ทราย เจริญปุระ

โค้งสุดท้ายที่แม่ป่วย เราไม่ได้เดินเข้าไปในครัวเลย ครั้งสุดท้ายที่เข้าไปอยู่นานๆคือเข้าไปเก็บมีดและของมีคมทุกอย่างออก เพราะแม่ใช้ทำร้ายตัวเองและทุกคนรอบๆ
จนแม่เสีย เราเลยเหมือนห่างเหินกับครัวอย่างสิ้นเชิง จริงๆแม่ก็ไม่ใช่สายแม่ครัวเท่าไหร่ ไม่ได้มีความทำอาหารอย่าง-รสมือแม่-ที่ใครอื่นมี ที่เราหัดทำกับข้าวก็เพราะแม่ไม่ทำ ให้เราจัดการตัวเอง จนพอทำคล่องๆก็มีรีเควสต์เมนูให้เราทำให้กินบ้าง แต่ก็ไม่เยอะ เพราะหลังจากนั้นก็ป่วยมากแล้ว

ครัวเลยกลายเป็นพื้นที่เจ็บปวดและไม่น่าเยี่ยมกรายเข้าไปเท่าไหร่ ก่อนแม่ก็มีพ่อ ที่ช่วงเริ่มเป็นอัลไซเมอร์ก็แอบออกมาล้มในครัวหลายครั้ง จนเรากับน้องชายต้องย้ายมานอนกองกันที่โซฟาหน้าครัว ทำแผลให้พ่อจนหายกลัวเลือดไปเลย แต่พ่อไม่มีแนวโน้มรุนแรงแบบแม่เท่านั้นเอง ตอนทำอร่อยสร้างภาพก็ทำแบบที่พ่อเคยทำให้กินนั่นล่ะ เค้าพ่อครัวประจำบ้านอยู่แล้ว

เงื้อมาหลายวันว่าอยากกินมาม่า แม่เราเป็นคนไม่ชอบกินมาม่าแบบต้ม แม่แค่กดน้ำร้อนปิดชามหรือปิดฝาถ้วยก็ใช้ได้ แต่พ่อเราเป็นคนแบบกินมาม่าต้องมีผักมีหมู และไม่กินแบบกดน้ำร้อน ต้องต้มเท่านั้น ซึ่งเรารับนิสัยนี้มาให้แม่ค่อนขอดเต็มๆ ว่าเหมือนกันละเกิ๊นพ่อลูก ชั้นแต่จะกินมาม่ายังเรื่องเยอะขนาดนี้ ก็โหมไฟตำเครื่องแกงกันไปเลยมั้ยล่ะ

ก็—บันทึกไว้ว่านี่เป็นครั้วแรกในรอบสองปีที่เดินเข้าครัวไปเปิดไฟเตา โดยไม่ได้แค่เอาไว้จุดบุหรี่ จริงๆเดือนตุลาฯเป็นครบรอบที่แม่เราเสียไปสองปีละ แต่เราก็พยายามจัดการความเศร้าอย่างเงียบๆไป มันเป็นสองปีที่เหมือนไม่ได้พักเลย ถูกจับจ้องในมุมที่มากกว่าหน้าที่การงานอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวด้วย ตั้งแต่การฟ้องที่คนมาด่าแม่เราไปจนเรื่องม๊อบ
ก็นั่นแหละ
การเดินเข้าครัวไปต้มมาม่า ก็เป็นหนึ่งในวิธีรับมือกับความเศร้าน่ะนะ

โพสต์เมื่อ
12 ต.ค. 64 - 19:36:51
ถูกใจ
12,493 คน
ความคิดเห็น
270 ข้อความ

ภาพอื่นๆ ของ ทราย เจริญปุระ