บิวกิ้น ไปเปิดโหมดหลานม่าสุดขี้ดื้อ ที่ถูกจับจุดโดนเส้นเอิ๊กอ๊ากแทบทั้งรายการ
9 เม.ย. 67 18:53 น. /
ดู 3,840 ครั้ง /
1 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#บิวกิ้นพุฒิพงศ์
เป็นการไปออกทอล์กโชว์ของ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ ที่น่าจะได้เห็นเจ้าตัวปล่อยอัลติความเป็นคนไทยพูดไปเรื่อย
โดนเส้นแฟนคลับไปตามๆ กัน ในรายการ Katanyu Tonight
เข้ารายการก็โดนถามไถ่ถึงความสำเร็จในพาร์ทของการเป็นศิลปินกับการทำคอนเสิร์ต Tempo Tour
ถ้าถามทำไมถึงตั้งชื่อว่า Tempo
บิวกิ้น: จริงๆ ตอนเด็กๆ ผมชอบเข้าวัดเข้าวามาก
พิธีกร: อ๋อผมออกเสียงผิด จริงๆ แล้วคือ Temple อ้าว นี่ไม่ได้ไปร้องเพลง
บิวกิ้น: ไม่ใช่ๆ ไปไหว้พระ เข้าวัด 😂
ได้เล่าเรื่องที่มาที่ไปของการได้มาเป็นศิลปิน เริ่มแรกเป็นนักแสดงสังกันค่ายนาดาวและตอนนั้นทางค่าย
อยากเปิดค่ายทำเพลงประกอบซีรีส์ด้วย และเขาเห็นว่าเราก็มีได้ไปร้องโคฟเวอร์ ไปช่วยงานโรงเรียนร้องเพลงบ้าง
โมเมนต์ที่ได้ขึ้นไปร้องเพลงในฐานะศิลปิน ก็ตื่นเต้นไม่กล้าสบตากับใคร ความตื่นเต้นมันก็ดีนะ แต่มันก็เป็นเรื่องที่เหนื่อย เหนื่อยจะลุ้น จริงๆ ไม่ค่อยชอบความตื่นเต้นเท่าไร แต่ทุกครั้งที่ผ่านเวลานั้นไปแล้ว แล้วเรามองกลับไป จะรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดี ทุกวันนี้ควบคุมความตื่นเต้นได้ดีขึ้น ด้วยความเก่งที่เพิ่มขึ้นด้วยมั้งฮะ 😎
มีคุยกันถึงเรื่องความชอบฟุตบอลของบิวกิ้นด้วยว่า เดิมทีเจ้าตัวอยากเป็นนักฟุตบอลเล่นในตำแหน่งโกล
แต่่จะไม่ค่อยได้ลง มีวันนึงเลยคิดแผนให้ได้ลงเล่นคือ ไม่เอาถุงมือมา และใส่เสื้อแขนสั้น แต่โกลต้องใส่เสื้อแขนยาว
นับตั้งแต่วันนั้นเลยได้ย้ายการซ้อมจากซ้อมเป็นโกลมาเป็นผู้เล่นเลย แต่พอโตขึ้นเริ่มร้อนเริ่มกลัวแดด เลยเลิกเล่นไปในที่สุด
จากนั้นก็ได้เล่นชงตบมุกกับพี่พิธีกรสนุกสนาน จนได้เห็นคุณเขานั่งเอิ๊กอ๊ากแบบนี้อยู่พักใหญ่ๆ เลย
ในฐานะนักแสดงบิวกิ้นยังได้มาพูดถึงความแตกต่างของการทำงานในกองถ่ายซีรีส์กับภาพยนตร์ด้วย
บิวกิ้นบอก การเล่นหนังจะมีการ craft มากกว่าซีรีส์ ระยะเวลาที่ถ่ายซีนที่ถ่ายต่อวันมันน้อยกว่า เลยต้อง craft กับทุกดีเทล
