สุขภาพดี หุ่นเป๊ะ ได้สาระ !! (づ￣ ³￣)づ

จาก กระทู้นี้ http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=3814198 
ที่เค้ามีการอ้างอิงถึงพี่จอห์นนะ พี่จอห์นคือใคร?
- จอห์น วิญญู ที่เป็นเทพแห่งการลดน้ำหนักคนหนึ่งนะจ้ะ


นี่เป็นวิดีโอที่ทางspokedarktv ได้ถ่ายทอดมา
พี่จอห์นจะทำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ดูแลหุ่น ซึ่งก็มี วิธีการเลือกอาหารการกินต่างๆ
การลดน้ำหนัก บลาๆๆ เยอะพอสมควร ถ้าดูแล้วก็จะเกิดความเข้าใจในเรื่องลดน้ำหนักมากขึ้นนะ
http://www.youtube.com/playlist?list=PL4A571856EF894522


ถ้าใครอยากอ่านประสบการณ์ของพี่จอห์นก่อน ก็อ่านนี่เลยจ้า

น้ำหนักได้มาเพราะว่ากินตอนดึก
        "ตั้งแต่อายุ 21 เป็นต้นมานับเป็นช่วงที่น้ำหนักของผมพุ่งพรวดมาก เพราะต้องจัดรายการโทรทัศน์ตอนดึกบ่อย ๆ ทำงานเสร็จก็กินไม่ยั้ง เป็นช่วงที่ไม่ได้ใส่ใจตัวเองเลย ในที่สุดก็หนัก 95 กก. ตอนอายุ 23 ปี ผมเป็นคนออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็กครับ ชอบชกมวยไทยและไปฟิตเนส ช่วงนั้นผมพยายามลดน้ำหนักโดยการชกมวย ก็ลดมาเหลือ 88 กก. แต่หลังจากนั้นก็ไม่ลงอีกเลย พอดีพี่สาวแนะนำให้ไปพบคุณหมอ ผมถึงได้รู้ว่า ตัวเองเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องลดน้ำหนักและการควบคุมน้ำหนักมาตลอด"


เปลี่ยนทัศนคติ และลงมือควบคุม!
        "ต้องบอกก่อนว่า การไปพบคุณหมอไม่ได้หมายความว่าผมใช้ยาลดน้ำหนักนะครับ แต่คุณหมอจะพูดคุยและให้คำแนะนำเรื่องการกินอยู่ การนับแคลอรี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก รวมถึงบอกแนวทางในการปฏิบัติตัว เป้าหมายของคุณหมอคืออยากให้เรามีสุขภาพที่ดี"
        "การที่เป็นคนชอบออกกำลังกาย ผมจึงเข้าใจมาตลอดว่า ถ้าออกกำลังกายจะลดน้ำหนักได้ แต่ว่าจริง ๆ แล้ว การออกกำลังกายคล้ายกับการควบคุมน้ำหนักครับ คือจะลดน้ำหนักมาได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องหันมาดูแลเรื่องการกินด้วย ก่อนหน้านี้ผมทานวันละ 4,000 แคลอรี ขณะที่มาตรฐานของคนเรา ไม่ควรเกิน 2,000 แคลอรีต่อวัน ผมจึงหันมากำหนดการบริโภคต่อวันว่าจะทาน แค่วันละ 500 แคลอรี ดังนั้นในช่วง สองเดือน ผมจึงลดน้ำหนักจาก 88 กก. ลงมาเหลือ 66 กก."
        "ช่วงนั้นผมไม่ได้ออกกำลังกายเลย แต่ควบคุมแคลอรีอย่างเดียว ซึ่งหลายคนสงสัยว่า ทำได้จริงหรือ ขอบอกว่าทำได้ครับ ทานแค่นี้ผมก็อยู่ได้จริง ๆ ช่วงนั้นจะทานแค่มื้อเช้า บางทีทานแค่สลัดหรือซุป มื้อเที่ยงและเย็นจะทานน้ำเปล่า บางครั้งก็ทานกาแฟเย็นไม่ใส่น้ำตาล จะหิวโหยแค่สามวันแรก จากนั้นก็อยู่ได้ครับ สมองโลดแล่นเป็นปกติ ผมค้นพบจากตรงนี้ว่า ที่เรารู้สึกหิวเป็นเพราะสมองเรามีความอยาก ไม่ใช่ว่าร่างกายหิวหรอก ผมว่าเราทุกคนทำได้ แต่ต้องมีวินัย และเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องการบริโภค และการออกกำลังกายเสียใหม่"


ผลลัพธ์และเป้าหมาย
        "เมื่อตอนที่ผมน้ำหนัก 66 กก. คุณหมอบอกว่า ตอนนี้สิ่งที่จอห์นต้องทำคือ ทำน้ำหนักขึ้นมาให้ถึง 70-72 กก. เพราะว่าน้ำหนักลงมากเกินไป ตอนนั้นผมโทรมมาก ถือเป็นช่วงเหี่ยว ทีนี้ก็กลับมากินปลา ไก่ ผักต่าง ๆ พยายามเลี่ยงแป้งพอหนึ่งเดือนน้ำหนักก็อยู่ตัว ผมตั้งเป้าว่าอยากรักษาน้ำหนักให้อยู่ราว ๆ 73 กก. และพยายามไม่ให้เกิน 75 กก."
        "ทุกวันนี้ผมจะใช้ชีวิตเฮลตี้มาก ผมทานอาหารในปริมาณที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น งดเนื้อสัตว์ใหญ่ที่ย่อยยาก ปาร์ตี้สังสรรค์ก็ไปบ้าง แต่ผมจะไปแบบมีวินัย กรเลือกว่าจะทานหรือไม่ทานอะไร สมองเราสั่งได้ครับ แล้วที่ยังทำอยู่ก็คือการนับแคลอรี นอกจากนี้ ก็กลับมาออกกำลังกายเหมือนเดิม เพื่อให้ร่างกายสดชื่นและมีพลัง"


คำแนะนำ
        "อยากให้คุณลองถามตัวเองว่า อยากมีสุขภาพแบบไหน ถ้าอยากสุขภาพดี ก็ต้องควบคุมดูแลและมีวินัย นอกจากนี้อย่าใช้ทางลัด เช่น ใช้ยา ควรปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตมากกว่า เพราะถ้าคุณลองหันมาควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ในระยะยาวจะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่า และควรหมั่นตรวจสุขภาพรวมทั้งแนะนำให้ซื้อเครื่องชั่งน้ำหนัก (แบบเป็นตัวเลข) ติดบ้านไว้ด้วย ช่วยได้เยอะเลยครับ"


Before
        อายุ 23 ปี
        ส่วนสูง 180 เซนติเมตร
        น้ำหนัก 95 กิโลกรัม
        รอบเอว 36 นิ้ว
        อาหารจานเก่า : ทุกอย่าง น้ำอัดลม อาหารฟาสต์ฟู้ด
        สิ่งแย่ ๆ ที่ได้รับ : อ้วน ร่างกาย ไม่คล่องตัว เหนื่อยง่าย

After
        อายุ 25 ปี
        ส่วนสูง 180 เซนติเมตร
        น้ำหนัก 71 กิโลกรัม
        รอบเอว 32 นิ้ว
        อาหารจานใหม่ : ผัก ปลา ไก่ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง

รูปของพี่จอห์น วิญญู แบบ BF-AT อย่างชัดๆ
.
.
.