พอช่วงราวๆ สิบเอ็ดโมงก้อตื่นกันมานั่งระเบียงหลังบ้านจ้าแล้วหมานางก็มาเล่นด้วย แบบแม่จ้าววว หมาตัวใหญมากกก สูงเท่าเอว แล้ววิ่งเร็วสราดดดดด เล่นที หมาเหยียบเท้าที แบบหน้าซีดเลย ทั้งหนักทั้ง'เจ็บ 555
พอบ่ายๆ เราก็ไปชอปปิ้งกันสองคนที่ walmart ซึ่งครานี้ นางเปเราจริงๆ หยิบทุกอย่างที่อยากได้ แต่อยู่บนพื้นฐานของความเกรงใจ ตอนแรกก้อเอ่ยปากไปว่า เออ เดวจ่ายเองก็ได้ แล้วนางก็บอก ไม่เปนไร เดี๋ยวจ่ายให้ ไอเราก็โอเค ทำหน้าที่เกิร์ลเฟรนที่ดี ไม่คัดค้านแต่อย่างใด 555

แต่ห้างที่นี่ คล้ายโลตัสบ้านเราแต่ใหญ่และของคุณภาพดีกว่ามากกกก สิ่งที่ชอบที่สุดคือ self cashier ของที่นี่ คือจ้ายตังค์เอง เอาของสแกนเครื่องแล้วรูดบัตร หรือไม่ก็สอดแบงค์เข้าไป แบบสนุกดีๆ คือมันเจ๋งมาก ชอบๆ แต่ที่ไม่เจ๋งและไม่ชอบ คงจะเป็นtax ซึ่งมันหัก 9.25% ขอราคาของที่ซื้อแบบแม่เจ้าาาา ดีนะ ไม่จ่ายเองอย่างที่เปรยไว้ก่อน ไม่งั้นกระอีกเลือดตาย

ค่ะ จากนั้น เราาาา ก็ไปบ้านยายนาง ซึ่งนางอยากเจอเรามาก 55 ประหนึ่งเป็นของแปลกบ้านเมืองนาง เอาจิมๆ เมืองที่นางอาศัยอยู่ เรียกได้ว่า 90% เป็นฝรั่งผิวขาว และมีผิวสีส่วนนึง กะแมกซิกัน แบว่าเหอๆ เอเชียอย่างเราถือว่านับคนได้จริงๆ เห็นแต่คนจีน ซึ่งนับดูแล้วที่เห็นมามีไม่ถึงสิบบคนจริงๆ มันมีน้อยมากกกกก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าใครๆ ก็มองเราแบบ หื้อออ นั่นใครน่ะ อารมณ์มันแบบนี้จีๆเฟร้ย แปลกดี
ว่าด้วย Gma หรือขุนยายของบักแซค เป็นหญิงชราวัยแปดสิบต้นๆ ที่โอ้วโหว เรานับถือมาก คือนางแข็งแร
มาก ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ เลย นางวิ่งจอกกิ้งทุกเช้า ทำอาหาร ขับรถ และใช้มือถือ ได้อย่างค่องแคล่วประหนึ่งนางคิดว่านางยังสาวอยู่แต่แบบลอนด์ผมสีขาวสว่างของนางทำให้เรานึกถึงคนแก่หลายๆคนที่แก่ขนาดนี้ คงมีไม่กี่คนที่ทำได้แบบนางจริงๆ แบบโค้ะ นับถือๆ
แล้วนางทำไก่อบ กินคู่กับมันบดและสลัดผักซัมติงของนางซึ่งอร่อยมากกกก โดยเฉพาะมันบด คือโอ้ยย ดีงามมม แต่ที่นี่ เค้ากินกันเยอะมาก เราว่าเรากินเยอะแล้วนะ แต่คนที่นี่ จานนึงเหมือนสั่งอาหารจานพิเศษมาสองจานแล้วกินกัน แบบโหวกินกันแบบ เรายอมเลยเพราะเรากินไม่หมด 555 เหลือผักไว้ กริๆ แต่ความหวานและเลี่ยนก็ใช้ย่อยนะ อาหารมันแนวๆนั้นจริงๆ ถ้ากินพอมีลิมิตก็จะรู้สึกว่าอร่อย แต่เอาเถอะค่ะ เราด้วยความเป็นชะนีไทยขี้เกรงใจพยายามกินให้หมด แต่หน้าเราแบบไม่ไหวแล้ว ยัดเต็มที่ จนบักแซคมาสะกิดว่าเออ ถ้าอิ่มก็พอ อย่ายัดต่อเลย สงสาร 555 ก้อแหมม เกรงใจนิ อ่าๆ เหลือผักไว้ก้อได้ เหม่