ทั้งแอคติ้ง มุมกล้องจะถ่ายออกมาให้ดูมีความ cinematic ที่สุด และการได้เล่นเรื่อง หลานม่า ก็ให้คุณค่ากับเราในฐานะการเป็นนักแสดง ได้เรียนรู้การทำงานใหม่ๆ ได้ลองเป็นตัวละครใหม่ๆ การเป็นมนุษย์ก็ได้สะท้อนกลับมาเห็นครอบครัวของตัวเอง
ในบางมุมที่เรามองผ่านมันไป ผมอาจจะคล้ายกับหนังเยอะ อาจเป็นบ้านที่อยู่กันหลายครอบครัวในบ้านเดียวกัน บางทีเราอาจไม่เข้าใจความคิดของคนในเจเนเรชั่นที่ต่างกัน มันสะท้อนให้กลับมาเห็นว่าจริงๆ เขาต้องการอะไร เล่นหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เรา กลับไปให้ความสำคัญกับครอบครัวมากขึ้น มันทำให้เราเห็นว่าเราทำวันนี้และมองเห็นครอบครัวเป็นสิ่งที่มันใหญ่ขึ้น แบบถ้างานยุ่งและมีเวลาว่างก็จะวางคิวหาเวลาไปเที่ยวกับครอบครัว
และพิธีกรรู้มาว่า บิวกิ้นมีความสามารถพิเศษลอกเลียนคาแร็กเตอร์คนอื่นได้
เจ้าตัวก็รีบพูดเลย ไม่จริง ผมไม่ค่อยชอบเลียนแบบใครหรอก
แต่พอบอก พีพี เท่านั้นแหละ ฮีก็เอาเลย 555555555
https://twitter.com/buubillkin/status/1775506047136104716
จากนั้นบิวกิ้นเกือบได้ช็อกเมื่อพิธีกรอบอกวันนี้พีพีมาด้วย แต่เป็น
PP ที่ย่อมาจาก Phuak Pongsatorn (เผือก พงศธร)😆
มาถึงก็ได้ให้กู๋โส่ยมาเม้าท์เอ็มในหนังเรื่องหลานม่าว่าตอนอยู่ในกองเป็นยังไง
เผือก: บิวกิ้นเนี่ย เขาจะเป็นคนสนุกสนาน เวลาในกองเราไม่ได้ถ่าย เราพัก รอคิว เขาก็ชอบเป็นคนที่ชอบแบ่งปันความสนุกสนานให้กับคนอื่นๆในกอง โดยที่ไม่ได้สนใจหรอกว่าเขาจะนอนอยู่รึเปล่า หรือคนนั้นอาจจะท่องบทอยู่ เขาก็จะเข้าไปแบ่งปันความสนุกสนาน อย่างตอนนอนอยู่ ชอบพาน้องนักแสดงเด็กให้มาเล่นอยู่นั่น
บิวกิ้น: เห็นพี่เผือกเขามีความเป็น Family man เขามีลูกที่วัยใกล้ๆ กับน้องฮิมาวาริ
พอผมพาน้องไปหาพี่เผือกก็คิดว่าพี่เผือกจะเข้าใจในการดูแลเด็ก
เผือก: ทุกครั้งที่ผมเห็นฮิมากำลังเดินตรงเข้ามาหาผม โดยมีบิวกิ้นประคองหลัง ผมก็จะบอก กู๋เคยสับไก่ เลือดมันกระเซ็นใส่หน้าเลย
บิวกิ้น: เขาอยากเล่นซ่อนแอบ ชอบให้กองคึกคัก กลัวมันจะเหงา ไม่อยากให้บรรยายกาศมันเครียด
สบายๆ
พิธีกร: ดูหน้าเขาด้วย 😂
ถึงจะขี้แกล้งเป็นตัวป่วยในกอง แต่พี่เผือกก็ชมบิวกิ้นว่า นี่คือความหวังของวงการภาพยนตร์ไทย
