IG ก๊อต - จิรายุ ตันตระกูล
@godfather1632
ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน (ติดต่องาน 0999789197 คุณ แตงโม)
-
follower2.2m
-
following1.1k
-
media4.4k
-
คนเราโน้มน้าวตัวเองให้เชื่อในบางเรื่องได้
ทั้งๆที่ตนยังไม่ได้ตรวจสอบมันให้ดี
และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะความขาดสติ ขาดความรู้สึกตัว
บวกกับมีนิสัยการสรุปสิ่งต่างๆอย่างไม่ใช้ปัญญาสรุป
แต่ใช้ความมักง่ายสรุป
จนกว่าคนคนนั้นจะตั้งสติเป็นและแยกออกว่า
อย่างไรใช้ปัญญาสรุปและอย่างไรใช้ความมักง่ายสรุป
เขาจึงจะพบการโน้มน้าวตนเองในแบบที่ประเสริฐขึ้น
และเป็นอิสระจากการโน้มน้าวตนเองไปแบบที่โง่เขลา
จงตรวจสอบความเชื่อที่เราโน้มน้าวตัวเองให้เชื่ออยู่
ตรวจสอบมันทุกแง่มุมของชีวิต ดูสิว่าความเชื่อเหล่านั้นพาเรามาอยู่จุดไหนในปัจจุบัน36 15.7k -
-
ความก้าวหน้าที่เรามุ่งมั่นสะสม
มีแรงกดดันที่ทิ่มแทงซ่อนอยู่ภายในจิตใจเสมอ
ใครบ้างไม่เจอกับเรื่องนี้?…คำตอบคือไม่มี!
ในทางหนึ่งดูเหมือนเราสะสะมความก้าวหน้า
ในอีกทางหนึ่งเรากำลังสะสมความกดดันเสียดแทงไปพร้อมๆกัน
คือเรามีทั้งความอยากและมีความไม่อยากไปพร้อมกัน
เราอยากมีความก้าวหน้าและไม่อยากเจออุปสรรค
แต่สองสิ่งที่กล่าวมามันคือสองด้านของเหรียญเดียวกัน
มันอยู่คู่กันเสมอ
เพราะมุ่งมั่นหาสิ่งนั้น จึงได้รับสิ่งนี้
และเมื่อเจอกับสิ่งนี้ จึงมุ่งมั่นแก้ไขเพื่อให้ได้รับสิ่งนั้น
วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่รู้จบ
แล้วก็ได้แต่แสร้งว่าเป็นสุขจากความก้าวหน้าทางวัตถุต่างๆนานา
สิ่งที่จะมาช่วยเรื่องนี้ได้คือ ความก้าวหน้าในอีกมุมหนึ่ง
ซึ่งมันคือความก้าวหน้าของ “ความรู้สึกตัว”
หรือจะเรียกว่า สติสัมปชัญญะ ก็ได้
ความก้าวหน้าของความรู้สึกตัวนี้แหละที่เรียกได้ว่าเป็นความก้าวหน้าที่ปราศจากแรงเสียดทาน
เป็นความก้าวหน้าในทางจิตใจ และทำให้ความก้าวหน้าในทางวัตถุนั้นเต็มไปด้วยความเข้าใจกฏของธรรมชาติ
มันทำให้คนไม่บ้าคลั่งไปกับความอยาก
และมันก็ทำให้คนไม่หม่นหมองไปกับอุปสรรค
ซึ่งมันเป็นความก้าวหน้าของจิตใจที่พัฒนาจนมาพบกับความสมดุลย์ ปราศจากความสมดุลย์นี้ย่อมถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเหมือนดั่งทาสที่มีเจ้านายเป็นความก้าวหน้าทางวัตถุ54 9.4k -
ปัญหาของนักสะสมความรู้คือ
พวกเขาย่อมได้รับความรู้และมักสับสนจากความรู้ที่พวกเขาสะสม
พวกเขามักทึกทักเอาเองว่า รู้แล้ว เข้าใจแล้ว เพียงเพราะตนได้ศึกษามาหลายแง่มุม แต่ลึกเข้าไปในจิตใจยังคงเต็มไปด้วยความสับสนที่เขาเองก็ไม่อยากจะยอมรับ มันเหมือนกับว่ายิ่งรู้เยอะยิ่งเข้าใจน้อย
มันเป็นความจริงที่น่าปวดใจของบรรดาผู้เสพติดการสะสมความรู้
“ความรู้ที่แท้จริงไม่เคยอยู่ข้างนอก มันอยู่ในความเงียบที่อยู่ติดกับตัวเรา และมันนำทางเราได้ดีกว่าความรู้ที่เราได้จากคนอื่น และมันเข้าถึงได้เฉพาะผู้ที่เป็นมิตรกับความเงียบเท่านั้น”41 8.6k -
-
มันมีความแตกต่างระหว่าง
