SIAMZONE.COM

รีวิว American Sniper #มีเปิดเผยเนื้อหาสำคัญเยอะมากด้วย555

คะแนน B+

หนังสไนเปอร์ที่เล่าเรื่องได้ดีและอินมากที่สุดตลอดกาล
ความรู้สึกแรกที่ชม
มันคือหนังที่ดำเนินเรื่องในเวลา 2 ชั่วโมงกว่าและทำออกมาได้เกณฑ์ดีมากไร้ซึ่งความน่าเบื่อเลยชอบอย่างมากประสบการภาพยนตร์ที่ได้จากเรื่องนี้คุณจะหาที่ไหนไม่ได้จากหนังเรื่องไหนอย่างแน่นอน โดยหนังสามารถทำแคแรกเตอร์ คริส ไคล์ จนออกมาแบบว่าน่าจดจำมาก แอ็คชั้นไม่เยอะแต่มีระยะจนบอกได้ว่ามันส์ครับ แต่ส่วนตัวจะชอบด้านการแสดงพร้อมอารมณ์ดราม่าของหนังมากกว่าครับ การแสดงของ แบรดลีย์ คูเปอร์ มันสุดยอดมันเจ๋ง มากๆ ครับขอการันตีว่านี่คือผลงานยอดเยี่ยมเรื่องนึงประจำต้นปีเลยครับคือแบบว่าให้ความสุขและความเศร้าแก่คนดูมากๆครับ ชอบการกำกับ ของ ปู่อีสต์วูด มากครับเขาสามารถเก็บรายละเอียดของหนังได้ดีทั้ง การแสดง โลเคชั้น ต่างๆ เขาคุมไว้ได้อย่างเก่งมากๆครับ
คะแนนส่วนตัว B+

รีวิวด้านภาพยนตร์
เรารู้ๆกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของ คริส ไคล์ สไนเปอร์มือพระกาฬของหน่วยซีลผู้สังหารข้าศึกไปกว่า 160 ราย และถูกผู้ที่กลับมาจากสนามรบสังหารโดยผู้ที่สังหารไม่ได้สังหารเพราะอะไรแต่เพราะหลอนจากสงครามที่กดดันอย่างมากเรามาถึงเรื่องหนังกันบ้างขอบอกว่าหนังเรื่องนี้เปิดเรื่องมาให้น่าติดตามโดยแบบว่าหนังให้ความน่าสนใจตอดทั้งเรื่องจนไม่อาจจะเมินหนังได้เลยขอบอกว่าทาง Warner แปลซับได้ตรงคำมากครับซะใจคำหยาบดีครับ 555 โดยหนังจากที่หนังเรื่องนี้ฉายในต่างประเทศก็ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์มากมาย เช่น การกำกับสุดยอด การแสดงเลิศ เนื้อเรื่องสุดยอด ขอบอกว่าทุกอย่างเป็นจริงครับการแสดงของ แบลดลีย์ คูเปอร์ ดีมากและก็ของคนอื่นๆด้วยทำคนดูอินได้ตลิดทั้งเรื่อง การกำกับ อีสต์วูด กำกับแบบว่าดีมากสามารถควบคุมนักแสดงได้หลายคนในโลเคชั่นที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ และไม่ใช่แค่นั้นทั้งการใช้ระเบิดของฉากต่างๆเก็บลายละเอียดได้ดีมากขอชมด้านการเก็บรายละเอียดของหนังนะครับคือแบบว่า ผกก. คนนี้สุดยอดมากเก็บลายละเอียดดีมากจนจับผิดไม่ได้เลยครับ เช่น ปลอกกระสุนจาก สไนเปอร์ตกทุกเม็ด แต่อาจจะมีช่วงท้ายที่การกำกับดูจับผิดได้ครับแต่ช่างมันเถอะครับแค่นี้ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมแล้ว มาถึงเนื้อเรื่องกันบ้างครับ ขอบอกว่ายอดเยี่ยมแต่เนื้อเรื่องก็มีน่าเบื่อในบางช่วงครับ คือหลังจากการเปิดเรื่องหนังก็จะเล่าเรื่องว่า ในช่วงวัยรุ่น คริส เป็นเหมือนคาวบอย ในรัฐเท็กซัส แต่พอเขาเปิดข่าวในทีวีแล้วเห็นความรุนแรงเขาจึงมารับสมัครเป็นทหาร นั้นคือจุดเริ่มที่ทำให้หนังน่าสนใจ ทั้งการฝึกของทหารออกมาสมจริงมากและต่อมาหนังก็จะเริ่มโฟกัสเรื่องไปที่ทัวร์รบแรก

