
ชูใจมักถามว่าเธอไม่มีญาติฝ่ายพ่อเหรอ เพราะญาติที่เจอก็เห็นจะมีแต่ฝั่งแม่จากพะเยาที่ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ อาจเป็นเพราะผมเองก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน กลับแม่สายรอบนี้เลยชวนโกตั้งมาเจอหลาน
โชคดีที่ได้เจอพี่เอ ชัยยนต์ พ่อเมืองแม่สายที่พวกเราเคารพนับถือด้วย พี่เอพาลูกสาวมาเดินเล่นหน้าด่านพอดี ชูใจได้เจออาแปะตั้งกับลุงเอ รวมถึงอากันยา บรรยากาศก็เลยครึกครื้น อบอุ่น
ตั้งบอกว่าเจอชูใจตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก ตอนนี้สูงเท่าอาแปะแล้ว ผมเองก็บอกว่าตั้งก็เปลี่ยนไปมาก ตั้งกลับมาดูแลร้านหยีซินและใส่เสื้อของที่ร้านมา เป็นเถ้าแก่ดูภูมิฐาน ไม่เหลือคราบปาร์ตี้บอยตอนทำร้านเหล้าแล้ว
นั่งฟังพี่เอ พ่อเมืองของเรานั่งเล่าความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของแม่สายแล้วรู้สึกภูมิใจ บ้านเราน่าอยู่และมีอะไรดีๆเกิดขึ้นมาก ซอยอรษาที่นั่งกันก็เปลี่ยนแปลงไปมาก ดูครึกครื้น คราคร่ำด้วยวัยรุ่นและอบอวลด้วยบรรยากาศที่ดี
ขากลับไปโรงแรม พาชูใจซ้อนมอไซ เธอบอกว่าเธอชอบที่นี่ และอยากย้ายมาอยู่ตอนอายุ 15
ผมบอกว่าเราคงจะได้กลับอีกทีตอนป๊ะป๋าแก่ ทำงานไม่ไหว เพราะงานของป๊ะป๋ากับแม่อยู่ที่กรุงเทพฯ ชีวิตของหนูเองก็เช่นกัน เราเหมือนดอกไม้ป่าที่ไปเบ่งบานในกรุง อาจจะเฉาๆหน่อย แต่มันก็งดงามของมัน
แต่โปรดจำไว้เสมอว่ารากของเรานั้นงอกจากดินที่นี่ ครอบครัวเราคือคนภาคเหนือ ไม่ว่าจะต่อยอดชีวิตไปถึงไหน เราก็คือคนพะเยา เชียงราย ไม่มีเปลี่ยน
หนึ่งปีได้กลับบ้านมาเจอญาติๆ พี่น้อง เพื่อนๆซักที ชีวิตก็มีแรงกลับไปต่อสู้ได้อีกเยอะ
ซักวันคงได้กลับมาสู่ราก ถ้าไม่กลับมาอยู่ ก็กลับมาฝังก็ยังดี