เกร็ดน่ารู้จาก The Social Network

เกร็ดน่ารู้
  • ผู้บริหารของเว็บไซต์เฟซบุ๊ก มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวใดๆ ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ และไม่เคยพบกับ เจสซี ไอเซนเบิร์ก ที่รับบทเป็นตัวเขาในภาพยนตร์ด้วย
  • ผู้เขียนบท อารอน ซอร์คิน และผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ ร่วมกันออกแบบการเล่าเรื่องในภาพยนตร์ให้คลุมเครือ ด้วยการไม่เรียงตามลำดับเวลาและไม่เลือกสนับสนุนตัวละครฝ่ายใด แต่ให้ตัวละครแต่ละตัวเป็นผู้เล่าเรื่องอย่างเท่าเทียมกัน โดยที่พวกเขาต่างก็คิดว่าตนเป็นฝ่ายถูก สุดท้ายแล้วภาพยนตร์จะทิ้งคำถามไว้ให้ผู้ชมหาคำตอบด้วยตัวเอง
  • อารอน ซอร์คิน ได้รับข้อเสนอให้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้จากหนังสือ The Accidental Billionaires: The Founding of Facebook, A Tale of Sex, Money, Genius, and Betrayal ของ เบน เมซริช อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นหนังสือยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง มีเพียงโครงเรื่องยาว 14 หน้าเท่านั้น เบน เริ่มเขียนหนังสือไปพร้อมกับที่ แอรอน เขียนบท แล้วก็เขียนจบในช่วงที่บทเกือบเสร็จสมบูรณ์
  • เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ถือกำเนิดในเดือนกุมภาพันธ์ 2004 โดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก นักศึกษาฮาร์วาร์ดอายุ 19 ปีเป็นผู้เขียนโปรแกรมขึ้น นักศึกษากว่าครึ่งมหาวิทยาลัยลงทะเบียนเข้าใช้ภายในเดือนแรก จนมีสมาชิก 5.5 ล้านคนในเดือนธันวาคม 2005 ก่อนจะแพร่กระจายไปยังผู้ใช้กว่า 500 ล้านคนทั่วโลก เฟซบุ๊ก เติบโตอย่างก้าวกระโดดและได้รับการประเมินค่าสูง 25 พันล้านเหรียญ ขณะเดียวกันก็มีคดีฟ้องร้องแย่งชิงความเป็นเจ้าของหลายครั้ง อดีตเพื่อนนักศึกษาอย่างฝาแฝด ไทเลอร์ วิงเคิลวอสส์ และ คาเมรอน วิงเคิลวอสส์ อ้างว่า มาร์ก ขโมยความคิดเรื่องเครือข่ายทางสังคมจากพวกเขา และ เอดัวร์โด ซาเวริน อดีตหุ้นส่วนทางธุรกิจของ มาร์ก กล่าวว่าตนถูกบีบให้พ้นบริษัท
  • อารอน ซอร์คิน รวบรวมข้อมูลเพื่อเขียนบท ด้วยการสร้างเว็บเพจถามความเห็นของผู้คนที่มีต่อการกำเนิดของเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก เว็บเพจนั้นมีผู้เยี่ยมชมราว 10,000 คนก่อนที่เขาจะปิดมันลง นอกจากนี้เขายังอ่านบันทึกของ เบน เมซริช ผู้เขียนหนังสือ The Accidental Billionaires: The Founding of Facebook, A Tale of Sex, Money, Genius, and Betrayal และค้นคว้าบันทึกคดีต่างๆ พร้อมสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม แอรอน ไม่สามารถเข้าถึงตัว มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง เฟซบุ๊ก ที่กลายมาเป็นตัวละครหลักของภาพยนตร์ได้
  • ผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ เรียกนักแสดงเข้ามาฝึกซ้อมก่อนเปิดกล้องนานหลายสัปดาห์ เพื่อให้พวกเขาเข้าถึงจังหวะการพูด และมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันอย่างเป็นธรรมชาติ เดวิด ปรับแก้บทพูดที่ อารอน ซอร์คิน เขียนไว้ให้ใช้ภาษาง่ายๆ ในชีวิตประจำวันให้มากที่สุด เมื่อถ่ายทำจริง เขาขอให้นักแสดงถ่ายแต่ละฉากซ้ำประมาณ 70-200 เทก เพราะต้องการให้ทุกคนพูดด้วยระดับความเร็วและความผ่อนคลายเหมือนในชีวิตจริงที่คนมักพูดพร้อมกันหรือเหลื่อมกัน
