แนะนำ 5 ออนเซ็นเมืองไทย แหล่งบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ

24 ก.พ. 60 15:33 น. / ดู 4,168 ครั้ง / 3 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
วันนี้มาแนะนำ 5 สถานที่ ที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติค่ะ เผื่อมีใครอยู่ใกล้จังหวัดไหน อยากเดินทางแวะไปผ่อนคลาย ซึ่งแต่ละแห่งก็ได้ออกแบบบ่อแช่น้ำแร่ได้น่าไปนั่งนอนนอนแช่ให้สบายตัว บางแห่งพื้นที่ร่มรื่นตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร โดยประโยชน์ของการอาบน้ำแร่คือ บำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ช่วยรักษาโรคผิวหนัง บางชนิดได้ ว่าแล้วก็มาดูกันเลย
1. น้ำพุร้อนฝาง เชียงใหม่


          บ่อน้ำพุร้อนอุทยานแห่งชาติฝาง ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีมากมายกว่า 50 บ่อ โดยตั้งกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปรอบๆ ภายในบริเวณ พื้นที่ที่กว้างใหญ่กว่า 10 ไร่ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติฯ ได้พัฒนาพื้นที่ให้มีความสวยงามเข้ากับธรรมชาติ โดยทำทางเดินด้วยแนวหินเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดิน เข้าไปชมบ่อน้ำพุร้อนได้อย่างใกล้ชิด จะมีบ่อใหญ่อยู่หนึ่งบ่อที่จะมี ไอน้ำพุ่งขึ้นสูงกว่า 40-50 เมตร ซึ่งสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ที่ได้มาชม ทางอุทยานฯ ได้จัดทำห้องอาบน้ำแร่ ห้องอบไอน้ำ และบ่อน้ำร้อนไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาอาบน้ำพุร้อน



พิกัด อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่ ถ้าไปถูกก็ไปถึงค่ะ   




2.น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ลำปาง


        อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีธารน้ำแร่ที่เต็มไปด้วยโขดหินธรรมชาติ น้ำแร่ที่มีอุณหภูมิสูง ถึง 70 – 80 องศาเซลเซียส ทางอุทยานฯจึงสร้างที่อาบน้ำแร่ขึ้นอย่างมาตรฐาน มีทั้งห้องอาบแช่ สำหรับ 3-4 คน ห้องรวมแบบตักอาบและบ่อสำหรับแช่อาบกลางแจ้ง น้ำแร่ที่ใช้ต่อท่อโดยตรงมา จากบ่อน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิน้ำแร่ประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถใช้แช่อาบได้ นอกจากนี้ด้วยอุณหภูมิที่สามารถแช่ไข่ให้สุกได้ภายใน 15 นาที ไข่จะมีลักษณะไข่แดงสุกไข่ขาวสุกไม่แข็งจะ เหมือนมะพร้าวอ่อน เมื่อนำมาปรุงเป็น "ยำไข่แช่น้ำแร่"  ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของที่นี่


ต้มไข่แปปปปป 

พิกัด ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง




3. บ่อน้ำร้อนรักษะวาริณ ระนอง


          บ่อน้ำร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินี้มีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ทั้ง 3 บ่อ มีอุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส น้ำพุร้อนแห่งนี้ได้รับการวิเคราะห์จากกรมวิทยาศาสตร์บริการว่าประกอบด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ และเป็นแหล่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนอยู่เลย จึงทำให้ไม่มีกลิ่นของกำมะถันและมีความบริสุทธิ์ สามารถดื่มได้จากแหล่งกำเนิด โดยไม่ต้องผ่านการกลั่นกรองใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก ภายในบริเวณบ่อน้ำร้อนมีบริการอาบน้ำแร่บำบัดรักษาสุขภาพผ่อนคลายความเมื่อยล้า มีบริการบ่อแช่เท้าเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนี้บริเวณใกล้บ่อน้ำร้อนได้จัดเป็นสวนสาธารณะรักษะวาริน  มีศาลาที่พักและห้องอาบน้ำร้อนไว้บริการด้วย



