
”เราต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้“
นี่คือสิ่งที่อยู่ในหัวผมตลอดตั้งแต่ผมเริ่มเปิดบริษัทมา
.
การเปิดบริษัท OTH สำหรับผมมันเหมือนเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะการลงทุนทำ OTH มันเหมือนผมลงทุนทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีไปให้กับบริษัทหมดเลย และผมก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้มีต้นทุนเยอะมากในการลงทุนให้กับความฝันและสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำขนาดนั้น ผมจึงจะต้องรอบคอบมากๆ ต้องมีสติอยู่ตลอด ต้องใจเย็นๆ ในการวางแผนงานทุกอย่างให้ไม่มีอะไรผิดพลาดหรือมีน้อยที่สุด ไม่ใช่แค่อยากทำแล้วก็จะทำเลย แต่ต้องคิดถึงคนอื่นในบริษัท ต้องคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย การที่ผมได้ลองมาทำเองมันทำให้ผมเห็นหลายๆ สิ่งในมุมที่กว้างขึ้นมากๆ
.
การตัดสินใจที่จะจัดแฟนคอนครั้งนี้ จริงๆ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำในตอนแรก ด้วยความที่ผมต้องลงทุนเองในทุกๆ อย่างที่ทำ มันเลยเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ที่ผมเปิดบริษัทมา ซึ่งพอต้องลงทุนเยอะมากความเสี่ยงมันก็สูงมากเช่นกัน ผมเลยลังเลอยู่นานมากว่าจะทำแฟนคอนดีมั้ย เราพร้อมรับความเสี่ยงนี้แล้วจริงๆ หรอ ถ้าบัตรขายไม่หมดจะเป็นไง ถ้างานมันมีข้อผิดพลาดที่ใหญ่ๆเข้ามาผมจะรับได้มั้ย ผมกลัวมากครับ นั่งคิดกับตัวเองเป็นเดือนเลย555555 แล้วสุดท้ายก็ตัดสินใจทำ แบบเอาวะสักครั้งในชีวิต เรามาสู้กันให้เต็มที่ไปเลย!!
.
พอตัดสินใจทำ ผมก็พูดกับทีมเราว่าแฟนคอนครั้งนี้ผมไม่ได้หวังกำไรเลย อยากเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเป็นแบบนั้นจริงๆครับ ผมไม่ได้กำไรเลยสักบาท5555555 เพราะผมคิดว่าสิ่งที่มีค่ามากกว่ากำไร คือความสุขของทุกคนครับ ผมอาจจะไม่ได้เป็นคนที่เก่งมากในการบริหารแต่สิ่งที่ผมยึดถือมาตั้งแต่เปิด OTH ENTERTAINMENT คือผมอยากเปิดบริษัทที่มอบความสุขให้กับทุกคน เพราะผมเชื่อว่าถ้าทำให้ทุกคนมีความสุขได้ ผมก็คงมีความสุขมากๆ ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นทุกคนช่วยอยู่เป็นความสุขให้ผมไปนานๆ นะครับ ขอบคุณที่คอยเป็นแรงผลักดัน ขอบคุณที่ทำให้ผมกล้า ผมสัญญาว่าจะทำผลงานทุกอย่างออกมาแบบไม่ดูถูกทุกคนอย่างแน่นอนครับ
.
CEO - OTH ENTERTAINMENT