วิจารณ์ The Butterfly Effect
-
เม บางปะกอก&เหมียว บางปะแก้ว (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 15 มี.ค. 47 09:39
แอชตัน คูชเชอร์ พัฒนาการเล่นได้ดีมากกว่าเดิมเยอะไม่ว่าจะในเรื่องของการใช้อารมณ์ บทร้องไห้ บทโกรธ โมโห เสียใจ แสดงได้ดี แตกต่างเราจะเห็นจากเขารับบทเดิม แนวรัก โรแมนติก อย่าง Just Married พัฒนาการตัวเองได้ดีเยี่ยม ในส่วนของเนื้อหาหนังก็ ok แม้จะงงๆบ้าง แต่บทสรุปตอนท้ายเคลียร์ดี จบได้ดี ไม่ควรพลาด นะคั๊บ
-
Listenism Again (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 14 มี.ค. 47 17:42
The Butterfly Effect ........
แปลง่ายๆคือ ปฏิกิริยาลูกโซ่ ทำนองนั้นครับ หมายความว่าเพียงเหตุการณ์เล็กๆที่เกิดขึ้น ก็มีผลกระทบกับเหตุการณ์อื่นๆต่อเนื่องกันไป หรือ เหตุการณ์เล็กๆ อาจทำให้เกิดผลที่ยิ่งใหญ่คาดไม่ถึงตามมา ถ้าสุภาษิตจีนก็ต้องพูดว่า เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวไงครับ .......
เป็นทฤษฎีที่ ต่างประเทศเค้าศึกษา กันด้วย ทั้งด้านปรัชญา และ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์,คณิตศาสตร์เลยครับ -
Cookie'n'Cream (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 14 มี.ค. 47 12:21
ชอบเรื่องนี้มากค่ะดูแล้วยังสงสัยว่าจริงๆแล้ว The Butterfly Effect แปลว่าอะไร ใชศัพท์ทางวิชาจิตวิทยารึเปล่าคะใครทราบว่าแปลว่าไรช่วยบอกทีค่ะ
-
Listenism (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 14 มี.ค. 47 01:27
เป็นหนังที่ดีนะ ให้คติสอนใจเรื่องการตัดสินใจในชีวิต ส่วนอารมณ์ของหนังก็ OK ให้เราติดตามตลอดว่าพระเอกจะหาบทสรุปกับสถาณการณ์ที่ควบคุมไม่ได้นี้ยังไง และทุกครั้งที่พระเอกย้อนอดีตจะเกิดอะไรตามมา อีกอย่างคือชอบตอนจบที่พระเอกกล้าตัดสินใจ และคิดว่าตอนจบพอใช้ได้เลยไม่เสียอารมณ์ และไม่ทำให้เราเดาได้ก่อน แต่ข้อเสียก็ตามบทวิจารณ์จริงๆครับ เนื้อเรื่องบางตอนยังขาดน้ำหนักอยู่ ตอนดูก็อย่าไปคิดอะไรมาก
-
อลิศรา (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 14 มี.ค. 47 01:25
สนุกค่ะ เนื้อเรื่องดำเนินได้ดี มีหักมุมช่วงกลางๆเรื่อง ให้แง่คิดดีค่ะ ชวนให้ติดตามจนจบเรื่อง เป็นหนังที่ดีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ
-
น้องป่อง (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 11 มี.ค. 47 16:00
ก็ดีนะไปดูมาแล้วตอนแรกก็งงแต่ดูไปแล้วถึงจะเข้าใจตอนจบพระเอกกับนางเอกแยกทางกัน
-
เดมี่ มัวร์ (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 11 มี.ค. 47 01:01
หนังก็ OK แม้กลางเรื่องดูแล้วอาจจะงงไปบ้างแต่ตอนจบบทสรุบก็ดีให้แง่คิด แต่สงสารตัวอีแวนและเคย์ลีห์ ส่วนตัวแล้วชอบนะ