การแสดงความคิดเห็นกับการเห็นความคิด
การแสดงความคิดคือการกระทำภายนอกที่ออกมาเป็นวาจา
โดยส่วนใหญ่มักออกมาจากอัตตา(ตัวตน) ซึ่งป็นเหตุให้นำมาซึ่งความแตกต่างและความวุ่นวายในหลายหน
ส่วนการเห็นความคิดนั้นคือการกระทำภายในจิตใจ
มันจะยังไม่เป็นวาจาจนกว่าจะจนกว่าจะเกิดการตัดสินใจ
ซึ่งการตัดสินใจนั้นหากขาดปัญญาประกอบ
วาจาที่ออกมาก็แน่นอนว่าย่อมอยู่บนพื้นฐานของ(อัตตา)ตัวตน
คนเราสามารถแสดงความคิดเห็นออกไปได้โดยที่ไม่เห็นความคิด
ส่วนคนที่เห็นความคิดแล้วบางทีมักไม่พูดออกไป
เพราะในการเห็นมันมีการประเมินถึงผลลัพธ์เช่น
เรารู้จริงหรือไม่รู้จริงในสิ่งที่กำลังจะพูด
มันจำเป็นหรือไม่จำเป็นในสิ่งที่กำลังจะกล่าว
และมันเมตตาหรือไม่เมตตาในคำพูดที่กำลังจะปล่อยออกไป
หลายครั้งที่พอเห็นความคิดในลักษณะนี้แล้ว
มันจะเงียบของมันเอง…
อย่างนี้เรียกว่าสติมาสงบวาจาไว้ได้ทัน
กลายเป็นความเงียบที่ไพเราะเพราะการเห็นความคิด53 10.1k -
สงวนคำว่า “แม่” ไว้กับคนที่คู่ควร
คำว่าแม่นี้ยิ่งใหญ่
การจะเรียกใครแม่ควรทบทวนว่าคนๆนั้นมีคุณสมบัติของการ
“มอบความรักอย่างไร้เงื่อนไขหรือไม่”
หากไม่เสียแล้วก็เก็บไว้ให้แก่คนที่มีคุณสมบัติจะดีกว่า
อย่าได้ทำลายคุณค่าของคำที่ยิ่งใหญ่นี้ไป
คำว่า ”แม่“ ไม่ใช่กับใครก็ได้…😊😊😊🙏🏻🙏🏻🙏🏻
รักแม่ครับ ภูมิใจได้เกิดเป็นลูกแม่ครับ #คอมเม้นอย่างผู้เจริญ98 16.2k -
-
“รู้ไม่จริงอย่าได้พูดออกไป”
ถ้าประโยคนี้อยู่ในจิตสำนึกของคนส่วนใหญ่
สังคมจะเงียบสงบกว่าที่เป็นอยู่…
เพราะส่วนใหญ่เสียงที่ดังมักออกมาจากผู้ที่รู้ไม่จริง คือรู้ความจริงแค่มุมเดียว แต่หลงคิดว่าตนรู้ทั้งหมด มันเป็นอ่อนของจิตใจที่ทึกทักเอาเองว่าตนรู้จริงในสิ่งที่ฟังเขาเล่ามา แล้วคนเช่นนี้ก็มักจะชอบแสดงความคิดเห็นราวกับรู้จริงเสียด้วย😅96 20.0k -
วันนี้มาสัมภาษณ์และมีคำถามหนึ่งที่น่าสนใจ เขาถามว่าถ้าขออะไรก็ได้ในวินาทีนี้จะขออะไร …. “ขอให้ทุกคนหลุดพ้นจากความทุกข์ทุกชนิด และอยู่อย่างมีความสุข” เขาจึงถามต่อว่าเหตุใดจึงขอสิ่งนั้น “มันเป็นเพราะหากทุกคนพ้นจากความทุกข์แล้ว พวกเราก็อยู่อย่างไม่ทรมานและไม่ดิ้นรน คืออยู่อย่างสุขทั้งกายและใจ และคนที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุขที่แท้จริงจะทำสิ่งต่างๆโดยคำนึงถึงผลกระทบของส่วนรวมเสมอ คนเราจำกัดความรักและการอวยพรไว้เฉพาะคนที่ใกล้ชิดทั้งๆที่เขาขยายมันออกไปได้อย่างไม่มีจำกัด การขอให้ทุกคนมีความสุขจึงเป็นการขอเพื่อองค์รวมมิใช่แค่หน่วยเดียว“ ข้าพเจ้าเคยอยู่อย่างส่งความรักแค่คนที่ตนรู้จักมานานแสนนาน จนกระทั้งค้นพบว่าการมอบความรักให้ผู้อื่นด้วยคือความสามารถพิเศษที่มนุษย์นั้นมีได้ ไม่ว่าท่านจะชื่นชมหรือรังเกียจ ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ไม่ว่าท่านจะอยู่ไกลหรือใกล้ ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ข้าพเจ้าขอให้ทุกท่านที่อ่านมีความสุข พ้นจากทุกข์ทุกชนิด อยู่อย่างเบิกบานมีรอยยิ้ม ในวินาทีนี้ ขอให้ทุกท่านมีความสุข : และหากเมื่อท่านรับรู้ถึงความรักที่ข้าพเจ้าส่งออกไปแล้ว ขอให้ท่านมอบความรักเหล่านั้นต่อๆไปสู่ทุกผู้ทุกคน เพราะโลกต้องการจิตใจลักษณะนี้ 🙂282 27.1k
