
คนกัมพูชา เขาภูมิใจจริงๆรึเปล่านะ ที่นักกีฬาที่มาแข่งซีเกมส์ แล้วได้เหรียญรางวัล คือนักกีฬา ที่ไม่ได้เกิดในชาติ แต่เป็นคนด่างชาติ โอนสัญชาติมา !!!
ไม่ใช่ลูกครึ่ง ที่มีเชื้อชาติอย่างละครึ่งๆ50/50
แบบนี้ ไม่เคยเห็นใครเขาทำกัน
เรื่องโอนสัญชาติ จริงๆมันก็มีแหละ แต่ในรายละเอียด มันก็ต้องลงลึกไปว่า เขาผู้นั้นอยู่ในชาตินั้นๆ มานานแค่ไหน พูดภาษาได้ไหม
มีความรักในชาติ ที่ตัวเองกำลังจะโอนไปอยู่มากน้อยแค่ไหน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ต้องใช้เวลาหลายปี หรือเป็นหลาย 10 ปี
แต่ในกติกาซีเกมส์ ในทางปฏิบัติ ก็คือทำได้ เอามาแข่งได้จริง ได้เหรียญจริงๆ ผลงานมีบันทึกจริงๆ
แต่ในเรื่องของความรู้สึก อย่างที่ชาวอาเซียนแสดงออกมา หรือชาวโลกแสดงความรู้สึกออกมา ตอนนี้ก็คงไม่ต่างกัน ซึ่งมันขัดแย้งและไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่
หลักๆ เพราะมันคือความรักชาติ เป็นเรื่องศักดิ์ศรี แต่นี่พูดตรงๆ คือ จ้างมาแข่ง ก็ว่าได้
ข่าวนักวิ่ง5000 เมตรหญิงของกัมพูชา
บู ซัมนัง ที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้าย เวลาตามหลังที่1เกือบ 6 นาที วิ่งท่ามกลางสายฝนด้วย
แต่กลับกัน หลังการแข่งขัน เธอได้รับคำชื่นชม จากทั่วโลก ในเรื่องสปีริตของเธอ ที่เอาชนะใจตนเอง ต่อสู้กับความยากลำบาก ไม่อายที่จะทำหน้าที่ให้จบ
และที่สำคัญ เธอคือคนในชาติกัมพูชาจริงๆ ไม่ใช่นักกีฬาโอนสัญชาติ ทั้งความภูมิใจ ความเป็นนักสู้ ถึงจะเข้าที่โหล่ เวลาจะช้า
แต่กลับได้เสียงชื่นชมมหาศาล
ในการแข่งขัน เธออาจจะแพ้ราบคาบ แต่ในความเป็นนักกีฬาของชาติ ในด้านเชื้อชาติของคนในชาติตนเอง ถือว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว
ยังไม่เก่ง ก็ต้องพัฒนากันต่อไป สู้ฝึกซ้อมกันต่อไป และถ้าวันใด ที่เราเอาชนะได้บ้าง
วันนั้น น่าจะ เป็นวันที่เรา ภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ที่เราสามารถยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง มาด้วยความสามารถของเราเอง
มิใช่การได้มาซึ่งชัยชนะ
แบบหลอกตัวเอง เอานักกีฬาชาติอื่นๆ
โอนสัญชาติมา แล้วได้เหรียญแบบนี้
ซึ่งผมคิดว่า คนในกัมพูชาส่วนใหญ่น่าจะคิดเหมือนกัน ….. ว่ามะ !!!!