-
JoEi (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 8 มี.ค. 47 15:17
ภาพยนตร์ย้อนเวลาที่มีรูปแบบการนำเสนอที่แปลกออกไป
ถ้าจะให้นึกถึงภาพยนตร์ที่เล่นตลกกับกาลเวลานับว่ามีมากมายอยู่เหมือนกัน ทั้งที่เป็น แนววิทยาศาสตร์ และโรแมนติก แต่ เอริค เบรส และ เจ. แมคคีย์ กรูเบอร์ ก็ยังสามารถสร้าง The Butterfly Effect ให้มีความแตกต่างออกไปจากภาพยนตร์เรื่องอื่นได้
The Butterfly Effect เป็นเรื่องของการเดินทางย้อนเวลากลับไปแทนที่ตัวเองในอดีต โดยผ่านสื่อคือบันทึกประจำวันของตัวเอง โดยส่วนตัวแล้วนับว่าเป็นความคิดที่ดีที่จะให้ย้อนเวลากลับไปแทนที่ตัวเองในอดีต แทนที่จะมีตัวเองในอดีตเกิดขึ้นซ้อนกัน ซึ่งมันก็สนับสนุนความรู้สึกที่ว่า ไม่มีทางที่จะมีตัวเอง 2 คนในเวลาเดียวกัน
อีแวน ผู้ที่มีความสามารถในการเดินทางข้ามเวลาได้ รับบทโดย แอชตัน คุทเชอร์ ซึ่งถ้าจะมองผีมือด้านการแสดงเทียบกับเรื่องก่อนหน้านี้นับว่าเขาพัฒนาขึ้นอยู่พอสมควร อาจจะเป็นเพราะว่าได้รับบทที่จะต้องแสดงความรู้สึกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่ถ้ามองโดยรวมแล้ว ภาพยนตร์คงจะสนุกมากขึ้นกว่านี้ถ้าเขาสามารถแสดงความรู้สึกต่างๆ นอกจากหน้าตาที่ทะเล้น หรือท่าทีกำลังงง ได้ดีกว่านี้
นักแสดงคนอื่นๆ อย่าง Amy Smart (ที่รับบทเป็น เคย์ลีห์), Elden Henson (รับบทเป็น เลนนี่), Melora Walters (รับบทเป็น แม่ของ อีแวน) และ William Lee Scott (รับบทเป็นน้องของ เคย์ลีห์ ชื่อ ทอมมี่) ทุกๆ ครั้งที่อนาคตเปลี่ยนไป พวกเขาเหล่านี้จะต้องได้รับบทบาทที่เปลี่ยนไป ซึ่งนักแสดงเหล่านี้ก็สามารถแสดงออกถึงความรู้สึกใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี
บทเรื่องนี้ยังมีความไม่สมจริงอยู่บ้าง อย่างครั้งที่อีแวนเดินทางกลับไปหาพ่อของเคย์ลีห์ กับบทพูดนั้นดูจะไม่มีน้ำหนักพอที่จะเปลี่ยนอนาคตได้เลย เพราะว่าคำพูดเชิงสั่งสอนที่เด็กทำกับผู้ใหญ่นั้นมักจะให้ผลลบมากกว่าผลบวก ซึ่งผลที่ได้จริงๆ ในภาพยนตร์ดูจะเหลือเชื่อไปหน่อย
ครั้งที่อีแวนเดินทางย้อนเวลากลับไปแล้วจะต้องวาดรูปก่อนที่จะทำอย่างอื่นต่อไป ก็ไม่ได้มีเหตุผลใดๆ ที่อีแวนจะต้องวาดรูปในลักษณะดังกล่าวออกมาก อีกทั้งการกระทำนั้นก็น่าจะทำให้อนาคตเปลี่ยนแปลงไปได้มากกว่านี้
ยังมีจุดสังเกตอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคืออีแวนเขียนบันทึกประจำวันได้อย่างไรเมื่อเขามีสภาพเช่นนั้น ผู้ที่ไปชมภาพยนตร์มาแล้วคงนึกออกว่าหมายถึงฉากไหน จุดนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ภาพยนตร์ไม่ควรจะพลาดเลย
