วิจารณ์ Fury

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 5 พ.ย. 57 17:27

    พระเจ้ากำลังเฝ้ามองอยู่

    ไม่รู้ว่าตัวเองไปถูกจริตกับหนังสงครามเข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ คาดเดาว่าจุดเริ่มต้นน่าจะมาจากเมื่อ 7 ปีก่อน กับภาพยนตร์เรื่อง The Hurt Locker (2008) เป็นภาพยนตร์สงครามเรื่องแรกๆที่ผมได้ดู ก่อนจะค่อยๆสรรหาภาพยนตร์ยุคเก่าก่อนมาดู

    Fury ไม่ใช่หนังที่ผมคิดจะไปดูในโรงภาพยนตร์เรียกว่าเป็นหนังที่แทบจะมองข้ามไปเลยก็ว่าได้ แม้ผมจะชื่นชอบหนังแนวสงครามเป็นต้นทุนก็ตาม แต่เพราะตั้งใจจะไปดู Whiplash ที่ดูจะเข้าทางมากกว่า แต่ด้วยว่าไปสาย การจราจรติด ทำให้ต้องมาลงเอยกับ Fury (จริงๆคือเรื่องของเงินที่ต้องเลือกดู)

    Fury เป็นภาพยนตร์ในเครดิตการกำกับของ David Ayer ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ได้พิสมัยกับหนังของเขาเท่าไหร่ เพราะหนังของพี่แกจะ แมน มากๆ ยกเว้นก็แต่ End of Watch ที่ดูแล้วลงตัวที่สุด การไปดู Fury เลยเป็นการลุ้นอีกด้วยว่า ท้ายสุดแล้ว จะชอบ หรือ เกลียด

    Fury ไม่ได้ก่อให้เกิดอาการ น่าเบื่อหน่ายเลยสักนิด หนังเปิดเรื่องมาอย่างมีนัยยะ และนั่นทำให้ผมรู้สึกว่า การพลาดชม Whiplash ในวันนั้นไม่ใช่เรื่องน่าเสียหาย

    เนื้อหาของหนังกล่าวถึง ปี 1945 ซึ่งกองกำลังสหรัฐอเมริกาได้บุกเข้าไปยังใจกลางของเยอรมัน เมืองเบอร์ลิน แต่การจะฝ่าเข้าไปได้นั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เหล่าทหารในนามรถถัง Fury มีหน้าที่ที่ต้องบุกทะลวงเข้าไป โดยมีกองทัพนาซีเป็นกำแพงขวางกั้น

    เนื้อหาต่อไป อาจมีสปอย

    Main หลักของหนัง พูดถึง มิตรภาพ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แสนจะเลวร้าย อย่างสงครามโลกครั้งที่สอง หันมองไปทางไหนล้วนเต็มไปด้วยกลุ่มควันไฟขโมง โดยคนดูจะมีสถานะไม่ต่างจากตัวละครใหม่ที่เข้าร่วมกับ Fury อย่าง Norman Ellison รับบทโดย Logan Lerman ซึ่งเดิมทีเขาเป็นเพียงทหารฝ่ายเสมียน ไม่มีหน้าที่รบรา ฆ่าฟันใคร สมาชิกเก่าของ Fury ก็ให้การต้อนรับเขาอย่างดีเยี่ยม ประกอบไปด้วย Don 'Wardaddy' Collier (Brad Pitt), Boyd 'Bible' Swan (Shia LaBeouf),Trini 'Gordo' Garcia (Michael Pe?a) และ Grady 'Coon-Ass' Travis (Jon Bernthal) ก่อนทั้งหมดจะต้องเข้าไปสู่นรกใจกลางเยอรมัน

    ซึ่งนักแสดงทุกคนต่างถ่ายทอดบทบาททหารที่ถูกสงครามกัดกินวิญญาณได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะ Brad Pitt ยังคงอยู่ในระดับ Top ไม่ต่างจาก Logan Lerman ที่แทบจะเป็นการพลิกบทบาทเลยก็ว่าได้

    แม้จะเป็นหนังสงคราม แต่ก็เป็นหนังสงครามที่ดูไม่ง่ายเลย เพราะหนังใช้ภาษาภาพยนตร์อยู่ในตัวอยู่หลายฉากเลย และเชื่อว่าคนที่ดูหนังแบบคิดลึก คงต้องเสียน้ำตาให้กับหนังเรื่องนี้

    เริ่มจากฉากแรก ที่ Don ใช้มีดแทงทหารนาซีอย่างเลือดเย็น สีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ ก่อนจะหันไปหาม้าสีขาวลูบไล้มันอย่างแผ่วเบาแล้วปล่อยให้วิ่งไปจากสมรภูมิรบ

