วิจารณ์ Nobody Knows
-
... (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 27 ต.ค. 47 07:42
แอบร้องอ่ะ เหอๆๆ ดันไปดูคนเดียวด้วย ..ใครเห็นนึกว่าถูกแฟนทิ้งแหงๆเรา
-
Nobody Knows (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 26 ต.ค. 47 14:59
เป็นหนังที่ดีมากกกกก ชอบ เด็กเล่นได้เป็นธรรมชาติดี ภาพก็สวย ไปดูมาเมื่อคืนกลับบ้านมานอนไม่หลับเลย สงสารพวกเค้า อินจัด -"-
-
ผู้เฒ่าฯ puthow@yahoo.com (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 25 ต.ค. 47 22:26
ทุกshotของการถ่ายทำภาพมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะสื่อให้คนดูได้ใช้สมองในการคิดและเดาแม้ว่าจะดูเป็นหนังชีวิตที่ค่อนข้างไม่ธรรมดาที่เด็กแต่ละคนเป็นคนละพ่อกันแต่มาอยู่รวมกันได้เพราะมีแม่เดียวกัน (ทำให้คิดถึงคุณภัทราวดีจริงๆ) ได้แง่คิดในเนื้อเรื่องมากมาย ทีแรกก็ลุ้นว่าเด็กจะเสียคนทั้งหมด กลัวจะไปในทางที่ผิด แต่เรื่องไม่ได้เน้นตรงนี้ เพราะอาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีก็ได้ น่าชมเชย Akira ที่สามารถเอาตัวรอดมาจากการได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ดี รู้แยกแยะ ฯลฯ มีอะไรหลายอย่างที่ทำให้ต้องกลับไปดูใหม่อีกรอบ อย่างน้อยก็ทำให้ภาษาญี่ปุ่นแตกฉานขึ้น แม้จะเป็นภาษาที่ค่อนข้างจะ Simply ในหนังเรื่องนี้ ไม่อาจวิจารณ์หรือบรรยายอะไรได้มากมายในนี้ทั้งหมดได้ สรุปได้แต่เพียงว่ามีข้อดีมากกว่าข้อติ หนังจบลงอย่างทำให้ต้องกลับไปคิดอีกว่าอนาคตของเด็กทั้งหมดจะดำเนินต่อกันไปอย่างไร แต่มีข้อหนึ่งที่เข้าใจได้อย่างชัดเจนเลยว่า เด็กเหล่านี้จะไม่มีโอกาสไปเสียผู้เสียคนเด็ดขาด ในขณะที่คุณแม่ของเธอ (คงไม่ต้องบอกก็ได้ว่าต้องใช้ตัวเปลืองมากเลยนะ ....... ) แกก็ไม่เคยบอกกับลูกของแกซักที ........เนื้อเรื่องดี นักแสดงดี การถ่ายทำดี แสงดี เครื่องแต่งกายดี ไม่น่าเชื่อว่าหนังดูฟอร์มเล็กๆอย่างนี้แต่แรกกลายเป็นสิ่งที่ใหญ่ๆ ได้ สมควรแล้วที่ได้รางวัลจากคานนส์ บอกได้คำเดียวว่า "หนังน้ำไม่เน่า" ครับ สะท้อนให้เห็นอะไรหลายๆอย่างที่ผู้สร้างสอดแทรกไว้อย่างมีการบ้านให้ผู้ชมต้องไปค้นคำตอบเอา ประเทืองปัญญาดีครับ ดูไปร้องไห้ไปด้วย สงสารเด็กและสงสารตัวเองด้วย :'(
-
wow (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 22 ต.ค. 47 10:59
อืมดูเด็กๆแล้วต้องนำไปใช้ในชีวิตจริงบ้าง
-
Sunsun (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 20 ต.ค. 47 23:49
ดีจริง ๆ ครับ อยากให้ทุกคนได้ดูครับ
เด็ก ๆ น่ารักแล้วก็แสดงได้ดีมากทุกคนเลย -
michan (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 19 ต.ค. 47 13:57
อยากรู้จัง ว่าเค้าจะทำเป็นวีซีดี
รึเปล่าอะ
จะได้อุดหนุน ค่ะ -
Michael (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 18 ต.ค. 47 09:36