ทัวร์รบแรก
ในทัวร์รบแรกยังไม่ค่อยมีอะไรน่าสำคัญมากแต่ลายละเอียดจากตอนนี้ที่แอดเก็บออกมาได้คือ หนังสือการ์ตูนพันนิเชอร์ และ ในฉากแรกที่ คริส ไคล์ สังหารคนเป็นครั้งแรกขอบอกว่าลุ้นมาก

ทัวร์รบครั้งที่สอง
ในครั้งนี้หลังจากที่ทหารทุกคนรู้สึกปลอดภัยที่มีคริส ไคล์อยู่ เนื่องจากเขาได้ชื่อว่าเป็น สไนเปอร์มหากาฬ และเป็น สไนเปอร์ผู้ที่สังหารคนมากที่สุดในอเมริกาและยังเป็นฮีโรอีกด้วยโดยทัวร์รบครั้งนี้จะโหดขึ้นมากกว่าเดิมโดยเริ่มมีเรื่องของตัวประกันเข้ามาจนหนังดูลุ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า

ทัวร์รบครั้งที่สาม
ทัวร์รบครั้งนี้ตามจริงแอดไม่อยากสปอยมากแต่ขอเตือนก่อนนะครับ 555 ก็คือครั้งนี้เป็นครั้งที่การแสดงด้านอารมณ์ดีที่สุดเล่นกับจิตใจคนดูได้ดีเลยที่เดียว ก็คือหลังจากที่เพือนพระเอกถูกยิง เขาก็รีบกลับมาจากทัวร์รบและเข้าไปหาที่โรงพยาบาลคือฉากนี้ถ์อเป็นจุดสุดยอดของการแสดงเลยแต่ยังมีที่สุดยอดมากกว่านี้อีก

ทัวร์รบสุดท้าย
โดยครั้งจะเป็นในเรื่องของการล้างแค้นและเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ คริส ไคล์ ดังมากๆเพราะครั้งนี้เขากลับไปเพื่อล้างแค้นเป้าหมายของฝ่ายร้ายคนนึงและตรงกับคนที่สังหารเพือนของคริสครั้งนี้การแสดงดูสมจริงมากโดยทัวร์รบนี้มีการใส่ซีจีเยอะมากและระเบิดก็เยอะ โดยขอบอกว่าคริส ไคล์ สังหารฝ่ายร้ายโดยการยิงสไนเปร์ด้วยความไกลกว่า 2 กม. และถูกเป้าและหลังจากนี้เขาก็กลายเป็นฮีโรของชาวอเมริกาจนถึงบัดนี้

สรุป
เนื้อเรื่องหนังดำเนินเรื่องดีถึงจะมีช่วงน่าเบือบ้างการแสดงถือเป็นสุดยอดแต่การกำกับสุดยอดกว่าโดย อีสต์วูด สามารถควบคุมการแสดงบนโลเคชั้นอันอลังการขนาดนี้ได้และเก็บลายละเอียดของหนังได้ดีมากแต่ อีสต์วูดมีข้อเสียคือไม่สามารถคุมด้านซีจีได้เพราะหนังใส่ซีจีเยอะอยู่จนหมดความอินเลยด้านเนื้อเรื่องมีธรรมดาบ้างแต่ก็มีฉากให้ลุ้นเยอะอยู่
มันไม่ใช้หนังที่ดีมากแต่ก็เป็นหนังที่ควรจะดูครับ