-
ในแง่หนึ่งเรากำลังมองป่าเขา อีกในแง่หนึ่งป่าเขากำลังมองเราอยู่ ภายในป่ามีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งในดิน บนบก และบนท้องฟ้า ส่วนตัวเรานั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งภายนอกและภายใน เรากับผืนป่าเป็นหนึ่งเดียวกันก็เพราะว่าเราทั้งสองอยู่ภายใต้กฏของการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงทุกขณะไปพร้อมๆกัน แต่แตกต่างกันตามเหตุปัจจัย …..เมื่อสิ่งที่เห็นว่ามีอยู่ ไม่ว่าจะกายนี้ก็ดี จิตใจนี้ก็ดี ผืนป่านี้ก็ดี หากถูกรู้ถูกเห็นด้วยปัญญาว่ามันมีอาการธรรมดาเป็นการเปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ ความพร่ามัวที่เห็นว่ามันมีอยู่ก็จะหายไปในทันที เห็นแต่ความว่างที่ตั้งอยู่อย่างเป็นนิรันดร์ ว่างราวกับท้องฟ้า แต่ห่อหุ้มทุกอย่างไว้ข้างใน ความว่างตรงนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในทุกสิ่ง ทั้งสิ่งที่เล็กที่สุดและใหญ่ที่สุด ทั้งในสิ่งที่น่าเกลียดและสิ่งที่น่ารัก มันอยู่ในทุกมิติ ดั่งที่ปราชญ์จีนกล่าวไว้อย่างแคบคายว่า สัจจะความจริงแห่งความว่างนั้น มีอยู่แม้ในกองขี้หมา70 14.5k
-
ทุกสิ่งที่มุนษย์สร้างขึ้นมาจนเห็นได้ด้วยตา
มันเกิดขึ้นมาสองครั้งด้วยกัน
ครั้งแรกในจิตใจและครั้งที่สองหลังจากผ่านการลงมือ
ทุกสิ่งล้วนเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ โครงการ หรือแม้แต่ระบบ
ถ้ามนุษย์ส่วนใหญ่เข้าใจสิ่งนี้ พวกเราย่อมจะหวาดกลัวการไม่ตั้งสติ เพราะการไม่ตั้งสติก่อนคิดจะทำให้เราเผลอตัวฉายภาพภายในจิตใจของเราในทางเลวร้าย และแน่นอนว่าคำพูดและการกระทำในที่สอดคล้องกับความเลวร้ายนั้นก็จะตามมาอย่างอัตโนมัติ จนก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายตามสิ่งที่ตนย้ำคิดอยู่ในหัว เพียงเพราะไม่เข้าใจว่าทุกอย่างเกิดขึ้นสองครั้ง
ส่วนคนที่เข้าใจกฏธรรมดานี้ดี จะให้ความสำคัญกับการตั้งสติและการเลือกความคิดอย่างมาก เพราะเขารู้ว่าทุกความคิดและความรู้สึกนั้นคือเมล็ดพันธุ์ที่จะเติบโตในอนาคต และหากเขารู้ตัวว่าไม่มีความคิดดีๆเขาก็จะตั้งสติและมองหาความรู้ที่จะยกระดับความคิดของเขา โดยมีหัวใจที่เปิดรับและชื่นชอบการพัฒนา
สรุป คนที่ไม่เข้าใจหรือแค่คล้ายเข้าใจว่าทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นสองครั้งนี้ จะไม่ใส่ใจการตั้งสติ การเลือกความคิดและการหาความคิดดีๆจากแหล่งใหม่ พวกเขาจะแก้ไขปัญหาต่างๆราวกับ คนที่วิ่งหนีเสือและเอามือปิดตาไว้
ส่วนคนที่เข้าใจก็จะให้ความสำคัญกับการตั้งสติก่อนเลือกความคิด และสร้างสิ่งทั้งหลายภายในจิตใจของเขาให้ดี ก่อนที่จะพัฒนาการลงมือทำตามลำดับไป #คอมเม้นอย่างผู้เจริญ79 21.3k -