หนังดูแล้วดีมากๆ เป็นผลงานสร้างสรรค์ของวงการภาพยนตร์ยุคใหม่ ที่มีความหลากหลายในองค์ประกอบของภาพยนตร์ นักแสดงทุกคนแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ สะท้อนชีวิตจริงในสังคมได้อย่างกลมกลืน
หนังได้รับรางวัลด้านนักแสดงชายยอดเยี่ยม จากเทศกาลเมืองคาน ในด้านนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สามารถยืนยันได้ถึงคุณภาพของงาน รวมไปถึงความสามารถอันเปี่ยมล้นของนักแสดงอีกด้วย
หนังดีอีกเรื่อง ที่ไม่ควรพลาด ^^ -
aom c. (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 17 ต.ค. 47 13:29
ชอบหนังเรื่องนี้มากๆ เด็กก็น่ารักดีนะ อยากรู้ว่าจะมีเป็น vcd รึป่าว
-
BigBrother (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 15 ต.ค. 47 01:53
อย่างที่ทราบกันว่า ภาพยนตร์สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงในปี 1988 เมื่อลองหาว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร (และอยากรู้ว่าเป็นไปอย่างไรด้วยซิ) เรื่องก็มีอยู่ว่า มีหญิงสาวญี่ปุ่นคนหนึ่งแต่งงานอย่างมีความสุขและมีลูกชายคนหนึ่ง จนกระทั่งถึงวัยที่ลูกชายจะเข้าโรงเรียน เธอกลับไม่ได้รับจดหมายเรียกตัวลูกชายเข้าโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน เมื่อเธอไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่จึงพบว่า ลูกชายของเธอไม่มีตัวตนอยู่ในทะเบียน ไม่เพียงเท่านั้น แม้การแต่งงานของเธอก็ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะสามีของเธอไม่เคยนำเอกสารแต่งงานไปจดทะเบียน มีบางอย่างผิดพลาดเกิดขึ้นกับชีวิตของเธอและลูก เธอน่าจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่เธอได้ปกปิดเรื่องนี้ไว้จากเพื่อนบ้าน และสร้างเรื่องโกหกว่าเธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย และสามีเธอต้องไปทำงานอยู่ต่างประเทศ โดยที่ความจริงสามีได้ทอดทิ้งเธอไปแล้ว ในเวลาต่อมาเธอมีลูกสาวต่างพ่อเพิ่มขึ้นอีกสามคน ตอนที่ลูกชายคนโตของเธอ ซึ่งไม่เคยเข้าโรงเรียน มีอายุได้ 15 ปี ลูกสาวสามคนมีอายุ 7, 3 และ 2 ปี ความเป็นไปต่อจากนั้น อาจดำเนินไปทำนองเดียวกับในภาพยนตร์ จนในที่สุดเรื่องราวก็ถูกค้นพบ และกลายเป็นข่าวอึกทึกครึกโครมในหน้าหนังสือพิมพ์ เมื่อลูกสาวคนสุดท้องเสียชีวิตในปี 1988 หรือ 16 ปีมาแล้ว ชีวิตต่อมาของเด็กที่เหลือสามคน ซึ่งปัจจุบัน พี่ชายคงมีอายุ 31 ปี และน้องสาวที่เหลือสองคนคงจะอายุได้ 23 และ 18 ปี รวมทั้งแม่ซึ่งน่าจะมีอายุประมาณ 50 ปี ผมยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร
ภาพยนตร์สร้างเมื่อผู้กำกับได้มีเวลาบ่มเหตุการณ์นี้ไว้ถึง 16 ปี ท่วงทำนองของภาพยนตร์จึงไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเรื่องเศร้า เราจะไม่ได้เห็นเด็กในเรื่องร้องไห้ โดยเฉพาะตัวพี่ชาย ซึ่งเป็นผู้แบกรับภาระและเรื่องราวทั้งหมด แต่เป็นการเฝ้ามองภาพการเจริญเติบโตของชีวิต ช่วงระยะเวลาที่แสดงด้วยฤดูกาลที่ค่อย ๆ ผ่านไป และเด็ก ๆ ที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้นในเรื่องโดยเฉพาะอากิระ ผู้กำกับได้ใช้เวลาถ่ายทำจริง 1 ปี เพื่อให้เห็นเด็ก ๆ โตขึ้นจริง ๆ อันที่จริงเมื่อดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบ ผู้ชมอาจรู้สึกในใจถึงความเข้มแข็งของเด็ก ๆ และรู้สึกถึงความหวัง แม้เราจะไม่ได้เห็นคำตอบและตอนจบที่สุขสันต์
ผู้กำกับบอกว่าคัดเลือกตัวแสดงเป็นอากิระพี่ชาย (Yagira Yuya)เพราะดวงตาที่แสดงอารมณ์ของเขา ในเรื่องเราได้เห็นความเป็นผู้ใหญ่ของอากิระจากแววตายามที่ต้องพยายามต่อสู้เพื่อรักษาโลกใบเล็ก ๆ เอาไว้อยู่กับน้อง ๆ ต่อมาก็เห็นแววตาอากิระเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อยากเล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน เมื่ออยู่กับน้อง ๆ อากิระเป็นผู้ใหญ่ ตอนที่ยูกิน้องสาวคนเล็กพยายามเขียนชื่อตัวเอง อากิระเป็นผู้กุมมือยูกิช่วยเขียน ถึงตอนที่อากิระจับไม้เบสบอล โค้ชเป็นผู้กุมมืออากิระบ้าง แววตาอากิระเป็นสุข ราวกับจะรำลึกถึงพ่อ เราได้เห็นแววตาอ่อนล้าระโหยของอากิระเมื่อนั่งบนรถไฟและตอนที่นั่งรถไฟกลับ คงเรียกน้ำตาของใครหลายคนได้ไม่ยาก แล้วยังแววตาเหม่อลอยและฝันเมื่อแหงนหน้าเหม่อมองเครื่องบิน ราวกับจะฝันถึงการหนีไปสู่อิสระภาพ ก่อนจะกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง กลับมาเป็นแววตาแห่งความรับผิดชอบ นี่คงเป็นหนึ่งในหลายๆเหตุผลที่ Yagira Yuya เป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลผู้แสดงนำชาย จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ในปีนี้ -
bi (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 14 ต.ค. 47 17:21
ดูแล้วคิดถึงน้องชาย.....แต่ก็รู้สึกอยากมีพี่ชายด้วย
นักแสดงเด็กๆทุกคนแสดงได้น่ารักเป็นธรรมชาติมากๆ
...อยากให้ไปดูกันค่ะ
(แอบเศร้า....TT-TT....น้องยูคิ...ฮืออออ)
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
Fast & Furious 5เข้าฉายปี 2011 แสดง Vin Diesel, Paul Walker, Dwayne Johnson
Be With Youเข้าฉายปี 2005 แสดง Yuko Takeuchi, Shido Nakamura, Akashi Takei
องค์บาก 3เข้าฉายปี 2010 แสดง จาพนม ยีรัมย์, พริมรตา เดชอุดม, ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
เกร็ดภาพยนตร์
- Kidnapping Freddy Heineken - ขวดเบียร์ไฮเนเก้นสีเขียวที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ถูกต้องกับความเป็นจริง เพราะในช่วงเวลานั้นขวดเบียร์ไฮเนเก้นที่ขายทั่วไปในเนเธอร์แลนด์บรรจุอยู่ในขวดสีน้ำตาล อ่านต่อ»
- Southpaw - เดิมทีภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวภาคต่ออย่างไม่เป็นทางการของ 8 Mile (2002) โดยจะให้ เอมิเนม กลับมารับบทเดิม แต่ภายหลังก็มีการพัฒนาบทภาพยนตร์ไปเรื่อยๆ จนความตั้งใจดั้งเดิมล้มไป อ่านต่อ»