มด ยอมรับความจริง ปิดตำนานนักร้องคู่หู โฟร์-มด

ส่อแววมีปัญหาเสียแล้วสำหรับอดีตนักร้องคู่หู "โฟร์-มด" (Four-Mod) ที่ต่างคนต่างก็แยกย้ายไปทำงานของตัวเอง ประจวบกับที่สาว "โฟร์ - ศกลรัตน์ วรอุไร" เลิกติดตามอินสตาแกรมของ "มด - ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ" จนทำให้หลายคนจับตามองความสัมพันธ์ของทั้งคู่ โดยสาว มด ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า "จริงๆ เนี่ยข่าวนี้มีก่อนหน้านี้แล้วมั้ง น่าจะมีก่อนหน้านี้แล้วแหละ แต่เพียงแค่ว่าตอนนั้นเราไม่ได้รู้ว่าอันฟอลโลว์จริงหรือเปล่าค่ะ ก็มีหลายคนมาพูดกับเราว่าเนี่ยพี่เขาอันฟอลโลว์นะ เราก็เหรอๆ พูดกันเยอะมากจนเรา อ่ะๆๆ เข้าไปดูก็ได้ ก็ไม่ได้อะไรค่ะ ก็เข้าไปดูก็เห็นว่า อ๋ออันฟอลโลว์จริงๆ" เมื่อถามว่าเสียความรู้สึกไหม เจ้าตัวก็ตอบว่า "เราก็คิดมากกว่าค่ะว่าถ้าเกิดว่าเขาทำแล้วเขาโอเค เราก็ไม่อยากว่าอะไร ก็ถือว่าเขาตัดสินใจแล้วค่ะ" อดีตนักร้องขวัญใจวัยรุ่นออกปากว่าไม่ได้โทรไปคุยกับอีกฝ่ายเรื่องนี้เลย "ไม่ได้โทรไปเคลียร์ค่ะ แล้วก็ไม่ได้ถามด้วย เพราะว่ามีความรู้สึกว่าไม่รู้จะโทรไปทำไม โทรไปเคลียร์ทำไม คือถ้าเกิดเขาจะอันฟอลโลว์เนี่ย เขาคงมีเหตุผลของเขาแหละ" มด แง้มถึงช่วงเวลาที่ได้พูดคุยกับสาว โฟร์ ครั้งล่าสุดว่า "คุยกันล่าสุดก็คือวันที่มดส่งไลน์ไปแสดงความยินดีเรื่องธุรกิจของเขา ก็สักพักหนึ่งแล้ว แล้วก็มีอีกช่วงหนึ่งคือตอนวันเกิดเขา เราก็โทรไป แต่ว่าเขาไม่ได้รับ เราก็เข้าใจว่าเขาคงยุ่งอยู่ หรือไม่ก็อาจจะมีคนโทรไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์เขาเยอะค่ะ เราก็เลยส่งไลน์ไป แต่ว่าก็ไม่ได้มีการตอบกลับกลับมาค่ะ คืออย่างตอนที่ส่งไลน์ไปแสดงความยินดีเนี่ยก็มีการพูดคุย ก็แบบว่าตอนนั้นเขาก็ป่วยด้วย เราก็เออหายป่วยไวๆ นะ เขาบอกเออเดี๋ยวหายป่วยแล้วมานัดกัน เจอกันหน่อย เราก็เออได้สิก็นัดแล้วกันอะไรอย่างนี้ค่ะ อันนั้นคือคุยกันล่าสุด" สาวรุ่นน้องเปิดใจไม่มีปัญหาติดใจอะไรกับทาง โฟร์ "จริงๆ สำหรับตัวมดเองนะ ตัวมดเองไม่มีอะไร ถ้าเกิดเราจะเจอเขา หรือคุยกับเขา หรือทำงานร่วมกับเขา เรายังทำได้อยู่ เรายังโอเคอยู่ เพราะว่าอย่างที่บอกเลย บอกตัวมดเองไม่ได้มีปัญหาอะไร ตัวเราเองยังโอเคกับเขา"