จากนั้นเราก็พยายามช่วยเค้าเก็บจานเวร้ย แต่พวกนาง ซึ่ง ยายกะ กะแม่ บอกว่า ไม่ต้องงงง เมลมาที่นี่ในฐานะแขก ให้แม่และยายจัดการเองเถอะ แซคพาเมลไปเดินเล่นข้างนอกไป  คือเราแบบ เหร้ยยยย ขนาดนั้นเชียว คือ ตั้งแต่เกิดมา กินอะไรจะเป็นคนเก็บตลอดวี้ ล้างให้ตลอดงี้ อย่างน้อยก้ต้องช่วยอ่า เป็นมารยาทที่ควรทำ แล้วเราติดทำไง แต่โดนปัดไม่ให้ทำเราก็รูสึกแปลกๆ แต่ก็ดีอ่า เพราะ รู้สึกว่าเค้าให้เกียรติเรานะ ไม่รู้สิ แบบทำไมต้องดีขนาดเน้ ไม่เข้าใจ ไม่ได้อวยแต่เออ เรารู้สึกรักครอบครัวนี้จริงๆ เสมือนครอบครัวที่สองของเรางี้ และอาจจะเปนครอบครัวเดียวกันในอนาคต อ่าเง้ยยยยย

ตกดึกจ้าาา เเพื่อนสนิทแซค ทิม ซึ่งเป็นหนุ่มร่างใหญ่พาแฟนนางมา แล้วชวนเราไปดับเบิ้ลเดทโดยการโยนโบ;ซึ่งโอ้ยยย อกอีแป้นจะแตกรอบสองก็มา เพราะ ผช เยอะเหลือเกิน แล้วหน้าดี้ดี แบบเป็นพวกนักเรียน มอปลายนี่แหล่ะ ดูเอ้าะๆ อยู่ไง แต่การจะเหล่ผชอื่นก้อต้องพองามเกรงใจผชของตัวเองบ้าง 555 ขำๆหน่าาา แต่เรื่องที่น่าอายจริงๆคือเราโยนโบวลิ่งไม่เปนไง ไปเล่นไม่บ่อย แถมสกิลก็อ้อยเปลี้ยมาก แต่เอ้อ อาสิ้ ชนะแฟนบักทิมได้ สองแต้มก็ภูมิใจในตัวเองอยู่ไม่น้อยนะ ท่าไม่สวยแต่ได้แต้มเยอะอยู่ก็โออ่า 555
จากนั้นเราก็ไปกินร้านmilk shake แห่งนึง แล้ว เหร่ยยย พนักงานก็หล่อทรมานใจเจ๊ไปอีก  ไม่เข้าใจว่าทำไมที่นี่ ชอบจ้างผช หนุ่มๆ กันแวะ แบบ เห้ย ไม่ไหว ไม่อยากหลายใจ ม่ายยยย อยู่นานไม่ได้ก้กลับบ้านเลย นอน จบ 555 


ขออภัย ถ้าเราเล่าแล้วผู้อ่านจะเริ่มเบะปาากเป็นรปสระอิ แต่เหร้ยย มันดีจริงงๆ เราก็ไม่คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ แต่สรุปได้ว่า เมืองนี้ ฝรั่งเยอะไม่พอ ผช ก้อเยอะกว่าผญ แบบไม่รู้ผญฝรั่งหายไปไหนหมด เอไม่ค่อยเยอะเลย เห็นแต่ผชตั้งแต่รุ่นเด็กไปยันแก่เลยทีเดียวเชียว แต่คือดีงามคุ้มค่าแก่การเหล่ ก็ว่าไม่ได้ แหร่

แก้ไขล่าสุด 3 ก.ค. 58 21:53 | ไอพี: ไม่แสดง

#7 | Undercover'Batman | 7 ก.ค. 58 19:42 น.

อยากอ่านอีกค่าาาาาาาาา
อิจฉาจังงงเว้ยยยยยยยยย.ย

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | 'Coolkewl' | 16 ก.ค. 58 00:03 น.

แซคกะจขกทอายุเท่าไหร่อ้ะะะ

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | mitskitalking | 18 ก.ค. 58 23:23 น.

โอ้ยยยมต่อเลยได้ไหมมม อิจเบาาาาาาๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | mellisa312 | 21 ก.ค. 58 23:47 น.

