Black Night เรื่องราวเขย่าขวัญ ผ่านมุมมอง 3 ประเทศ

"Black Night" หรือ "ลาง-หลอก-หลอน" ภาพยนตร์สยองขวัญร่วมทุนสร้าง ถ่ายทอดผ่านมุมมองที่แตกต่างทางวัฒนธรรมของ 3 ชาติ คือ ไทย ญี่ปุ่น และ ฮ่องกง ได้ทำการเปิดตัวพร้อมพูดคุยถึงบทบาทและการถ่ายทำในส่วนของตอน Lost Memory (ลอสต์ เมมโมรี่) จากประเทศไทยไปแล้ว เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา

สำหรับผู้ที่มาร่วมงานภายในวันนั้น ได้แก่ นักแสดงนำ "เมย์ - พิชญ์นาฏ สาขากร" "ปู - นัชชา บุตรศรี" และ นักแสดงเด็กอย่าง "หมิว - อธิพันธ์ ฉันทอภิชัย" รวมไปถึงผู้กำกับ คือ "ปื๊ด - ธนิตย์ จิตนุกูล" ซึ่งในงานก็ยังมีนักแสดงท่านอื่นๆ ที่มาร่วมสร้างสีสันในวันนั้นด้วย อาทิ "ส้ม - ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ" และ "เมี่ยง - อติมา ธนเสนีวัฒน์" เป็นต้น

เมย์ เริ่มต้นเปิดเผยความรู้สึกในการทำงานครั้งนี้ว่า "ตื่นเต้นค่ะ อยากให้ดูหนังที่เป็นการร่วมทุนสร้างระหว่างฮ่องกง ญี่ปุ่น อยากให้ดูว่าของไทย ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าของประเทศอื่นนะคะ ตอนนี้กระแสของฮ่องกง เกาหลีมาแรง เลยอยากให้ดูกันว่าหนังไทยก็ดีเหมือนกันค่ะ ส่วน ปู ก็แสดงความเห็นว่า " ��ยากให้ทุกคนไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเป็นการร่วมทุนสร้างของ 3 ประเทศ สไตล์การทำงานก็ต่างกัน เนื้อเรื่องก็ต่างกัน แต่จะมีไอเดียร่วมกัน ก็อยากให้ไปดูนะคะว่าเรื่องนี้จะมีความแตกต่างแล้วก็สนุกยังไ� "

ในส่วนของการแสดงนั้น เมย์ เล่าถึงความยากในการถ่ายทำว่า " ��ันไม่ใช่แค่หนังผีที่ออกมาหลอกคนดูแล้วตกใจกลัว กลับบ้าน มีอยู่แค่นั้น แต่เรื่องนี้นี่มีเอาความรักมาเป็นดราม่า แล้วขณะที่คนกำลังอินกับดราม่าของเรา เราไม่รู้ว่าผีจะออกมาตอนไหน ความกลัวจะมายังไง นี่มันคือความยากในการเป็นนักแสดงที่เราต้องเล่นดราม่าให้คนเข้าถึง แล้วก็ซ่อนความน่ากลัวเอาไว� "

ข้ามมาที่ฝ่ายผู้กำกับกันบ้าง ซึ่ง ปื๊ด ได้เล่าถึงการเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า " ��อน Lost Memory ของผม จะมีความพิเศษตรงที่นอกจากจะเล่าหนังผีที่ทำให้คนดูกลัวแล้ว ยังต้องผูกพล็อตที่เล่าถึงความรักด้วย ซึ่งอันนี้มันก็เป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก เป็นประสบการณ์ใหม่ด้วย กับการเล่าหนังแค่ครึ่งชั่วโมง แต่สามารถเล่าทั้งความเป็นหนังผีและหนังรักที่อยู่ในเวลาครึ่งชั่วโมงได� "

เมย์ ฝากฝังภาพยนตร์เรื่องนี้กับผู้ชม โดยพูดถึงความน่าสนใจของเรื่องนี้ " ��ย่างแรกเลยได้ความบันเทิง ได้ตกใจได้กลัว มาดูหนังผีก็ต้องกลัว แต่ที่มากกว่านั้น ก็คือการดำเนินชีวิต เพราะเรื่องนี้เป็นดราม่าด้วย คนบางคนที่คิดว่ารู้จักความรักดีแล้ว บางทีอาจยังไม่พอ อยากให้คนที่มีครอบครัวมาดูค่� " ส่วนสาว ปู บอกว่า " ��นที่ไปดูก็จะได้ความสุขที่แตกต่าง เพราะมี 3 ชาติ 3 ประเทศ คนละสไตล์ เนื้อเรื่องก็เข้มข้น ต้องทายว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป คนดูก็จะได้ความสนุก ความบันเทิง"

สำหรับใครที่ชื่นชอบเรื่องราวเขย่าขวัญ ซึ่งไม่ใช่แค่ความน่ากลัว แต่ยังสะท้อนเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต และทัศนคติของทั้งสามประเทศ จะเหมือนหรือต่างกันอย่างไรนั้น ติดตามชมกันได้ 6 เมษายน นี้ เป็นต้นไป