วิจารณ์ Seeking a Friend for the End of the World

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 9 ต.ค. 56 07:29

    ไม่ได้ดูตั้งแต่แรกแต่เราว่าเราชอบเรื่องนี้นะ
    บรรยากาศมันดูอุ่นๆดี แล้วมันก็ไม่งี่เง่าด้วย
    ชอบเสียงนางเอกตอนหัวเราะ ขำเหมือนขำจริงๆ แสดงดีว่างั้นเหอะ
    ชอบพระเอกด้วย ดูเป็นคนนิสัยดีมากก

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 21 มี.ค. 56 20:36

    ดูสิยังขำกันอยู่ไหม?

    ตลกร้ายอย่างมีสไตล์ อาจเป็นคำที่ใช้นิยามหนังเรื่องนี้ได้อย่างดี คงมีคนดูสองประเภทที่จะกล่าวถึงหนังเรื่องน้คือถ้าไม่รักมากก็เกลียดมาก ใครที่ตามดูหนังเรื่องนี้จากเครดิตผู้กำกับ Lorene Scafaria หนังรักวัยรุ่นเรื่องก่อนหน้าอย่าง Nick and Norah's Infinite Playlist อาจรู้สึกแปลกเมื่อได้ชมผลงานถัดมาของเขา

    Seeking a Friend for the End of the World เป็นหนังรักโลกแตกที่ออกมาต้อนรับปีโลก(ที่คาดว่าจะ)แตก ด้วยเรื่องราวของคนสองคนอาศัยอยู่ในห้องเช่าใกล้ๆกันแต่ไม่เคยทักทายรู้จักกัน จนต่างฝ่ายต่างช้ำรักและถึงเวลาที่กามเทพจะได้แผลงศร ในวันโลกแตก แค่เท่านี้ก็น่าจะดึงดูดคอหนังที่ชอบอะไรแบบติสๆได้เป็นอย่างดี ไม่เว้นแม้กระทั่งผม

    (สำหรับผม)Seeking a Friend for the End of the World ไม่ได้ทำให้รู้สึกผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังให้ความรู้สึกว่าหนังมันหนักกว่า โตกว่าภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้าของ Scafaria ด้วยซ้ำไป โดยไสต์จะเป็นอะไรแบล็ดคอเมดี้ จิกกัด เสียดสี พฤติกรรมตัวละครที่บ้าๆบวมๆ รวมถึงหนังเล่าออกมาในโหมดหนัง Road Movie ซึ่งเป็นอะไรที่เข้าทางผมมาก ส่งผลให้ Seeking a Friend for the End of the World กลายเป็นหนึ่งความทรงจำดีๆของผมกับหนังปี 2012

    อาจคิดว่าแปลกเมื่อจับตลกแห่งยุค Steve Carell มาคู่กับสาวสวยมากคุณภาพ Keira Knightley ในหนังรัก แต่เมื่อได้ดูแล้วจะรู้ว่า เป็นการจับคู่ที่ดีมากทีเดียว เคมีของทั้งคู่เข้ากันได้ดีมากกว่าคนวัยเดียวกันด้วยซ้ำ

    หาก Nick and Norah's Infinite Playlist ทำให้คุณต้องมนต์ไปกับบทเพลงที่ประทับจิตแล้ว Seeking a Friend for the End of the World ก็ไม่ต่างกันซ้ำเพลงที่ถูกใช้ในหนังยังเป็นอะไรที่เข้าขั้นงานคลาสสิคเช่นเพลงป็อบ The Air That I Breathe ยุค 60ของศิลปินกลุ่มชาวอังกฤษ The Hollies หรือเพลง Dance Hall Days ของ Wang Chung ต่างก็มีที่ทางในหนังอย่างลงตัว ถูกใช้งานอย่างมีศิลปะ

    Seeking a Friend for the End of the World ไม่ใช่หนังฟิลกู้ดหรือดราม่าจัดแต่หนังเลือกที่จะยืนคาบเส้น(แม้ว่าตอนจบจะทำผมน้ำตาไหลก็ตาม)แต่ก็นั่นล่ะคือสิ่งที่หนังต้องการบอกกับคนดูด้วยการปูทางมาตั้งแต่ต้น ทั้งหนังยังให้บทเรียนดีๆกับคนดู พวกเราต่างเป็นผู้รอดชีวิตจากปี 2012 แล้วเวลาที่เราได้ในตอนนี้ เราควรทำอะไรให้มากกว่าที่เป็นอยู่ดีไหม อย่างน้อยวันหนึ่งจะได้ไม่นั่งบ่นกับตัวเองว่า "รู้แบบนี้ วันนั้นฉันทำไปก็ดี"