พวกเราหลอกตัวเองกันว่ามีความสุขจากสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่เรามี เราหลงคิดกันว่าความทันสมัยที่อำนวยความสะดวกให้พวกเราคือความสุข แท้จริงมันเป็นแค่ความสบายขึ้นจากความลำบาก จิตใจของพวกเรายังไม่ฉลาดพอจนแยกแยะออกระหว่างความสุขที่แท้จริงและความสบายขึ้นจากความลำบาก และนี่แหละคือปัญหา พวกเราทุ่มพลังกายและใจเพื่อได้มาซึ่งความสบายขึ้น แล้วเมื่อได้รับมาซึ่งความสบายขึ้นจึงได้รู้ว่าความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ตรงนั้น…แล้วความสุขที่แท้จริงอยู่ตรงไหน? มันอยู่ติดตัวเราตลอดเวลา มันเรียบง่ายและทรงพลัง และมันไม่ได้วางไว้บนรากฐานของอัตตา อัตตาตัวตนมีแต่จะตักตวงประโยชน์เข้าตัว แต่ความไม่มีตัวตนแม้ชั่วขณะหนึ่งก็เป็นความเบิกบานหาสิ่งเปรียบไม่ได้ ดูอย่างคนทำบุณบนรากฐานของอัตตาสิ พวกเขาทำประโยชน์เพื่อแลกกับผลประโยชน์ในอนาคตของเขา แต่คนที่ทำบุญอย่างไร้อัตตาไม่ได้แคร์ว่าจะต้องได้อะไรกลับมา เขาแค่มีความสุขจากการให้ด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ เป็นการให้ที่ไม่เจือปนด้วยความคาดหวัง #คอมเม้นอย่างผู้เจริญ113 18.4k
-
อย่ามองข้ามการคัดกรองสื่อ
สื่อที่มีคุณค่าเสพแล้วเกิดปัญญา เกิดมุมคิด เกิดแรงบันดาลใจและให้ความเพลิดเพลินในทางที่สร้างสรรค์
สื่อที่ไร้คุณค่าเสพแล้ว เกิดความวิตกกังวล ความกลัว และพัฒนานิสัยสอดรู้ในสิ่งที่ไม่มีทางรู้จริง ซึ่งเป็นขยะทางสมองเป็นข้อมูลที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้
ในโรงเรียนเราไม่มีการสอนการคัดกรองสื่อ
แต่ในโลกปัจจุบันคนมากมายก็คัดกรองได้มากขึ้นเนื่องจากมีสื่อหลายช่องทางให้เปรียบเทียบว่าอย่างไรไร้สาระอย่างไรมีสาระ
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของแต่ละคนว่าจะรับขยะเข้าตัวหรือรับข้อมูลที่ช่วยให้เติบโต
คนที่ไม่คัดกรองสื่อก็ไม่ต่างจากคนที่ต้อนรับขยะบ้าน
ลองนึกถึงบ้านที่เต็มไปด้วยขยะ แล้วเราจะเริ่มเข้าใจว่าสมองเราไม่ควรเป็นแบบนั้น จริงๆแล้วเราสามารถเลือกได้ที่จะไม่เสพสื่อกระแสหลักที่เป็นพิษ และหันมาเลือกสื่อที่ช่วยพัฒนาตนเองในหลายๆเรื่อง
#คอมเม้นต์อย่างผู้เจริญ88 33.2k
คุณอาจจะสนใจ IG ดาราเหล่านี้
-
For work please contact LINE: @hellosupree
-
🎭 One31 Actor
👟 Asics Brand Ambassador 2024
For work 0648241514 (K.Nat) -
🌺Plant Powered
🐘@worldanimalprotectionthailand
🦈 #WildAid
#MissUniverse🇹🇭'17
🆘 @sos.thailand
🐛 @yora.thailand
💼 0642193929Frame
📂mariapoonco@gmail.com -
SIZZY ,GMMTV
@nellyandbentley
CommArts Chula
Work Inquiry: K.Dao 085-3692699
Line: @ayesarunwork
ayesarunwork@gmail.com
ṃѧяҡ25 -
4263
🇹🇭 TV Host, Actress
GMMTV
work 📞
K.Fon : 06-6156-3955
K.Go : 08-2296-5241
K.Som : 09-0262-9396
YouTube : Jennie Panhan 🆕
👇🏽👇🏽👇🏽 -
รินมิเนะ (n.) 🍫🖤
Tel. : 0858420101 (K.Raizo)
E-mail : contact@cmjofficial.com