เด็กหลอดแก้ว

ปัจจุบันอัตราการเกิดของประชากรทั่วโลกมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง และประเทศไทยเองก็ประสบกับปัญหานี้เช่นกัน จากวิถีชีวิตและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้คนสมัยใหม่มีบุตรน้อย หรือไม่ก็ครองตัวเป็นโสดไม่แต่งงาน และยังรวมถึงผู้มีบุตรยากอีกด้วย ภาวะมีบุตรยาก คือปัญหาชวนปวดใจของคนอยากมีลูก ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่การทำเด็กหลอดแก้วที่มีทั้งการทำ ivf และ การทำ icsi ล้วนแล้วแต่ช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูก อีกทั้งยังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงเทคโนโลยีตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรมระยะก่อนฝังตัวอ่อน ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณได้ว่า ภาวะการมีบุตรยากจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นอกจากคุณจะได้มีลูกตัวน้อย ๆ เป็นของตัวเองแล้ว คุณยังช่วยผลิตประชากรให้กับประเทศชาติได้อีกด้วย

เด็กหลอดแก้ว

การมีโซ่ทองคล้องใจคือความหวังของคู่สมรส แต่ทว่าปัญหาการมีบุตรยาก ทำให้ความหวังของพวกเขาริบหรี่ลง แต่ในปัจจุบันการทำเด็กหลอดแก้วในประเทศไทยได้มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้เกิดการปฏิสนธิได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการทางธรรมชาติ ทำให้คู่สมรสมีโอกาสมีบุตรได้ด้วยการทำ ivf หรือการทำ icsi ซึ่งการทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธีอิ๊กซี่กำลังเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง

เด็กหลอดแก้ว คืออะไร


การปฏิสนธิภายนอกร่างกาย หรือ เด็กหลอดแก้ว In Viro Ferilization (ivf) มีที่มาจากภาษาลาติน        In Vitro ที่แปลว่า ภายนอกร่างกายของมนุษย์ ซึ่งหมายถึงภายในหลอดแก้ว หรือภายในหลอดทดลอง คือ การช่วยการช่วยให้คู่สมรสมีบุตรยาก สามารถมีบุตรได้ ด้วยการฝากไข่ จากนั้นจึงนำเชื้ออสุจิมาผสมกับไข่ที่ฝากไว้ให้เกิดการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย โดยการผสมเชื้ออสุจิกับไข่ในหลอดแก้วภายห้องปฏิบัติการ เมื่อได้ตัวอ่อน จะถูกเลี้ยงอยู่ในตู้เพาะเลี้ยงถึงระยะที่เหมาะสม ค่อยเคลื่อนย้ายตัวอ่อนกลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายหญิงเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป

เด็กหลอดแก้ว (IVF) ต่างกับ ICSI อย่างไร


การช่วยปฏิสนธิโดยวิธีฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่ หรือ Intra Cytoplasmic Sperm Injection (ICSI) เป็นเทคนิคที่ได้รับพัฒนาจากการทำเด็กหลอดแก้ว (ivf) สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาที่เชื้อไม่สามารถเจาะเปลือกไข่ได้เอง เนื่องจากตัวเชื้อไม่แข็งแรง หรือฝ่ายหญิงมีเปลือกไข่หนาจนอสุจิไม่สามารถเข้าไปได้ จึงต้องคัดเชื้ออสุจิที่มีความแข็งแรงสมบูรณ์เพียงตัวเดียว โดยใช้เข็มแก้วที่มีศูนย์กลางขนาดเล็ก ฉีดตัวเชื้อเข้าไปในเซลล์ของไข่โดยตรง ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ หรือที่เราเรียกกันว่า การทำอิ๊กซี่ (ICSI) ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีอัตราการสำเร็จที่มากกว่าการทำ ivf

ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว IVF


1. ปรึกษาแพทย์

เมื่อคู่สมรสได้พยามยามมีบุตรด้วยวิธีทางธรรมชาติแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อทำเด็กหลอดแก้ว แพทย์จะวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องว่า การมีบุตรยากเกิดจากสาเหตุอะไร มีขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้วอย่างไรบ้าง มีความเสี่ยง และมีความสำเร็จหรือล้มเหลวในการดำเนินการอย่างไร จากนั้นจะให้คู่สมรสเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 7-8 ชั่วโมง ทานอาหารครบห้าหมู่ เน้นผักและผลไม้ และงดดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ เพื่อเตรียมการรักษาในขั้นตอนต่อไป

2. ฉีดยากระตุ้นไข่

เมื่อคู่สมรสมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีแล้ว แพทย์จะตรวจดูระดับฮอร์โมน และทำอัลตร้าซาวด์ เพื่อประเมินจำนวนฟองไข่เบื้องต้น วัดระดับฮอร์โมน และทำการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่เพื่อทำเด็กหลอดแก้วในวันที่ 2 หรือ 3 ของรอบเดือน จากนั้นแพทย์จะติดตามการเจริญเติบโตของไข่ โดยการนัดทำอัลตร้าซาวน์ และตรวจเลือดดูค่าฮอร์โมนเป็นระยะ  ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 8 - 10 วัน

3. เก็บไข่และอสุจิ

เมื่อทำอัลตร้าซาวน์ประเมินว่าไข่เจริญเติบโตได้ขนาดที่เหมาะสมคือ 18 มิลลิเมตรเรียบร้อยแล้ว จากนั้นแพทย์จะทำการเก็บไข่โดยทำการเจาะรังไข่ด้วยเข็มมดูดผ่านช่องคลอด และอัลตร้าซาวด์ช่วยบอกทิศทาง แพทย์จะวางยาสลบ ระหว่างทำการเก็บไข่ โดยใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที

ในณะเดียวกันก็ให้ฝ่ายชายเก็บอสุจิใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ให้ จากนั้นนำเชื้ออสุจิที่ได้มาคัดเลือกความสมบูรณ์ แล้วนำมาผสมกับไข่ที่ได้เก็บไว้ในห้องปฏิบัติการเพื่อทำเด็กหลอดแก้วต่อไป

4. ICSI (อิ๊กซี่)

สำหรับฝ่ายชายที่มีเชื้ออสุจิไม่มีคุณภาพ หรือน้อยกว่ามาตรฐาน ควรทำอิ๊กซี่ (ICSI) ในการช่วยฉีดอสุจิที่มีความแข็งแรงสมบูรณ์เพียงตัวเดียวเข้าไปในเซลล์ไข่ ซึ่งมีโอกาสสำเร็จได้มากกว่าการทำเด็กหลอดแก้ว (ivf) เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่ไข่จะไม่ได้รับผสม

5. เลี้ยงตัวอ่อน

หลังจากได้ตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิระหว่างไข่และอสุจิที่สมบูรณ์แล้ว นักวิทยาศาสตร์จะทำการเพาะตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ตัวอ่อนเจริญเติบโตในระยะที่เหมาะสม ประมาณ 5 วันหลังปฏิสนธิ ซึ่งในอดีตวิธีการนี้จะทำในหลอดแก้ว จึงเป็นที่มาของคำว่าเด็กหลอดแก้ว

6. ย้ายตัวอ่อน

แพทย์จะทำการอัลตร้าซาวด์เพื่อทำการย้ายตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูก วิธีนี้คล้ายกับการตรวจภายใน คือมีการใช้เคลื่องมือในการใส่ตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูก ใช้เวลาประมาณ 15 - 20 นาที
การทำเด็กหลอดแก้วโดยวิธีนี้เรียกว่ารอบการย้ายสด แต่ถ้าหากไม่สามารถย้ายตัวอ่อนในรอบนี้ได้ จะมีส่งตัวอ่อนเพื่อตรวจสอบความผิดปกติทางพันธุกรรม และนำไปแช่แข็งเก็บรักษาตัวอ่อนไว้ เมื่อถึงรอบเดือนถัดไป จึงค่อยย่อยตัวอ่อนอีกครั้ง เรียกกันว่า การย้ายรอบแช่แข็ง