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 7 ก.ค. 55 00:33

    โลกจะดับเรามารักกันก่อน

    หนังดราม่าคอมเมดี้ของผู้กำกับหญิง�Lorene Scafaria เรื่องนี้สนุกครบสูตรครับ! ตอนแรกไม่ค่อยมั่นใจว่าเคมีของสองคนนี้จะเข้ากันได้ ระหว่างเคียร่า ไนท์ลี่ย์ กับ สตีฟ คาร์เรล แต่หนังได้การแสดงที่ยอดเยี่ยมก็เลยทำให้ความสนุกดูลื่นไหล สตีฟ คาร์เรล ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเค้าก็แสดงดราม่าได้ดีจนกลบภาพติดตลกไปได้เหมือนกัน�

    ด็อดจ์ (สตีฟ คาร์เรล) ชายหนุ่มที่ทำงานบริษัทประกัน ดวงตกถึงขีดสุด เค้าต้องอยู่ตัวคนเดียว เพราะภรรยาเกิดสติแตกหนีออกจากบ้านไป ในวันที่อุกกาบาตกำลังจะพุ่งเข้าชนโลก ขณะที่เพื่อนๆต่างก็ใช้ชีวิตแบบสุดขั้ว ปาร์ตี้แบบหลุดโลก แต่เค้าเลือกที่จะอยู่คนเดียวแบบเงียบๆ ระหว่างเกิดจราจล ด็อดจ์ตัดสินใจพุ่งเป้าไปที่การเดินทาง เพื่อออกตามหาแฟนสาวของเขา (คนละคนกับภรรยาที่หนีไป) ซึ่งเธอคนนี้ คือรักแรกสมัยเรียนไฮสคูล โดยได้พ่วง เพนนี (เคียร่า ไนท์ลี่ย์) สาวเพื่อนบ้าน ที่ไม่เคยคุยกันเลย เธอพลาดเที่ยวบินรอบสุดท้าย อดกลับไปหาพ่อกับแม่ เลยต้องร่วมออกเดินทางไปกับด็อดจ์ในระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ชุนมุลวุ่นวาย แล้วมิตรภาพและสิ่งดีๆก็เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางของช่วงวาระสุดท้ายของโลกใบนี้ ขอบอกว่ามีซึ้ง!

    Seeking a Friend for the End of the World โลกกำลังจะดับแต่ความรักกำลังนับหนึ่ง เป็นหนังโร้ดมูฟวี่ครับ ซึ่งมีทั้งตลกร้าย มีทั้งคำเสียดสีที่แฝงอยู่ในคำพูด มีเซอร์ไพรส์ มีเพลงประกอบเพราะๆฟังแล้วอิ่มเอม เป็นอีกครั้งที่หยิบเอาเหตุการณ์หายนะมานำเสนอเป็นหนังฟีลกู๊ดดูง่าย พร้อมคำโปรยเดิร์นๆ คือ
    ขอแค่พบคนที่ "ใช่" ก็ช่างหัวหายนะใดๆในจักรวาล ...แล้วถ้าเป็นเราล่ะ? จะใช้ชีวิตที่เหลือทำอะไร อืม ก็น่าคิดนะ

    แจ้งลบ
มีทั้งหมด 3 วิจารณ์
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • What If - แมรี อลิซาเบธ วินสเตต, เดบอราห์ แอน วอลล์, โรส เบิร์น และ รีเบกกา ฮอลล์ ล้วนเป็นนักแสดงที่ได้รับการพิจารณาให้รับบท ชานทรี ที่สุดท้ายแล้วรับบทโดย โซอี คาซาน อ่านต่อ»
  • Boyhood - เอลลาร์ โคลเทรน ผู้รับบท เมสัน ตอนเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์อายุ 7 ปี และตอนถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จอายุ 18 ปี อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

The Farewell The Farewell เรื่องราวของ บิลลี (อควาฟีน่า) ที่ทราบข่าวจากคุณพ่อคุณแม่ว่าอาม่าที่อยู่เมืองจีนนั้นป่วยหนัก ซึ่งแพทย์ระบุว่าอาม่าเป็นม...อ่านต่อ»