นักร้องสาวที่เพิ่งก้าวเข้าสู่เส้นทางสายนักแสดงได้ไม่นานออกความเห็นเรื่องที่มีคนมองว่า โฟร์-มด จบลงอย่างไม่สวยเท่าไรนักว่า "เรื่องจบไม่สวยหรืออะไรยังไงเนี่ย ตัวมดเองก็มองว่าวันหนึ่งศิลปินทุกคนมีจุดเริ่มต้น ก็ต้องมีจุดที่ต้องหยุดเหมือนกัน มันเป็นเรื่องปกติของในวงการบันเทิง ของการเป็นนักร้อง เป็นดูโอ หรือแม้กระทั่งเป็นกลุ่ม มันเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วค่ะ แต่ว่ามันจะเกิดขึ้นวันนี้ พรุ่งนี้ หรืออาจจะเกิดขึ้นเมื่อไร เราไม่รู้ แต่เพียงแค่ว่าตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องรับตรงจุดนั้น แล้วก็เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปค่ะ เพราะว่าชีวิตคนเรามันก็ต้องมีเส้นทาง ทางเลือกที่แต่ละคนต้องเลือกเดินอยู่แล้วค่ะ" ส่วนปัญหาอะไรที่เป็นชนวนทำให้สาวรุ่นพี่ตัดสินใจเลิกติดตามอินสตาแกรมนั้น สาวเสียงดีคนนี้ก็บอกว่าไม่ทราบ "ก็ไม่ทราบนะคะ เพราะว่าก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ อย่างที่บอก ก่อนหน้านั้นเราก็คุยกันอยู่เลยค่ะ"

มาถึงเรื่องที่มีข่าวพาดหัวว่าทั้งสองสาวโกรธกันจนถึงขั้นไม่เผาผีกันบ้าง งานนี้สาว มด ก็กล่าวว่า "ก็เข้าใจนะ เข้าใจสื่อแหละว่าเขาก็คงต้องพาดหัวข่าวอะไรให้มันดูน่าสนใจ ให้คนเข้ามาสนใจ อันนี้เราเข้าใจ แต่ว่าก็นิดหนึ่งเนาะ เพราะว่ามันก็ยังเป็นความสัมพันธ์ของคนที่ทำงานร่วมกันมาก่อน เพราะว่ามดก็ยอมรับค่ะว่าสุดท้ายแล้วเราก็รู้ตัวเองว่าเราเกิดมาจากอะไร เราเกิดมาจากการเป็นนักร้องดูโอ โฟร์-มด ถามว่าเรายังรักการเป็นนักร้อง รักที่เป็น โฟร์-มด อยู่ไหม เรารักนะ เราไม่ได้ทิ้งตรงจุดนั้น ทุกวันนี้เนี่ยเพลง โฟร์-มด เรายังร้องอยู่เลย เพราะว่าเรามีความรู้สึกว่าเรารักอ่ะ เรารักตรงจุดนี้ เรารู้ว่าเราเกิดมาจากอะไร" นางเอกสาวคนสวยยืนยันไม่เคยพูดคำว่า ไม่เผาผี แน่นอน "ไม่เคยพูดเลยค่ะ ไม่เคยพูด ไม่เคยพูดเลยว่าจะไม่เผาผี  หรือโกรธ หรืออะไร มดพูดแต่ว่าถ้าเกิดเขามีอะไร เขาได้ทำงานในทางที่ดี เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ เราแฮปปี้ แล้วเราก็แสดงความยินดีกับเขาด้วย เรามีแต่ว่าความสัมพันธ์ก็ยังเหมือนเดิมสำหรับเรา"

เมื่อเจอกระแสว่าทั้งคู่มีปัญหากันแบบนี้ ดาราสาวรับว่าแฟนคลับก็ย่อมมีแตกคอกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา "มันก็มีบ้าง มันก็มีบ้างที่บางคนก็ใครรักใคร เขาก็ต้องปกป้องอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาแหละค่ะ คนมันมีคนรัก มันก็ต้องมีคนไม่ชอบอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้เนี่ยเราเข้าใจ เราเป็นคนของสังคม เราเป็นนักแสดง เราเป็นดารา เพราะฉะนั้นเนี่ยคนจะออกมาแสดงความคิดเห็นอะไรเรื่องตรงนี้เนี่ย มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราก็ต้องเข้มแข็งมากพอที่จะรับตรงนั้นได้เหมือนกันค่ะ" อดีตนักร้องคู่หูคนนี้เผยความรู้สึกที่มีต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองคนที่เปลี่ยนแปลงไปว่า "มันก็ต้องมีรู้สึกลึกๆ บ้างแหละ เพราะว่าเราก็รู้จัก อยู่กับเขามาสิบปี มันก็ต้องมีบ้าง มันมีบ้าง แต่สุดท้ายแล้วมันเกิดขึ้นแล้ว เราก็โอเค เราก็ยอมรับในจุดนั้น ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เพราะว่าเราไม่อยากที่จะไปจี้จุดไปจี้เขาว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ๆ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องเปล่าๆ สุดท้ายแล้วเขามีอะไร เขาก็คงพูดกับเราเองแหละ เพราะว่ามดก็รู้ว่านิสัยของเขาเป็นยังไงค่ะ"