
ครั้งหนึ่งมีคนถามข้าพเจ้าว่า
การเป็นคนที่พัฒนาหรือหาความรู้อยู่ตลอดเหนื่อยหรือเครียดมั้ย?
ข้าพเจ้าตอบว่า
การอยู่อย่างไม่พัฒนาและขาดความรู้ในเรื่องที่ควรรู้ ทำให้ข้าพเจ้าเครียดยิ่งกว่า
เขาถามต่อว่า
แล้วทำไมคนจำนวนมากถึงขาดการพัฒนาและรังเกียจการเรียนรู้นักเล่า?
ข้าพเจ้าตอบว่า
หนึ่ง — ผู้คนมากมายถูกฝึกจากระบบการศึกษาที่เน้นการผลิตแรงงานที่เชื่อฟังง่าย มากกว่าที่จะสร้างมนุษย์ที่ใช้ศักยภาพของตนเองได้เต็มที่ คนจึงกลายเป็นสิ่งผสมผสานระหว่าง ความเป็นเครื่องจักรที่ถูกคนอื่นโปรแกรม กับ มนุษย์ที่ยังมีอารมณ์และความคิดที่ซับซ้อน
สอง — ไม่ใช่ทุกดวงจิตที่มาบนโลกนี้ด้วยหัวใจที่การเติบโตหรือใฝ่หาความจริง
หลายคนเลือกใช้ชีวิตตามเส้นทางที่ถูกวางมาให้แล้ว(จากคนอื่นโดยไม่รู้ว่าเลือกเองได้)ไม่อยากได้ยินข้อเสียของตน ไม่อยากเห็นความผิดพลาดของตน เพราะการเผชิญหน้ากับมันเจ็บปวดกว่าการหาข้อแก้ตัวเสียอีก
สาม — การพัฒนาต้องการความกล้า และความกล้าต้องการพลังงาน แต่คนจำนวนมากหมดพลังไปกับการดิ้นรนเอาตัวรอดในระบบที่ไม่เคยถูกออกแบบมาเพื่อให้เขาได้เติบโต ความเหนื่อยล้าจึงบดบังไฟแห่งการเรียนรู้
และเมื่อเขาฟังจบ ข้าพเจ้าถามกลับว่า
แล้วท่านล่ะ…
อยากมีชีวิตที่เป็น เครื่องจักรที่ทำงานตามคำสั่ง หรือเป็น มนุษย์ที่ใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกและปัญญาอย่างเต็มที่? …แต่เอาจริงๆนะคำตอบของท่านไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าพเจ้าเลย แต่มันจะเป็นสิ่งสะท้อนความคิดของท่านที่มีต่อเรื่องการพัฒนาตัวเอง
บางคนอ่านข้อความนี้แล้วมีแรงบันดาลใจ
บางคนอ่านข้อความนี้แล้วเต็มไปด้วยข้ออ้าง
บางคนอ่านข้อความนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
บางคนอ่านข้อความนี้เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
หรือบางคนอ่านข้อความนี้แล้วก็มีความรู้สึกหรือความนึกคิดมากมายสุดจะบรรยายได้
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามมันก็คือเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงความคิดของแต่ละคนที่อยู่ภายในตัวเอง
เพราะทุกคนแม้อ่านข้อความเดียวกันแต่ภายในจิตใจเขาย่อมตีความและให้ค่าต่างกันอย่างแน่นอนและนั่นแหละคือกระจกสะท้อนอย่างดี ว่าท่านผู้อ่านมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการพัฒนา #คอมเม้นอย่างผู้เจริญ