พิกัด ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง





4.น้ำพุร้อนหินดาด กาญจนบุรี


          น้ำพุร้อนหินดาด หรือน้ำพุร้อนกุยมั่ง บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ ค้นพบ โดยทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นคุมเชลยศึกมาสร้างทางรถไฟสายมรณะผ่านไป ในเส้นทางนี้โดยบังเอิญ ลักษณะน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นน้ำพุร้อนพุ่งออกมาจากเนินย่อมๆ กว้างพอประมาณ และได้สร้างเป็นบ่อซีเมนต์ขึ้น 2 บ่อ เชื่อกันว่าน้ำแร่จากบ่อน้ำร้อนแห่งนี้ มีสรรพคุณในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บหลายอย่าง เช่น โรคเหน็บชา ไขข้อ อักเสบ นักท่องเที่ยวสามารถลงอาบน้ำในบ่อได้ และยังมีลำธารน้ำเย็นไหลอยู่ด้านล่างบ่อน้ำร้อน  ในช่วงฤดูแล้งจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปอาบน้ำแร่กันมาก



พิกัด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี




5.น้ำตกร้อน กระบี่


          น้ำตกร้อน นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว Unseen  Thailand อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ ตัวน้ำตกตั้งอยู่ใน อ.คลองท่อม ซึ่งใกล้ๆ กับสระมรกต เป็นอ่างอาบน้ำธรรมชาติกลางป่ารองรับสายน้ำตก ที่ไหลหลั่นลงมาจากเนินเขา สายน้ำแร่ ที่ไหลมาพร้อมๆ กับไออุ่นเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ มีลักษณะเป็นธารน้ำพุร้อนผุด ขึ้นมาจากใต้ดินตามธรรมชาติ มีสารกำมะถัน เจือจางเป็นส่วนประกอบ มีอุณหภูมิพอเหมาะตกลงมาในแอ่งสามารถอาบน้ำได้ ที่นี่เป็นแหล่งรวมของคนรักสุขภาพที่ต้องการมาบำบัดร่างกายคลายปวดเมื่อยล้าตามส่วนต่างๆ และยังเป็นที่พักใจ ให้สบายจากความรื่นรมย์ของธรรมชาติป่าเขา



พิกัด ตำบลคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

        ส่วนตัวเคยไปแช่น้ำพุร้อนหินดาด กาญจนบุรีมาค่ะ สบายตัวมากกกกกก แต่ละบ่อความร้อนไม่เท่ากัน โชคดีที่ไปเจอคนสอนแช่น้ำพุร้อน ให้แช่ไล่ระดับความร้อนของน้ำ แล้วค่อยไปแช่น้ำเย็น ทำวน 3 รอบ ก่อนลงควรล้างตัวก่อนลงนะคะ (อย่าไปอาบน้ำสระผมจริงจัง เขาไว้แช่ตัว) เตรียมร่างกายให้พร้อม 15 นาที โดยการดื่มน้ำ น้ำชา หรือ ของเหลวอื่นๆ ในปริมาณเพียงพอ เลือดลมในร่างกายจะได้หมุนเวียนดีค่ะ  

#น้ำพุร้อน #บ่อน้ำร้อน #ออนเซ็น
แก้ไขล่าสุด 24 ก.พ. 60 15:41 | เลขไอพี : ไม่แสดง | ตั้งกระทู้โดย WinXP

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | mem_370346 | 28 ก.พ. 60 11:01 น.

ดูผ่อนคลายๆ มากๆ เลยค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 8.1

#2 | sz399587 | 14 มิ.ย. 60 11:31 น.

แนะนำอีกที่เป็น บ่อน้ำร้อนธารน้ำเย็น เขาชัยสน จ.พัทลุงครับ
ผมไปตั้งแต่เด็กๆ เดี่ยวนี้เขาปรับปรุงพัฒนาดีขึ้นเยอะเลยครับ สะดวกสบาย
ใครมาเที่ยวพัทลุงบ้านผม ก็แวะไปได้นะครับ ผมแนะนำเลย

ขอบคุณภาพประกอบ ผมนำมาจาก แฟนเพจ จตุธรรมธาตุ 4 พระธาตุแดนใต้
ครับ

ไอพี: ไม่แสดง | โดย Windows 7

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google