ผมเคยเจอบิวกิ้นที่งานอีเว้นท์แต่เขามาในบทบาทของนักร้อง ผมรู้สึกว่านี่คือความหวังของวงการดนตรีไทย
และพิธีกรที่โยนมุกโยนอะไรเขาน่าจะเป็นความหวังของวงการพิธีกรไทย
อันหลังๆ คือบ้าจี้เกิ๊นคุณน้า 555555555
โอ๊ยและยังให้ได้หัวเราะไม่หยุด เมื่อพี่เผือกเขามีความตื่นเต้นเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมที่ต้องมาออกรายการกับบิ้วกิ้น
ก็เล่าว่า แอบถามสไตลิสต์ส่วนตัวว่าบิวกิ้นแต่งตัวยังไง บอกเบาๆ รูป Ref ที่ส่งมาเป็นฮู้ดดี้ง่ายๆ จนมาเห็นนี่แหละ XD
แต่ถ้าให้ชื่นชมบิวกิ้นจริงๆ ในสายตารุ่นพี่ เขาเป็นคนตั้งใจทำงาน การจะล้างภาพการเป็นเด็กกะโปโลคนนึงมันก็ไม่ง่าย การลดนํ้าหนัก ความตั้งใจเวลาเขาต้องรับมือกับนักแสดงอายุมากกว่าเขา ซึ่งเขาแบกมันไว้ได้ เขาจะใจเย็นเล่นกับอาม่า และผมไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างมันอยู่กับอาม่ามันทำอะไรบ้าง ไม่กล้าดูกลัวเศร้า ส่วนบิวกิ้นก็พูดถึงความพิเศษของหนังเรื่องนี้ว่า มันไม่มีช็อตระเบิดอารมณ์หรืออะไร เรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้นกับทุกคน การดูหนังเรื่องนี้จบเราไม่ได้ฟูมฟาย
แค่รู้สึกเราช็อตตอนเดินออกจากโรงเราคิดอะไรๆไปอีกเป็นวัน
แล้วในรายการยังมีให้ Stand-up Comedy ไปหาข้อมูลมาปล่อยของแซวบิวกิ้นด้วย
แต่ละคนก็ได้เจอความบิวกิ้นที่เหล่าบีไซด์และเพนกวิ้นคุ้นเคยกันดี อาทิ
- ไปเจอคลิปรวมเดี่ยวไมโครโฟนบายบิวกิ้น มีคนตัดไปลง ทำไมบิวกิ้นเพลงถึงขึ้นชาร์จทุกครั้งเลย
บิวกิ้นเซด ผมควบคุมเพลงไม่ให้มันไม่ขึ้นชาร์จไม่ได้จริงๆ ครับ 😎
- คุณจดทะเบียนบริษัทนึง พีพีจดทะเบียนบริษัทนึง แต่อาจจะมารวมกันได้ ที่มารวมกันได้หมายถึงจดทะเบียนร่วมกันใช่ไหมครับ😌
- ดูสัมภาษณ์นึงของพี่บิวกิ้นมา เขาถามว่า สิ่งที่ทำไม่สำเร็จในปีที่แล้วคืออะไร แล้วสิ่งที่อยากทำสำเร็จในปีนี้คืออะไร บิวกิ้นตอบว่า อยากหล่อและเท่ให้น้อยลง คือมันต้องเป็นคนยังไง เอ้ย! ไม่ได้สิ
- ด้วยความที่บิวกิ้นเป็นเจ้าพ่อโฆษณา แบบเดินไปไหนมาไหนก็เจอ เลยจะทำชาเล้นจ์ เดินยังไง ไม่ให้เจอบิวกิ้น เพราะทุกวันนี้เหมือนบิวกิ้นแลนด์ ขนาดในไข่ต้มคุณยังอยู่ เลยพยายามเดินปิดตาๆ มาขึ้นบีทีเอสโอเคไม่เจอ อยู่มีรถไฟผ่านมา