    การมาของตัวละครหน้าใหม่ Norman คำถามแรกๆที่ถูกถามคือ เชื่อในพระเจ้าหรือไม่ ? และหนังก็ทำให้เห็นว่า พระเจ้าอยู่กับเราในทุกที่แม้ใน สมรภูมินรกแห่งนี้ Norman ยังถูกเตือนด้วยว่า หลังจากนี้ เขาจะได้เห็นสิ่งที่มนุษย์กระทำต่อกัน อย่างไ่ม่อยากเชื่อสายตา

    ฉากที่น่าจดจำอีกฉากคือ ทหารนาซี คนหนึ่งรอดจากความตายมาได้แต่กลับถูกจับตัวมา Don เรียกตัว Norman มา เพื่อให้สังหารนาซีรายนั้น เพราะก่อนหน้านี้ Norman ทำหน้าที่พลาด จึงก่อให้เกิดความสูญเสียขึ้นในกองกำลัง Norman ไม่สามารถแม้แต่จะเหนี่ยวไกปืน Don บังคับให้ Norman ฆ่า ปัง! เสียงกระสุนทะลุร่างทหารนาซี ผู้ร้องขอชีวิต เพราะเขามีครอบครัวรออยู่ ร่างนั้นนอนแน่นิ่ง Norman เสียใจกับเหตุการณ์นั้น จนคนในบ้าน(Fury) เรียกเขาไปนั่งคุย และนั่นอาจเป็นครั้งแรกๆที่ทำให้เราเห็นว่า สงครามมันกัดกินจิตวิญญาณ พรากเอาความเป็น มนุษย์ ไปจากตัว คน มากแค่ไหน แต่หนังกลับทำให้เห็นว่า แท้จริงแล้ว ความเป็นมนุษย์ของเราไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่เราสร้างเกราะขึ้นมา ซ่อน ความอ่อนแอ เอาไว้ข้างไหน

    ฉากต่อมาที่อยากพูดถึงคือ หลังจากยึดเมืองหนึ่งได้ เหล่าทหารก็สำราญใจไปกับ อาหาร สุรา นารี Don พา Norman เข้าไปสำรวจในบ้านของหญิงสาวผู้หนึ่ง ก่อนจะพบว่ามีหญิงสาววัยรุ่นราวคราวเดียวกับ Norman แอบซ่อนตัวอยู่ และ Norman ก็ได้สำเร็จในรักกับเธอผู้นั้น ขณะที่ Don ชำระร่างกายของเขากับน้ำอุ่น คราบเลือด คราบโคลน หายไป แต่แผลเป็นอันน่าหวาดกลัวบนแผ่นหลังของเขายังคงสนิทนิ่ง บางอย่างเราไม่สามารถลบมันออกไปได้ มันยังคงแฝงตัวอยู่อย่างนั้น Don Norman และหญิงสาวอีกสองคนกำลังจะรับประทานอาหารที่ดูหรูหรา อยู่ไม่น้อย คนในบ้าน(Fury) ก็โผล่มาทำลาย มื้ออาหารแสนสุขนั้น

    ฉากบนโต๊ะอาหารนี้เป็นฉากที่ดีมากๆ มันแสดงให้เห็นถึง ก้อนผลึกทางความคิดของผู้กำกับที่ตกตะกอนมาเป็นอย่างดี Gordo เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทั้งหมดเคยผ่านมาร่วมกัน ช่วงเวลาที่เลวร้าย ที่ทั้งหมดยังชีพด้วยการกินเนื้อม้าที่แสนขยาด เหตุการณ์ในอดีตนั้นมีทุกคนยกเว้น Norman แต่ในเวลานี้มื้ออาหารที่แสนหวานบนโต๊ะในบ้านหญิงสาวชาวเยอรมัน Don กับมีความสุขกับนายหารคนใหม่อย่าง Norman หากจะตีความให้ลึกซึ้ง มันกำลังพูดถึง ผลประโยชน์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ตักตวงเอาจากประเทศที่ผ่ายสงคราม (ในแง่นี้มีคนเขียนถึงไปแล้วในกระทู้พันทิป)

    ขอรวบรัดไปยัง ฉากสุดท้าย ขณะที่ตัวละครเอกของเรื่อง คนหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บ เขาพยายามตะเกียกตะกายพาร่างที่บาดเจ็บเข้ามาภายในตัวรถถัง ? หลายครั้ง ที่เราพบเจอกับเรื่องเลวร้าย เรื่องที่เล่าสุดแสนจะทนไหว สถานที่แรกๆ ที่เรานึกถึงคือ บ้าน ? เช่นเดียวกับตัวละครรายนี้ เขาพูดตั้งแต่แรกว่า fury เจ้ารถถังคันนี้ คือบ้าน หากเขาจะตาย เขาขอตายในบ้านหลังนี้ ดีกว่าต้องยอมยกธงขาวแล้วปล่อยให้ นาซี ทรมานเขาจนตาย