7. ตรวจการตั้งครรภ์

หลังจากที่แพทย์ได้ทำการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูกและให้คุณแม่กลับบ้านพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว จากนั้นแพทย์จะนัดตรวจการตั้งครรภ์ ภายใน 1 - 2 สัปดาห์ หากผลปรากฎว่าที่คุณแม่ตั้งครรภ์การทำเด็กหลอดแก้วประสบความสำเร็จ แพทย์จะนัดตรวจดูแลครรภ์จนกระทั่งคลอดบุตร

ใครเหมาะกับการทำเด็กหลอดแก้ว IVF


ถึงแม้การทำเด็กหลอดแก้วจะมีหลายขั้นตอนและมีความเสี่ยงต่อการล้มเหลว แต่คู่สมรสที่มีบุตรยากก็พร้อมที่จะเสี่ยง ทั้งการทำ ivf และการทำอิ๊กซี่ ปัญหามากมายทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีบุตรยาก มาจากสาเหตุเหล่านี้

1. ฝ่ายหญิง

-  มีท่อนำไข่ผิดปกติ เช่น ตีบ อุดตัน บวม หรือเคยผ่าตัดท่อนำไข่ออก
-  เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือพังผืดรัดท่อนำไข่จนใช้งานไม่ได้
-  ไข่ไม่ตกเรื้อรัง หรือมีไข่ปริมาณน้อย
-  มีมดลูกพิการแต่กำเนิด ตัดมดลูก หรือไม่มีรังไข่ (ต้องใช้บุคคลที่สามร่วมในการรักษา)
-  ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากโดยไม่ทราบสาเหตุ
-  มีความเสี่ยงเป็นโรคผิดปกติที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม เคยแท้งบุตร เคยตั้งครรภได้บุตรพิการ จึงต้องทำเด็กหลอดแก้ว
-  เป็นผู้ป่วยในโรคมะเร็งที่มีการรักษาด้วยการฉายแสง หรือโรคอื่น ๆ เช่น SLE

2. ฝ่ายชาย

-  มีเชื้ออสุจิน้อยกว่า 10 ล้านตัว ไม่พบตัวอสุจิ ไม่สามารถหลั่งน้ำเชื้ออสุจิได้ อสุจิมีความเคลื่อนไหวต่ำ หรือมีรูปร่างผิดปกติ
-  มีการฉีดอสุจิเข้าไปในโพรงมดลูกมากเกินไปทำให้การรักษาล้มเหลว ทำอิ๊กซี่ จะมีโอกาสสำเร็จสูงกว่า

เตรียมตัวอย่างไรก่อนทำเด็กหลอดแก้ว IVF

คู่สมรสที่ต้องการทำเด็กหลอดแก้วจะต้องเตรียมความพร้อมก่อนรักษา โดยมีข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้

ข้อปฏิบัติตนสำหรับฝ่ายหญิง

-  ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
-  พักผ่อนอย่างน้อยวันละ 6 - 8 ชั่วโมง
-  ควรดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิต และรับประทานโปรตีนวันละ 60 มิลลิกรัม
-  งดเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอร์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 เดือน
-  งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

ข้อปฏิบัติตนสำหรับฝ่ายชาย

-  ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
-  พักผ่อนอย่างน้อยวันละ 6 - 8 ชั่วโมง
-  งดเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอร์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 เดือน
-  หลีกเลื่องการซาวน่าหรือแช่น้ำอุ่น
-  สวมกางเกงชั้นในที่ไม่รัดจนเกินไป
-  ไม่เครียด ทำจิตใจให้สบาย
-  งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 3 วันก่อนการเก็บเชื้ออสุจิ

แนวทางการดูแลตัวเองหลังทำเด็กหลอดแก้ว

หลังจากทำเด็กหลอดแก้ว แพทย์จะให้กลับไปพักต่อที่บ้านอีกประมาณ 12 - 24 ชั่วโมง ระหว่างนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้

-  ไม่ควรทำงานหนัก
-  ขยับร่างกายเบา ๆ ระมัดระวังในการขึ้นบันได
-  งดการเกร็งหน้าท้อง
-  ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด
-  งดการมีเพศสัมพันธ์

หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีอาการปวดท้องน้อย มีเลือดออกทางช่องคลอด ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อเฝ้าระวังการทำเด็กหลอดแก้วล้มเหลว