เจอบิวกิ้นตัวเท่านี่ คุณจะอยู่ทุกที่ไม่ด้าย
ซึ่งแต่ละคนก็ท็อปฟอร์มจับจุดโดนเส้นบิวกิ้นทุกคน 😂
#บิวกิ้นพุฒิพงศ์
โดนเส้นแฟนคลับไปตามๆ กัน ในรายการ Katanyu Tonight
ถ้าถามทำไมถึงตั้งชื่อว่า Tempo
บิวกิ้น: จริงๆ ตอนเด็กๆ ผมชอบเข้าวัดเข้าวามาก
พิธีกร: อ๋อผมออกเสียงผิด จริงๆ แล้วคือ Temple อ้าว นี่ไม่ได้ไปร้องเพลง
บิวกิ้น: ไม่ใช่ๆ ไปไหว้พระ เข้าวัด 😂
ได้เล่าเรื่องที่มาที่ไปของการได้มาเป็นศิลปิน เริ่มแรกเป็นนักแสดงสังกันค่ายนาดาวและตอนนั้นทางค่าย
อยากเปิดค่ายทำเพลงประกอบซีรีส์ด้วย และเขาเห็นว่าเราก็มีได้ไปร้องโคฟเวอร์ ไปช่วยงานโรงเรียนร้องเพลงบ้าง
โมเมนต์ที่ได้ขึ้นไปร้องเพลงในฐานะศิลปิน ก็ตื่นเต้นไม่กล้าสบตากับใคร ความตื่นเต้นมันก็ดีนะ แต่มันก็เป็นเรื่องที่เหนื่อย เหนื่อยจะลุ้น จริงๆ ไม่ค่อยชอบความตื่นเต้นเท่าไร แต่ทุกครั้งที่ผ่านเวลานั้นไปแล้ว แล้วเรามองกลับไป จะรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดี ทุกวันนี้ควบคุมความตื่นเต้นได้ดีขึ้น ด้วยความเก่งที่เพิ่มขึ้นด้วยมั้งฮะ 😎
มีคุยกันถึงเรื่องความชอบฟุตบอลของบิวกิ้นด้วยว่า เดิมทีเจ้าตัวอยากเป็นนักฟุตบอลเล่นในตำแหน่งโกล
แต่่จะไม่ค่อยได้ลง มีวันนึงเลยคิดแผนให้ได้ลงเล่นคือ ไม่เอาถุงมือมา และใส่เสื้อแขนสั้น แต่โกลต้องใส่เสื้อแขนยาว
นับตั้งแต่วันนั้นเลยได้ย้ายการซ้อมจากซ้อมเป็นโกลมาเป็นผู้เล่นเลย แต่พอโตขึ้นเริ่มร้อนเริ่มกลัวแดด เลยเลิกเล่นไปในที่สุด
จากนั้นก็ได้เล่นชงตบมุกกับพี่พิธีกรสนุกสนาน จนได้เห็นคุณเขานั่งเอิ๊กอ๊ากแบบนี้อยู่พักใหญ่ๆ เลย
ในฐานะนักแสดงบิวกิ้นยังได้มาพูดถึงความแตกต่างของการทำงานในกองถ่ายซีรีส์กับภาพยนตร์ด้วย
บิวกิ้นบอก การเล่นหนังจะมีการ craft มากกว่าซีรีส์ ระยะเวลาที่ถ่ายซีนที่ถ่ายต่อวันมันน้อยกว่า เลยต้อง craft กับทุกดีเทล
ทั้งแอคติ้ง มุมกล้องจะถ่ายออกมาให้ดูมีความ cinematic ที่สุด และการได้เล่นเรื่อง หลานม่า ก็ให้คุณค่ากับเราในฐานะการเป็นนักแสดง ได้เรียนรู้การทำงานใหม่ๆ ได้ลองเป็นตัวละครใหม่ๆ การเป็นมนุษย์ก็ได้สะท้อนกลับมาเห็นครอบครัวของตัวเอง
