SIAMZONE.COM

เป็นดราม่าที่ดูยากอีกเรื่องหนึ่ง น่าเก็บสะสมไว้ มันแปลกดี

ชีวิตหลังเกษียณของ คนที่ทำงานทุ่มเทให้กับงานจนไม่สนใจสิ่งใดมาตลอดทั้งชีวิต ย่อมดูไร้ค่าเหมือนกับคนไม่มีประโยชน์ ไม่ต่างกับชีวิตของ วอร์เรน ชมิดท์ ซึ่งรับบทโดย Jack Nicholson

แค่เห็นว่าเรื่องนี้ Jack Nicholson แสดงนำ ก็สามารถเดาได้ว่า นิสัยของ วอร์เรน จะต้องแปลกประหลาดจากคนปกติแน่ นิสัยของ วอร์เรน ที่ไม่เคยเห็นค่าของคนอื่น ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างพรั่งพรู ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ คิด เขียนจดหมาย หรือแม้แต่ฝัน สะท้อนถึงภาพของคนที่มองในแง่ร้ายอย่างสุดขั้วและไม่เคยเสียสละ

ฝีมือการแสดงของ Jack ถ้าได้ดูเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก คงจะพูดได้เต็มปากว่าเล่นได้เก่ง คนอะไรเล่นบทแปลกๆ แบบนี้ก็ได้ด้วย แต่ถ้าเคยดูผลงานของเขามาบ้างแล้วจะพบว่า ฝีมือของเขาจากเรื่อง As Good As It Gets ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์นั้น เล่นได้ดีกว่า

ด้านเนื้อเรื่อง เนื่องจากชีวิตหลังเกษียณของ วอร์เรน นั้นกลายเป็นสีดำ ทำให้ภาพทั้งหมดในเรื่องที่ออกมาดู อึดอัด คับแคบ และมืดหม่น บทพูดหรือการกระทำต่างๆ จะแฝงไปด้วยความคิดในแง่ร้ายอยู่ตลอดเวลา จนมีคำถามขึ้นมาว่า ถ้าจะสร้างภาพยนตร์รูปแบบนี้สัก 1 เรื่อง จำเป็นจะต้องทำให้คนดูอึดอัดมากขนาดนี้เชียวหรือ แต่บทตอนท้ายเรื่องที่ทะลวงจิตใจของทั้ง วอร์เรน และคนดู ให้พ้นจากความอึดอัดนั้นคุ้มค่าที่จะรอจริงๆ สิ่งดีๆ ที่ภาพยนตร์ถ่ายทอดออกมาตอนท้ายเรื่องที่ทำให้ตาเฒ่าได้พบทางสว่าง น่าจะเป็นข้อคิดดีๆ เพียงสิ่งเดียวที่แทรกอยู่ในภาพยนตร์ "การเสียสละให้คนอื่น เป็นบ่อเกิดแห่งความมีค่าของตัวเอง"

แฟนภาพยนตร์ดราม่าหนักๆ ไม่ควรพลาดเรื่องนี้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านนักแสดง หรือบทภาพยนตร์ แต่มันคงจะดูอึดอัดไปสักนิดสำหรับคนธรรมดาสามัญที่ดูหนังเพื่อความบันเทิง

และท้ายนี้ขอให้ เอ็นดูกู ไม่เป็นเหมือน วอร์เรน เถิดเพี้ยง!