ทำเด็กหลอดแก้ว ราคาเท่าไหร่

การทำเด็กหลอดแก้วมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องอาศัยบุคลากรทางแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และยังต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษา โดยทั่วไปแล้วการทำเด็กหลอดแก้ว ราคาอยู่ที่ประมาณ 50,000 - 100,000 บาทขึ้นไป

ทํา IVF เด็กหลอดแก้ว ที่ไหนดี



ปัจจุบันสถาบันทางการแพทย์หลายแห่งมีการทำเด็กหลอดแก้วที่มีคุณภาพ คุณสามารถเลือกใช้บริการได้โดยพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้ 

1. ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์
2. การบริการดูแลรักษา
3. อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์มีความทันสมัย
4. สถานที่ตั้ง ไม่ควรอยู่ห่างไกลจากบ้านของคุณมากจนเกินไป
5. ราคาเป็นมิตร
6. มีการติดตามการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อคุณยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นจากที่ไหน เราขอแนะนำคุณให้ไป Beyond IVF พวกเขามีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ อุปกรณ์ที่ทันสมัย และสามารถให้คำแนะนำเรื่องการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) กับคุณได้

คำถามที่พบบ่อย

ทำเด็กหลอดแก้ว เลือกลูกแฝดได้ไหม

การทำเด็กหลอดแก้ว หรือการทำ ivf และการทำ icsi มีโอกาสตั้งครรภ์เป็นลูกแฝดได้ขึ้นอยู่กับ อายุของฝ่ายหญิง ภาวะมีบุตรยาก และจำนวนตัวอ่อนที่ย้าย หากมีการย้ายตัวอ่อนมากเท่าไร โอกาสในการตั้งครรภ์ลูกแฝดก็มากขึ้นเท่านั้น ผู้หญิงที่อายุ 20 - 29 ปี มีโอกาสตั้งครรภ์ลูกแฝดสูงถึง 45.7% 

ทำเด็กหลอดแก้ว เลือกเพศได้ไหม

การเลือกเพศในการทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี IVF และ ICSI สามารถดูเพศจากตัวอ่อนได้ด้วยวิธี NGS โครโมโซมตัวอ่อน เพื่อคัดกรองตัวอ่อนก่อนย้ายสู่โพรงมดลูก แต่ยังไม่ 100% ด้วยปัจจัยหลายประการ ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำการรักษา หากเพศที่เลือกไม่มีความสมบูรณ์ ก็ไม่สามารถนำตัวอ่อนฝังเข้าสู่โพรงมดลูกได้ ทั้งนี้การเลือกเพศตัวอ่อนเป็นเรื่องผิดกฏหมายในประเทศไทย

ทำเด็กหลอดแก้ว มีโอกาสสำเร็จและความเสี่ยงเท่าไหร่

โดยปกติการทำเด็กหลอดแก้วจะมีความสำเร็จในกลุ่มผู้หญิงอายุ 34 ปีลงมา ประมาณ 30 - 40% โดยอัตราการเกิดลดต่ำลงในกลุ่มผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป เนื่องจากร่างกายจะค่อย ๆ เสื่อมลงเมื่ออายุมากขึ้น รวมถึงปัญหาทางสุขภาพ น้ำเชื้อหรือมดลูกไม่แข็งแรง

ข้อสรุป

การทำเด็กหลอดแก้ว คือความหวังของคู่สมรสที่ประสบกับปัญหาการมีบุตรยาก ถ้าหากคุณต้องการทำ ivf หรือ icsi คุณต้องเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจในการรักษา ต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และเตรียมใจหากเกิดการล้มเหลวระหว่างทาง อีกอย่างคุณจะต้องมีฐานะพอสมควรที่พร้อมจะยอมรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาได้ โดยที่คุณอาจจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย นอกจากความเจ็บปวด แต่ถ้าลองมองดูแล้ว ความฝันที่คุณอยากจะมีลูกเป็นของตัวเอง หากทำเด็กหลอดแก้วสำเร็จ มันก็คุ้มค่าไม่ใช่เหรอ