
เวลาที่เราดูการแสดง
ที่ออกจากความไม่เข้าใจศาสตร์ของการแสดง
เราจะรู้สึกไม่ต่างจากการดูคนหนึ่งท่องบท
เดินไปมาอย่างไร้ชีวิต
มันไม่ใช่งานศิลปะ
แต่มันคือความบันเทิงฉาบฉวย
จริงอยู่ มันอาจทำกำไรได้มหาศาล
แต่ในขณะเดียวกัน
มันก็ค่อย ๆ ทำลายศรัทธาในสิ่งที่ควรจะศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในวงการนี้
ศิลปะการแสดง—คือศาสตร์แห่งจิตวิญญาณ
คือการถ่ายทอดความจริงอันลึกซึ้งของมนุษย์ผ่านร่างกาย เสียง และความเงียบ
ยิ่งเราสนับสนุนการแสดงที่ไร้แก่นแท้
เรากำลังประกาศให้โลกรู้ว่า…
เราไม่ใส่ใจคุณภาพของจิตใจมนุษย์อีกต่อไป
เราทำราวกับว่าคนดูเป็นคนโง่
ที่ดูไม่ออกว่าอย่างไรจริง อย่างไรปลอม
และเราก็ได้แต่สงสัยว่า
เหตุใดคนในชาติจึงไปนิยมผลงานต่างชาติ
ต่างชาติไม่ได้เก่งอะไรกว่าเรา
แต่เขามีวิสัยทัศน์มากพอที่จะคัดกรอง
เขาฝึกคนให้พร้อมก่อนที่จะส่งออกแสดง
จริงอยู่ที่เขาอยากได้กำไรและกระแส
แต่เขารู้ว่าการส่งคนไม่เข้าใจในอาชีพ
มารับผิดชอบงานใหญ่เท่ากับการดูถูกคนดูและเป็นการทำลายภาพรวมของอุตสาหกรรม
ลองจินตนาการว่าเราจ้างช่างประปา
ที่ไม่รู้เรื่องประปาเลย
เขาทำแค่ท่าทางว่า “เหมือนรู้” แล้วเดินจากไป
น้ำที่แค่รั่วจะกลายเป็นน้ำท่วมในที่สุด
ศิลปะที่หายใจอย่างรวยริน
ใกล้ตายเต็มที
แต่ในความเงียบของงานศิลปะที่กำลังตาย
ยังมีคนบางกลุ่มที่เลือกจะฝึก…อย่างอดทน
เลือกจะรอ…จนกว่าจิตจะพร้อม
และเลือกจะยืนหยัด…แม้ทุกคนรอบข้างจะเดินลัด
เพราะเขารู้ว่า ศาสตร์การแสดงที่แท้จริง
คือการเดินทางกลับมาหาตัวเอง
และเมื่อคนดูพบตัวเองผ่านการแสดง
ศิลปะจะกลับมามีลมหายใจอีกครั้ง