เราไม่ได้ตามวงดนตรีมากนัก เคยมีช่วงชีวิตที่ใส่หูฟังไปแทบทุกที่ เปิดแต่เพลย์ลิสต์ที่ปลอดภัยกับหัวใจ ไม่ฟังอะไรใหม่ๆ ไม่ดูหนัง และขมขื่นอยู่แต่ในโลกที่อยู่ในหัวตัวเอง
เพลงเป็นเรื่องดีพอๆกับที่อันตรายต่อใจเรา มันมีอิทธิพลกับความรู้สึก ความทรงจำ บางเหตุการณ์สำคัญในชีวิตมันจะมีซาวแทรคประกอบเสมอ เป็นเรื่องที่พอคิดถึงจะมีเพลงประกอบ เวลาเราแสดงหนังเราก็จะแอบคิดว่าเรื่องนี้มันเหมาะกับเพลงอะไร แล้วใช้เพลงนั้นกำหนดมู้ดตัวเองไปจนจบงาน
เรื่องเล่าเล่นๆของเราที่มีบางคนรู้ คือเมื่อก่อน ซ.เรวดีข้างบ้านเราที่สามารถขับทะลุมาถึงบ้านเราได้นี่เขาเล่นน้ำสงกรานต์กันหนักมาก เดือดมาก เหมือนเป็นแดนมิคสัญญี แล้วในปีนึง รถทุกคนที่ขับเข้า/ออกเพื่อไปเล่นน้ำ จะต้องเปิดเพลงคุกเข่า เปิดดังๆตึ้งๆทั้งวันทั้งคืนจนเราสาปส่ง ว่าเพลงของวงอะไรกันโว้ยยย ฉันจะไม่ฟังวงนี้อีกละ มันหลอนหูมากเกิน
แต่เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้หรอก เพลงวงนี้ฮิตเกินกว่าที่คุณจะหลีกเลี่ยงได้ รู้ตัวอีกที คุณก็ต้องฮัมได้ซักท่อน แล้วก็มานั่งตลกตัวเอง ว่าหนีไม่พ้นว่ะ มันมีความTheatrical ความร๊อค ปนๆไปกับความเบียวในทางดี มันมีจิตวิญญาณมุ่งมั่นแบบที่เราเคยอ่านในการ์ตูนญี่ปุ่นแบบ-พวกผมจะไปโคชิเอ็งให้ได้!!- อะไรแบบนั้น ซึ่งเรารู้สึกว่าถ้าคนไม่จริงใจในงาน มันถ่ายทอดอะไรแบบนี้ออกมาไม่ได้แน่ๆ
ช่วงปี‘60-’61 เป็นช่วงพีค(อีกแล้ว)ในชีวิตเรา เหนื่อยมาก และแม่ป่วยด้วยอาการสมองเสื่อม เราเองก็เพิ่งกลับมาทำงานได้หลังอุบัติเหตุใหญ่ แล้วก็กลับมากินยาซึมเศร้าอีกรอบ เละเทะไปทุกทาง เดินหมุนวนอยู่ในหัวตัวเองด้วยคำถามซ้ำๆ ว่าจะยังไงต่อไปกับชีวิต เรารู้ว่าเราทำงานได้ เราตั้งใจ แต่คนเขาจะรู้มั้ย จะเรียกมั้ย จะจ้างมั้ย สารพัดดราม่าถาโถมวุ่นวาย
แล้วเราก็ได้ยินเพลงนี้
-ยังรู้สึกยังต้องการใครสักคน
ยังฝันใฝ่ทางหนใดจะหลุดพ้น
เฝ้าตามหาร้อยพันหมื่นเหตุผล
เหตุใดหนอใจเราใยสับสน
หนึ่งชีวิตคนเราล้วนทุกข์ทน
หมื่นเหตุผลอับจนหัวใจ-
มันบอกอะไรบางอย่าง -ไม่ได้ตอบ- แต่บอก มันทำให้ได้คิด มันเรียบเรียงอะไรบางอย่างในหัวให้ แล้วเราก็แอบเก็บเพลงนี้เอาไว้ในใจเสมอมา (1)