  • เริ่มถ่ายทำฉากที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่รับบทโดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก และ เอดัวร์โด ซาเวริน ที่รับบทโดย แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ ตะโกนเถียงกันในบ้านที่พาโล อัลโต ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่หนึ่งทุ่ม แต่ผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ ไม่พอใจกับผลงานที่ได้ จึงถ่ายซ้ำหลายครั้งจนเลยเวลาเที่ยงคืน และในที่สุด เดวิด ก็พอใจกับฉากนี้ในตอนที่นักแสดงทั้งคู่หมดแรงแล้ว
  • ฉากแรกในภาพยนตร์ มีเด็กสาวคนหนึ่งพูดกับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ว่า ฉันไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าเธอพูดอะไรอยู่ ผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ จึงต้องการให้ เจสซี ไอเซนเบิร์ก ผู้รับบท มาร์ก พูดเร็วพอสมควร มิฉะนั้นผู้ชมจะรู้สึกไม่นับถือตัวละครเด็กสาวคนนั้น
  • ผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ รักษาความตึงเครียดในฉากด้วยการกระซิบบอกนักแสดงแต่ละคนเป็นการส่วนตัวว่าพวกเขาเป็นฝ่ายถูก เช่น ในฉากให้การในศาล เดวิด บอกฝ่ายหนึ่งว่าเขาโดนโกง ก่อนจะเดินไปบอกอีกฝ่ายว่าเขากำลังจะโดนแย่งตำแหน่งไป
  • จัสติน ทิมเบอร์เลก ที่รับบทเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแนปสเตอร์ อย่าง ฌอน ปาร์กเกอร์ เคยได้พบ ฌอน ก่อนจะมีการก่อตั้งเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ส่วน อาร์มี แฮมเมอร์ กับ จอช เพนซ์ ที่รับบท คาเมรอน วิงเคิลวอสส์ และ ไทเลอร์ วิงเคิลวอสส์ เคยพบฝาแฝด วิงเคิลวอสส์ ตัวจริงขณะกำลังถ่ายทำ และฝาแฝดตัวจริงก็พอใจกับการแสดงของพวกเขาทั้งคู่
  • ผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ ไม่พบนักแสดงฝาแฝดที่เหมาะกับบทฝาแฝด คาเมรอน วิงเคิลวอสส์ และ ไทเลอร์ วิงเคิลวอสส์ เขาจึงให้นักแสดง 2 คนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันมารับบทนี้ โดยให้ อาร์มี แฮมเมอร์ รับบท คาเมรอน และให้ จอช เพนซ์ รับบท ไทเลอร์ แต่ผู้กำกับคิดว่า อาร์มี ดูเหมือนแฝดตัวจริงมากกว่า เขาจึงให้แผนกวิชวลเอฟเฟกต์นำใบหน้าของ อาร์มี มาแทนที่ใบหน้าของ จอช ในบางฉาก หรือบางครั้งก็ให้ อาร์มี แสดงเป็นฝาแฝดทั้งคู่ แล้วให้แผนกวิชวลเอฟเฟกต์นำการแสดง 2 ครั้งของเขามารวมเป็นช็อตเดียวกัน
  • เจสซี ไอเซนเบิร์ก ผู้รับบท มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก มีลูกพี่ลูกน้องทำงานอยู่ที่บริษัทเฟซบุ๊ก และได้ใกล้ชิดกับ มาร์ก ตัวจริง
  • เดิมภาพยนตร์ได้รับเรตอาร์ แต่ผู้สร้างตัดต่อจนได้รับเรตต่ำลงมาเป็นพีจี-13 เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมในวงกว้างขึ้น
  • แบนเนอร์ดั้งเดิมของหัวเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ออกแบบโดย แอนดรูว์ แมกคอลลัม เพื่อนของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ โดยใช้ภาพของนักแสดง อัล ปาชิโน ในวัยหนุ่ม ส่วนในภาพยนตร์นั้น ผู้สร้างเปลี่ยนมาใช้ภาพของ เจสซี ไอเซนเบิร์ก ผู้รับบท มาร์ก ในเรื่องแทน
  • ฉากที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่รับบทโดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก และ เอริกา อัลไบรต์ ที่รับบทโดย รูนีย์ มารา แยกทางกันตอนต้นเรื่อง ในบทภาพยนตร์นั้นมีความยาวถึง 8 หน้ากระดาษ และถ่ายทำไปทั้งหมด 99 เทก
  • ผู้เขียนบท อารอน ซอร์คิน แสดงบทรับเชิญเป็นผู้บริหารบริษัทโฆษณาที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่รับบทโดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก และ เอดัวร์โด ซาเวริน ที่รับบทโดย แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ ไปพบในเมืองนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา
  • ตัวละครคนหนึ่งกล่าวขณะให้การในศาลว่าเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ทำให้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กลายเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ซึ่งมีบุคคลสำคัญอื่นๆ อย่างผู้ชนะรางวัลโนเบล 19 คน ผู้ชนะรางวัลพูลิตเซอร์ 15 คน นักกีฬาโอลิมปิก 2 คน และนักแสดงภาพยนตร์คนหนึ่ง ตามข้อเท็จจริง นักแสดงคนนั้นคือ นาตาลี พอร์ตแมน ซึ่งศึกษาอยู่ที่ฮาร์วาร์ดในช่วงปี 1999-2003 เธอช่วยให้ข้อมูลแก่ผู้เขียนบท อารอน ซอร์คิน เกี่ยวกับเหตุการณ์ในมหาวิทยาลัยช่วงที่เว็บไซต์เฟซบุ๊ก เริ่มถือกำเนิดขึ้นด้วย
  • ผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ พอใจที่ได้ร่วมงานกับ รูนีย์ มารา ในบท เอริกา อัลไบรต์ มาก จึงเลือกเธอมารับบทนำเป็น ลิสเบธ ซาลันเดอร์ ในภาพยนตร์เรื่องถัดไปของเขา The Girl with the Dragon Tattoo (2011)
  • อาร์มี แฮมเมอร์ ผู้รับบท คาเมรอน วิงเคิลวอสส์ และ จอช เพนซ์ ผู้รับบท ไทเลอร์ วิงเคิลวอสส์ ใช้เวลา 10 เดือนอยู่ด้วยกัน เพื่อสร้างบุคลิกที่เหมือนฝาแฝดกันขึ้น
  • จัสติน ทิมเบอร์เลก ลดน้ำหนัก 15-17 ปอนด์ เพื่อรับบท ฌอน ปาร์กเกอร์ ในเรื่องนี้ เพราะเขาคิดว่าการมีรูปร่างผอมเพรียวจะทำให้เขาดูอายุน้อยลง
  • เจสซี ไอเซนเบิร์ก ผู้รับบท มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เกิดในปี 1983 ขณะที่ มาร์ก ตัวจริงเกิดในปี 1984
  • มีฉากที่ตัวละคร มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่รับบทโดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก เรียกฝาแฝด วิงเคิลวอสส์ ที่รับบทโดย อาร์มี แฮมเมอร์ และ จอช เพนซ์ ว่า วิงเคิลวี ซึ่งเป็นการแปลงให้คำนามที่ลงท้ายด้วย s เป็นรูปพหูพจน์ในภาษาลาติน ทั้งนี้เพราะ มาร์ก ตัวจริงนั้นเรียนภาษาลาตินที่สถาบัน ฟิลลิป เอ็กเซเทอร์ อคาเดมี ได้คะแนนดี แล้วยังเรียนระดับที่ยากขึ้นไปขณะอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
  • เจสซี ไอเซนเบิร์ก เตรียมตัวรับบทเป็น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ด้วยการสมัครเข้าใช้งานในเว็บไซต์นั้นเพียง 2 สัปดาห์ก่อนถ่ายทำ และเมื่อปิดกล้อง เจสซี ก็ยกเลิกบัญชีของเขาในเว็บไซต์ดังกล่าว

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • ลัดดาแลนด์ลัดดาแลนด์เข้าฉายปี 2011 แสดง สหรัถ สังคปรีชา, ปิยธิดา วรมุสิก, สุทัตตา อุดมศิลป์
  • 7 ประจัญบาน 27 ประจัญบาน 2เข้าฉายปี 2005 แสดง พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง, สามารถ พยัคฆ์อรุณ, ทศพล ศิริวิวัฒน์
  • ThorThorเข้าฉายปี 2011 แสดง Chris Hemsworth, Anthony Hopkins, Natalie Portman

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Homesman - นิโคลัจ อาร์เซล ผู้กำกับชาวเดนมาร์ก เป็นผู้เสนอให้ ซอนยา ริชเตอร์ รับบท โกร หลังจาก ทอมมี ลี โจนส์ ซึ่งทำหน้าที่กำกับเรื่องนี้ ให้ นิโคลัจ ช่วยหานักแสดงชาวเดนมาร์ก ซึ่งตอนนั้น A Royal Affair (2012) ผลงานกำกับของ นิโคลัจ เพิ่งได้รับเลือกเข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมพอดี อ่านต่อ»
  • Planes: Fire & Rescue - ตัวละครรถดับเพลิง พูลาสกี ที่ให้เสียงโดย แพทริก วอร์เบอร์ตัน ตั้งตามชื่ออุปกรณ์ดับเพลิงที่มีลักษณะเป็นขวานด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านเป็นจอบ โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้ตั้งตามผู้ประดิษฐ์นาม เอ็ด พูลาสกี อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

The Queen's Corgi The Queen's Corgi เรื่องราวการผจญภัยของเจ้าคอร์กีตัวแสบ เร็กซ์ (แจ็ก ไวท์ฮอล) หลังจากพลัดหลงกับองค์ราชินี (จูลี่ วอลเตอร์ส) และเข้าไปพัวพ...อ่านต่อ»