ในบางมุมที่เรามองผ่านมันไป ผมอาจจะคล้ายกับหนังเยอะ อาจเป็นบ้านที่อยู่กันหลายครอบครัวในบ้านเดียวกัน บางทีเราอาจไม่เข้าใจความคิดของคนในเจเนเรชั่นที่ต่างกัน มันสะท้อนให้กลับมาเห็นว่าจริงๆ เขาต้องการอะไร เล่นหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เรา กลับไปให้ความสำคัญกับครอบครัวมากขึ้น มันทำให้เราเห็นว่าเราทำวันนี้และมองเห็นครอบครัวเป็นสิ่งที่มันใหญ่ขึ้น แบบถ้างานยุ่งและมีเวลาว่างก็จะวางคิวหาเวลาไปเที่ยวกับครอบครัว
และพิธีกรรู้มาว่า บิวกิ้นมีความสามารถพิเศษลอกเลียนคาแร็กเตอร์คนอื่นได้
เจ้าตัวก็รีบพูดเลย ไม่จริง ผมไม่ค่อยชอบเลียนแบบใครหรอก
แต่พอบอก พีพี เท่านั้นแหละ ฮีก็เอาเลย 555555555
https://twitter.com/buubillkin/status/1775506047136104716
จากนั้นบิวกิ้นเกือบได้ช็อกเมื่อพิธีกรอบอกวันนี้พีพีมาด้วย แต่เป็น
PP ที่ย่อมาจาก Phuak Pongsatorn (เผือก พงศธร)😆
มาถึงก็ได้ให้กู๋โส่ยมาเม้าท์เอ็มในหนังเรื่องหลานม่าว่าตอนอยู่ในกองเป็นยังไง
เผือก: บิวกิ้นเนี่ย เขาจะเป็นคนสนุกสนาน เวลาในกองเราไม่ได้ถ่าย เราพัก รอคิว เขาก็ชอบเป็นคนที่ชอบแบ่งปันความสนุกสนานให้กับคนอื่นๆในกอง โดยที่ไม่ได้สนใจหรอกว่าเขาจะนอนอยู่รึเปล่า หรือคนนั้นอาจจะท่องบทอยู่ เขาก็จะเข้าไปแบ่งปันความสนุกสนาน อย่างตอนนอนอยู่ ชอบพาน้องนักแสดงเด็กให้มาเล่นอยู่นั่น
บิวกิ้น: เห็นพี่เผือกเขามีความเป็น Family man เขามีลูกที่วัยใกล้ๆ กับน้องฮิมาวาริ
พอผมพาน้องไปหาพี่เผือกก็คิดว่าพี่เผือกจะเข้าใจในการดูแลเด็ก
เผือก: ทุกครั้งที่ผมเห็นฮิมากำลังเดินตรงเข้ามาหาผม โดยมีบิวกิ้นประคองหลัง ผมก็จะบอก กู๋เคยสับไก่ เลือดมันกระเซ็นใส่หน้าเลย
บิวกิ้น: เขาอยากเล่นซ่อนแอบ ชอบให้กองคึกคัก กลัวมันจะเหงา ไม่อยากให้บรรยายกาศมันเครียด
สบายๆ
พิธีกร: ดูหน้าเขาด้วย 😂
ถึงจะขี้แกล้งเป็นตัวป่วยในกอง แต่พี่เผือกก็ชมบิวกิ้นว่า นี่คือความหวังของวงการภาพยนตร์ไทย
ผมเคยเจอบิวกิ้นที่งานอีเว้นท์แต่เขามาในบทบาทของนักร้อง ผมรู้สึกว่านี่คือความหวังของวงการดนตรีไทย
และพิธีกรที่โยนมุกโยนอะไรเขาน่าจะเป็นความหวังของวงการพิธีกรไทย
อันหลังๆ คือบ้าจี้เกิ๊นคุณน้า 555555555
โอ๊ยและยังให้ได้หัวเราะไม่หยุด เมื่อพี่เผือกเขามีความตื่นเต้นเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมที่ต้องมาออกรายการกับบิ้วกิ้น