    ในฉากสุดท้ายของเรื่อง หลังการสูญเสีย ภาพที่เราได้เห็นคือ รถถัง Fury และศพเหนือคณานับอยู่รอบๆ ภาพ ณ จุดนี้ ถูกถ่ายด้วยมุม Bird Eyes View นอกจากจะทำให้เห็นภาพในมุมกว้าง ผลของสงครามได้ชัดเจนแล้ว ขณะเดียวกัน มันคือ สัญลักษณ์ที่หนังพูดถึง สายตาของคนที่อยู่เบื้องบน(พระเจ้า) ได้มองลงมายัง นรก แดนนี้

    ภาพยนตร์เรื่องนี้ อัดแน่นไปด้วย ความแปลกใหม่ทางด้านAction ในมุมมองใหม่ๆของหนังแนวสงคราม การแสดงที่เป็นธรรมชาติ ดนตรีที่เล่นน้อยแต่หนัก ช่วงต้นๆเรื่องหนังแทบจะไม่ใช้ดนตรีเข้าช่วยเลย ความนิ่งกลับแสดงท่วงทำนองความหนักแน่นและกดดันออกมาได้อย่างเสียงดัง ชัดเจน นี่เป็นผลงานอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การรับชม โดยเฉพาะในโรงภาพยนตร์

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 26 ต.ค. 57 13:07

    เป็นหนังสงครามอีกเรื่องที่ดูแล้วประทับใจ ไม่แพ้เรื่อง saving private ryan
    ส่วนตัวให้ 10/10

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 25 ต.ค. 57 21:50

    สนุกครับ มันส์ดี อาวุธหลักเลยคือรถถัง ในสงครามโลกครั้งที่2 นักแสดงดังๆ หลายคนแสดงได้ดีมาก ฉากสงครามทำได้เหมือนจริง แสดงถึงความโหดร้ายของสงคราม มีหลายฉากค่อนข้างดูโหดร้าย มีแต่ความสูญเสีย แต่มันคือ สัจธรรมของสงคราม ให้ 10/10เลย

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 25 ต.ค. 57 11:03

    สนุกตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่องครับ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 23 ต.ค. 57 21:01

    สนุกดีน่ะตลอดทั้งเรื่องเกินคาดจริงๆ
    แบบว่าอารมณ์มันพาไปอ่ะ แอ๊คชั่นโคตรมันส์
    ดราม่าเหลือล้นกินขาด บีบคั้นดีโดนทั้งเรื่อง
    นักแสดงอันทรงคุณภาพเล่นได้ดีจริงๆ
    ส่วนตัวเอาไป 10/10 หนังคุณภาพอีกเรื่องปี 2014

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 23 ต.ค. 57 20:36

    สนุกดี ครับ
    ฉากยิง สงครามดู สมจริง
    ชอบ ครับ

    แจ้งลบ
มีทั้งหมด 6 วิจารณ์
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • โบอา...งูยักษ์โบอา...งูยักษ์เข้าฉายปี 2006 แสดง นพพันธ์ บุญใหญ่, สิทธา เลิศศรีมงคล, พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์
  • ล่า-ท้า-ผีล่า-ท้า-ผีเข้าฉายปี 2006 แสดง พชรพล จั่นเที่ยง, ปองศักดิ์ รัตนพงษ์, ศุภัทรศิริ ปฐมนุพงษ์
  • เกมล้มโต๊ะเกมล้มโต๊ะเข้าฉายปี 2001 แสดง สุรัตนาวี สุวิพร, ธีรนัย สุวรรณหอม, บริวัตร อยู่โต

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Wind Rises - ผู้กำกับและผู้เขียนบท ฮายาโอะ มิยาซากิ กล่าวว่าที่เขาเลือกภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันอำลาวงการเพราะเขาอยากเล่าเรื่องราวที่เป็นตัวแทนจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น สิ่งที่เกิดขึ้นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจ แต่ก็เป็นประวัติศาสตร์ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตชาวญี่ปุ่น และอยากให้ยอมรับสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นสร้างขึ้น อ่านต่อ»
  • Dawn of the Planet of the Apes - จูดี เกรียร์ ผู้รับบท คอร์เนเลีย มีสามีที่เป็นแฟนตัวยงของ Planet of the Apes (1968) จนแต่งเค้กงานแต่งของทั้งคู่ด้วยหุ่นสามีภรรยาลิงชิมแปนซี โดยในงานยังจัดฉายภาพยนตร์ดั้งเดิมและ Rise of the Planet of the Apes (2011) ในโทรทัศน์สองเครื่องบริเวณจุดบริการเครื่องดื่มในช่วงดื่มฉลองด้วย อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

The Cave The Cave จากเหตุการณ์จริงที่สะกดคนทั้งโลก 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน มาถ่ายทอดจากมุมมองของอาสาสมัคร หน่วยกู้ภัยทั้งไทยและต่า...อ่านต่อ»