บทสรุปของ The Butterfly Effect นั้นดีมาก ให้คติสอนใจง่ายๆ ย้ำเตือนให้กับผู้ที่ชอบคิดว่า ถ้าตอนนั้นเป็นอย่างนั้น ถ้าตอนนั้นได้ทำอย่างนี้ ความจริงแล้วบางอย่างที่คิดว่าถ้าได้ทำแล้วดี ก็อาจจะไม่ดีอย่างที่คิดก็ได้ ให้เลิกคิดที่จะเปลี่ยนอดีต แล้วมองไปที่อนาคตดีกว่า
The Butterfly Effect เป็นภาพยนตร์ที่ เอริค เบรส และ เจ. แมคคีย์ กรูเบอร์ ใช้เวลาในการหาทุนสร้างนานถึง 7 ปี โดยมี แอชตัน คุทเชอร์ นั่งตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสร้างด้วย
ใครที่ชอบภาพยนตร์แนบวิทยาศาสตร์เป็นทุนเดิม เหมาะมากที่จะไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ถ้าไม่ ก็ไม่ผิดอะไรที่จะไปชมเพราะว่าภาพยนตร์ก็ไม่ได้ดูยาก และโดยรวมก็อยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ แต่อย่าไปคาดหวังกับเรื่องราวที่โรแมนติกมากนัก เพราะว่าคุณอาจจะต้องพบกับความผิดหวัง -
asston (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 6 มี.ค. 47 17:28
ก็ดี ตามที่คาด หนังดำเนินเรื่องดี มีให้ลุ้นตลอด แต่เนื้อหาก็ไม่มีอะไร ดูเอาเพลินๆ
-
ตกโกวบ้อเต็ก (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 6 มี.ค. 47 12:39
กลิ่นของหนังเหมือนกลับเรื่อง โกงความตาย ต้องตาย โดยผู้กำกับเดียวกัน
ใช้แง่ความคิดที่ว่า ถ้ามีเหตุการณ์ใดในอดีต เกิดขึ้นในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน ผลที่เกิดขึ้นจะต่างออกไปโดยไม่อาจคาดเดาได้ ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ไม่น่าเชื่อว่า ฝรั่งทำหนังแนวความคิดเรื่อง "กรรม" ได้ดีถึงเพียงนี้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
วันนี้ในอดีต
จ..เจี๊ยวจ๊าวเข้าฉายปี 2003 แสดง ปจิต ถมยา, กานต์ชนิต ซำมะกุล , ธวัช ทัศนาพลพินิจ
คู่แท้ปาฏิหาริย์เข้าฉายปี 2003 แสดง เจษฎาภรณ์ ผลดี, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี, หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ
Riddickเข้าฉายปี 2013 แสดง Vin Diesel, Karl Urban, Katee Sackhoff
เกร็ดภาพยนตร์
- Fathers and Daughters - รัสเซล โครว์ ผู้รับบท เจก และ อแมนดา ไซฟริด นักแสดงบท เคที เคยร่วมงานกันมาก่อนใน Les Miserables (2012) อ่านต่อ»
- Star Wars: The Force Awakens - เลือกที่จะถ่ายทำในสถานที่จริงและใช้หุ่นจริงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แทนการถ่ายทำในฉากเขียวและสร้างตัวละครในคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ภาพที่สมจริงเหมือนกับภาพยนตร์ไตรภาคต้นฉบับ อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Ghosts of War
ปี 1944 ในช่วงที่การสู้รบระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรและนาซีกำลังถึงจุดแตกหักทหารอเมริกัน 5 นาย ได้รับภารกิจปกป้องคฤหาสน์เก่า...อ่านต่อ»