กว่าจะว่าง แทบล้มตึง ขอโทษคร้าบบบบ
โอเค ต่อน้าาาา
ครั้งนี้มาอัพเรื่องที่ไปเที่ยวต่างเมืองกันสองต่อสอง คือขับรถไป สามร้อยกว่าไมล์ แล้วเมืองสวยมากกก มันเปนเมืองในภูเขาฟีลลิ่งแบบhttps://www.google.co.th/search?q=gatlinburg&biw=1708&bih=730&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0CAYQ_AUoAWoVChMIl5Oe_9DsxgIViqCUCh2OowpE#imgrc=YSM5mNSfolAvdM%3A
ชื่อว่าภูเขา smoky mountain เปนที่ไว้เล่นสกี แต่ตอนไปมันหน้าร้อนไงเลยไม่ได้เล่น ฮ่าๆ แต่ก้อไม่เปนไร พอไปถึงก็ไปเข้าบ้านผีสิงกัน ตอนแรกเข้าไปสอองคนแรก สักพัก ชะนีฝรั่งเข้ามาอีกสอง และต่อด้วยแก็งผช อีกห้าหกคน ซึ่งหล่อดีแต่กวนประสาทมาก เสียงดังสุดและไอบ้านผีสิงก้อไม่น่ากลัวเลย เสียดายค่าตั๋วจริงจัง ฮือๆ แต่จากนั้นก้อเดินๆ ไปเรื่อยๆ แล้วไปกินร้านอาหารซีฟู้ดที่ได้เปิบพิสดาร กินเนื้อหางจระเข้เปนครั้งแรกซึ่งคาวและเราไม่แฮปี้ แต่มันแพงก้อจำใจไป 555 แต่ก้อมีก้อนชีสทอดและผักทอดช่วยชีวิตไว้ คือรมๆ อาหารที่นี่เน้นหวาน และ ชีสซี่มาก แบบแทบทุกอย่างต้องมีชีส ทำเอาระบบขับถ่ายไม่ทำงานไปหลายวัน แ้วเราปลื้มการกินผลไม้ของที่นี่มาก อร่อยสุดๆ โดยเฉพาะสตอเบอรรี่ลูกลูกใหญ่เท่าไข่ห่าน แล้วมันหวานจับจิต โอเค ต่อๆ พอกินเสร็จก็เดินย่อยกันสักพัก แากาศเริ่มหนาว คือมันลดฮวบไปสิบแปดองศาจากสามสิบกว่าอง เหมือนบ้านเราต่มันร้อนแห้งๆไงเหงื่อไม่ออกเลย แต่แทนสกินมาเต็ม เราก็ซื้ออขนมกับนมกลับไปกินที่โอเทลแล้วก้อสลบกันทั้งที่ไม่ได้อาบน้ำ 555
ตื่นเช้ามาพากันไปกินแพนเค้กซึ่งให้มาห้าชิ้นใหญ่ กินแค่สองชิ้นก็อิ่มละ พร้อมออกจากร้านไปโดยไม่จ่ายทิปพนักงานเพราะนางลืม แบบนางรู้สึกมากเพราที่นี่ถือเปนธรรมเนียมอันพึงปฎิบัติอย่างเคร่งครัดมาก ซึ่งเรื่องเงินเรื่องทองเจ๊ว่าอาหารแพงบวกภาษียัมีทิปอีก แต่โอ้วววว คนดี บรรยากาศดี ก็พอหยวนๆกันไป ฮ่าๆๆ ต่อมาเราก็แพลนกันทำอาหารเย็น เลยไปห้างที่ชื่อว่า KROGER หนาวสาดๆ คือหนาวอยู่คนเดียวไง พพวกฝรั่งเดินกันชิลมาก สรุปเมนูที่ไ้คือ สปาเกตตี้หมูซอสมะเขือเทศจร้าาา ซื้อเสร็จโผล่ไปเจอ ตู้กดหวย ซึ่งแบบหยอดเหรียญแล้วกดเลือกได้มีหลายแบบ เราก้อกดแบบที่แจคพอตสูงสุด 1000 ดอล แต่ได้ถูก 15 ดอลแบบเห้ยย ถกหวยครั้งแรกในชีวิตเลยไปแลกตังที่เค้าเตอร์แล้วกดเล่นใหม่ เอ้าถูกอีกสามเหรียญเว้ยย 555 พอกดรอบที่สามก้อไม่ได้ละ ถุกีกก้อเว่อไป 555 จากนั้นเราก้อกลับมาที่โรงแรมทำสปาเกตตี้กินไป พอเรากินเสร็จก้อหลับคาโซฟา ตื่นมาอีกทีอ่าว นางกำลังอุ้มเราไปที่เตียง ตายละไม่ยอมปลุก แต่อุ้ม** เราก้อสะดุ้งเล็กน้อย แล้วก็หลับต่อ 555 ไม่คิดว่าจะอุ้มไหวเหนชอบบ่นว่าหนักแต่เราก้อปลื้มนะ มันโรแมนติกดี 555 ตื่นเช้ามา ปรากฏว่า ข้าวของั้งหมดนางเก็บให้เสร็จสรรพตั้งแต่เมื่อคืนเรายิ่งปลื้มใหญ่ เพราะตอนอยู่วางของกันรกมาก แล้วที่นี่ เชคเอ้าช้า จะชาร์จค่าห้องเพิ่ม นางเลยเก็บของคนเดียวในขณะที่เราหลับปุ๋ย ไม่รู้สึกว่าเหมือนเปนแฟนนะ เหมือนเป็นลูกมากกว่า 555

เดวมาต่องื้อออ ถ้าว่างจริงๆ

ปล. เราอายุ 19 แฟนอายุ 20 จ้าาา

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | mitskitalking | 24 ก.ค. 58 23:15 น.

ต่อน้าาาาาาาา      อิจจจจจจ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google