ป๊อบ อารียา สู่อาชีพครูสอนโยคะ ทุ่มเวลาให้คุณแม่

23 ก.ค. 58 11:44 น. / ดู 3,929 ครั้ง / 0 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
"ป๊อบ - อารียา สิริโสดา" เคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสาวงามที่สวยที่สุดในประเทศไทย ที่รับประกันด้วยตำแหน่ง นางสาวไทย ปี 2537 แม้ช่วงหลังจะห่างหายจากหน้าจอโทรทัศน์ไปนาน เพื่อไปเอาดีกับงานภาพยนตร์ แต่ล่าสุด ป๊อบ ขอทิ้งชีวิตเหล่านั้นมาเป็น คุณครูสอนโยคะ พร้อมทุ่มเทเวลาให้กับคุณแม่ที่ล้มป่วยโดยเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
เริ่มมาเป็นคุณครูสอนโยคะได้อย่างไร

"จุดเริ่มต้นของการเป็นครูสอนโยคะ คือเราปวดหลัง หลังคดเป็นตั้งแต่วัยรุ่นแล้วล่ะ เราก็ไปฝึกเล่นโยคะเพื่อที่จะให้หายปวดหลัง เล่นไปเล่นมาแล้วก็ดีไปเรื่อยๆ นอกจากจะจัดกระดูกของตัวเองไปเรื่อยๆ แล้ว มันดีหลายอย่าง มีวินัยเรื่องการนอนมากขึ้น มีวินัยเรื่องการกินมากขึ้น มีสติมาก ยิ่งตอนนี้เราดูแลแม่ด้วยแหละ แม่เป็นโรคที่มือสั่นมากขึ้น ขาสั่น ต้องมีคนคอยดูแลตลอดเวลา แม่นั่งวีลแชร์ ต้องมีคนป้อนข้าว การที่เราต้องอยู่กับคนที่ไม่สบายแล้วเป็นโรคที่หมอไม่มียารักษาได้ เราก็วิตกกังวลเหมือนกัน เพราะเราก็ไม่มีลูกใครจะดูแลเรา ก็เลยต้องหันมาดูแลสุขภาพร่างกาย ตอนนี้นักเรียนค่อนข้างเยอะ จุดเริ่มต้นของการเป็นครูมันเริ่มมาจากที่เราปวดหลังแล้วเราเริ่มเล่น จนตระเวนไปหาครูเก่งๆ ทั่วโลกเพื่อที่เราจะเรียน พอเราซึมซับจากครูที่เราชื่นชอบมา เราก็เริ่มหาวิธีของเราที่จะรักษาตัวเราเอง การที่มาทำตรงนี้มันเป็นการมอบสุขภาพที่ดีให้กับคนอื่น เหมือนแก่ไปจะไม่มีใครดูแลเรา เราก็เริ่มที่จะดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ก่อน โยคะทำให้เรารู้จิต รู้ใจตัวเอง อย่างในวงการต้องเน้นแต่งตัวเสื้อผ้าสวยๆ มันเน้นทางเปลือก แต่โยคะมันเข้าไปในแก่นแท้เลย แก่นของตัวเราเอง"

งานในวงการยังจะมีให้เห็นอีกไหม

"งานในวงการก็ยังมีไปถ่ายแบบบ้าง ไปออกงานบ้าง พออายุมากขึ้นเราก็ห่วงเรื่องเวลาของเราพอสมควร ถามว่าชอบทำงานในวงการไหม ถ้าเกิดมันสนุกและได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เราก็จะยอมทำ แต่ถ้าไปเพราะกลัวว่าคนจะลืมเราก็ไม่ทำ ลืมไปเถอะไม่เป็นไรหรอก ถ้ามีงานอะไรน่าสนใจก็คอยทำ"

เครียดเรื่องคุณแม่หรือเปล่า

"เครียดเยอะค่ะ เนื่องจากคุณแม่เป็นวิศวะฯ มาก่อน เป็นคนที่เป๊ะมาก ตื่นตี 5 ออกกำลังกาย ต้องกินข้าว 8 โมง เด็กที่บ้านออกไปประมาณ 20 ชุดในระยะเวลา 2 ปี การที่เขาไม่ปล่อยวาง ทำให้เราเรียนรู้ตรงนี้ว่าแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ให้ปล่อยวาง บางทีเราเห็นแม่เราเครียดเราก็ต้องใจเย็นมากขึ้น เพราะถ้าเป็นเด็กตีได้ ถ้าเป็นแม่ตีไม่ได้ มีเหนื่อยมีท้อไหม ก็มีบ้างตอนที่เด็กที่บ้านหนีออกไป เรารู้ว่าทุกคนมีชีวิตของตัวเอง"

หลังจากที่แม่ป่วยทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไร

"บอกตรงๆ นะเราดูแลแม่คนเดียวเลย มีเด็กใหม่มาเราก็ต้องฝึกเขา บางทีเราก็ต้องคอยเป็นกำลังใจให้เด็ก ก็คอยพาแม่ไปหาหมอ ทุกวันนี้ขับมอเตอร์ไซค์ไปตลาดเองไปซื้อของให้แม่ เมื่อก่อนตอนเราเป็นเด็กๆ อยู่เมืองนอกแม่ก็จะกินแต่ข้าวกับน้ำพริก เพราะว่าเราเป็นไทย แต่ตอนนี้แม่อยากกินอาหารฝรั่ง อยากกินพิชซ่า ตอนนี้แม่กลับไปเด็กเราก็ต้องกลับไปผู้ใหญ่"
แก้ไขล่าสุด 23 ก.ค. 58 11:44 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google