คะแนนด้านภาพยนตร์ B+ ครับ

American Sniper 6/10

หนังสมบูรณ์เต็มเปี่ยมทั้งเนื้อหาและองค์ประกอบ
ฉาก Action ถึงไม่ดุดันดีเดือดแต่ก็สร้างความระทึกได้ไม่เลว

น่าเสียดายที่หนังลงน้ำหนัก drama น้อยเกินไป
ยังไม่ทันได้รู้สึกถึงความตึงเครียดกับการใช้ชีวิต
ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามแบบจริง ๆ จัง ๆ เลย
หนังก็พาไปยังจุดสิ้นสุดของเรื่องเสียแล้ว

ประทับใจในประเด็นของจิตสำนึก
ซึ่งยังคงเป็นแนวถนัดของ Clint Eastwood
มันชัดเจนทั้งความกดดันและภาวะชั่งใจ
เมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่บีบบังคับ
(ฉากตัดสินใจยิงเด็กที่เตรียมประทับปืนขึ้นยิง)

และต้องยอมรับว่าฉากจบของหนังนั้นประสบความสำเร็จมากทีเดียว
เพราะสามารถเรียกความสนใจให้ต้องค้นหาประวัติของ Chris Kyle ทันทีที่ดูจบ

ปู่คลิ้นทำให้ผมอึดอัดตลอดทั้งเรื่อง...หายใจไม่ทั่วท้องกันเลยทีเดียว...มีหลายแง่คิดมากเลยครับ...
...คนกลุ่มหนึ่งอุทิศชีวิตอย่างยากลำบากเพื่อชาติ...แต่คนส่วนใหญ่อยู่อย่างสุขสบายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
....อีกมุมหนึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนจะเห็นด้วยกับการใช้สงครามเพื่อสร้างสันติภาพ
....?ผมพร้อมที่จะอธิบายกับพระเจ้าต่อทุกนัดที่ผมยิงออกไป"...น่าคิดเหมือนกันเนอะ...ชอบมากครับเรื่องนี้

ในหนังสือที่เขียนโดย คริส ไคล์น ได้บอกบรรยายความรู้สึก ตั้งแต่ก่อนจะเข้ามาเป็นหน่วยซีล ถูกปฏิเสธโดยกองทัพด้วยเพราะสภาพร่างกาย ความรู้สึกตอนกลับมาบ้านหลังสงครามแต่ละครั้ง ผวาแม้กระทั่งตอนนอน ความรักที่มีต่อภรรยา การฝึก 5 วันครึ่งโดยไม่ได้นอน อีกหลายอย่างที่ในหนังไม่มี บรรยายถึงความรู้สึกส่วนตัว เพื่อนทหารที่เป็นเสนารักษ์ ที่ช่วยให้ได้บินด่วน หนังตอบโจทย์ได้ดีมากส่วนหนึ่ง จับอารมณ์ได้ถูกจุด ภาพสวยมาก ซื้อหนังสือมาอ่านอีกสักรอบ คุณจะรักวีรบุรุษอเมริกาคนนี้อีกเท่าตัวครับ

ยกให้เป็นหนังยอดเยี่ยมอีกเรื่องในดวงใจเลย ยิ่งตอนจบ บีบหัวใจเหลือเกิน รับรองน้ำตาไหลแน่นอน คือ
1.หนังปูเรื่องความสำคัญระหว่างครอบครัวกับหน้าที่การงาน ได้ดีมาก เก็บรายละเอียดได้ดี ถึงสลับไปมา แต่ไม่งง
2.ฉากสงคราม สื่อถึงความจำเป็นของหน้าที่Sniper ถึงไม่อยากทำ แต่มันเป็นหน้าที่ นักแสดงสื่อสีหน้าออกมาแสดงได้ดีมาก ทำให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงคราม
3. ชอบตอนจบที่ทำให้ นึกไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นได้ ทำเอาน้ำตาไหลเลย เพราะสร้างจากเรื่องจริง
# สมแล้วที่ได้เข้าชิงรางวัล Oscar ถึง6รางวัล สุดยอดครับ 10/10 เลย