
เป็นเกียรติเสมอที่ได้พูดในที่ประชุมสหประชาชาติ ครั้งนี้ที่ International Youth Forum กับผู้นำเยาวชนกว่า 400 คน จาก 90 ประเทศทั่วโลก “ทุกปีเราเผชิญปัญหาปะการังฟอกขาวอย่างรุนแรง หญ้าทะเลลดลงอย่างมาก ทำให้ชาวประมงท้องถิ่นเลี้ยงชีพได้ยากขึ้น แม้แต่เกาะพีพีที่มีชื่อเสียงก็เคยต้องปิด เพราะขาดแคลนน้ำ ปัญหานี้คือปัญหาภูมิอากาศ? หรือเป็นปัญหาการจัดการด้วย? ทางภาคเหนือของเรา เช่น เชียงใหม่ เชียงราย เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง แต่ความจริงคือ ชาวบ้านต้องหนีดินถล่มแทบทุกวัน หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ผมไปเยือนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน โรงเรียนถูกดินถล่มพัง เด็ก ๆ ต้องมาเรียนในลานจอดรถแทน ปีที่แล้ว เรามีน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภายในไม่กี่ชั่วโมง น้ำก็สูงเกินกว่าจะรับมือได้ และเกิดขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป หลายชีวิตสูญเสียไป ปัญหานี้เป็นอุบัติเหตุจริงหรือ? หรือเป็นผลจากการใช้ภูเขามากเกินไปเพื่อการเกษตร ทำให้ฝนไหลบ่าโดยไม่มีดินดูดซับ? แต่ในขณะเดียวกัน หากปราศจากเกษตรกรรม เศรษฐกิจของประเทศเราก็อยู่ไม่ได้ มลพิษ PM2.5 หรือที่เราเรียกกันว่า “ฤดูหมอกควัน” เกิดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคมถึงเมษายน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ คนที่สุขภาพแข็งแรงยังล้มป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด ครอบครัวต้องอพยพ และเด็ก ๆ ไม่สามารถออกไปเล่นข้างนอกได้ ปัญหานี้คือปัญหามลพิษ? หรือเป็นปัญหาสิทธิมนุษยชนด้วย? แม้แต่ในกรุงเทพฯ เอง เราก็เผชิญแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 100 ราย เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน.. จากประสบการณ์ทำงานกับเยาวชนมากว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้ว่าผมเชื่อมั่นในพลังของผู้นำเยาวชนอย่างแท้จริง พวกคุณสามารถเปลี่ยนสิ่งนี้ได้ แม้แต่ผมเองที่อยู่ในเมือง ก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา เราต้องยอมรับว่าเราใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เราปล่อยคาร์บอนในชีวิตประจำวัน แต่ชุมชนท้องถิ่นที่ช่วยเราปกป้องธรรมชาติ มีคาร์บอน footprint น้อยกว่า กลับเป็นกลุ่มที่เปราะบางที่สุดต่อวิกฤติภูมิอากาศ เสียงของพวกเขาแทบไม่เคยถูกได้ยิน และนี่คือเหตุผลที่การสนับสนุนของพวกคุณสำคัญมาก เราทุกคนต่างเผชิญความท้าทาย แต่ผมเชื่อว่าจะมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์มืดมิดนี้ ขอให้เรามีความหวังและไปถึงจุดนั้นให้ได้ ขอบคุณครับ”