ก็เล่าว่า แอบถามสไตลิสต์ส่วนตัวว่าบิวกิ้นแต่งตัวยังไง บอกเบาๆ รูป Ref ที่ส่งมาเป็นฮู้ดดี้ง่ายๆ จนมาเห็นนี่แหละ XD
แต่ถ้าให้ชื่นชมบิวกิ้นจริงๆ ในสายตารุ่นพี่ เขาเป็นคนตั้งใจทำงาน การจะล้างภาพการเป็นเด็กกะโปโลคนนึงมันก็ไม่ง่าย การลดนํ้าหนัก ความตั้งใจเวลาเขาต้องรับมือกับนักแสดงอายุมากกว่าเขา ซึ่งเขาแบกมันไว้ได้ เขาจะใจเย็นเล่นกับอาม่า และผมไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างมันอยู่กับอาม่ามันทำอะไรบ้าง ไม่กล้าดูกลัวเศร้า ส่วนบิวกิ้นก็พูดถึงความพิเศษของหนังเรื่องนี้ว่า มันไม่มีช็อตระเบิดอารมณ์หรืออะไร เรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้นกับทุกคน การดูหนังเรื่องนี้จบเราไม่ได้ฟูมฟาย
แค่รู้สึกเราช็อตตอนเดินออกจากโรงเราคิดอะไรๆไปอีกเป็นวัน
แล้วในรายการยังมีให้ Stand-up Comedy ไปหาข้อมูลมาปล่อยของแซวบิวกิ้นด้วย
แต่ละคนก็ได้เจอความบิวกิ้นที่เหล่าบีไซด์และเพนกวิ้นคุ้นเคยกันดี อาทิ
- ไปเจอคลิปรวมเดี่ยวไมโครโฟนบายบิวกิ้น มีคนตัดไปลง ทำไมบิวกิ้นเพลงถึงขึ้นชาร์จทุกครั้งเลย
บิวกิ้นเซด ผมควบคุมเพลงไม่ให้มันไม่ขึ้นชาร์จไม่ได้จริงๆ ครับ 😎
- คุณจดทะเบียนบริษัทนึง พีพีจดทะเบียนบริษัทนึง แต่อาจจะมารวมกันได้ ที่มารวมกันได้หมายถึงจดทะเบียนร่วมกันใช่ไหมครับ😌
- ดูสัมภาษณ์นึงของพี่บิวกิ้นมา เขาถามว่า สิ่งที่ทำไม่สำเร็จในปีที่แล้วคืออะไร แล้วสิ่งที่อยากทำสำเร็จในปีนี้คืออะไร บิวกิ้นตอบว่า อยากหล่อและเท่ให้น้อยลง คือมันต้องเป็นคนยังไง เอ้ย! ไม่ได้สิ
- ด้วยความที่บิวกิ้นเป็นเจ้าพ่อโฆษณา แบบเดินไปไหนมาไหนก็เจอ เลยจะทำชาเล้นจ์ เดินยังไง ไม่ให้เจอบิวกิ้น เพราะทุกวันนี้เหมือนบิวกิ้นแลนด์ ขนาดในไข่ต้มคุณยังอยู่ เลยพยายามเดินปิดตาๆ มาขึ้นบีทีเอสโอเคไม่เจอ อยู่มีรถไฟผ่านมา
เจอบิวกิ้นตัวเท่านี่ คุณจะอยู่ทุกที่ไม่ด้าย
ซึ่งแต่ละคนก็ท็อปฟอร์มจับจุดโดนเส้นบิวกิ้นทุกคน 😂
#บิวกิ้นพุฒิพงศ์
ขอบคุณภาพและคลิปจาก
@KatanyuTonight
แก้ไขล่าสุด 9 เม.ย. 67 22:42 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
| ตั้งกระทู้โดย Windows 10
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google